ผมวางสายไอ้ไฟแล้วเดินเข้ามานั่งที่เดิมก็เห็นว่ายัยนั่นหลับไปแล้ว แต่ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องทำหน้าน่ารำคาญให้เห็นอีก
“ไอ้โม เป็นไงบ้าง!!” เสียงตะโกนของคนที่ผมรออยู่ดังลั่นมาแต่ไกลเลย ซึ่งมันก็ดังพอที่จะปลุกให้ยัยนี่ตื่นขึ้นมาเหมือนกัน
“อือ ยังปวดๆขาว่ะ พากลับบ้านหน่อยสิ” ผมก็ยังคงนั่งนิ่งอยู่ แล้วก็แอบมองเนยอยู่ตลอด โคตรคิดถึงเสียงแจ้วๆนั่นมากเลย
“อ้าว ไวท์ ไม่เจอกันนานมากเลยนะ สบายดีป่าว มาทำไรตรงนี้อ่ะ แล้วมากับใคร” ผมยกมือห้ามเพื่อให้เนยหยุดพูดก่อน คือถ้าจะถามผมรัวๆขนาดนี้อ่ะนะ มาอยู่ด้วยกันที่ห้องเลยมั้ยจะได้นอนเล่าให้ฟังทั้งคืนเลย
“ฉันสบายดี ฉันพายัยนั่นมาหาหมอ มากันสองคน” ผมเดินเข้าไปยืนข้างๆเนยแล้วก็ตอบทุกอย่างที่เธอถามมา ผมโคตรมีความสุขเลยที่ได้เห็นเธออีกครั้งนึง
...ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปแน่ๆ เนย
WHITE OFF
“เอ้า จริงดิ ขอบใจแกมากเลยนะ” ฉันมองทั้งสองคนคุยกันอย่างรู้สึกแปลกใจ ไวท์คุยเล่นกับเนยอย่างอ่อนโยนผิดกับตอนที่คุยกับฉันลิบลับเลย แอบเศร้านิดๆแฮะ
“เออลืมแนะนำ นี่เพื่อนฉันชื่อแตงโม นี่ไอ้ไวท์ลูกเพื่อนสนิทป๊า” เขามองมาแล้วก็เมินไปแล้วก็หันไปชวนไอ้เนยคุยต่อ
“รีบกลับป่ะเนย ไปกินข้าวเป็นเพื่อนเราหน่อยดิ” ไวท์ยิ้มอ้อนๆ ส่งไปให้ไอ้เนย เหมือนคนละคนกันเลยอ่ะ -_-
“ไปดิ เนี่ยไปกันทั้ง 3 คน เนี่ยแหละ” ไม่ต้องทำหน้ารังเกียจฉันขนาดนี้ก็ได้ป่ะ -_- รู้แล้วเว้ยว่าอยากไปกับไอ้เนยแค่สองคนเนี่ย จริงๆที่อยู่กันสามคนตอนนี้ ฉันก็อึดอัดนะคือเข้าใจป่ะว่าไวท์อยากคุยกับเนยแต่ไม่อยากคุยกับฉัน แต่เนยมันอยากให้คุยกับมันกันทั้งคู่
“ไม่ดีกว่าอ่ะแก ฉันปวดขามากอยากกลับบ้าน” จริงๆก็หิวอ่ะนะ แต่เจอสายตากดดันจากไวท์ฉันก็ต้องยอมถอยมะ พอได้ยินฉันพูดแบบนี้ไวท์ยิ้มมุมปากอย่างพอใจก่อนจะให้คนขับรถไอ้เนยพาฉันกลับบ้าน ส่วนตัวเองก็พาเนยไปกินข้าวสองคน
...เห้ออ -_-
มหาวิทยาลัย B
ผ่านมาได้สองอาทิตย์แล้วขาฉันก็เริ่มหายดี มาเรียนได้เป็นปกติแล้ว แต่เพิ่มเติมคือมีพวกของไวท์เข้ามาเรียนกับพวกเราด้วย พวกเขาก็นิสัยดีนะ แม้จะพูดเรื่องทะลึ่งกันบ่อยก็เถอะ แต่ก็ไม่เคยมาพูดรุ่มร่ามกับฉันหรือไอ้เนยเลยนะ
“ชิบหายละ รุ่นพี่มาไอ้โมหลบเร็ว” เนยรีบดันหัวฉันให้มุดลงใต้โต๊ะ แต่คิดว่าไม่ทันแล้ว เพราะรุ่นพี่เห้นฉันแล้วรีบปรี่ตัวเข้ามาจับแขนไว้พร้อมกับทำยิ้มเย็นๆส่งมาให้
...เฮือก น่ากลัวชิบ!
“จะไปไหนจ๊ะไวท์ นั่งเดี๋ยวนี้เลย” พอเห็นว่าฉันโดนจับได้ไวท์ก็จะหนีบ้างแต่โทษที ถ้าฉันโดนนายก็โดนล่ะวะ
ตอนแรกที่ให้พวกไวท์ขอย้ายมาก็เกือบจะไม่ได้แล้วล่ะ แต่อาจารย์ยื่นข้อเสนอที่ว่าหนึ่งในสามคนนี้ต้องมาเป็นเดือนคณะ ถึงจะยอมอนุญาตเป็นเคสพิเศษ เพราะคณะฉันผู้ชายน้อยมากแล้วพวกที่มีก็นะ ...ฉันคิดว่าพวกคุณคงเดาถูก
...แล้วผู้โชคดีคือ ไวท์ นั่นเองง เหตุผลเพราะไฟกับทอยไม่อยากเป็น แค่นั้นเอง ง่ายๆ
“โทษนะ ไม่ว่าง บาย” อ้าว! เดี๋ยวสิเห้ย กลับมาก่อน แต่เดินไปได้แค่ 3 ก้าวก็โดนลากกลับมานั่งที่ตามเดิมด้วยฝีมือเจ๊สวย คือจะบอกว่าทุกคนในคณะพวกไวท์ไม่กลัวใครเลยนะ กลัวแค่เจ๊สวยคนเดียวเนี่ยแหละ เพราะเจ๊แกน่ากลัวโคตร!!!!
“แกคิดว่าจะไปไหน -_-”
“กลับบ้านดิ รออะไรอ่ะ” ไวท์ตอบ
“แกกลับฉันจะให้คนไปดักตีลูกรักแกที่ลานจอดรถ” เจ๊สวยพูดน่านิ่งแล้วกดโทรศัพท์เตรียมโทรออกถ้าไวท์เดินออกไปจากห้องนี้
“จะฟ้องป๊า”
“เดี๋ยวฉันโทรหาพ่องง แกให้เอามั้ยล่ะ ?” แงงง แม่ขาเขาจะตีกันแล้วค่า ไวท์เหมือนจะไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลยยอมนั่งลงแล้วทำหน้าเซ็งๆ
... เออ ฉันก็เซ็ง ไม่ต้องหันหน้ามาทำอารมณ์เสียใส่หรอก
Rrrrrr(เมล่อน)
“ค่ะ” ฉันกดรับสายแล้วก็ขอออกมาคุยโทรศัพท์ข้างนอกเพราะไม่อยากรบกวนคนอื่น
(กระเป๋าที่ได้จากพ่ออยู่ไหน! ฉันเข้ามาหาแล้วก็ไม่เจอ!)
“โมใช้อยู่ค่ะ พี่เมจะเอาไปทำไม พ่อซื้อให้คนละใบนี่นา”
(ก็ฉันจะใช้ใบนั้น ทำไม! มีปัญหาอะไร)
“ไม่ได้มีปัญหาค่ะ แต่ตอนนี้โมใช้อยู่”
(วันนี้ฉันต้องได้กระเป๋าใบนั้น ไม่อย่างนั้นแกก็เตรียมโดนแม่ตบได้เลย อีโม! )
ติ๊ด!
พี่เมวางสายไปแล้ว เห้ออ..เป็นแบบนี้อีกแล้ว ตั้งแต่พ่อแต่งงานใหม่แล้วพาแม่พี่เมเข้ามาในบ้านก็เป็นฉันที่ต้องโดนอะไรแบบนี้ซ้ำๆ แม่เลี้ยงไม่ค่อยชอบฉันเท่าไรเพราะฉันหน้าเหมือนแม่แล้วพ่อก็ยังรักและหวงฉันมากกว่าพี่เม
...ใช่แล้วล่ะ ฉันกับพี่เมไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ เพราะพ่อก็มีครอบครัวก่อนที่จะมาแต่งงานกับแม่ของฉัน พอแม่ฉันเสียแล้วทางแม่เลี้ยงก็เหมือนว่าเพิ่งจะหย่ากับสามีใหม่พวกเขาเลยกลับมารักกันมั้ง ซึ่งฉันไม่ได้ว่าอะไรนะ ดีซะอีกที่พ่อฉันมีความสุข ตอนแรกๆแม่เลี้ยงก็ดีกับฉันมาก แต่พอหลังๆพ่อต้องไปทำงานที่ต่างประเทศบ่อยๆ นิสัยแม่เลี้ยงก็เริ่มออก ทุบตีฉันบ่อย แล้วก็ด่าหยาบคาย แต่พ่อก็ไม่รู้เรื่องนี้เพราะฉันไม่ได้บอก พูดไปแล้วได้อะไรขึ้นมาอ่ะ ทำให้พ่อเครียดหนักกว่าเดิมซะมากกว่า แค่นี้ก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว
“ไง ทำหน้าเหมือนหมาซึมเลยนะ ให้ทายว่าต้องเป็นอีป้ามหาภัยโทรมาใช่มะ?” จึก! หมาหงอย? หน้าออกขนาดนั้นเลยหรอเนี่ย ฉันพยักหน้าให้เนยแล้วลงไปนั่งข้างๆ มัน
“ยอมมากไปป่ะวะ เป็นฉันรู้เรื่อง!!”
“ไม่ได้ป่ะ ช่างเขาเหอะ อยากได้อะไรก็เอาไป เหนื่อยทะเลาะอ่ะ” ฉันพูดอย่างไม่ใส่ใจ ไอ้เนยก็เป็นแบบนี้แหละ ใจร้อนวู่วามแต่มันก็ห่วงฉันมากที่สุด
“พูดเรื่องไรกันอ่ะ” ไฟยื่นหน้าเข้ามาถาม
“พี่สาวไอ้โมนี่ดิ โคตรนิสัยทุเรศเลย อยากได้ของไอ้โมแม่งทุกอย่าง จัดเลยมั้ย!!!” จ้าๆ แม่ตัวเล็กเก่งเหลือเกินนะ ฉันดึงแขนมันให้นั่งลงก่อนที่จะหัวร้อนไปมากกว่านี้
“เออ!! เอาเลยมั้ย หักแขนหักขาทิ้งเลยดีมั้ย ...แตงโมจ๋า” ทอยหันมายิ้มหวานอ่อยฉัน แถมยังหลับตาพริ้มใส่อีก ฮ่าๆๆ
“หน้าตอแหลมจังเลยเพื่อนรัก ” ไอ้เนยยื่นหน้ามากั้นหน้าฉันกับทอยเอาไว้ แล้วก็ดันหน้าเขาออกไป
“ร้ายกาจ โมช่วยทอยด้วย เนยจะรังแกทอยแล้ว”
“อย่างตุ๊ดเลยไอ้ห่า มีผัวยังจ๊ะน้องทอย” ไฟรั้งคอทอยที่จะพุ่งตัวเข้ามาหาฉันก่อนจะล็อคคอเอาไว้แน่นๆ ฉันยิ้มและหัวเราะให้กับทั้งสองคน
“ยิ้มแล้ว เย่ๆ” ทอยชี้มาที่หน้าฉันแล้วชูมือไปมา
“ขอบใจมากนะ หายเครียดเลยเนี่ย” ฉันยิ้มรับแล้วหันไปมองหน้าไวท์นิดนึงก็เจอกับสายตาเย็นชาที่ไวท์ส่งมาให้ ก่อนที่จะลุกขึ้นออกไปสูบบุหรี่ข้างนอก
“กลับกันเหอะว่ะ กูโคตรง่วงเลย” ทอยก็พยักหน้าเห็นด้วยกับไฟ เนยมันเลยเดินไปตามไอ้ไวท์แล้วก็กลับบ้านพร้อมๆกับพวกเรา
...ฉันเห็นเขายิ้มด้วย ดีจัง