"ต้นอย่าเล่นกับน้องแรงนะลูก"
"ครับป้า" ต้นกล้าเป็นลูกชายของของยี่หวา
"เดี๋ยวฉันออกไปตลาดก่อนนะพี่ ฝากต้นกล้าด้วยล่ะ"
ตั้งแต่แม่เธอเสีย สองพี่น้องก็ย้ายเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ แถวชานเมือง จัดงานศพให้แม่เสร็จไม่นานเท่าไหร่หวานใจก็รู้ว่าตัวเองท้อง เธอจึงไม่กล้าแบกหน้าอยู่แถวนั้นอีกต่อไป
หวานใจเอาเงินก้อนนั้นที่เขาให้มาจ่ายค่าโรงพยาบาลและจัดงานศพให้แม่ที่เหลือเธอเอามาซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ อยู่แถวชานเมืองกับน้องสาวและหลานชาย แต่ตอนนี้เงินก้อนนั้นที่ณภัทรให้มาก็หมดแล้ว
ยี่หวาหาของไปขายที่ตลาด เพื่อมาเลี้ยงพี่สาวกับหลานและลูกชายของเธอ ตอนที่ยี่หวาท้อง พี่เธอก็ให้กำลังใจแล้วดิ้นรนหาเงินมาเลี้ยงน้องและแม่ ยังมีหลานตัวเล็ก ๆ อีกคน ตอนนี้กลับกันเธอให้กำลังใจพี่ กว่าทั้งสองจะผ่านมันมาได้ก็เกือบแย่
[ ตัดมาที่พัชรี ]
"แก้วตาได้ยินพี่นะบอกว่าแม่ไม่สบายก็เลยมาเยี่ยมค่ะ"
"ก็โรคคนแก่นั่นแหล่ะสามวันดีสี่วันไข้"
"แล้วทำไมคุณแม่ไม่พักผ่อนคะ แล้วนี่อะไร เยอะแยะเลย" แก้วตาเดินไปจับกระดาษขึ้นมาดู
"นักสืบส่งมาให้แม่ดูไม่มีอะไรมากหรอก เอาวางไว้ตรงนั้นแหละเดี๋ยวแม่เก็บเอง" ใช่แล้วพัชรียังไม่ยอมแพ้ นางยังตามหาหวานใจ เพราะพัชรีคิดว่าลูกชายของนางต้องทำอะไรหวานใจไว้แน่
เพราะหวานใจเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมากไม่มีวันที่เธอจะหนีหายไปแบบนั้นโดยที่ไม่บอกกล่าวก่อน
"คุณแม่ยังตามหาผู้หญิงคนนั้นอยู่อีกเหรอคะ แก้วตาไม่ชอบเลย" อีกไม่นานแก้วตาก็จะเข้ามาเป็นสะใภ้ของบ้านหลังนี้แล้ว ตอนนี้เธอเริ่มจะเข้ามาวุ่นวายทั้งบริษัทและก็บ้าน
"แม่แค่สงสัยว่าอยู่ดี ๆ คนทั้งคนจะหายไปแบบไร้ร่องรอยได้ยังไง"
"คุณแม่เลิกตามหาได้แล้วค่ะ ถึงเธอจะกลับมาก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว" แก้วตาพูดทิ้งหางเสียงไว้เหมือนไม่พอใจ แล้วก็หยิบกระดาษโน๊ตทั้งหมดของพัชรีไปวางลงถังขยะแล้วเดินออกจากบ้านไป
หญิงวัยกลางคนได้แต่มองตามหลังผู้หญิงที่จะมาเป็นลูกสะใภ้ของนางในอนาคต
[ บริษัทณภัทรเทคโนโลยีจำกัด ]
"สวัสดีค่ะคุณแก้วตา ตอนนี้บอสมีแขกอยู่ค่ะ" แนนรีบเดินมาบอกแก้วตาที่กำลังจะเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของณภัทร
"ฉันเป็นใครเธอจำไม่ได้หรือไง"
"จำได้ค่ะแต่บอสบอกว่า.." แนนยังพูดไม่จบแก้วตาก็เปิดประตูห้องทำงานของเขาแบบถือวิสาสะ
"พอดีใกล้เที่ยงแล้วแก้วตาอยากจะมาชวนคุณไปทานข้าว"
"ผมกำลังคุยงานอยู่"
"แก้วตารอได้ค่ะ เดี๋ยวแก้วตานั่งเล่นเงียบ ๆ รอ"
"วันหลังเราค่อยคุยกันต่อก็ได้ครับคุณณภัทร คุณไปทำธุระเถอะครับ" คนที่เข้ามาคุยงานรีบลุกขึ้นแบบเกรงใจ
"ไม่เป็นไรครับ ผมจะคุยงานกับคุณต่อ แนนช่วยพาคุณแก้วตาไปรอที่ห้องรับรองแขกก่อนนะ" ณภัทรพูดกับลูกค้า ก่อนที่จะหันไปสั่งเลขา
"งานอะไรนักหนา แล้วนี่เมื่อไหร่คุณจะว่างไปดูการ์ดแต่งงานกับแก้วตาคะ"
"เรื่องนั้นเราค่อยคุยกัน แต่ตอนนี้คุณออกไปรอที่ห้องรับรองแขกก่อน"
แก้วตาก็เดินออกไปแบบไม่พอใจ แล้วแนนก็วิ่งไปเปิดประตูห้องให้เธอ
[ ตัดกลับมาหาหวานใจ ]
"ต้นกล้าน้องล่ะ" หวานใจให้ต้นกล้าเฝ้าภาคินแป๊บนึงเธอไปเข้าห้องน้ำพอเดินออกมาก็ไม่เจอลูก
"เมื่อกี้น้องก็อยู่ตรงนี้นะครับ"
"ภาคินลูก!! ภาคินลูกไปไหนต้นกล้าหาน้องช่วยป้าเร็ว"
เป๊กกกกก!!! เสียงแตรรถดัง เอี๊ยกกกโครม!! แล้วสักพักก็มีเสียงเหมือนรถชนอะไรบางอย่าง
"กรี๊ดดดด!! ภาคิน!!!"
ชั่วโมงผ่านไป...
"ทำไมเด็กถึงมีเลือดกรุ๊ปพิเศษครับ" หมอวิ่งออกมาหาหวานใจ ที่เดินไปเดินมาหน้าห้องผ่าตัดแบบกระวนกระวาย น้ำตาของเธอยังไม่หยุดไหลตั้งแต่พาลูกมาส่งโรงพยาบาล
"ฉันไม่รู้ค่ะหมอทำไมคะ งื้อออ คุณหมอช่วยลูกฉันด้วยนะคะ" หญิงสาวยกมือไหว้ขอร้องทั้งน้ำตา
"เลือดพวกนี้จะมีแค่พวกลูกครึ่งเท่านั้นครับ ทางโรงพยาบาลไม่มีเลือดสำรองไว้เลย"
"ลูกครึ่งงั้นเหรอ!"
ปู่ของณภัทรเป็นชาวอเมริกา มาได้ภรรยาที่เมืองไทยจนมีพ่อของเขา แล้วพ่อของเขาก็มีเขามาอีกที เขาก็เลยได้เลือดตัวนั้นติดตัวมา และตอนนี้ลูกชายของเขาก็ได้เลือดของพ่อมาเต็ม ๆ
"ทำไงดีพี่..แล้วหลานของฉันจะเป็นอะไรไหมคะหมอ" ยี่หวาได้ยินข่าวก็รีบมาที่โรงพยาบาล แทบจะเป็นลมหลายตลบเหมือนกัน
"คุณควรติดต่อไปหาพ่อเด็กนะครับ เผื่อเขามีเลือดเดียวกัน ตอนนี้เด็กต้องการเลือดด่วน ถ้ารับบริจาคคงไม่ทัน"
"ค่ะ" ตอนนี้เธอคิดแค่อย่างเดียวว่าต้องช่วยลูกให้รอดก่อน
หวานใจรีบออกมาขึ้นแท็กซี่เพื่อที่จะไปหาเขาที่บริษัท หญิงสาวนั่งรถมาประมาณชั่วโมงกว่า ๆ ก็ถึงเพราะเธออยู่ไม่ไกลจากเขามากนัก
ตอนนี้เธอหวังแค่ให้เขาอยู่บริษัทก็พอ อย่าให้เขาออกไปดูงานที่ต่างจังหวัดเลย
[ บริษัทณภัทรเทคโนโลยีจำกัด ]
"ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครทำไมหน้าคุ้น ๆ "
"จริงด้วยนั่นมันผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่หรอ"
พอเธอลงแท็กซี่ที่หน้าบริษัท หญิงสาวก็รีบตรงเข้ามาด้านในโดยที่ไม่แลกบัตรผ่าน เพราะบริษัทของเขาต้องยื่นบัตรประชาชนก่อนที่จะเข้าผ่านเข้าไป
"คุณคะหยุดก่อนค่ะ คุณจะมาพบใครคะ" พนักงานที่ด้านหน้ารีบวิ่งตามเธอมาจนถึงหน้าลิฟต์
"ฉันจะมาพบคุณณภัทร"
"ว้าย! ไม่ได้นะคะ..คุณจะต้องมาแลกบัตรแล้วก็รอให้ฉันติดต่อขึ้นไปหาคุณแนนก่อน"
"ไม่ทันแล้วค่ะ ฉันขอขึ้นไปพบเขาตอนนี้เลยได้ไหม" หญิงสาวถึงกับยกมือไหว้ขอขึ้นไปหาเขาก่อน แต่พนักงานก็ไม่สงสารเธอเลย
"ไม่ได้จริง ๆ ค่ะ ถ้าไม่งั้นฉันจะเรียกรปภ.แล้วนะ"
พอลิฟต์เปิดหวานใจไม่รอแล้ว เธอรีบเดินเข้าไปในลิฟต์ทันที.. แล้วผู้หญิงคนนั้นก็รีบเข้าไปชุดกระชากตัวเธอไว้ ทันใดนั้นลิปต์ก็ปิดลงก่อน หญิงสาวรีบกดขึ้นไปที่ชั้นผู้บริหารทันที
"คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ"
"ฉันจำเป็นต้องพบเขาจริง ๆ ขอเวลาแค่แป๊บเดียวเอง"
สักพักลิฟต์ก็มาเปิดที่หน้าชั้นผู้บริหาร พอลิฟต์เปิดออก ณภัทรที่กำลังรออยู่กับแก้วตาถึงกับชะงัก
"คุณ! คุณไปกับฉันหน่อยได้ไหมคะ" หวานใจรีบเดินไปคว้ามือของณภัทรที่ตอนนี้แก้วตากำลังยืนควงอยู่อย่างแนบชิด
"เธอ!!" ณภัทรและแก้วตาพูดออกมาพร้อมกัน
ใช่แล้วผู้หญิงที่ยืนอยู่กับณภัทรเมื่อสองปีที่แล้วก็คือแก้วตา เขาเรียกแก้วตามาพบที่บริษัทเพื่อที่จะให้เธอมากีดกันหวานใจนั่นเอง
"ฉันไม่ยอมให้คุณนะไปกับเธอหรอก เธอมีสิทธิ์อะไรปล่อยมือแฟนของฉันนะ!"
"ฉันขอยืมตัวเขาแป๊บเดียวเองค่ะ"
"ทำไมฉันต้องไปกับเธอด้วย" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับแกะมือของหญิงสาวออก
"งั้นฉันขอถามคุณตรงนี้เลยก็ได้ เลือดของคุณเป็นกรุ๊ปพิเศษใช่ไหม" หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นไม่ได้สั่นแค่เสียง ตอนนี้มือไม้ ปากของเธอสั่นไปหมดเพราะกลัวว่าจะกลับไปช่วยลูกไม่ทัน
"อืม..ทำไมเธอรู้" เขามีเลือดพิเศษก็จริงแต่หน้าตาของเขาไม่ค่อยจะเหมือนลูกครึ่งเท่าไหร่
"เลือดพิเศษคืออะไรคะ" แก้วตาสงสัยก็เลยถาม
"ฉันกำลังต้องการเลือดของคุณด่วน คุณช่วยลูกฉันหน่อยได้ไหม ลูกฉันเกิดอุบัติเหตุตอนนี้เขารออยู่ที่ห้องผ่าตัด คุณช่วยเขาหน่อยได้ไหม" เธอพูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินเพราะเธอกลัวว่าเขาจะไม่ช่วยลูก
"เธอหมายความว่ายังไง"
"ช่วยลูกเราด้วย ช่วยภาคินหน่อยได้ไหม ฉันจะไม่ขออะไรจากคุณอีกเลย นี่เป็นครั้งสุดท้ายคุณไปช่วยเขาหน่อยได้ไหม" หวานใจทิ้งตัวคุกเข่าลงต่อหน้าเขาโดยไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรอีกต่อไป
เธอกลัวว่าเขาจะไม่ยอมช่วย หญิงสาวพนมขึ้นเพื่อกราบไหว้ขอร้องวิงวอน เธอทำทุกอย่างเพื่อให้เขาสงสาร
"ภาคิน!! คือใคร?"
[ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ]
ที่ต้องพาลูกเข้าโรงพยาบาลเอกชนเพราะมันเป็นโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ตอนนั้นเธอคิดแค่ว่าต้องช่วยลูกให้รอดก่อน
ถึงแม้ว่าเขายังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ชายหนุ่มก็ยอมตามเธอมาที่โรงพยาบาล
"คุณหมอคะฉันพาพ่อของเด็กมาแล้ว ลูกของฉันจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ"
"เราขอตรวจเลือดให้ละเอียดก่อนนะครับ ว่าเลือดคุณพร้อมที่จะบริจาคไหม"
แล้วณภัทรก็เดินเข้าห้องตรวจ
"เขาคือพ่อของภาคินเหรอพี่" ยี่หวารีบเดินมาถามพี่สาว
"ใช่" หวานใจไปพบเจออะไรมาบ้าง เธอไม่เคยโกหกน้องสาวเลย เธอเล่าให้น้องสาวฟังทุกอย่าง
"ยังดีนะที่เขายังมีความเป็นคนอยู่บ้าง" เพราะถ้าเป็นผู้ชายบางคน ก็คงไม่ตามมาแบบนี้
...............
"เม็ดเลือดของคุณตรงกับเด็กทุกอย่างคุณพร้อมที่จะบริจาคแล้วใช่ไหม เราจะถ่ายเลือดโดยตรงเลยเพราะว่าเด็กต้องการเลือดด่วน" พอหมอตรวจวิจัยเลือดเสร็จก็ถามณภัทร
"พร้อมครับ" เขานั่งมองเด็กชายคนหนึ่งที่ตอนนี้มีสายระโยงระยางเต็มตัวไปหมด หน้าตาของเด็กคล้ายเขามาก
สมัยนี้การถ่ายเทเลือดโดยตรงไม่นิยมให้ใช้เพราะจะผิดกฎหมายอาจจะได้รับเชื้อโรคจากผู้บริจาคได้ง่ายมาก แต่ถ้าผู้รับบริจาคอยู่ในขั้นวิกฤตต้องรีบใช้เลือดด่วนก็สามารถทำได้ แต่ต้องได้รับการอนุญาตจากญาติก่อน ซึ่งแม่ของภาคินก็ได้เซ็นต์ยินยอมไว้ก่อนแล้ว