FRIEND 5

1345 Words
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” ระหว่างที่ฉันนั่งคุยกับแม่ที่หลุมศพก็มีผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้เข้ามาลากแขนแล้วพยายามจะกระชากเสื้อผ้าฉันออก เพียะ! “ร้องอีกทีกูจะเอามีดกรีดหน้ามึง!” มันตบมาที่แก้มฉันอย่างแรงจนรับรู้ถึงคาวเลือดในปาก นั่นทำให้ฉันยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ “ปล่อยหนูไปเถอะนะน้า อย่าทำอะไรหนูเลย” น้ำตาฉันไหลอาบสองแก้ม มันจับฉันกดไว้ที่พื้นแล้วพยายามถอดกางเกงของตัวเองออก พลั่ก! ​ “อุ๊ก ฮืออ ชะ ช่วยด้วย” มันต่อยท้องจนฉันไม่สามารถขยับหนีไปไหนได้ ...แม่ขา โมกลัว ช่วยโมด้วย “มาเป็นเมียกูเถอะ ขาวๆอย่างนี้ของชอบกูเลย ฮ่าๆๆ ” “กรี๊ดดด อย่าทำฉัน!!!” ยิ่งดิ้น ยิ่งกรี๊ด มันก็ยิ่งหัวเราะชอบใจแถมยังกระชากเสื้อจนกระดุมหน้าขาดไป ยิ่งเห็นสายตาหื่นกระหายของมันก็ยิ่งทำให้ฉันขนลุกและหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น ....ช่วยด้วย ใครก็ได้ ช่วยที ปัง! “อย่าอยู่เลยมึง” ร่างของมันล้มลงข้างๆตัวฉัน กลิ่นคาวเลือดลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ “ลืมตาได้แล้วมั้ง”เสียงทุ้มที่คุ้นเคยของใครบางคนทำให้ฉันลืมตาแล้วพยุงร่างของตัวเองขึ้น น้ำตามากมายเอ่อล้นออกมาจนห้ามมันไม่ได้ “ไวท์ ฮึกก ฮืออออ” ฉันวิ่งโผไปกอดร่างสูงตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากแต่ก็ยอมยืนนิ่งให้ฉันกอด “กลับกันเถอะยัยเตี้ยห่วงเธอจะแย่แล้ว” “อื้อ ขอบใจนะ”ไวท์ยื่นเสื้อคลุมให้ฉันแล้วตัวเองก็เดินนำไปที่รถ ฉันหันไปมองร่างไร้วิญญาณข้างหลังแล้วรีบวิ่งตามไปทันที “เก็บศพมันด้วย” ไวท์พูดกับผู้ชายชุดดำที่ยืนอยู่ข้างๆรถของเขา แล้วก็จับฉันยัดเข้าไปในรถแล้วขับออกมา ซึ่งระหว่างทางกลับทั้งฉันและเขาต่างคนต่างเงียบ ไวท์ไม่พูดอะไรเลยและฉันก็ไม่กล้าพูดอีกเหมือนกัน “ให้ไปส่งที่ไหน” ฉันส่ายหน้าแทนคำตอบ เพราะนอกจากบ้านที่อยู่ตอนนี้ก็ไม่มีที่ไปเลย จะให้ไปอยู่กับเนยก็เกรงใจมัน “ไม่มีคอนโด?” “อื้อ ไม่มี เดี๋ยวฉันไปขอนอนบ้านไอ้เนยก็ได้ แล้วค่อยติดต่อพ่อไปอีกที” ไวท์ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาขับรถไปเรื่อยๆแล้วก็เลี้ยวเข้าคอนโดของตัวเอง ...คอนโดที่เดียวกับที่ฉันตบหน้าเขาแล้ววิ่งออกมา “พามาที่นี่ทำไมอ่ะ” ฉันหันไปมองเขาอย่างไม่เข้าใจ ไวท์ก็ยังเป็นไวท์เขาเลือกที่จะไม่พูดอะไรแล้วเดินจากรถไป แถมส่งสายตาอำมหิตมา จนฉันต้องยอมเดินตามเข้าไปในคอนโดของเขา “อ่ะ คีย์การ์ดห้องเธอ ...แต่ห้ามบอกให้ใครรู้ว่าเธออยู่ห้องของฉัน ใครถามก็บอกว่าห้องของเพื่อนหรืออะไรก็ได้” เขายัดมันใส่มือฉันก่อนที่จะเข้าห้องของตัวเองไป ซึ่งห้องที่เขาให้มามันอยู่ข้างๆห้องของเขาเลย ฉันมองคีย์การ์ดในมือแล้วได้แต่ตอนหายใจ “แล้วฉันจะตัดใจจากนายได้ยังไงกันล่ะ” ฉันเปิดประตูเข้าไปในห้องก็ต้องอึ้ง เพราะมันกว้างมาก แถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันมาก Rrrrrrrr(เนย) ​ “แก” ฉันกดรับสายแล้วเดินมาคุยที่ระเบียงห้อง (ไอ้โม!!! หายไปไหนมา โทรหาก็ไม่รับ) “ขอโทษนะเว้ย เมื่อกี้เจอเรื่องไม่ดีมานิดหน่อย แต่ไม่ต้องห่วงนะ” (ไม่ให้ห่วงได้ไงไอ้บ้า แกเพื่อนฉันนะเว้ย) “ขอโทษนะเว้ย ที่ทำให้ห่วง ตอนนี้ฉันโอเคแล้ว” ฉันคุยกับเนยหลายชั่วโมงจนมันขอวางสายไป ส่วนฉันก็เดินสำรวจห้องไปเรื่อยๆจนได้ยินเสียงออดหน้าห้องดัง พอเปิดไปก็เจอไวท์ถือถุงของสดเต็มไปหมดเลย “ฉันหิว” เขาพูดแค่นั้นก่อนจะแทรกตัวเข้ามาในห้อง “ทำไมไม่สั่งอะไรมากินอ่ะ” “เปลือง! ถือว่าเป็นค่าเช่าห้อง” เขาวางของสดตรงเคาน์เตอร์ครัวแล้วส่งสายตามาบังคับให้ฉันทำกับข้าวให้กิน ส่วนตัวเองนั่งเปิดทีวีดูสบายใจ “งั้นเดี๋ยวรอก่อนได้มั้ยล่ะ ฉันขอไปอาบน้ำก่อน” เมื่อเห็นว่าไวท์ไม่พูดอะไรฉันเลยเดินไปอาบน้ำ แล้วก็จัดการทำแผลให้ตัวเอง เสร็จแล้วก็เริ่มมาจัดการพวกของสดที่อยู่ในครัวทั้งหมด ตอนช่วงที่แม่ยังอยู่ฉันก็ชอบเข้าครัวช่วยแม่ทำกับข้าวบ่อยๆ แต่พอแม่เสียไปก็ไม่ค่อยได้ทำแล้วแหละ เพราะแม่เลี้ยงไม่อยากให้มีกลิ่นควันลอยเข้ามาในบ้าน ทั้งๆที่มีเครื่องดูดควันแต่เธอก็ยังไม่ชอบให้ฉันทำอาหารอยู่ดี แต่จริงๆเพราะไม่อยากให้พ่อคิดถึงแม่มากกว่า แต่ก็ช่างเถอะเรื่องมันผ่านมานานแล้วรื้อฟื้นมันไปก็เท่านั้น ...ทำอะไรดีน้า เอาเป็นผัดผัก แกงจืด แล้วก็ผัดกะเพราดีกว่า "เสร็จแล้ว มากินข้าว"ฉันเดินไปตามไวท์ที่ตอนนี้ออกไปยืนสูบบุรี่ที่ตรงระเบียง เหมือนจะสูบไปหลายมวนแล้วด้วย ...ทำไมผู้ชายถึงชอบสูบกันนักนะไม่เข้าใจ -_- ไวท์เดินตามเข้ามานั่งโต๊ะเงียบๆแล้วตักนู่น ตักนี่เข้าปากด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยมาก อร่อยหรือไม่อร่อยล่ะนั่น? ฉันก็อยากรู้นะ "ทำไมเธอถึงยอมให้พวกนั้นเอาเปรียบ?" หลังจากเงียบอยู่นานไวท์ก็เงยขึ้นมาจ้องหน้าฉันแล้วถามคำถามนั้น "ฉันไม่เห็นว่าการใช้อารมณ์จะทำให้เรื่องจบเร็วขึ้น" ฉันตอบไปตามความรู้สึกจริง ไม่ได้นางเอกหรืออะไรเลยนะ แต่เพราะแม่ฉันสอนมาแบบนี้อะ่ ซึ่งฉันก็รู้สึกว่ามันก็จริงนะ ใช้เสียงไปแล้วได้อะไร? ต้องทะเลาะกับคนอื่นๆเพื่ออะไร? ฉันไม่เห็นประโยชน์ของมันเลยแม้แต่นิดเดียว "แต่มันทำให้เธอโดนเอาเปรียบ" "มันก็ขึ้นอยู่กับความรู้สึกเราไม่ใช่หรือไง" "ยังไง?"เขาขมวดคิ้วแล้วจ้องหน้าฉันอย่างไม่เข้าใจ "ก็ถ้านายรู้สึกว่ากำลังโดนเอาเปรียบ นายก็จะคิดได้แค่อยากเอาคืน อยากแก้แค้นฉันพูดถูกมั้ย"ไวท์ทำหน้าคิดตามแล้วพยักหน้า "ใช่เพราะฉันถูกสอนมาให้เป็นแบบนั้น" "แต่ถ้าลองมองอีกด้าน นายก็แค่คิดว่ามันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องเกิด แล้วก็ไม่เอาความรู้สึกไปใส่ใจกับมัน แค่นั้นมันก็ทำให้นายสบายใจขึ้นเยอะเลยนะ" "เหอะๆ ตรรกกะบ้าอะไรของเธอวะ" "แม่ฉันสอนมาแบบนี้ แม่สอนให้มองโลกในมุมกว้าง สอนให้ฉันไม่ยึดติดกับอะไรเลย ไม่งั้นก็จะเป็นทุกข์" "แม่เธอเป็นแม่ชี?" "จะบ้าเหรอ -_-" "เนี่ยเธอกำลังยึดติด -_-" เอ่อ! อันนี้กวนตีนกันหรือเปล่าคะคุณไวท์? "นายกวนประสาท" เขายิ้มมุมปากแล้วตักนู่น ตักนี่กินจนกับข้าวทุกอย่างหมดเกลี้ยง กินเก่งเหมือนกันแฮะ ฉันยกจานมาล้างโดยมีลูกมือคือไวท์ที่คอยมายืนกดดันอยู่ทางด้านหลัง “เธอจะอยู่ที่นี่ตลอดไปเลยก็ได้นะ แต่ต้องแลกด้วยการทำอาหารให้ฉันกินทุกวัน แล้วก็ห้ามพาผู้ชายขึ้นมาบนห้องนี้”อยู่ๆเขาก็พูดประโยคนั้นขึ้นมา ฉันรู้สึกว่าหัวใจฉันมันกำลังพองโตมากขึ้นเรื่อยๆ โอกาสที่จะได้อยู่ใกล้ไวท์มันอาจจะไม่มีอีกแล้วถ้าฉันปฏิเสธเขาไปตอนนี้ ...แม่คะ โมขอทำตามความรู้สึกของตัวเองนะ “อื้อ ได้สิ รบกวนด้วยนะ ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD