อัญญาเริ่มคิดหาหนทางรอด ในเมื่อเขาเป็นโจร คงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเงินค่าจ้าง เธอเริ่มมีความหวัง เมื่อครู่เขาก็ช่วยเธอให้รอดจากพวกนั้นมาได้ แสดงว่ามีฝีมือ...สมควรจ้าง
นทีหันมาจ้องหน้าอัญญา แค่ช่วยเธอจากพวกนั้นมาได้ก็เสี่ยงต่องานของเขาแล้ว นี่เธอยังกล้าจ้างให้พาหนีอีก ชายหนุ่มเริ่มมองเห็นความยุ่งยากในชีวิตแล้ว
“ไม่!...เธอคิดว่าจะมีปัญญาหนีรอดเหรอ”
นทีมีหน้าที่สำคัญต้องทำ ไม่อยากเสียเวลามานั่งคิดช่วยเหลือใคร ในเมื่อครอบครัวเธอเองก็เกี่ยวข้องกับคนทำผิดกฎหมาย มันเป็นเรื่องหักหลังกัน เขาจึงไม่คิดจะยื่นมือเข้าไปแทรก แล้วเสี่ยงกระทบกับภารกิจสำคัญ
“ถ้านายช่วย ก็อาจจะรอด”
“นี่เกาะส่วนตัว และเธอกำลังสู้อยู่กับผู้มีอิทธิพล”
“แต่ฉันจะไม่ยอมถูกจับตัวกลับไปให้พวกมันข่มขืนหรอกนะ”
“นั่นก็แล้วแต่เธอ จะคิดหาทางเอาตัวรอด” สายตานทีกวาดมองรอบทิศ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครแล้วจึงลุกขึ้นยืน เตรียมจะก้าวขา แต่...
“ก็ได้... ฉันหนีเอง ถ้ากระโดดลงทะเลแล้วพวกมันเจอ ไปลากตัวฉันกลับมาได้ ก็จะบอกพวกมันว่า...นายไม่อยากรู้เหรอว่าฉันจะบอกอะไร”
“ไม่!!” สินสมุทรกำลังจะเดินออกไป แต่หญิงสาวคว้าแขนเขาไว้ และพูดต่อ
“ฉันหนีเพราะไม่อยากไปเป็นเมียเก็บเสี่ย แล้วก็จะบอกพวกมันว่าฉันเป็นเมียนาย เราลักลอบได้เสียกันตอนที่ฉันถูกขัง ฉันยอมตายเพราะฉันชอบนาย ไม่ใช่สิ...เพราะฉันชอบพี่นที!”
นทีชะงักกึกเมื่อได้ยินคำขู่จากหญิงสาว ถ้าเธอบอกพวกมันไปแบบนั้น เชื่อได้เลยว่าพลทัตไม่มีทางสอบสวนหาข้อเท็จจริง มันคงฆ่าเขาทิ้งอย่างไม่ลังเล ภารกิจของเขากำลังจะสำเร็จอยู่แล้ว แค่รอเวลาให้พวกมันขนยาเสพติดอีกรอบ แต่เธอกำลังจะทำให้มันพัง
ชายหนุ่มยกมือขึ้นกุมขมับ ปัญหามันเกิดตั้งแต่เขาเผลอลืมตัวจูบกับเธอไปแล้ว และยังยอมบอกชื่อตัวเอง ล่าสุดก็เสือกช่วยเธอเอาไว้เมื่อชั่วโมงที่ผ่านมา... เป็นไงล่ะ จะโทษใครได้ ก็ต้องโทษตัวเองนี่ล่ะ หาเหาใส่หัวดีนัก
“ถ้าฉันเป็นเธอจะไม่ทำแบบนั้น” นทีพูดออกไปน้ำเสียงเครียด
“แต่ฉันทำ!” อัญญาพูดน้ำเสียงหนักแน่น ตอนนี้จะเลือกทางไหนเธอก็ตายทั้งนั้น ไม่อยากใช้เรื่องนี้มาแบล็คเมล์หรอก แต่เขาคือความหวังเดียวของเธอ
“แล้วไม่กลัวฉัน...จะฆ่าปิดปาก ก่อนได้พูดอะไรเหรอ” เขาหันกลับมา ดวงตาคมกริบจ้องเขม็ง ข่มขวัญเธอ ทำเอาอัญญาร้อน ๆ หนาว ๆ แต่ก็ยังทำปากดี
“ฉันก็แค่ตาย” เธอยักไหล่เหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ในใจกลัวจนสั่นไปหมด
“จะตายตอนนี้ หรือตอนไหนก็ไม่น่าต่างกัน เธอเลือกเองละกัน” เขาทำท่าจะผละไปอีก
“นายมายืนทำอะไรตรงริมหน้าผาคนเดียว...อืม...ไม่น่าใช่เดินยาม แล้วฉันก็เห็นนะ นายเอาอะไรซุกไว้ในเสื้อด้วย” อัญญาทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะโพล่งออกมา
“หรือว่า...นายมาส่งข่าว นายเป็นสายลับใช่มั้ย” อัญญาคาดเดา ไม่ได้คิดจริงจัง แค่อยากให้เขาอยู่กับเธอก่อน อย่างน้อยก็ดีกว่าอยู่คนเดียว เผื่อพวกนั้นย้อนกลับมาอีก
“ไม่ใช่อย่างที่เธอคิด”
“ไม่รู้ล่ะ ถ้าถูกจับได้ฉันเล่าหมด นายจะยอมให้เป็นแบบนั้นก็ได้”
“เอาไง...ว่ามา”
นทียอมแพ้ ตอนนี้คงต้องวางแผนใหม่ ไม่ใช่อยากช่วย หรือเพราะคำขู่ แต่ถ้าเธอถูกจับได้จริงแล้วถูกทรมานให้เปิดปากพูด ดูสภาพหญิงสาวคงทนได้ไม่ถึงสิบนาที ก็คงเล่าจนหมด จริงหรือไม่ พวกมันคงไม่ต้องพิสูจน์ ก็แค่กำจัดเขาทิ้ง แล้วสิ่งที่ทุ่มเทมาทั้งหมดก็เสียเปล่า
“ช่วยฉันให้ออกไปจากเกาะนี้”
“ตอนนี้ยังไม่ได้ ต้องหาที่ซ่อนก่อน”
“แล้วเมื่อไหร่ ฉันจะได้ออกไปจากที่นี่”
“ยังบอกไม่ได้ รู้แต่ว่าต้องรอ”
“แล้วนายจะให้ฉันไปหลบที่ไหน”
“ตามมา” นทีตัดสินใจ ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็คงเลี่ยงไม่ได้ จะให้ฆ่าปิดปากอย่างที่ขู่ หญิงสาว เขาก็ไม่ใช่คนร้าย ถึงแม้ในใจอยากจะบีบคอขาว ๆ ให้ตายก็เถอะ หน้าที่เขาคือช่วยเหลือประชาชน และเธอก็คือประชาชน
นทีเดินนำเข้าไปในป่าลึก ผ่านต้นไม้ใหญ่หลายต้นก่อนจะปีนขึ้นเนินเขาอีกรอบ แล้วมาหยุดตรงหน้าพุ่มไม้หนา ชายหนุ่มใช้มือรวบเก็บไปด้านข้าง และแทรกตัวเข้าไปข้างใน โดยมีหญิงสาวเดินตามเข้าไป
เขากดเปิดไฟฉายส่องเข้าไปข้างใน มองเห็นเป็นโพลงใหญ่คล้ายถ้ำ รอบด้านเต็มไปด้วยหิน แต่ดูสะอาดมากกว่าที่มองเข้ามาจากด้านนอก
“ที่หลบของนายเหรอ”
“อือ”
“ไม่น่าเชื่อว่าจะมีที่แบบนี้บนเกาะ”
“เธอหลบอยู่ในนี้ห้ามออกไปไหน ด้านในจะมีบ่อน้ำจืดเล็กอาบน้ำล้างหน้าได้ แต่ห้ามกิน”
“แล้ว...นายจะอยู่เป็นเพื่อนฉันมั้ย” หญิงสาวเริ่มกลัว เมื่อมองดูรอบ ๆ แล้วไม่มีอะไรนอกจากความมืด ความชื้น และเสียงเดินของพวกเธอ
“ไม่ ฉันต้องกลับบ้านพัก ขืนหายไป พวกนั้นต้องสงสัย”
“คืนนี้ดึกแล้ว... นาย...อยู่เป็นเพื่อนก่อนได้มั้ย พรุ่งนี้ค่อยกลับก็ไม่เป็นไรหรอกเนอะ”
“เมื่อกี้ยังเก่งอยู่เลย ทำไมตอนนี้จะกลัวแล้ว”
“ก็มันน่ากลัวนี่ ดูสิทั้งมืดทั้งเงียบ” อัญญานั่งลงข้างนที และขยับตัวเข้าไปจนชิด เมื่อรู้สึกเย็นยะเยือก เรื่องเหนือธรรมชาติ กับสิ่งที่มองไม่เห็น ก็เป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับเธอ
“อย่าเดินไปไหนให้อยู่แต่ตรงนี้เท่านั้น ถ้าขืนเดินเพ่นพ่านฉันไม่รับรองความปลอดภัย”
“ดะ...ได้ มั่นใจได้เลยว่าฉันไม่เดินไปไหนแน่นอน”
“แล้วของใช้เสื้อผ้าวางอยู่มุมนั้น เธอหยิบออกมาใช้ได้ของฉันเอง มันอาจจะตัวใหญ่หน่อย”
“ขอบคุณ...ค่ะ”
“เดี๋ยวฉันต้องไปแล้ว”
“ดะ...เดี๋ยวสิ อยู่เป็นเพื่อนก่อน ฉันกลัว”
“บอกว่าให้หาที่ซ่อนให้ นี่ก็หาให้แล้วจะเอาไงอีก” น้ำเสียงหงุดหงิดจากร่างสูงใหญ่ ทำให้อัญญาต้อง
หดหัวห่อไหล่ด้วยความกลัวเกรง
“กลัว...อยู่เป็นเพื่อนก่อน...ได้เปล่า” อัญญาเงยหน้าขึ้นมองเขา สายตาดูอ้อนวอนในที แต่ก็ต้องหน้าม่อยลง เมื่ออีกฝ่ายกลับมีท่าทีเฉยชา ไม่รับรู้คำอ้อนวอนของเธอ
อัญญาก้มหน้า ไหล่ตก ท่าทางราวกับเด็กหลงทาง ทำให้นทีอดใจอ่อนไม่ได้ เธอก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง เก่งแค่ไหนแล้วที่หนีพวกมันมาได้