‘…นายดันเต้ เดอ ลูก้าหัวหน้าแก๊งมาเฟียอิตาลีผู้รอดชีวิตจากเเหตุประกบยิงกลางเมืองยังคงหายตัว หากพบเห็นให้แจ้งเบาะแสโดยด่วน นายดันเต้ถือเป็นอาชญากรข้ามชาติ…’ คนให้ที่ซ่อนหยุดดูข่าวแล้วเดินตลาดต่อเหมือนทองไม่รู้ร้อน
“อาหารคนไร้บ้านเหรอวะ” มาเฟียหนุ่มส่งสายเหยียดหยามพลางพ่นควันซิกก้าใส่หน้าเชลยสาว เธอปรายตามองกองกล่องอาหารสำเร็จรูปก็ได้แต่ทอดถอนใจ
ไม่หิวคงไม่กินเป็นแน่
“คือมันมีแต่อาหารแช่แข็งน่ะค่ะดอน” มิรินอุตส่าห์ไปหามาให้ขนาดนี้ ขอบคุณสักคำยังไม่มี แถมขากลับถึงบ้านยังเจอหมาป่าคลั่งแก้ผ้าตากแอร์อยู่ในห้องรับแขกอีก
สติแทบแตกกระเจิงแต่ก็ต้องนึกถึงภารกิจสำคัญเป็นหลัก
“มื้อต่อไปดอนอยากทานอะไรคะ”
“รีซ็อตโต้เพสโต้แฮม” ดันเต้พูดเร็วรัวจนฟังไม่ทัน
“หา…วะ ว่าไงนะคะ อีกทีได้มั้ย”
“….”
นอกจากจะไม่ตอบแล้วยังขึงตาน่าขนลุกใส่อีก มิรินสูดลมหายใจเพื่อตั้งสติ
“เอ่อ…รินไม่อยากให้คำสั่งคลาดเคลื่อนน่ะค่ะ กรุณาทวนอีกครั้งได้มั้ยคะ”
ดันเต้พ่นลมหายใจเหมือนสัตว์ร้าย ชาติก่อนพลาดท่าเสียทีหลายหนเพราะความหุนหันพลันแล่นแต่ไม่เคยเรียนรู้มาชาตินี้จะไม่ยอมพลาดอีก
“รีซ็อตโต้เพสโต้แฮม!”
“รับทราบค่ะดอน”
มิรินยังไม่ทันจะถอยออกไป จู่ ๆ ดันเต้ก็คว้าปืนเล็งมาใส่ศีรษะเล็ก ร่างบางตัวแข็งทื่อก่อนจะโดนผลักไปให้พ้นทางจนเห็นได้ชัดว่าปืนชี้ไปที่หน้าต่างตรงสุดทางเดิน
ร่างสูงพุ่งตัวอย่างว่องไวไปชะโงกหน้ามองข้างนอกแล้วหันมาช้า ๆ
“พวกมันเป็นใคร” เขาจ่อปืนที่ขมับ ถลึงตาแดงก่ำดั่งนักล่าใส่คนที่กำลังสั่นด้วยความกลัว
“ปะ เปล่านะคะ ระ ริน ริน ไม่ได้บอกใครเลย รินพูดจริงนะคะดอน ชะ ชะ เชื่อรินนะคะ” มิรินหน้าซีดเสียงสั่น ท้องไส้ปั่นป่วนไม่หยุด
“บอกมาเดี๋ยวนี้” หากเป็นสถานการณ์ปกติผู้บุกรุกได้จมกองเลือดไปแล้ว
“รินไม่รู้จริง ๆ ค่ะ”
“โกหก!” เขาแค่นเสียงแล้วกดปืนย้ำใส่ขมับ
“นะ นะ น่าจะเป็นพวกแก๊ง งะ งะ เงินกู้นอกระบบค่ะ” ร่างเดิมเอาบ้านไปค้ำประกันเงินกู้ พอใกล้ครบกำหนดยึดบ้านฝ่ายนั้นจะส่งคนมาซุ่มดูเป็นระยะ
ทีแรกคิดว่าจะกบดานเพื่อรักษาตัวแต่ต้องเปลี่ยนแผนแล้ว
ดันเต้จับมิรินเข้าไปขังในห้องเก็บของแล้วใช้โทรศัพท์เข้ารหัสบางอย่าง ระหว่างนี้หากตำรวจโผล่มาก็จะลากเธอมาเป็นตัวประกัน ถ้าพวกแก๊งเงินกู้กลับมา…ก็จะได้ดิ้นเหมือนหมา
ไม่กี่นาทีพิกัดตำแหน่งและข้อความก็ถูกส่งถึงบริษัทไวท์แห่งหนึ่ง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ดูน่าสงสัยคือคำสั่งให้ทำเอกสารสำคัญภายใต้ชื่อมารีญา ปากาโน่
ช่วงกลางดึกแก๊งเงินกู้หวนกลับมาอย่างที่คาดการณ์ไว้ สารรูปแต่ละคนเทียบชั้นกับดันเต้ไม่ได้แม้แต่ปลายนิ้ว พวกนั้นมาถึงก็ตะโกนท้าทายคนในบ้านไม่หยุด
มิรินได้ยินแค่เสียงฝีเท้าที่ก้าวอย่างใจเย็นกับเสียงขึ้นลำกล้องก็เดาได้ว่ามาเฟียหนุ่มคิดจะทำอะไร วายร้ายคนนี้เอะอะสาดกระสุนอย่างเดียว
ยิ่งถูกเห็นหน้าแล้วจะปล่อยไว้ไม่ได้
“ดอนคะ อย่าทำอย่างงงั้นเลยค่ะ อย่าให้เสียเลือดเสียเนื้อเลยค่ะ แค่ไล่ไปก็พอมั้งคะ” นึกไงไม่รู้ถึงตะโกนออกไปแบบนั้น
“เดี๋ยวก็มีคนมาช่วยดอนแล้ว อีกอย่างพวกนั้นไม่คู่ควรกับกระสุนของดอนเลยค่ะ” หลังประตูยังคงเงียบสนิทมีเพียงเสียงย่ำเท้าหนักค่อย ๆ ห่างออกไป
ถ้าภารกิจไม่สำเร็จคงต้องติดอยู่ที่นี่ตลอดไป
ปัง ๆ ๆ ๆ
มิรินลงไปนั่งคุดคู้เอามือปิดหูด้วยความกลัว เสียงปืนดังขึ้นสี่นัดติดกันตามด้วยเสียงร้องโหยหวนกับเสียงเอ็ดตะโรที่จับความได้ว่า…หัวหน้าแก๊งโดนยิงเฉี่ยวหูเลยพากันหนีเอาตัวรอดไปหมดแล้วทิ้งอีกคนที่ถูกยิงไว้หน้าบ้าน
ร่างสูงชะลูดเดินอย่างใจเย็นมาหยุดมองคนไร้ค่าที่ร้องขอชีวิตอย่างน่าเวทนา
“ดิ้นเหมือนหมาข้างถนน…” ดันเต้โค้งยิ้มร้ายเตรียมจะลั่นไกซ้ำ
ทันใดนั้นก็มีไฟสว่างสาดเข้ามารถยนต์หรูสมฐานะมาเฟียจอดสนิท บอดีการ์ดกับหัวหน้าตัวดีของพวกมันก็กรูกันมาแสดงตัว
“ผมดีใจที่ดอนยังปลอดภัยดีนะครับ…” ฟรานเชสโก้โค้งศีรษะด้วยความเคารพ
ยิงตัวไหนก่อนดีระหว่างหมาข้างถนนกับหมาลอบกัด!