ตอนที่ 10

1176 Words
หล่อนมองเขาด้วยสายตาเหลือเชื่อ และก็เผลอยิ้มดีใจออกมาโดยไม่รู้ตัว นึกว่าเขาจะปฏิเสธเสียอีก... ก้านแก้วเดินเข้าไปภายในห้องนอนกว้าง ภายในนี้นั้นตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นมากๆ และสีของเฟอร์นิเจอร์ก็ออกโทนดำ หล่อนมัวแต่กวาดตาสำรวจไปรอบๆ ห้องล่ะมั้ง จึงไม่รู้ว่าป้าบุญเดินออกไปจากห้องตั้งแต่ตอนไหน มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงกระแอมของภัทรดนัยที่ดังขึ้น หล่อนหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับเขา และยิ้มทำใจดีสู้เสือ “เอ่อ... ต้องรบกวนคุณแล้วนะคะ” หล่อนฝืนหัวเราะเพราะต้องการให้บรรยากาศรอบตัวผ่อนคลาย แต่เขากลับไม่แม้แต่จะยิ้มตอบสักนิด “เราต้องมาทำข้อตกลงกัน” “คะ?” หล่อนมองคนที่เดินไปหยุดข้างเตียงนอนขนาดใหญ่ด้วยสายตางุนงง “บนเตียงนี้เราจะต้องแบ่งอาณาเขตกันอย่างชัดเจน เธอจะนอนด้านซ้ายมือ ส่วนฉันนอนด้านขวามือ ห้ามข้ามเขตแดนกันเด็ดขาด” เหอะ นี่เขาคิดว่าหล่อนจะแอบแตะอั๊งเขาหรือไงกันนะ หล่อนต่างหากล่ะที่ต้องเป็นคนบอกกฎนี้ออกมา ไม่ใช่ผู้ชายอกสามศอกอย่างเขา แต่หล่อนก็ทำได้แค่คิดในใจเท่านั้น ส่วนนอกใจก็ทำได้แค่ผงกศีรษะหงึกๆ “แล้วตู้เสื้อผ้า เราก็จะแบ่งกันคนละตู้ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับของอีกฝ่ายเด็ดขาด” “อ๋อ ได้ค่ะ” หล่อนยังคงรักษาคอนเซ็ปท์เดิม นั่นก็คือการผงกศีรษะขึ้นลงตอบรับ หมดหรือยังเนี่ย ก้านแก้วคิดในใจอย่างเบื่อหน่าย “ส่วนการใช้ห้องน้ำ ตอนเช้า ฉันตื่นตีห้า ลงไปวิ่งหนึ่งชั่วโมง และจะใช้ห้องน้ำตอนหกโมงเช้า ส่วนเธอจะใช้ห้องน้ำก่อนหน้าหรือหลังจากที่ฉันใช้ก็ได้ แล้วแต่เธอสะดวก แต่ห้ามใช้เวลาเดียวกับฉันเด็ดขาด” “ห้องน้ำ... ก็ต้องมีกฎเหรอคะ” “ใช่ การอยู่ร่วมกันของเราสองคน ต้องมีกฎกติกาที่ชัดเจน จะได้ลดความวุ่นวายลง” “เหอะ ทำไมเหมือนกับว่าเราสองคนกำลังทำธุรกิจกันเลยนะคะ” “แล้วมันไม่ใช่ธุรกิจตรงไหนล่ะ” เขาหันมามองหน้าหล่อน รอยยิ้มหยันผุดขึ้นที่มุมปากหยักสวยของเขา มันน่ามองแหละ แต่มันก็น่าหมั่นไส้ในเวลาเดียวกัน นี่ถ้าไม่ติดว่าแอบชอบนะ หล่อนคงไม่ยอมอ่อนข้อให้ง่ายๆ แบบนี้หรอก “แม่ฉันเสียเงินสองล้านบาท ในขณะที่เธอเสียอิสรภาพหนึ่งปี มันก็คือธุรกิจทุกตรงนั้นแหละ” ก้านแก้วถอนใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย เพราะรู้ดีว่าเถียงกับคนเอาแต่ใจ เผด็จการ บ้าอำนาจอย่างภัทรดนัยไม่มีทางชนะแน่นอน “แล้วยังมีอะไรอีกไหมคะคุณสามีที่เคารพ” หล่อนประชัดประชันออกไป และก็ได้สายตาดุดันของภัทรดนัยมาเป็นของรางวัล คุ้มไหมเนี่ย? “เรื่องความสัมพันธ์ของเรา จะรู้กันเพียงแค่ในบ้านหลังนี้เท่านั้น” “คุณคงกลัวผู้หญิงที่คบหาอยู่เข้าใจผิดใช่ไหมล่ะคะ” หล่อนคาดเดา และก็อดใจแป้วไม่ได้ “เธอไม่จำเป็นที่ต้องรู้เหตุผลของฉัน” “เจ้าค่ะ!” หล่อนย่นจมูกใส่คนตัวโต จากนั้นก็เดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง แต่มันดันเป็นด้านขวา “อย่าแหกกฎตั้งแต่วินาทีแรกสิ ก้านแก้ว” “คะ?” “ที่ของเธอคือซ้ายมือ” เขาย้ำเสียงแข็งกระด้าง หล่อนจำเป็นต้องดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงทันควัน และก็ขยับไปที่ฝั่งซ้ายของตัวเอง “ขอโทษค่ะ” “พรุ่งนี้เราจะไปที่สำนักงานเขตฯ กันแปดโมงเช้า ขอให้ตรงเวลาด้วยล่ะ” “เรา... ไม่ต้องจดทะเบียนกันไม่ได้เหรอ เพราะถึงยังไงอีกปีเดียวก็ต้องหย่ากันอยู่ดี” “ฉันก็ไม่ได้อยากจดทะเบียนกับเธอหรอก แต่ขัดใจคุณแม่ไม่ได้” เขาตอบเสียงเย็นชา และก็เดินไปหยิบแล็ปท็อปตัวบางเฉียบเพื่อจะออกไปนอกห้องนอน แต่ก้านแก้วเรียกเอาไว้เสียก่อน “ฉัน... เพิ่งนึกได้ว่ามีบางอย่างอยากจะขอให้คุณช่วยน่ะค่ะ” คนตัวสูงหันหน้ามามองหล่อน ใบหน้าของเขาขาวสะอาด จมูกโด่งสวย ปากสีแดงระเรื่อ สรุปก็คือหล่อจัดๆ นั่นเอง หล่อเหลาจนหล่อนแทบจะทำใจให้สงบนิ่งไม่ได้เลย “มีอะไรหรือ” “เอ่อ... ฉัน... ฉันอยากทำงานน่ะค่ะ” “ก็งานบ้านไง อยากทำก็ทำเลย ไม่มีใครห้ามหรอก” หล่อนลุกขึ้นจากเตียงด้านซ้ายซึ่งเป็นฝั่งของตัวเอง จากนั้นก็เดินไปหยุดตรงหน้าของเขา ช้อนตาขึ้นมอง “ฉันเรียนจบปริญญาตรีมา ไม่ได้จะมาทำงานบ้านค่ะ” “แล้วเธออยากทำงานอะไร” “ฉันอยากไปทำงานกับคุณที่บริษัทด้วยน่ะค่ะ ได้ไหมคะ” หล่อนกะพริบตาปริบๆ เพราะหวังจะทำให้เขาเมตตา แต่เขากลับถลึงตาใส่อย่างเบื่อหน่าย “อย่าไปทำให้บริษัทของฉันเจ๊งเลย” “อะไรกันคุณ นี่คุณคิดว่าฉันจะทำให้บริษัทของคุณเจ๊งได้เลยอย่างนั้นเหรอคะ” “เธออยู่บ้านน่ะดีก้านแก้ว” “ไม่ค่ะ” หล่อนยืนกรานเสียงแข็ง “ฉันอุตส่าห์ยอมเสียสละมาอยู่ที่บ้านของคุณแล้ว ดังนั้นคุณก็ต้องเคารพความต้องการของฉันบ้าง ฉันต้องการออกไปทำงานค่ะ” “เธอจบเกษตรมาไม่ใช่หรือ จะไปทำอะไรที่บริษัทของฉัน” “ฉันหัวไวค่ะ เรียนรู้งานเก่ง แค่คุณเมตตามอบตำแหน่งงานสักตำแหน่งให้กับฉันก็พอแล้วล่ะค่ะ” “แน่ใจนะ” “แน่ใจค่ะ แน่ใจมากๆ ด้วยค่ะ” หล่อนย้ำเสียงมุ่งมั่น กลีบปากอิ่มคลี่แย้มเป็นรอยยิ้มสดใส ภัทรดนัยมองเมินไปอีกทาง และก็ผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ “ก็ได้ แต่ห้ามก่อเรื่องเด็ดขาดเข้าใจไหม” “นี่คุณเห็นฉันเป็นเด็กเล็กๆ หรือไงคะ ถึงจะต้องไปก่อเรื่องน่ะ” “ในสายตาของฉัน เธอน่ะเด็กกะโปโลตัวจริงเสียงจริงเลยล่ะ” “นี่คุณ... อย่ามาว่าฉันแบบนี้นะ” หล่อนมองเขาด้วยสายตาขุ่นเคือง แต่ภัทรดนัยไม่สนใจ “เอาเป็นว่า ฉันตกลงยอมให้เธอไปทำงานที่บริษัทของฉัน แต่มีข้อแม้นะ” “ข้อแม้อะไรอีกล่ะคะ” “ห้ามบอกใครว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน” “คุณไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ ฉันไม่เอาเรื่องของคุณไปป่าวประกาศหรอก สบายใจได้” “ทำให้ได้อย่างที่พูดด้วยล่ะ” เขาย้ำเสียงเข้ม ก่อนจะเปิดประตูห้องนอน และก้าวออกไปทันที ก้านแก้วถอนใจออกมาแรงๆ รู้สึกเหนื่อยล้าในอกไม่น้อย “น้ำแข็งในตู้เย็น ยังเย็นชาสู้คุณไม่ได้เลย คุณภัทรดนัย เฮ้ออออ...” แล้วนี่หล่อนจะทนอยู่กับสามีกำมะลอที่โคลนนิ่งมาจากก้อนน้ำแข็งได้นานแค่ไหนกันนะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD