ภายในห้องทำงานซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของตึก ถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงสมฐานะท่านประธาน การตกแต่งภายในสไตล์โมเดิร์นบ่งบอกถึงรสนิยมผู้เป็นเจ้าของห้องได้เป็นอย่างดี ว่าเป็นคนหัวสมัยใหม่มากแค่ไหน ฝั่งระเบียงซึ่งสร้างจากแผ่นกระจกใส ทำให้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของกรุงเทพมหานครในมุมสูงได้
ธารานั่งก้มหน้าตรวจเอกสารทางการเงินของบริษัทอย่างตั้งใจ คิ้วเข้มขมวดเป็นปมเมื่อกระดาษแผ่นบางผ่านตาแผ่นแล้วแผ่นเล่า แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่ยอมหยุดพักเสียที
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“คุณธาราคะ คุณมาญ่าขอเข้าพบค่ะ”
ได้ยินชื่อนางเอกในสังกัดออกจากปากเลขานุการสาวสวย ชายหนุ่มจึงขมวดคิ้วหนักยิ่งขึ้น เพราะปกติแล้วเขาและนางเอกคนนี้แทบไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันเลย และมั่นใจว่าไม่มีเรื่องจำเป็นต้องสนทนากับอีกฝ่าย
“ให้เข้ามาได้”
“ค่ะ”
เลขานุการรับคำแล้วเดินออกไป จากนั้นไม่นานเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นอีกครั้ง ธารานั่งเอนหลังอย่างสบาย ๆ วางสายตาไว้ที่ประตูห้อง รอคอยการเข้ามาของมาญ่าอย่างตั้งใจ
“สวัสดีค่ะคุณธารา”
“สวัสดีครับ เชิญนั่งก่อนสิ” เจ้าของห้องกล่าวเสียงเข้ม วางมาดผู้บริหารเว้นระยะห่างกับเด็กในสังกัดไว้พอประมาณ
ธาราไม่เคยทำตัวสนิทสนมกับนักแสดงหญิงคนไหนเลย ยิ่งเป็นนางเอกเบอร์ต้น ๆ แทบไม่อยากสนทนาด้วย เพราะภรรยาคนก่อนก็เป็นอดีตนางเอกชื่อดัง เขาเข็ดแล้วกับการมีคู่ครองเป็นดารา
“ขอบคุณค่ะ”
ธาราเคาะนิ้วบนโต๊ะจนเกิดเสียงดังพอให้อีกฝ่ายรู้สึกรำคาญ มาญ่าได้แต่นั่งทนมองแล้วปั้นหน้ายิ้มอย่างใจเย็น
“คุณมีธุระอะไร”
“พอดีพี่บ๊อบบี้ไม่ว่างเลยให้ฉันมาคุยกับคุณธาราแทนค่ะ เกี่ยวกับละครฟอร์มยักษ์เรื่องใหม่ที่กำลังจะถ่ายทำ”
“แล้ว?...”
ธาราได้ยินก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แสดงสีหน้าราวกับอีกฝ่ายเป็นแค่ตัวอะไรสักอย่างที่ไร้ค่า ซึ่งมาญ่าเองก็รับรู้ได้แต่ยังคงทนฝืนยิ้ม คิดเสียว่าอีกฝ่ายเป็นธาตุอากาศเท่านั้น
“ฉันอยากเล่นละครเรื่องนี้ค่ะ”
“คุณคิดจะมาขอกันดื้อ ๆ อย่างนี้เลยเหรอ คนที่ถูกวางตัวไปแล้วเขาทำอะไรผิด ผมจึงต้องเปลี่ยนให้คุณเล่นแทน” ธาราเริ่มหงุดหงิดเมื่อรู้ว่าหญิงสาวเข้ามาด้วยเรื่องนี้ คิดว่าตัวเองดังแล้วจะมีสิทธิ์ต่อรองอย่างนั้นหรือ เขาจะไม่มีทางให้ใครเอาชื่อเสียงมาเป็นข้ออ้างในการตัดโอกาสคนอื่นแน่นอน
“ก็ไม่ค่ะ แค่คิดว่าฉันเหมาะมากกว่า คุณธาราให้ฉันเล่นเถอะนะคะ ถ้าได้รับโอกาสแล้วฉันจะทำให้ดีที่สุด รับรองว่าเรทติ้งจะต้องพุ่งแน่นอน” สาวเจ้ากล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจ ยิ่งทำให้คนที่นั่งตรงข้ามคันไม้คันมือ อยากจะกระชากร่างบอบบางออกไปให้พ้นจากห้องเสียตอนนี้
“ถ้าคุณมั่นใจขนาดนั้น ลองแสดงให้ผมดูหน่อยสิว่าคุณเหมาะกับงานนี้จริง ๆ ถ้าถูกใจผมอาจจะพิจารณาให้คุณเล่นเสียตอนนี้เลย” ธาราเริ่มคิดเรื่องสนุก ๆ ได้แล้วล่ะสิ เขาจะทำให้นางเอกคนนี้รู้ว่าความโด่งดังนั้นไม่มีผลต่อการตัดสินใจของเขาเลยสักนิด
“แสดงยังไงคะ” มาญ่าขมวดคิ้วมองหน้าชายหนุ่ม เธอไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่ เพราะแววตาที่ส่งมานั้นฉายความเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างชัดเจน
“ถ้าคิดว่าคุณเหมาะกับบทนี้กว่าคนอื่น ลองแสดงฉากที่คิดว่าจะมัดใจผมอยู่ ที่คิดว่าแสดงจบปุ๊บผมจะอนุมัติปั๊บ” คนพูดยกยิ้มมุมปาก นั่งไขว้ขาอย่างสบาย ๆ แสดงความเป็นต่ออย่างชัดเจน
“คุณธาราพูดจริงงั้นหรือคะ”
“จริงสิ เอ้า เริ่มเลยผมพร้อมที่จะดูแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นคุณธาราต้องช่วยฉันแล้วล่ะค่ะ ช่วยมาเป็นพระเอกให้หน่อยได้ไหม” คิดหรือว่าคนอย่างมาญ่าจะยอมแพ้ เจ้าหล่อนรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นตลก เธอจะทำให้เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่นางเอกหน้าโง่เหมือนคนอื่น ๆ
“โอเค จะให้ฉันทำอะไรล่ะ”
“ไม่ต้องทำอะไรค่ะนั่งอยู่ตรงนั้นล่ะ”
ว่าแล้วสาวเจ้าก็แสยะยิ้ม ลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินอ้อมไปหาชายหนุ่มอีกฝั่ง ธาราจ้องมองการเคลื่อนไหวของร่างบางอย่างตั้งใจ เขาอยากรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงคนนี้จะเก่งเหมือนอย่างที่ปากพูดไหม
“ขอโทษนะคะ ถือซะว่ามันคือการแสดง”
มาญ่าทำสิ่งที่ธาราไม่คาดคิด นั่นคือการหมุนเก้าอี้สำนักงานหันออกมาอีกฝั่งของโต๊ะ จากนั้นเลื้อยมือทั้งสองข้างไปคล้องคอหนา ส่งสายตายั่วยวนสวมบทบาทโสเภณีที่ทำงานอยู่ในบาร์ ซึ่งเป็นคือบทบาทนางเอกของเรื่อง ขาเรียวทั้งสองข้างถูกยกขึ้นไปวางขนาบข้างเอวหนาจนสำเร็จ จนตอนนี้กลายเป็นว่าตัวเธอนั่งบนตักธาราเรียบร้อยแล้ว เป็นการนั่งที่สุดแสนจะวาบหวิว จนทำให้ชายหนุ่มถึงกับหน้าแดงก่ำ ดวงตาคมเลิ่กลั่กราวกับคนกำลังมีความผิด นั่นเพราะตอนนี้ในหัวกำลังคิดถึงเรื่องอย่างว่า เขาไม่เคยถึงเนื้อถึงตัวกับผู้หญิงมานานหลายปีแล้ว มันทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยจนต้องพยายามบังคับไม่ให้เจ้าน้องชายตื่นตัว
“คะ…คุณจะทำอะไร”
“วันนี้เสี่ยมาคนเดียวเหรอคะ” ในตอนนี้มาญ่าไม่ได้สนว่าอีกฝ่ายจะทำหน้ายังไง
“เอ่อ…”
“ทำหน้าเซ็ง ๆ อย่างนี้แสดงว่าทะเลาะกับเมียมาแน่ ๆ วันนี้หนูจะทำให้เสี่ยลืมเรื่องน่าเบื่อที่บ้านเองนะคะ” ว่าแล้วก็เลื้อยมือลงมาลูบไล้แผงอกแกร่ง ซบแก้มขาวนวลเนียนบนบ่าหนาอย่างออดอ้อน
ธารากลืนน้ำลายลงคออย่างฝืด ๆ มือหนาลอยขึ้นมาโดยอัตโนมัติ หมายใจจะโอบกอดร่างบอบบางที่กำลังนัวเนียอยู่ มันเป็นอะไรที่ทรมานเมื่อต้องต่อสู้กับความต้องการของตัวเอง เจ้าโลกแข็งตัวขึ้นอย่างช้า ๆ จนคับแน่นเป้ากางเกง
“พะ…พอเถอะ”
“ทำไมเสี่ยใจเต้นแรงอย่างนี้ล่ะคะ หรือว่า…ต้องการหนูจนทนไม่ไหวแล้ว ถ้าอย่างนั้นเราไปต่อที่ห้องกันดีกว่าไหม” เมื่อเห็นอาการของชายหนุ่มมาญ่ายิ่งได้ใจ สอดนิ้วเรียวเข้าไปในสาบเสื้อ ในวินาทีนั้นธารารีบตะปบมือเรียวห้ามไว้ ก่อนที่ตบะของเขาจะแตกเสียก่อน
“พอได้แล้ว…ผมยอมแล้ว” ในที่สุดเขาก็ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับผู้หญิงคนนี้จนได้ เธอร้ายกาจกว่าที่คิดไว้เยอะ หากไม่ยอมเอ่ยปากออกไป มีหวังเขาได้จับร่างบอบบางทำเมียในห้องไปเสียแล้ว
“อ้าว! ฉันยังไม่ได้โชว์ฝีมือแสดงฉากสำคัญเลยนะคะ” เจ้าหล่อนแสร้งทำเป็นเสียดาย แต่แท้ที่จริงแล้วรังเกียจผู้ชายคนนี้เต็มที สายตาเขาดูหมิ่นดูแคลนเธอเหลือเกิน พาลหวนให้นึกถึงเมื่อครั้งยังเป็นเด็กน้อย ที่ถูกเพื่อน ๆ ล้อว่าเป็นลูกกะหรี่ ลูกผู้หญิงขายตัว มันยังดังก้องอยู่ในหูมาจนถึงทุกวันนี้
“ผมบอกว่าพอก็คือพอ แล้วรีบลงไปจากตัวผมได้แล้ว”
“ทำไม? กลัวอดใจไม่ไหวเหรอคะ แต่ฉันว่าคนอย่างคุณคงไม่คิดเรื่องอย่างว่ากับเด็กในสังกัดหรอกใช่ไหม”
“ใช่! ผมไม่มีวันคิดอย่างนั้นกับเด็กในสังกัด โดยเฉพาะคนอย่างคุณ หน้าด้านกล้ามาของานผมก็หน้าด้านให้ แต่บอกไว้ก่อนว่าผมไม่ค่อยปลื้มนางเอกที่ชอบใช้ทางลัด เอาเต้าไต่เพื่อให้ได้งานมา ครั้งนี้ผมจะถือซะว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น เพื่อรักษาชื่อเสียงของบริษัท”
ได้ยินอย่างนั้นเจ้าหล่อนยิ่งไม่อยากลงจากตัวเขา ปล่อยให้โมโหอยู่อย่างนี้น่าสนุกดีออก
“วันนี้ฉันก็ได้รู้เสียทีว่าทำไมคุณถึงยังไม่มีเมียใหม่ ที่แท้ก็เป็นพวกตายด้านสินะ”
“มาญ่า! คุณคิดจะยั่วโมโหผมหรือไง”
“ฉันก็พูดตามความจริง ถ้าคุณไม่ใช่อย่างนั้นก็อื้อ…”
ธาราอดรนทนไม่ไหว รั้งเอวคอดเข้ามาจนตัวแทบจะติดกัน โน้มใบหน้าคมเข้าไปประกบจูบ บดเบียดริมฝีปากบางอย่างหื่นกระหาย ตักตวงลมหายใจจากสาวเจ้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ อยากยั่วยวนเขามากใช่ไหม ได้! วันนี้เขาจะทำให้รู้ว่าไม่ได้เป็นผู้ชายตายด้านอย่างที่อีกฝ่ายเข้าใจ
“อื้อ…”
มาญ่ายกกำปั้นน้อย ๆ ทุบแผงอกแกร่งเพื่อให้อีกฝ่ายยอมปล่อยตัว เธอรังเกียจรสจูบนี้เต็มทน เห็นเป็นคนนิ่ง ๆ ไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะร้อนแรงถึงเพียงนี้