ณภัทรมาทันได้ยินของพี่ชายกับแก้วเกล้าคุยกันพอดี เขาเข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวหวาดระแวงทั้งหมด เขาเองก็ไม่เร่งรีบอะไร รอให้น้องแก้วพร้อมก่อน แล้วค่อยเปิดใจคุยกันอีกรอบ ทว่าก็ต้องขอบคุณพี่ชายสุดรัก ที่ช่วยพูดให้น้องแก้วเข้าใจในตัวเขามากขึ้นแล้วยังทำให้น้องแก้วรู้ใจตัวเองอีก (มั้ง) ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของเขาและความต้องการของน้องแก้วอีกด้วย หากไม่รัก เขาก็ไม่บังคับ ยอมถอยออกมาอย่างลูกผู้ชาย
คราแรกเขาว่าจะแวะเข้าไปคุยด้วยสักหน่อย แต่ถ้าเดินดุ้มๆ เข้าไป สองคนนั้นคงตกใจพอดี เขาเลยเดินเข้าห้องพร้อมกับกล่องพัสดุ และนั่งตรวจงานจนถึงเที่ยง แก้วเกล้าก็ไปกินข้าว
พอตกบ่ายเขาเอ่ยปากชวนหญิงสาวออกไปเดินเล่นแถวสวนสาธารณะใกล้ๆ คอนโด ซึ่งวันนี้อากาศไม่ค่อยร้อนสักเท่าไร เหมาะแก่การเดินเล่นที่สุด
“น้องแก้วเสร็จแล้วยังครับ” ณภัทรตะโกนเรียกหญิงสาวในขณะที่เขาเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อย
“แป๊บค่า” เสียงหวานตอบกลับ สักพักก็เดินออกมาในชุดลำลองสบายตัว ทาแป้ง ทาลิปนิดเดียวไม่ต้องตกแต่งอะไรมาก แบบธรรมชาติพอดี
เมื่อเรียบร้อยก็พากันออกจากห้องโดยไม่ลืมบอกพี่ชายทั้งสองคนด้วย ระยะทางระหว่างคอนโดกับสวนสาธารณะไม่ไกลมากนัก สองหนุ่มสาวเดินกันมาเรื่อยๆ พลางพูดคุยกันไปด้วย
"นึกยังไงชวนแก้วออกมาเดินเล่นค่ะ งานเสร็จแล้วเหรอ"แก้วเกล้าถามพลางมองไปรอบๆ ด้วยความสนใจ ตั้งแต่มาอยู่ไม่ได้เดินสำรวจเลยสักครั้ง ไม่คิดว่าจะมีร้านอาหารอร่อยๆ มากมายหลากตาเยอะแยะไปหมด คิดจะเปลี่ยนใจไม่ไปเดินสวนสาธารณะแล้ว
"ยัง พี่เห็นว่าอากาศดีไม่มีแดดเลยจะชวนมาผ่อนคลายหน่อย เดิชมนกชมไม้ มองดูผู้คนออกกำลังกายเพลินดี มีเรือปั่นด้วยนะ"ณภัทรบอกแล้วแวะซื้อน้ำโค้กใส่แก้วสองใบสำหรับเขาและแก้วเกล้า
"จริงเหรอคะ มาอยู่ตั้งนานเพิ่งจะรู้ว่ามี"แก้วเกล้าหันมองหน้าชายหนุ่มด้วยสีหน้าตกใจไม่น้อย
"พี่ลืมบอกค่ะ ตอนเย็นมีตลาดนัดด้วยนะ แวะซื้อของกินไปฝากพี่กานต์ พี่ภพด้วย ของสดก็มี ราคาไม่แพง"
"เคยมาเดินเหรอคะ"
"อือ นานๆ ครั้ง เวลาทำงานหนักต้องหาที่พักผ่อน พี่เลือกมานั่งเล่นที่สวนสาธารณะแห่งนี้ประจำ บ้างก็ปั่นเรือเป็ดคนเดียว ปั่นจักรยานก็มี ลมเย็นๆ ฟังเสียงนก เสียงธรรมชาติ สบายใจ ผ่อนคลายสมอง เป็นการชาร์ตพลังงานชั้นดีเลยแหละ"ณภัทรเล่าพลางยิ้มไปด้วย ถึงจะมาไม่บ่อย แต่เขาก็รู้จักร้านค้าแถวนี้เยอะ ได้เจอสังคมอีกแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน วิถีชีวิตของแม่ค้าและคนหาเช้ากินค่ำได้เปิดมุมมองประสบการณ์ใหม่อีกเพียบ เจอเด็กมากมายที่ครอบครัวมีทุกอย่างให้พร้อมกับต้องขวนขวายหาเอง เขาจึงสั่งให้ลูกน้องจัดโครงการมอบทุนการศึกษาแก่เด็กยากไร้ เรียนดีขัดสน ถือว่าช่วยเป็นอีกหนึ่งกำลังในการสนับสนุนเด็กในเจริญเติบโตในทางที่ดีและสามารถทำตามความฝันของตัวเองอย่างเต็มที่
"โห ไม่น่าเชื่อเลยว่าพี่ภัทรจะมีมุมแบบนี้ ปรกติไม่เคยเห็น"นี่ก็เป็นอีกอย่างที่แปลกไปสำหรับเธอมาก จนเผลอคิดว่ายังต้องมีอีกหลายอย่างที่เธอยังไม่รู้และอาจจะเก็บซุกซ่อนไว้เยอะ
"น้องแก้วเรียน พี่ก็ต้องทำงาน เวลาว่างไม่ค่อยตรงกัน น้องจึงไม่ได้เห็นไง นับจากนี้ก็จะได้เห็นอีกหลายมุมของพี่ รวมถึงของน้องแก้วด้วย"เขาว่าจะชวนมาหลายครั้งแล้ว ติดตรงที่ว่าเวลาว่างไม่ตรงกันสักที
"ของแก้วไม่มีอะไรเลย พี่ภัทรก็เห็นมาหมดแล้ว ไปไหนมาไหนพี่ภัทรก็พาไปตลอด"เสียงนุ่มเอ่ยโดยไม่ได้คิดอะไรทว่าสร้างความรู้สึกดีให้กับคนฟังมากเหลือเกิน หัวใจฟูฟองโต
"พี่แค่เป็นห่วง กลัวจะเกิดอันตราย"เสียงทุ้มเอ่ยบอก
"แก้วโตแล้ว ปล่อยบ้างก็ได้ค่ะ"
"ไม่เอา ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือโตเป็นสาว พี่ก็ห่วงน้องแก้วตลอดทุกเวลา"ประโยคสั้นๆ ทว่ากินใจสุดๆ หากใครได้ยินต้องอิจฉาอย่างแน่
"ขอบคุณสำหรับความห่วงใยนะคะพี่ภัทร อยู่กับแก้วไปแบบนี้อีกนานๆ เลย"
"จนกว่าจะหมดลมหายใจครับ"
คำพูดของณภัทรทำเอาคนฟังสตันไปชั่วขณะ พลางจ้ำเท้าเดินเร็วไปด้วยความเขินไม่อยากแสดงให้อีกฝ่ายเห็น
"พี่ภัทรนะพี่ภัทร ดูพูดมาสิ แค่นี้ฉันก็เขินจะตายอยู่แล้ว"พูดคนเดียวแล้วยิ้มออกมา ให้ตายสิ! จะมาหยอดคำหวานตอนอยู่ข้างนอกทำไมกัน เธอเก็บอาการไม่ค่อยเก่งด้วย
"เดินช้าๆ หน่อยสิน้องแก้ว ระวังหกล้มเอา"เขายิ้มปนขำเล็กน้อยสาวเท้าเดินไปให้ทัน
เดินกันมาไม่นานก็ถึงสวนสาธารณะสิ่งแรกที่แก้วเกล้าร้องขอเลยก็คือ ปั่นเรือเป็ด กิจกรรมสุดโปรดสมัยตอนยังเด็ก เห็นทีไรต้องร้องให้ชายหนุ่มพาไปนั่งด้วยตลอดและเขาก็ไม่เคยขัดใจเลยสักครั้ง
"ระวังตกน้ำนะ"ณภัทรเอ่ยบอกเมื่อสาวน้อยชะโงกหน้าออกจากเรือเพื่อดูปลาในน้ำ ส่วนเขาก็ทำหน้าที่ปั่นเรือและคอยดูแก้วเกล้าไม่ให้ซนเกินไป คาดสายไม่ได้หรอก เกินเผลอซุกซนหล่นลงไปในน้ำ เดือดร้อนกันพอดี
"แก้วว่ายน้ำเป็นค่า ไม่กลัวหรอก"แก้วเกล้าตอบกลับโดยไม่หันมามองอีกฝ่าย สายตายังคงจ้องมองไปยังน้ำด้วยความตื่นตา นานครั้งจะได้ดูปลาแบบใกล้ขนาดนี้ แม้ว่าจะเป็นพันธุ์ทั่วไปก็ตาม ทว่าตัวของมันใหญ่มาก จนเธอเผลอคิดว่าถ้าตกลงไปคงโดนปลากินพอดี ไม่เหลือแม้กระทั่งโครงกระดูกอย่างแน่
"ดื้ออีกแล้วนะ น้ำก็สกปรก ไม่กลัวเป็นสิวหรือไง"ณภัทรไม่วายเอ็ดสาวน้อย
"กลัวค่ะ แก้วอยากดูปลาชัดๆ"ไม่ฟังคำเตือนแล้วยังชะโงกหน้าลงต่ำไปอีก
"ตามใจ เข้ามานั่งก่อน เดี๋ยวพี่ปั่นไปตรงกลาง บริเวณนั้นมีปลาเยอะ น้องแก้วจะได้ให้อาหารด้วยไง"เมื่อไม่ฟังกันเขาก็เหนื่อยจะพูด เลยจะถีบเรืออีกที
"ค่ะ"
เขาปั่นไปเรื่อยๆ จนมาหยุดตรงกลางสระ ห่างจากน้ำพุนิดหน่อย แก้วเกล้าดูตื่นเต้นจนเขาอดยิ้มออกมาไม่ได้ ในมือของเขาก็ถือถุงอาหารปลาแล้วโปรยลงน้ำทีละนิดไม่มาก กลัวว่าจะแห่กันมากินเยอะ พอหน่ำใจสาวเจ้าเขาก็ถีบเรือเป็ดกลับเข้าฝั่ง ก็เช่าจักรยานคนละคัน ปั่นวนรอบสวนสาธารณะ แวะถ่ายรูปส่งเข้าไลน์กลุ่มครอบครัวอวดคนที่บ้าน พอปั่นจนเมื่อยหมดแรงณภัทรก็ชวนไปเดินตลาดนัดข้างสวน
"ร้านเยอะมาก"แก้วเกล้าตาโตมองตลาดตรงหน้า ที่มีทั้งของสดและของคาวเยอะแยะไปหมด เธอเดินตรงไปยังร้านน้ำก่อนอันดับแรก
"เอาไวท์มอลต์หวานมากหนึ่งแก้วค่ะ พี่ภัทรเอาน้ำอะไรดีคะ แก้วเลี้ยงเอง"
"งั้นพี่เอาแดงโซดามะนาว"
"เพิ่มแดงโซดามะนาวอีกหนึ่งถุงด้วยค่ะ" บอกเสร็จเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแสกนจ่าย สองถุงราคา 50 บาท เมื่อเรียบร้อยก็โชว์สลิปให้แม่ค้าดูเพื่อเป็นการยืนยันว่าโอนแล้วจริงไม่โกง
"ตรงนั้นมีไส้กรอกอีสานด้วย แก้วขอตัวไปซื้อก่อนนะ"
"ตามสบายเลย เดี๋ยวพี่รอน้ำให้เอง"
แก้วเกล้าเดินตรงไปยังร้านไส้กรอกอีสานที่เธอหมายปอง เมื่อถึงคิวก็เอ่ยถามแม่ค้า
"ขายยังไงคะ"
"ลูกละ 2 บาทจ้า"
"หนูเอา 50 ลูกค่ะ"
"ได้จ้ะ ผักกับขิงดองหยิบเองได้เลยนะลูก ฟรีไม่อั้น"
เธอยิ้มแล้วหยิบถุงคีบผักกะหล่ำขิงดองและตามด้วยผักคั่วตบท้าย กินไส้กรอกอีสานหากขาดขิงดองก็เหมือนไม่ได้กิน สักพักณภัทรก็เดินมาพร้อมกับถุงกระสอบใส่น้ำคนละถุง สองหนุ่มสาวเดินเลือกซื้อของกินแวะแทบทุกร้าน
"ซื้ออันนี้ไปฝากพี่กานต์ พี่ภพดีกว่า"นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังทับทืมกรอกของหวานสุดโปรดปรานของณกานต์และตามด้วยของณภพ หากซื้อไปให้ไม่ครบ เธอจะโดนงอนว่ารักไม่เท่ากันอีก
"ปลาดุกถูกมากเลย ซื้อไว้กินพรุ่งนี้ตอนเที่ยง แก้วจะทำผัดเผ็ดปลาดุกให้กิน" เดินมาหยุดร้านขายปลาก็แวะซื้อหมดร้าน แม่ค้ายิ้มแก้วปริเลยทีเดียว ดีใจที่มีคนสวยมาเหมาปลาหมด ทว่ายังไม่พอแก้วเกล้าก็จัดการเหมาปลาสลิด ปลาช่อนตากแห้งของคุณยายร้านข้างๆ อีกด้วย ณภัทรเห็นแบบนั้นจึงตัดสินใจซื้อกระเป๋าผ้าใบใหญ่จากร้านตรงข้ามเอาไว้ใส่ของ
พอเดินมาเรื่อยๆ ก็เจอกับผู้คนต่อแถวยาว พอมองดีๆ เห็นเป็นร้านหม่าล่าที่หลายคนนิยมกิน
"หม่าล่าร้านนั้นคนเยอะจังเลย"
"สั่งไว้ก่อนได้นะ เดินเสร็จค่อยวนกลับมาเอา ยังมีอีกหลายร้านเลยที่น้องแก้วยังดูไม่หมด ด้านหลังเป็นโซนเสื้อผ้า"
"โอเคค่ะ เย็นนี้ฝากท้องกับตลาดนัดแล้วกัน ซื้อไปเยอะๆ เลยค่ะ เอาไปฝากพี่กานต์ พี่ภพด้วย ทำงานหนักใช้สมองเยอะ ต้องบำรุงด้วยของกินของอร่อย"
"จ้า แบบนี้พี่กานต์ พี่ภพ รักตายเลย"
"ถ้ารักคนอื่นมากกว่า แก้วไม่ยอมอยู่แล้ว ยกเว้นคุณป้าเท่านั้นให้รักมากกว่าได้"
"แสบนะเรา"
เดินมาสักพักก็หยุดตรงร้านประจำของชายหนุ่ม
"แวะร้านปลาหมึกหน่อยน้องแก้ว พี่กานต์ชอบกินร้านนี้"
"พี่กานต์เคยมาเดินเหรอคะ"
"เคยมาสิ พี่ภพด้วย ร้านโปรดเลยแหละ น้ำจิ้มเด็ดมาก หากวันไหนไม่ว่างก็สั่งให้ลูกน้องมาซื้อตลอด น้องแก้วต้องลองชิม "
"ว้าวว น่าสนใจมาก"
สองหนุ่มสาวเดินจนสุดตลาดแล้วเดินกลับมาเอาของที่สั่งไว้
"เหนื่อยมาก อิ่มมากด้วย ของเยอะแยะไปหมด"มือบางยกขึ้นเช็ดเหงื่อที่ไหลตามกรอบหน้า
"วันหลังจะพามาอีก พอแค่นี้ก่อนนะ เต็มสองมือแล้ว พี่หิ้วกลับไม่ไหว"เขาบอกพลางก้มลงมองของในถุงผ้าและอีกเยอะ จนเกิดอาการท้อใจ ว่าจะเอากลับไปยังไงดี เขากับแก้วเกล้าเดินมาตัวเปล่า ขากลับของเยอะแยะอีก
"แก้วด้วยค่ะ แต่ละอย่างน่ากินมาก พวกผักของสดก็ถูก ซื้อใส่ตู้เย็นกินได้หลายวัน เมนูปลาจะเยอะหน่อยนะคะ"
"พี่กินได้ทั้งนั้น ถ้าเป็นฝีมือน้องแก้ว"
"พี่ภัทรเนี่ย พูดอะไรไม่รู้ ตั้งแต่ตอนเดินมาแล้ว"
"พี่พูดจริงออกมาใจทั้งหมดเลยนะ ไม่หลอกลวงด้วย"
"ชิ! กลับกันเถอะค่ะ แก้วอยากชิมปลาหมึกย่างมาก"สะบัดก้มหยิบของลุกจากเก้าอี้นั่งเดินดุ้มๆ ออกไปด้วยความเขิน นับวันคำพูดคำจาของชายหนุ่มยิ่งทำให้หัวใจเธอหวั่นไหวง่ายตลอด
สองหนุ่มสาวเดินวนกลับไปยังทางเข้าตลาดนัด ทว่าด้วยความที่สองมือพะรุงพะรังมากมายจนคิดว่ากว่าจะเดินถึงคอนโด คงได้หอบตายพอดี อยู่ๆ ก็มีผู้ปกครองของนักเรียนทุนณภัทรอาสาขับมอไซต์มาส่งทั้งสองยังคอนโด โดยไม่ต้องเดินให้เหนื่อย