ความแม่นยำ

1294 Words
“มิรา ฝนยังเป็นเพื่อนมิราอยู่หรือเปล่า มีเรื่องอะไรก็รีบระบายออกมา อย่าเก็บมันเอาไว้ เพราะเรื่องราวบางอย่างอาจจะทำให้เราเครียดจนไม่เป็นอันทำการทำงานได้” หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เมื่อฝนสุดามีความห่วงใยและปรารถนาดีต่อเพื่อนรักเสมอ สิ่งที่มิรากำลังเผชิญมา มันคงเลวร้ายมากเพื่อนรักถึงได้ร้องห่มร้องไห้ออกมาแบบนั้น “มิราเผลอไปมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเบส” “ฮ๋า!!” ฝนสุดาอุทานออกมาด้วยความตกใจ เพราะสำหรับเธอเรื่องบนเตียงมันคือเรื่องใหญ่ แต่เพื่อนรักกลับหลวมตัวเผลอใจ ไปให้คนรักเอาได้เชยชม “เมียเขาตามมาฉีกอกมิรา ถึงคอนโด ซึ่งผู้หญิงคนนั้นท้องกลมโตทำไมอ่ะฝน ทำไมเบสถึงได้กลายเป็นผู้ชายแบบนี้ มันไม่แฟร์เลย เขาเหยียบเรือสองแคมแบบนี้ได้อย่างไร” มิราพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตัดพ้อ แม้เธอจะทราบดีว่าการตบมือข้างเดียวไม่อาจดังได้ ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นเองก็มีส่วนผิด แต่ไม่คิดว่ากัปตันหนุ่มจะโกหกเรื่องแฟนใหม่ ที่ท้องโย้จวนจะคลอดอยู่แล้ว “มิราได้ป้องกันหรือเปล่า” ฝนสุดาเอ่ยถามออกไป ขณะที่ภายในใจก็แอบลุ้น เพราะกลัวว่าเพื่อนรักจะตั้งครรภ์ และกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเหมือนกับที่เธอนั้น กำลังจะเผชิญกับตัวเอง “อื้ม” มิราตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงในลำคอ “มิราไฟลต์นี้บินกี่วัน” “อีกครึ่งเดือนเจอกันเดี๋ยวมิราไปหา” “อีกครึ่งเดือน ฝนอาจจะย้ายไปอยู่ที่อื่น มิราโทรมาแล้วเราค่อยนัดเจอกันอีกทีนะ” ฝนสุดาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา เมื่อหญิงสาวมีความจำเป็นต้องย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านสวนตามบอกของนายแพทย์หนุ่ม “ฝนจะย้ายบ้านเหรอ ทำไม มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” มิราเอ่ยถามเพื่อนรักออกมาด้วยความห่วงใย แม้ว่าเธอกำลังจะตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อถูกแฟนเก่าหลอก ซึ่งเขากำลังจะใช้ความสัมพันธ์คืนนั้นผูกมัดเธอ ทั้งที่ผู้หญิงอีกคนกำลังจะให้กำเนิดลูกของเขาแท้ๆ “ฝนไม่เป็นอะไรหรอก แต่หลังจากที่ย้ายตัวอ่อนเข้ามาในโพรงมดลูก ฝนต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะค่าใช้จ่ายมันแพง หมอบอกว่ากลัวฝนแท้ง มิรา มิราไหวหรือเปล่า ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงได้ใจร้ายกับผู้หญิงจัง มีอะไรก็โทรมานะ ฝนขอได้ไหม มิราอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับในชีวิตของกัปตันเบสอีกได้หรือเปล่า” ปกติแล้วฝนสุดาจะไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเพื่อนรัก เพราะเธอนั้นค่อนข้างจะเคารพการตัดสินใจของมิรา “ถึงฝนไม่บอก เราก็ไม่มีทางที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับเบสอีกแล้ว แต่ปัญหาในตอนนี้คือ เขาบอกว่ามิราก็เป็นภรรยาอีกคน ซึ่งเบสไม่มีทางปล่อยให้มิราได้เป็นอิสระง่ายๆ เขาจะคอยตาราวีมิราไปทุกที่ เหตุการณ์ครั้งนี้มิราผิดเอง ที่ไว้ใจเขาเกินไปและไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ยอมให้เขาเชยชม เหมือนกับผู้หญิงที่ไร้คาไร้ราคา” มิราพูดออกมาทั้งน้ำตา เมื่อเธอนั้นตกอยู่ในที่นั่งลำบาก สถานะของหญิงสาวไม่ต่างจากชู้ทั้งที่มาก่อน “เก็บซับน้ำตาแล้วเชิดหน้าเข้าไว้ อย่าร้องไห้ให้กับผู้ชายแบบนั้น มิรากลับมาเมื่อไหร่ เราสองคนมาฉลองความโสดด้วยกันนะ” “ฝนพูดยังกับว่ามีแฟน แล้วโดนเท ใครบอกว่ามิราจะฉลองความโสด” หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียง ที่ทำให้คนฟังประหลาดใจไม่น้อย “หมายความว่ายังไง มิราหาแฟนใหม่ได้แล้วเหรอ เร็วจัง” “แฟนใหม่ที่ไหน มิราจะโสดให้คนทั้งโลกอิจฉาเลยคอยดู แต่จะกลับไปฉลองที่ฝนกำลังจะได้เป็นคุณแม่ต่างหากละ” คราวนี้น้ำเสียงของมิราฟังดูสดใสขึ้นทันที เมื่อเธอมีความยินดีที่เพื่อนรักกำลังจะได้เป็นแม่คน “อ้าว! นึกว่าหาแฟนได้แล้ว” “ไม่ต้องมาอ้าวเลย แค่นี้นะ มิราจะไปเตรียมตัวบินแล้ว” “โชคดีนะ เดินทางปลอดภัยจ้า” เมื่อวางสายจากเพื่อนรัก ทำให้ฝนสุดารู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แม้ว่าเธอนั้นจะกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ก็ดีกว่าต้องเอาชีวิตไปพันผูกไว้กับผู้ชาย ซึ่งไม่รู้ว่าเขาพร้อมจะแทงข้างหลังเราเมื่อไหร่ เฉกเช่นที่เบสทำกับมิราเพื่อนรักของเธอ หลังจากที่ฝนสุดาได้ผ่านกระบวนการฝังตัวอ่อนเข้ามาอยู่ภายในโพรงมดลูก หญิงสาวจำเป็นต้องย้ายมาอยู่ที่บ้านสวน ตามคำบอกแกมบังคับจากแพทย์หนุ่ม ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะคอยดูแลและประคบประหงมเธอยังกับไข่ในหิน “คุณจะไปไหน ผมบอกแล้วไงให้นั่งเฉยๆ” เสียงทุ้มของนายแพทย์หนุ่มดังขึ้น เมื่อฝนสุดากำลังก้าวเท้าจะเดินออกจากบ้าน เพื่อไปนั่งสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ม้าหินอ่อนใต้ต้นหูกวาง ซึ่งเป็นสวนหย่อมหน้าบ้าน ที่ถูกจัดตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม ท่ามกลางไม้ดอกไม้ประดับหลากหลายสายพันธุ์ ทำให้ดูร่มรื่น พร้อมกับทางเดินเท้าที่นายแพทย์หนุ่มเลือกใช้แผ่นกระเบื้องคอนกรีตผิวหน้าไฟ ซึ่งทำให้ผิวสัมผัสหยาบไม่ลื่น ป้องกันอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี จนฝนสุดาถึงกับแปลกใจ เพราะวันนั้นที่มา สวนหย่อมหน้าบ้านไม่ใช่แบบนี้ “ฉันแค่จะออกไปสูดอากาศข้างนอก ทำไมคุณหมอต้องทำเสียงดุด้วยค่ะ” ฝนสุดาพูดพร้อมกับเผลอทำหน้างอออกมา เหมือนภรรยาที่กำลังน้อยใจผู้เป็นสามี “ผมขอโทษ ที่เป็นห่วงคุณมากไปหน่อย” “ขอบคุณนะคะ สำหรับความห่วงใยที่คุณหมอมีให้กับฉัน ใครได้เป็นคนไข้ของคนหมอ คงโชคดีมากเลยนะคะ” เมื่อพูดจบประโยคหญิงสาวก็เดินออกไปจากบ้าน ทำให้นายแพทย์จิรายุ มองตามแผ่นหลังหญิงสาวสร่างอรชร ด้วยแววตาที่ห่วงใย ฝนสุดาชักจะติดใจและอยากอยู่ที่บ้านหลังนี้ตลอดไป ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศหรือแม้แต่คนข้างกาย เธอย้ายมาอยู่กับนายแพทย์หนุ่มได้ไม่กี่วัน ฝนสุดากลับเริ่มรู้สึกดี อาจเป็นเพราะว่าที่ผ่านมาในชีวิตของหญิงสาว ไม่เคยมีใครมาคอยใส่ใจ จึงทำให้เธอนั้นเริ่มแพ้ทางให้กับนายแพทย์หนุ่ม ทั้งที่พยายามบอกกับตัวเองทุกครั้ง ในเวลาที่เขาเข้าใกล้ ทุกอย่างมันก็เป็นแค่การเอาใจใส่คนไข้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของนายแพทย์พึงกระทำอยู่แล้ว “ผลไม้สำหรับคุณแม่ครับ” นายแพทย์หนุ่มเดินตามฝนสุดาออกมา พร้อมกับจานผลไม้ในมือ ซึ่งเขาได้บรรจงปอกจัดใส่จานมาอย่างสวยงาม ช่างน่ารับประทาน จนหญิงสาวรู้สึกได้ว่าเขาทำเกินหน้าที่ ที่นายแพทย์พึงกระทำให้คนไข้ แม้ว่าเธอจะอยู่ในเคสที่ต้องดูแลเป็นพิเศษก็ตาม หญิงสาวก็ยังรู้สึกว่ามันพิเศษมากเกินไป “ขอบคุณค่ะ คุณหมอไม่ต้องทำให้ฉันมากขนาดก็ได้ คือ... ฝนเกรงใจค่ะ” หญิงสาวหยิบจานผลไม้มาวางไว้ที่โต๊ะตรงหน้า ก่อนจะกล่าวขอบคุณนายแพทย์หนุ่มออกไป ด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่รู้สึกเกรงใจ พร้อมกับเผลอใช้ชื่อเล่นเรียกแทนตัวเองอีกด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD