“นั่งลงก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวเมื่อย”
“อุ๊ย เอ่อ ค่ะ”
ร่างบางถึงกับสะดุ้งเมื่อกำลังเพลิดเพลินอยู่กับวิวตรงหน้า แต่เสียงของคริสเตียนดังขึ้นขัดจังหวะ ทำเอาเธออดเขินไม่ได้ก่อนจะเดินมานั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับเขา
ส่วนคริสเตียนนั้นมาถึงก่อนเธอเกือบชั่วโมงแล้ว แต่ด้วยมาถึงไวไปหน่อยเขาเลยเดินเข้าไปตรวจงานที่โรมแรมรอเสียเลย เพราะที่นี่เขาเป็นเจ้าของและเป็นผู้ก่อตั้งมันมาเองกับมือ
“เอ่อ แล้วตกลงคุณต้องการอะไรเพื่อแลกกับการเปิดพินัยกรรมคะ”
“ทานข้าวเสร็จแล้วผมจะบอก หรือว่าคุณรีบ”
“ปละ...เปล่าค่ะ”
จะบอกว่ารีบก็กลัวเสียมารยาทแรกรักเลยตัดสินใจบอกไปอีกอย่าง จากนั้นทั้งโต๊ะก็อยู่ในความเงียบเมื่อไม่รู้จะคุยเรื่องอะไรกัน ก่อนที่อาหารจะมาเสิร์ฟ และก็เป็นอีกครั้งที่แรกรักต้องชื่นชมอาหารที่เขาสั่งมาเพราะมันดันอร่อยจนเธอแทบหยุดกินมันไม่ได้
“สั่งอีกก็ได้นะถ้าไม่อิ่ม”
คริสเตียนที่มองอย่างนึกขำอดที่จะพูดล้อขึ้นมาไม่ได้ ทำเอาคนที่กำลังเจริญอาหารถึงกับวางช้อนลงอย่างนึกอาย
“เอ่อ ฉันอิ่มแล้ว”
“ผมก็แค่ล้อเล่น...แล้วคุณมาเป็นลูกของผู้ชายคนนั้นได้ยังไงล่ะ”
คริสเตียนถามขึ้นพร้อมกับเลี่ยงคำว่า พ่อ เมื่อเขาเองไม่ได้อยากยอมรับว่ามีพ่อเลยสักนิด
“ฉันเป็นเด็กกำพร้า แล้วท่านก็แค่รับมาเลี้ยงก็เท่านั้น”
และก็เป็นชีวประวัติอันแสนสั้นของแรกรัก เมื่อเธอไม่ได้สนิทจนอยากเล่าให้เขาฟังทั้งหมด
“แล้วที่คุณบอกพึ่งมารู้ว่าเขามีลูกล่ะ”
“ก็หลังจากที่ท่านเสีย ทนายก็มาบอกฉันว่าท่านมีลูกชาย”
“แล้วคุณไม่เสียใจเหรอที่มีคนมาแย่งสมบัติ”
แรกรักเริ่มมองจ้องไปที่คริสเตียนเมื่อเขาเอาแต่ถามเธอ ก่อนจะลองถามเกี่ยวกับสิ่งที่เธออยากรู้บ้าง
“แล้วคุณล่ะ ไม่รู้บ้างเลยเหรอว่าใครเป็นพ่อ”
“รู้สิ รู้แค่ว่าตายไปตั้งนานแล้ว”
พอได้ยินเขาพูดแบบนั้นแรกรักเลยตัดสินใจที่จะเงียบ เพราะเธอเองก็พอเข้าใจ เมื่ออยู่ๆใครก็ไม่รู้มาบอกว่าเป็นพ่อ เขาคงยากที่จะยอมรับ
“งั้นมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าไหม ฉันขอเวลาคุณแค่ครึ่งวัน หรือไม่ก็หนึ่งชั่วโมง เปิดพินัยกรรมแล้วเราก็จะกลับทันที”
แรกรักบอกขึ้น เมื่อแค่นี้เองที่พวกเธอต้องการ เรื่องทุกอย่างจะได้จบๆเพราะมันไม่ได้วุ่นวายแค่ชีวิตเธอ แต่วุ่นวายกันไปทั้งโรงพยาบาลแล้วตอนนี้
“ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วถ้าเกิดพ่อของคุณยกสมบัติทั้งหมดให้ผมล่ะ คุณจะทำยังไง”
“ก็คงเป็นสิ่งที่ท่านต้องการ แค่ท่านให้ชีวิตใหม่กับฉันก็ดีเกินพอแล้ว”
คริสเตียนมองคนตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ เมื่อเขาเห็นมานักต่อนักแล้วเรื่องพวกนี้ ผลประโยชน์ฆ่าได้แม้กระทั่งพี่น้องร่วมสายเลือด
“แล้วสิ่งที่คุณต้องการคืออะไร ขอแค่คุณยอมเปิดพินัยกรรมฉันจะยอมทำตามที่คุณขอ ถ้าคุณไม่มีเวลาเราขอแค่ครึ่งชั่วโมง ไม่สิสิบนาทีก็ยังดี”
คริสเตียนมองคนตรงหน้านิ่ง ก่อนจะบอกสิ่งที่เขาต้องการออกมา
“สิ่งที่ผมต้องการน่ะเหรอ...นอนกับผมแล้วผมจะยอมทำตามที่คุณต้องการทุกอย่าง”
“!?”
และสิ่งที่เขาอยากได้ก็ทำเอาแรกรักถึงกับตะลึงงัน เขากับเธอมีศักดิ์เป็นพี่น้องกันแล้วเมื่อกี้เขาพูดอะไรออกมา
“คุณจะบ้าเหรอ! เราเป็นพี่น้องกัน ถึงจะไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆแต่ก็ไม่น่าขออะไรแบบนี้ออกมา”
“ก็ผมไม่ได้ต้องการอะไร นอกจากตัวคุณ...ถ้าให้ไม่ได้ทุกอย่างก็จบ”
“...............”
นี่เขาบ้าไปแล้วจริงๆใช่ไหม เธอจะให้ได้ยังไง นี่มันบ้าไปแล้วชัดๆ
“เราสองคนเป็นพี่น้องกัน ถ้าขออย่างอื่นฉันให้ได้แต่เรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ”
พูดจบแรกรักก็ลุกขึ้นทันที
“ถ้าอย่างนั้นพินัยกรรมก็คงไม่ได้เปิด พ่อคุณก็คงตายตาไม่หลับ เรื่องวุ่นวายอื่นๆก็จะตามมา แค่นอนกับผมคืนเดียวทำไม่ได้ก็กลับบ้านไป”
“.................”
คุณมันเจ่าเล่ห์
แรกรักได้แต่คิดขึ้นมาในใจ สองมือเล็กกำเข้าหากันแน่นอย่างพยายามอดทน
“แค่นอนด้วยกัน ไม่ใช่พี่น้องกันสักหน่อย คิดอะไรมากมาย เราอาจจะไม่ต้องเจอกันอีกตลอดชีวิตก็ได้”
คริสเตียนพยายามโน้มน้าวให้เธอยอมตกลง เมื่อเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาอยากได้โดยไร้เงื่อนไข เขาคิดว่าเมื่อได้เธอแล้วเขาคงเลิกคิดถึงเธออย่างแน่นอนเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆที่เขานอนด้วยเพียงครั้งสองครั้งเขาก็เบื่อหน่ายแล้ว
“หรือจะให้เปิดตอนนี้เลยก็ยังได้...”
และประโยคสุดท้ายก็ทำให้แรกรักคิดหนัก ถ้าเกิดทุกอย่างจบก่อนที่ข้อตกลงของเขาจะเริ่มต้นขึ้น เธออาจมีทางรอดก็ได้
“งั้น...เปิดก่อนค่อย เอ่อ ทำตามที่คุณขอได้ไหม”
“หึหึหึ ได้สิ ตอนนี้เลยยังได้”
“งั้น...เดี๋ยวฉันขอเวลาโทรตามคุณอา เอ่อ ทนายก่อน น่าจะไม่นาน”
และสุดท้ายแรกรักก็ตัดสินใจที่จะรีบจบปัญหาเรื่องพินัยกรรมไปก่อน พอเสร็จเรื่องพินัยกรรมแล้วเธอก็จะแอบหนีออกไป เพียงแค่นี้ทุกอย่างก็จบ
“อีกสิบนาทีพวกเขาจะมา คุณจะให้ไปที่ไหน”
“ก็ที่นี่แหละ”
และหลังจากนั้นทนายไกรสรณ์และพยานทั้งหลายก็ขนกันมาที่โรงแรม เมื่ออยากให้เรื่องมันจบๆลงสัก
จากนั้นพินัยกรรมก็ถูกเปิดออก และก็ทำเอาทุกคนแทบไม่อยากเชื่อเมื่อทุกอย่างถูกแบ่งครึ่งจนหมด แม้กระทั่งตำแหน่งประธานของโรงพยาบาลคุณนิรุตยังให้มีอำนาจร่วมกันทั้งแรกรักและคริสเตียน
“งั้นทุกอย่างก็เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ ถ้าพวกคุณสองคนไม่สะดวกเรื่องอะไรสามารถตกลงกันหลังจากนี้ได้เลย”
เป็นทนายไกรสรณ์ที่บอกขึ้นเพราะรู้ดีว่าถ้าเกิดคริสเตียนไม่ได้อยากได้โรงพยาบาลหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นๆก็อาจขายต่อให้กับแรกรักได้
“ขอบพระคุณคุณอามากนะคะที่อุตส่ามาถึงนี่ เอาไว้รักจะคุยรายละเอียดกับคุณอาอีกทีเมื่อกลับไทยนะคะ”
“ได้สิ งั้นอาขอตัวกลับที่พักก่อนนะ สิ้นสุดกันสักทีนะหนูรัก”
จากนั้นแรกรักก็เดินลงไปส่งทนายไกรสรณ์และคณะที่มาด้วยกันนับสิบคนแล้วตัดสินใจที่จะหนีกลับขึ้นห้องพักของเธอทันที เพราะตอนนี้พินัยกรรมถูกเปิดแล้วเธอก็คงไม่จำเป็นที่จะต้องเจอเขาอีกต่อไป โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้คริสเตียนที่ตามลงมากำลังมองตามเธอด้วยรอยยิ้มอันแสนร้ายกาจ
“หึ คิดว่าจะหนีพ้นเหรอ”
เขามองตามเธอไปจนลับตาก่อนจะเดินไปหาพนักงานต้อนรับ
“ผมต้องการข้อมูลของผู้หญิงเอเชียคนที่พึ่งเดินขึ้นลิฟต์ไป รบกวนส่งไปที่ห้องผมด้วย”
“ค่ะ”
เขาสั่งขึ้นก่อนจะเดินหนีออกมา เมื่อยังไงซะวันนี้เขาต้องได้แรกรักมาอยู่บนเตียงของเขาให้ได้
“รัก พนักงานโรงแรมโทรขึ้นมาบอกให้ฉันลงไปเช็กข้อมูลอะไรก็ไม่รู้ เดี๋ยวฉันมานะ ได้ยินไหม”
“ได้ยิน มีอะไรก็โทรขึ้นมานะ”
“โอเคๆ”
ทางด้านแรกรัก พอขึ้นมาบนห้องเธอก็จัดการอาบน้ำอาบท่าเมื่อตอนนี้ทุกอย่างที่กังวลนั้นสิ้นสุดลงไปแล้ว หญิงสาวอดที่จะคิดไปถึงคริสเตียนไม่ได้ โลกช่างกลมที่ให้เธอได้มาเจอกับเขาอีกครั้งแต่กลับแตกต่างที่ความรู้สึก เมื่อเทพบุตรของเธอกลับกลายมาเป็นซาตานเสียได้
“เฮ้อ ไปคิดถึงเขาทำไมเนี่ย บ้าไปแล้วๆๆๆๆ”
แรกรักที่อาบน้ำอยู่ได้แต่ถูร่างขาวนวลแรงขึ้นตามอารมณ์ของตนเองที่ดันเอาแต่คิดถึงคริสเตียนไม่หยุดทั้งๆที่หนีมาได้แล้วแท้ๆ พรุ่งนี้เธอก็จะบินกลับไทยแล้ว คงไม่มีโอกาสได้เจอเขาอีกนอกจากเขาอยากคุยเรื่องสมบัติที่เขาได้รับ แต่เรื่องนั้นอาจคุยผ่านทนายจะง่ายกว่า เพราะเธอกับเขาคงคุยกันไม่รู้เรื่องเป็นแน่
“ว๊าย! คะ....คุณ!”
พออาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ แรกรักถึงกับตกตะลึงเมื่อร่างใหญ่ของคริสเตียนยืนกอดอกพิงผนังห้องมองจ้องมาที่เธอนิ่ง สองมือรีบยกขึ้นกุมผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่พันรอบกายทันที
“คิดว่าหนีผมพ้นเหรอ หึ! โง่สิ้นดี”
“ไม่นะ อย่าเข้ามา อ๊าย! อื้อๆๆๆๆๆ ไม่นะไม่ อื้อ ไม่ ไม่นะคุณ ไม่นะ”
พูดจบคริสเตียนก็เดินเข้าไปหาร่างบางที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวพันกายอย่างรวดเร็วพร้อมกับกดจูบลงที่ปากเล็กแต่แรกรักหลบทันปากร้อนเลยพุ่งเป้าไปที่ซอกคอระหงแทนเมื่อทั้งโกรธทั้งโมโห และพอได้กลิ่นกายสาวที่พึ่งอาบน้ำเสร็จ ความต้องการที่ไม่ได้ปลดปล่อยมาร่วมอาทิตย์ก็พุ่งขึ้นมาทันที ส่วนแรกรักในตอนนี้ทั้งตกใจทั้งกลัวรีบผลักไสให้เขาออกห่าง แต่ยิ่งทำเหมือนกับว่าเขายิ่งกอดรัดเธอเอาไว้แน่นมากขึ้นไปอีก
“ไม่...ไม่นะ อ๊ะ อื้อออออ”
ปากที่พยายามเบี่ยงหนีกลับถูกปิดลงเมื่อปากร้อนอันช่ำชองพร้อมกับมือใหญ่ที่จับอยู่ตรงท้ายทอยของเธอบังคับให้เธอยอมรับจูบจากเขา
เรียวลิ้นร้อนตวัดเลียขอเข้าไปในปากเล็กที่เม้มสนิทแต่สุดท้ายเธอก็พ่ายแพ้เมื่อกวางน้อยหรือจะสู้พญาราชสีห์อย่างเขา และไม่นานจากที่ขัดขืนก็ค่อยๆโอนอ่อนตามเขา เมื่อความช่ำชองในรสรักที่เขากำลังมอบให้ทำเอาแรกรักหลงเคลิ้มไปกับมันจนได้
“อื้ม...”
เสียงครางหวานดังขึ้น เมื่อเขาเฝ้ากลืนกินปากเล็กอย่างกระหายหิว มือใหญ่ค่อยๆเลื่อนลงมาโอบกอดเอวคอดก่อนจะนำทางเธอเดินเข้าไปในห้องนอน ที่น่าจะเป็นห้องนอนของแรกรักเพราะมีเสื้อผ้าที่เธอใส่วันนี้พาดอยู่บนเตียง
ปัง...แกร็ก
เสียงประตูห้องถูกปิดลงด้วยเท้าของคริสเตียนก่อนจะตามมาด้วยเสียงล็อกประตูเมื่อเขาไม่ต้องการให้ใครเข้ามาขัดจังหวะรักของเขาและเธอ เพราะรู้ว่าอีกไม่นานเพื่อนร่วมห้องของแรกรักคงกลับมา