หลังจากที่แก้วเกล้าย้ายมาอยู่คอนโดของสามหนุ่ม ณภัทรปกติจะไม่ค่อยอยู่ห้องสักเท่าไรต้องกลับมานอนคอนโดทุกวันและเสาร์อาทิตย์ก็กลับไปนอนยังบ้านเหมือนเดิม ตั้งแต่หญิงสาวย้ายมาอยู่ด้วยณภัทรก็ได้เห็นมุมแปลกๆ ของน้องน้อยอย่างที่ไม่เคยมาก่อน
“น้องแก้วเสร็จแล้วยังคะ อาหารเช้าพร้อมแล้วนะ”
เสียงทุ้มตะโกนขึ้นเมื่อจัดการเตรียมอาหารเช้าให้เสร็จเรียบร้อย
“เสร็จแล้วค่ะ”
เสียงหวานตะโกนตอบกลับในขณะที่กำลังแต่งตัวอยู่ วันนี้แก้วเกล้ามีเรียนในช่วงสายของวันเลยไม่ต้องรีบอีกอย่างมหาลัยก็อยู่ไม่ไกลจากคอนโดอีกด้วยทำให้สบายต่อการเดินทางแถมรถยังไม่ติดอีกด้วยเพราะมีทางลัดไปถึงยังมหาลัย
“วันนี้มีอะไรให้แก้วกินบ้างคะ”
“มีสลัดผลไม้แล้วก็ขนมปังปิ้งกับนมช็อกโกแลตจ้ะ”
เสียงทุ้มบอกขึ้นแล้วนั่งลงยังเก้าอี้เทนมช็อกโกแลตยี่ห้อโปรดให้กับแก้วเกล้า
“วันนี้พี่กานต์กับพี่ภพจะมาทานข้าวเย็นด้วย น้องแก้วอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ”
“วันนี้ให้แก้วแสดงฝีมือได้ไหมคะ เห็นพี่กานต์กับพี่ภพทำงานมาเหนื่อยๆ อยากทำของโปรดให้ทานกันค่ะ”
เสียงหวานบอกขึ้น เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี้น้อยครั้งมากที่จะได้เจอหน้าพวกพี่ๆ อีกสองคนเพราะต้องรับภาระดูแลงานอย่างหนักทำให้แทบไม่มีเวลาพักผ่อน
“ได้สิค่ะ ตอนเลิกเรียนไปซื้อสดกันนะ”
“ค่ะ”
ทั้งสองนั่งจัดการกับอาหารเช้าของตนเองอย่างเงียบๆ เมื่อหมดจานแก้วเกล้าก็อาสาเอาไปล้างแทนแล้วจัดกระเป๋าเพื่อไปเรียนในช่วงสายโดยมีณภัทรเป็นคนขับรถพาไปส่งทุกวัน
“เลิกคลาสตอนไหนคะ”
“ประมาณบ่ายสามค่ะพี่ภัทร”
“โอเคจ้ะพี่รอที่เดิมนะ”
“ค่ะ แก้วไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ”
ร่างบางก้าวลงจากรถแล้วเดินเข้าไปยังตึกคณะเป็นที่สนใจสนใจของใครๆ หลายคนเมื่อดาวคณะอย่างแก้วเกล้ามีชายหนุ่มสุดหล่อมารับไปกลับแทบทุกวันแล้วอีกอย่างตอนเลิกเรียนก็ยังมารอรับอีก ทำให้ใครๆ หลายคนต่างตั้งข้อสงสัยว่าสองคนนี้มีความสัมพันธ์กันอย่างไร ทำไมผู้หญิงเรียบร้อยอย่างแก้วเกล้าถึงได้สนิทสนมกับมาเฟียหนุ่มสุดหล่อได้
เมื่อใกล้ถึงเวลาช่วงบ่ายสามณภัทรที่กำลังเคลียร์เอกสารอยู่สนามแข่งรถต้องรีบจัดการให้เสร็จทันทีแล้วบึ่งรถไปรอรับน้องน้อยอย่างใจจดใจจ่อ เขาชอบทุกครั้งที่มารอรับแก้วเกล้าแล้วเป็นที่สนอกสนใจของใครๆ หลายคน แต่เสียดายที่คนพวกนั้นไม่รู้ว่าเขากับน้องแก้วพักอยู่ด้วยกัน แต่ถือว่าเป็นเรื่องดีทีทำให้ผู้ชายหลายคนไม่กล้ามายุ่งวายน้องน้อยของเขา
*“ดูสิเขามาอีกแล้ว อิจฉาแก้วเกล้าจังเลยมีชายหนุ่มสุดหล่อมารอรับทุกวันแถมยังเป็นห่วงเป็นใยอีก”*
*“ทำบุญด้วยอะไรนะแก้วเกล้าถึงได้เกิดมาสวยเรียนเก่งแล้วยังมีคนหล่อมารอรับอีก อยากโชคดีแบบนี้บ้างจัง”*
เสียงซุบซิบนินทาเกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อณภัทรมารอรับแก้วเกล้าที่หน้าคณะ เขาจะมานั่งรอที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ทุกวัน ทำให้สาวๆ หลายคนต้องแวะเวียนมาอ่อยมาโปรยเสน่ห์ใส่ทุกครั้ง
“แก้วไปกินข้าวเย็นกับเราไม่ได้เหรอ”
ชายหนุ่มชุดนักศึกษาหน้าคมพยายามออดอ้อนให้แก้วเกล้าพาทานมื้อเย็นด้วย หลังจากที่ตามตื้อมาหลายวันแล้วไม่ได้ผล
“เราบอกไปหลายรอบแล้วนะว่าไม่ไป อีกอย่างวันนี้เราก็มีนัดด้วย”
“แก้วให้โอกาสเราบ้างไม่ได้เหรอ.... แค่ไปกินข้าวกับเรามื้อเดียวเอง”
“ไม่อ่ะ เพชรเรารู้นะว่านายต้องการอะไร อีกอย่างเราไม่ใช่ผู้หญิงที่หลงคารมของนายง่ายๆ เหมือนสาวๆ ทั่วไปหลอกนะ ดังนั้นแล้วได้โปรดตัดใจซะเถอะ”
“ไม่!! ให้ตายวันนี้แก้วต้องไปทานข้าวกับเราให้ได้”
ชายหนุ่มถือวิสาสะคว้าข้อมือเรียวของแก้วเกล้าทันที สร้างความตกใจให้กับหญิงสาวเป็นอย่างมากเมื่อโดนเพื่อนชายเข้าจู่โจมแบบนี้
“น้องแก้วเกิดอะไรขึ้นครับ แล้วนายเป็นใครถึงได้มาจับมือน้องแก้วของฉัน”
ณภัทรเดินเข้ามาถามทันทีเมื่อเหลือบหันเป็นนักศึกษาชายคนหนึ่งตามตอแยวุ่นวายกับน้องน้อยของเขาเลยรีบเดินเข้ามาหาทันทีแล้วดึงตัวแก้วเกล้ามายืนข้างตนเอง
“แล้วมึงมาเสือกอะไรด้วย!”
ชายหนุ่มนักศึกษาหันไปตวาดใส่ขึ้นด้วยความไม่พอใจเมื่อมีบุคคลที่สามเข้ามาขัดจังหวะ
“จะไม่ให้ผมเสือกก็ไม่ได้นะครับ เพราะว่าผมเป็นแฟน!!! ของน้องแก้ว ดังนั้นแล้วมีสิทธิ์ที่จะเสือกเต็มที่”
ร่างหนาบอกขึ้นอย่างเสียงดังเพื่อให้ชายหนุ่มตรงหน้ารับรู้ แต่ทว่าด้วยความบังเอิญทุกสายตาของนักศึกษาใต้ตึกคณะต่างหันมามองด้วยความสงสัยทำให้ณภัทรพูดขึ้นมาอย่างเสียงดังให้ได้รับรู้กันทั่วหน้า ทำเอาแต่ละคนถึงกับตกใจขึ้นมาอย่างไม่เชื่อหู ที่หญิงสาวอย่างแก้วเกล้าจะมีแฟนแล้วและยังเป็นหนุ่มมาเฟียสุดหล่ออีกด้วยเสียงซุบซิบนินทาดังหนาหูขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับสถานะของแก้วเกล้าและณภัทร
“แฟน??? กูไม่เชื่อ!!”
ชายหนุ่มนักศึกษาถอยหลังเล็กน้อยและส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อในคำพูดของชายตรงหน้าแล้วหันไปมองหน้าแก้วเกล้าราวกับต้องการคำตอบ
“แล้วแต่คุณเลยครับ ผมไม่ได้บอกให้เชื่อแค่บอกให้รู้เท่านั้นว่าผมเป็นแฟนของน้องแก้วและไอ้หมาตัวไหนก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่งวุ่นวายด้วย”
มือหนาตวัดวงแขนโอบกอดไหล่บางของแก้วเกล้าไว้แน่น
“คิดว่ากูเชื่อมึงหรือไงห่ะ! มึงรู้ไหมว่ากูลูกใคร!”
ชายหนุ่มพูดท้าทายขึ้นเมื่อตนเองโดนแหกหน้าทำให้อับอาย ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธมาก่อนแล้วยังมีใครที่ไหนไม่รู้กล้ามาทำให้เขาหน้าแตกต่อผู้คนมากมาย
“ขนานคุณยังไม่รู้เลยว่าตัวเองลูกใครแล้วผมจะไปรู้ได้ยังไงครับไม่น่าถามเลยนะ”
ณภัทรหัวเราะแล้วตอบกลับขึ้นอย่างไม่สนใจอะไร
“พ่อกูทำงานให้กับตระกูลวิริยะไพศาลมาเฟียอันดับหนึ่งของไทย ถ้ามึงไม่อยากมีเรื่องก็หลีกทางไปซะ!”
ชายหนุ่มพูดโอ้อวดขึ้นเมื่อบิดาของตนเองนั้นทำงานให้กับมาเฟียตระกูลใหญ่อย่างไม่เกรงกลัวอะไรเพราะคิดว่านายใหญ่ของพ่อคุ้มกะลาหัวไว้อยู่
“อ่อ... เหรอ... น่ากลัวจริงๆ แล้วพ่อของนายคือใครล่ะ ชื่ออะไรเหรอ...”
ณภัทรเล่นไปตามน้ำไหนเมื่อชายหนุ่มตรงหน้าไม่รู้ว่าเขานี่แหละวิริยะไพศาลอีกคน อยากจะรู้จริงๆ ว่าเจ้านายคนไหนของบิดาชายหนุ่มตรงหน้าจะคุ้มกะลาหัวได้
“นายพงษ์พัฒน์ เกรียรติกุล ไงล่ะเลขาของคุณ ณกานต์ วิริยะไพศาล ถ้ามึงไม่อยากมีเรื่องก็ถอยห่างไปซะแล้วให้แก้วไปทานมื้อเย็นกับกู”
ชายหนุ่มพูดจาข่มขู่ทำตัวกร่างอย่างไม่เกรงกลัวใคร ทำเอาแก้วเกล้าถึงกับลอบกลืนน้ำลายดังกลืนเมื่อเห็นอนาคตของเพื่อนชายหริหรี่ลงเรื่อยๆ
“แปบหนึ่งนะ เดี่ยวนายได้ไปกินข้าวกับน้องแก้วสมใจแน่ๆ”
“พี่ภัทรจะทำอะไรเหรอคะ”
เสียงหวานถามขึ้นด้วยความหนักใจเธอไม่ได้อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โตแบบนี้
“ก็โทรหาพี่กานต์ยังไงล่ะ เพราะเลขาของพี่กานต์ไม่ใช่คนนี้แต่เป็นสาวแว่นเฉิ่มต่างหากล่ะ พี่อยากจะรู้ว่านายคนนี้จะทำหน้ายังไงถ้ารู้ว่าพี่คือน้องชายของเจ้านายพ่อตัวเอง”
ณภัทรต่อสายไปหาพี่ชายทันทีแล้วเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังพร้อมกับให้พาตัวลูกน้องที่กล้าแอบอ้างตำแหน่งเลขาของพี่ชายเขามาด้วยจะได้รู้ๆ กันว่าบิดาของชายหนุ่มนั้นทำตำแหน่งอะไรกันแน่
ใช้เวลาไม่นานรถคันหรูก็มาจอดเทียบยังหน้าคณะเนื่องจากบริษัทและมหาลัยของแก้วเกล้าอยู่ไม่ไกลกันมากนักทำให้ณกานต์ขับรถมาหาน้องชายได้อย่างรวดเร็วส่วนลูกน้องของเขานั้นกำลังให้การ์ดพาตัวมาตามหลัง การปรากฏตัวของณกานต์เป็นที่ฮือฮาของสาวๆ เป็นอย่างมากเมื่อคลาสโนว่าหนุ่มสุดหล่อมาอยู่ตรงหน้าพวกเธออย่างใกล้ชิด แถมออร่าความหล่อเหลายังเปล่งประกายอีกด้วย ทำเอาสาวๆ ต่างยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บเอาไว้ แล้วต่างตั้งคำถามว่า ชายหนุ่มทั้งสองคนนั้นมีความสัมพันธ์ยังไงกับดาวคณะบริหารอย่างแก้วเกล้า
“ใครทำยัยหนูของพี่บอกมาสิ! พี่จะจัดการให้”
ณกานต์ปรี่เข้ามาหาแก้วเกล้าทันทีแล้วถามหาคู่กรณี
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่กานต์ พี่ภัทรก็ทำเป็นเรื่องใหญ่โตไปได้”
“ไม่ได้สิยัยหนู ก็ไอ้ภัทรโทรไปบอกพี่ว่า มีคนสวมอ้างเป็นเลขาของพี่ ทั้งๆ ที่เลขาของพี่นั้นคือผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย”
เสียงทุ้มบอกขึ้นด้วยความไม่พอใจเมื่อมีคนมาแอบอ้างเอาชื่อของเขาไปอวดเบ่งแล้วยังมาสวมรอยเป็นเลขาของเขาอีก
“ท่านประธานครับ นายพงษ์พัฒน์มาถึงแล้วครับ”
การ์ดเดินเข้ามารายงานขึ้นเมื่อพาลูกน้องที่เจ้านายต้องการพบมาถึง
“ดี! พามาหาฉันสิ”
“สวัสดีครับท่านประธานไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรเหรอครับถึงได้เรียกผมมาที่นี่”
“พ่อ! มาที่ทำไม!”
ชายหนุ่มคู่กรณีถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นบิดาเดินมาทางที่ตนเองยืนอยู่แล้วยกมือไหว้ทักทายชายหนุ่มตรงหน้าที่เพิ่งมาใหม่อย่างย่ำเกรง
“ไอ้เพชร! แล้วแกมายืนอยู่ตรงนี้ทำไม รู้จักกับเจ้านายของพ่อด้วยเหรอ”
ชายหนุ่มวัย 40 กว่าตกใจขึ้นเมื่อเห็นบุตรชายยืนข้างๆ กับเจ้านายของตน
“นี่เหรอ... พ่อของนาย”
“ใช่แล้ว!”
“สวัสดีครับคุณณภัทร ไม่ทราบว่าลูกชายของผมไปทำอะไรให้ไม่พอใจหรือครับ”
“ลูกชายของคุณมายุ่งวุ่นวายกับคนรักของผมแล้วยังขู่จะทำร้ายผมอีก เพราะว่าพ่อของตัวเองใหญ่โตเป็นเลขาของพี่กานต์ หากทำอะไรให้ไม่พอใจสามารถใช้ลูกน้องของพี่ชายผมมาจัดการผมได้”
ชายหนุ่มคู่กรณีถึงกับใบ้แดกเลยที่เดียว เมื่อรู้ความจริงว่าคนที่ตนเองไปหาเรื่องด้วยนั้นเป็นน้องชายของเจ้านายที่บิดาตนเองทำงานแล้วยังเป็นมาเฟียอีก แล้วเมื่อกี้ที่เขาพูดโอ้อวดข่มขู่ไปก็...
“ไอ้เพชร! มึงไปหาเรื่องคุณณภัทรได้ยังไงห่ะ! มึงขอโทษคุณณภัทรเดี่ยวนี่เลย!!”
“ไม่ต้องหรอกครับ คนที่สมควรไปขอโทษด้วยคือ แก้วเกล้าต่างหากล่ะ ลูกชายชองคุณมายุ่งวุ่นวายกับน้องน้อยของผมมากเกินไปแล้วนะแถมยังล่วงเกินอีก”
“ผะ.. ผมต้องขอโทษแทนลูกชายผมด้วยนะครับคุณณภัทร ผมสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก”
หนุ่มใหญ่รีบปรี่เข้าไปขอโทษขอโพยน้องชายของเจ้านายทันทีเพราะกลัวว่าตนเองนั้นจะตกงาน
“จัดการยังไงดีครับพี่กานต์”
ณภัทรหันไปถามความเห็นจากพี่ชายของตนเองจากที่สังเกตเมื่อกี้เขาก็ยังไม่เห็นว่าผู้ชายคนนี้จะรู้สึกผิดเลยสักนิดแต่กลับผยองเชิดหน้าชูตาราวกับไม่กลัวอะไรและไม่สำนึกเลยสักนิด
“นโยบายของบริษัทจะให้ทุนการศึกษาแก่บุตรของพนักงานทุกคน.... ดังนั้นแล้วฉันขอตัดสิทธิ์ทุนการศึกษาของลูกชายนายพงษ์พัฒน์คนนี้และไม่สามารถเข้าร่วมการฝึกงานกับทางบริษัทได้อีก รวมทั้งตัดโบนัสสิ้นปีอีก 5%”
“ท่านประธานครับ... เมตตาผมหน่อยเถอะครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก ไอ้เพชร! ไปขอโทษคุณหนูแก้วเกล้ากับคุณณภัทรเดี่ยวนี้ถ้าแกยังอยากเรียนต่ออีก!”
“ก็ได้พ่อ! แก้ว... เราขอโทษนะที่ตามตอแยและล่วงเกินแก้ว ส่วนคุณณภัทรผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะครับที่ไปยุ่งวุ่นวายกับแก้วแล้วก็พูดจาข่มขู่คุณเมื่อกี้”
ชายหนุ่มต้องจำใจเข้าไปขอโทษทั้งสองคนด้วยความไม่เต็มใจและตอนนี้เขาก็อับอายขายขี้หน้าทุกคนในมหาลัยมากเมื่อรู้ว่าตำแหน่งของพ่อเขานั้นไม่ใช่เลขาของคุณณกานต์เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างที่พูดโอ้อวดไว้แถมยังต้องพึ่งพาทุนการศึกษาของทางบริษัทอีก
“แก้วให้อภัยเพชรนะถือว่าเป็นเพื่อนกันแต่ที่หลังอย่าทำแบบนี้อีกไม่ว่าจะกับใครก็ตามเข้าใจไหมล่ะ”
เสียงหวานบอกขึ้นอย่างไม่ติดใจเอาความเพราะถึงยังไงแล้วก็เป็นเพื่อนร่วมคณะด้วยกันต้องพบเจอหน้ากันประจำจะให้โกรธก็คงทำไม่ได้
“ขอบคุณแก้วมากนะที่ไม่โกรธเพชร”
ชายหนุ่มเอ่ยขอบคุณเพื่อนสาวที่ไม่ถือโทษโกรธเคืองกัน ทั้งๆ ทีเขาเองนั้นก็ทำไม่ดีใส่ไว้ แล้วอีกอย่างก็สงสารบิดาด้วยที่ต้องมาเดือดร้อนเพราะตนเอง
“เอาเป็นว่าให้เรื่องมันจบๆ ไปแล้วกันนะอย่ามายุ่งวุ่นวายกับยัยหนูของฉันอีกไม่ว่าใครก็ตาม ถ้าไม่อยากจะมีเรื่อง”
ณกานต์พูดตัดบทขึ้นพร้อมกับขู่เอาไว้โดยเน้นประโยคสุดท้ายอย่างเสียงดังเพื่อให้ทุกคนในที่นี้ได้รับรู้ว่าอย่าบังอาจมาทำร้ายน้องหนูของเขาเด็ดขาด!
“พี่กานต์ก็... ไปพูดแบบนี้ได้ยังไงกันค่ะ เดี่ยวแก้วก็ไม่มีเพื่อนคบกันพอดี”
แก้วเกล้าอดที่จะเอ็ดไม่ได้เลยที่เดียวกับคำพูดของชายหนุ่มแล้วแบบนี้จะมีใครกล้ามาคุยกับเธออีกไหมเนี่ย แค่คิดก็เหนื่อยใจแล้วเห้อ.......
“พี่ล้อเล่นน่า วันนี้เราจะแสดงฝีมือทำมื้อเย็นให้พี่ไม่ใช่เหรอคะ รีบไปซื้อสดได้แล้วนะ พี่ขอตัวไปเคลียร์เอกสารที่บริษัทอีกสักนิดเดี่ยวจะตามกลับไป”
“ค่ะพี่กานต์ ส่วนพี่ภัทรก็อย่าไปถือความเอาเรื่องเพชรเลยค่ะ เห็นแก่แก้วบ้างนะคะ”
“ก็ได้จ้ะ เพื่อน้องพี่ยอมได้เสมอ”
“เราไปกันเถอะนะ เดี่ยวจะกลับมาทำมื้อเย็นช้า”
ทั้งหมดแยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัวของตนเองแต่เหตุการณ์ในวันนี้ยังไม่จบลงในวงนินทาของใครๆ หลายคนที่ต่างตั้งข้อสงสัยว่า..
ทำไมแก้วเกล้าถึงได้สนิทกับครอบครัวมาเฟียใหญ่มากราวกับรู้จักกันมากนาน แถมยังเป็นห่วงเป็นใยกันอีกจนแทบไม่ให้ใครมาแตะต้อง.... แล้วยังคำพูดของชายหนุ่มอีกที่บอกว่าทำมื้อเย็นให้ทานทำให้ทุกคนต่างตั้งข้อสงสัยอีกว่า แก้วเกล้าพักกับชายหนุ่มทั้งสองด้วยเหรอ....