“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” ระหว่างที่ฉันนั่งคุยกับแม่ที่หลุมศพก็มีผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้เข้ามาลากแขนแล้วพยายามจะกระชากเสื้อผ้าฉันออก
เพียะ!
“ร้องอีกทีกูจะเอามีดกรีดหน้ามึง!” มันตบมาที่แก้มฉันอย่างแรงจนรับรู้ถึงคาวเลือดในปาก นั่นทำให้ฉันยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่
“ปล่อยหนูไปเถอะนะน้า อย่าทำอะไรหนูเลย” น้ำตาฉันไหลอาบสองแก้ม มันจับฉันกดไว้ที่พื้นแล้วพยายามถอดกางเกงของตัวเองออก
พลั่ก!
“อุ๊ก ฮืออ ชะ ช่วยด้วย” มันต่อยท้องจนฉันไม่สามารถขยับหนีไปไหนได้
...แม่ขา โมกลัว ช่วยโมด้วย
“มาเป็นเมียกูเถอะ ขาวๆอย่างนี้ของชอบกูเลย ฮ่าๆๆ ”
“กรี๊ดดด อย่าทำฉัน!!!” ยิ่งดิ้น ยิ่งกรี๊ด มันก็ยิ่งหัวเราะชอบใจแถมยังกระชากเสื้อจนกระดุมหน้าขาดไป ยิ่งเห็นสายตาหื่นกระหายของมันก็ยิ่งทำให้ฉันขนลุกและหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น
....ช่วยด้วย ใครก็ได้ ช่วยที
ปัง!
“อย่าอยู่เลยมึง” ร่างของมันล้มลงข้างๆตัวฉัน กลิ่นคาวเลือดลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ
“ลืมตาได้แล้วมั้ง”เสียงทุ้มที่คุ้นเคยของใครบางคนทำให้ฉันลืมตาแล้วพยุงร่างของตัวเองขึ้น น้ำตามากมายเอ่อล้นออกมาจนห้ามมันไม่ได้
“ไวท์ ฮึกก ฮืออออ” ฉันวิ่งโผไปกอดร่างสูงตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากแต่ก็ยอมยืนนิ่งให้ฉันกอด
“กลับกันเถอะยัยเตี้ยห่วงเธอจะแย่แล้ว”
“อื้อ ขอบใจนะ”ไวท์ยื่นเสื้อคลุมให้ฉันแล้วตัวเองก็เดินนำไปที่รถ ฉันหันไปมองร่างไร้วิญญาณข้างหลังแล้วรีบวิ่งตามไปทันที
“เก็บศพมันด้วย” ไวท์พูดกับผู้ชายชุดดำที่ยืนอยู่ข้างๆรถของเขา แล้วก็จับฉันยัดเข้าไปในรถแล้วขับออกมา ซึ่งระหว่างทางกลับทั้งฉันและเขาต่างคนต่างเงียบ ไวท์ไม่พูดอะไรเลยและฉันก็ไม่กล้าพูดอีกเหมือนกัน
“ให้ไปส่งที่ไหน” ฉันส่ายหน้าแทนคำตอบ เพราะนอกจากบ้านที่อยู่ตอนนี้ก็ไม่มีที่ไปเลย จะให้ไปอยู่กับเนยก็เกรงใจมัน
“ไม่มีคอนโด?”
“อื้อ ไม่มี เดี๋ยวฉันไปขอนอนบ้านไอ้เนยก็ได้ แล้วค่อยติดต่อพ่อไปอีกที” ไวท์ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาขับรถไปเรื่อยๆแล้วก็เลี้ยวเข้าคอนโดของตัวเอง
...คอนโดที่เดียวกับที่ฉันตบหน้าเขาแล้ววิ่งออกมา
“พามาที่นี่ทำไมอ่ะ” ฉันหันไปมองเขาอย่างไม่เข้าใจ ไวท์ก็ยังเป็นไวท์เขาเลือกที่จะไม่พูดอะไรแล้วเดินจากรถไป แถมส่งสายตาอำมหิตมา จนฉันต้องยอมเดินตามเข้าไปในคอนโดของเขา
“อ่ะ คีย์การ์ดห้องเธอ ...แต่ห้ามบอกให้ใครรู้ว่าเธออยู่ห้องของฉัน ใครถามก็บอกว่าห้องของเพื่อนหรืออะไรก็ได้” เขายัดมันใส่มือฉันก่อนที่จะเข้าห้องของตัวเองไป ซึ่งห้องที่เขาให้มามันอยู่ข้างๆห้องของเขาเลย ฉันมองคีย์การ์ดในมือแล้วได้แต่ตอนหายใจ
“แล้วฉันจะตัดใจจากนายได้ยังไงกันล่ะ” ฉันเปิดประตูเข้าไปในห้องก็ต้องอึ้ง เพราะมันกว้างมาก แถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันมาก
Rrrrrrrr(เนย)
“แก” ฉันกดรับสายแล้วเดินมาคุยที่ระเบียงห้อง
(ไอ้โม!!! หายไปไหนมา โทรหาก็ไม่รับ)
“ขอโทษนะเว้ย เมื่อกี้เจอเรื่องไม่ดีมานิดหน่อย แต่ไม่ต้องห่วงนะ”
(ไม่ให้ห่วงได้ไงไอ้บ้า แกเพื่อนฉันนะเว้ย)
“ขอโทษนะเว้ย ที่ทำให้ห่วง ตอนนี้ฉันโอเคแล้ว” ฉันคุยกับเนยหลายชั่วโมงจนมันขอวางสายไป ส่วนฉันก็เดินสำรวจห้องไปเรื่อยๆจนได้ยินเสียงออดหน้าห้องดัง พอเปิดไปก็เจอไวท์ถือถุงของสดเต็มไปหมดเลย
“ฉันหิว” เขาพูดแค่นั้นก่อนจะแทรกตัวเข้ามาในห้อง
“ทำไมไม่สั่งอะไรมากินอ่ะ”
“เปลือง! ถือว่าเป็นค่าเช่าห้อง” เขาวางของสดตรงเคาน์เตอร์ครัวแล้วส่งสายตามาบังคับให้ฉันทำกับข้าวให้กิน ส่วนตัวเองนั่งเปิดทีวีดูสบายใจ
“งั้นเดี๋ยวรอก่อนได้มั้ยล่ะ ฉันขอไปอาบน้ำก่อน” เมื่อเห็นว่าไวท์ไม่พูดอะไรฉันเลยเดินไปอาบน้ำ แล้วก็จัดการทำแผลให้ตัวเอง เสร็จแล้วก็เริ่มมาจัดการพวกของสดที่อยู่ในครัวทั้งหมด ตอนช่วงที่แม่ยังอยู่ฉันก็ชอบเข้าครัวช่วยแม่ทำกับข้าวบ่อยๆ แต่พอแม่เสียไปก็ไม่ค่อยได้ทำแล้วแหละ เพราะแม่เลี้ยงไม่อยากให้มีกลิ่นควันลอยเข้ามาในบ้าน ทั้งๆที่มีเครื่องดูดควันแต่เธอก็ยังไม่ชอบให้ฉันทำอาหารอยู่ดี แต่จริงๆเพราะไม่อยากให้พ่อคิดถึงแม่มากกว่า แต่ก็ช่างเถอะเรื่องมันผ่านมานานแล้วรื้อฟื้นมันไปก็เท่านั้น
...ทำอะไรดีน้า เอาเป็นผัดผัก แกงจืด แล้วก็ผัดกะเพราดีกว่า
"เสร็จแล้ว มากินข้าว"ฉันเดินไปตามไวท์ที่ตอนนี้ออกไปยืนสูบบุรี่ที่ตรงระเบียง เหมือนจะสูบไปหลายมวนแล้วด้วย
...ทำไมผู้ชายถึงชอบสูบกันนักนะไม่เข้าใจ -_-
ไวท์เดินตามเข้ามานั่งโต๊ะเงียบๆแล้วตักนู่น ตักนี่เข้าปากด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยมาก
อร่อยหรือไม่อร่อยล่ะนั่น? ฉันก็อยากรู้นะ
"ทำไมเธอถึงยอมให้พวกนั้นเอาเปรียบ?" หลังจากเงียบอยู่นานไวท์ก็เงยขึ้นมาจ้องหน้าฉันแล้วถามคำถามนั้น
"ฉันไม่เห็นว่าการใช้อารมณ์จะทำให้เรื่องจบเร็วขึ้น" ฉันตอบไปตามความรู้สึกจริง ไม่ได้นางเอกหรืออะไรเลยนะ แต่เพราะแม่ฉันสอนมาแบบนี้อะ่ ซึ่งฉันก็รู้สึกว่ามันก็จริงนะ
ใช้เสียงไปแล้วได้อะไร? ต้องทะเลาะกับคนอื่นๆเพื่ออะไร? ฉันไม่เห็นประโยชน์ของมันเลยแม้แต่นิดเดียว
"แต่มันทำให้เธอโดนเอาเปรียบ"
"มันก็ขึ้นอยู่กับความรู้สึกเราไม่ใช่หรือไง"
"ยังไง?"เขาขมวดคิ้วแล้วจ้องหน้าฉันอย่างไม่เข้าใจ
"ก็ถ้านายรู้สึกว่ากำลังโดนเอาเปรียบ นายก็จะคิดได้แค่อยากเอาคืน อยากแก้แค้นฉันพูดถูกมั้ย"ไวท์ทำหน้าคิดตามแล้วพยักหน้า
"ใช่เพราะฉันถูกสอนมาให้เป็นแบบนั้น"
"แต่ถ้าลองมองอีกด้าน นายก็แค่คิดว่ามันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องเกิด แล้วก็ไม่เอาความรู้สึกไปใส่ใจกับมัน แค่นั้นมันก็ทำให้นายสบายใจขึ้นเยอะเลยนะ"
"เหอะๆ ตรรกกะบ้าอะไรของเธอวะ"
"แม่ฉันสอนมาแบบนี้ แม่สอนให้มองโลกในมุมกว้าง สอนให้ฉันไม่ยึดติดกับอะไรเลย ไม่งั้นก็จะเป็นทุกข์"
"แม่เธอเป็นแม่ชี?"
"จะบ้าเหรอ -_-"
"เนี่ยเธอกำลังยึดติด -_-" เอ่อ! อันนี้กวนตีนกันหรือเปล่าคะคุณไวท์?
"นายกวนประสาท" เขายิ้มมุมปากแล้วตักนู่น ตักนี่กินจนกับข้าวทุกอย่างหมดเกลี้ยง กินเก่งเหมือนกันแฮะ ฉันยกจานมาล้างโดยมีลูกมือคือไวท์ที่คอยมายืนกดดันอยู่ทางด้านหลัง
“เธอจะอยู่ที่นี่ตลอดไปเลยก็ได้นะ แต่ต้องแลกด้วยการทำอาหารให้ฉันกินทุกวัน แล้วก็ห้ามพาผู้ชายขึ้นมาบนห้องนี้”อยู่ๆเขาก็พูดประโยคนั้นขึ้นมา ฉันรู้สึกว่าหัวใจฉันมันกำลังพองโตมากขึ้นเรื่อยๆ โอกาสที่จะได้อยู่ใกล้ไวท์มันอาจจะไม่มีอีกแล้วถ้าฉันปฏิเสธเขาไปตอนนี้
...แม่คะ โมขอทำตามความรู้สึกของตัวเองนะ
“อื้อ ได้สิ รบกวนด้วยนะ ”