บทนำ
“แกต้องแต่งงานกับหนูปิ่นให้เร็วที่สุดตาภัทร ไม่อย่างนั้นไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่อีก!” นั่นคือคำขาดของคุณพิมพ์พาที่ทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนที่ท่านจะลากเอา ‘เมีย’ หมาดๆ ของลูกชายออกไปจากห้องนอนเมื่อพูดจบ
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเสียจนดนัยภัทรตั้งตัวไม่ทัน เขาจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ได้ด้วยซ้ำว่าทำไมเขาถึงได้ตื่นขึ้นมาสภาพเปลือยเปล่าทั้งตัว แถมยังมีร่างบอบบางที่อยู่ในสภาพไม่ต่างกันนอนเคียงคู่อยู่บนเตียง
และทุกอย่างมันคงไม่ทำให้เขารู้สึกหนักใจ หากผู้หญิงคนนั้นคือคนที่เขารักและอยากใช้ชีวิตด้วย…
ไม่ใช่ผู้หญิงที่เขามองเธอเป็นแค่น้องสาวตลอดมาอย่างบัวบูชา
ย้อนไปเมื่อคืน
ปาร์ตี้วันเกิดของดนัยภัทร กิ่งยิ่งนคร ทายาทเพียงคนเดียวของเจ้าสัววิโรจน์กับคุณพิมพ์พาถูกจัดขึ้นอย่างสมฐานะ แขกส่วนใหญ่ภายในงานหากไม่ใช่คนสนิทของบิดามารดาก็มักจะเป็นเพื่อนฝูงของชายหนุ่ม แต่ดูเหมือนคนที่เขาจะให้ความสนใจเป็นพิเศษจะหนีไม่พ้น เพลงขวัญ แฟนสาวที่คบหาดูใจกันมานานถึงสามปีเต็ม และค่ำคืนนี้เขาก็มีบางอย่างจะบอกเธอ บางอย่างที่เขาตัดสินใจแล้วว่าจะต้องเป็นแค่ผู้หญิงคนนี้เท่านั้น
“ภัทรคะ ขวัญขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ชายหนุ่มส่งยิ้มให้แฟนสาวที่วันนี้ดูสวยกว่าวันไหนๆ วันแรกเขารู้สึกรักเธอยังไงวันนี้ก็ยังรู้สึกรักอยู่
“ให้ผมไปเป็นเพื่อนไหม”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ภัทรอยู่ต้อนรับแขกเถอะขวัญไปแปปเดียวเอง” ดนัยภัทรพยักหน้ารับก่อนจะจ้องมองแฟนสาวที่เดินหายไปไกลจนลับตา ส่งผลให้ใครบางคนได้จังหวะ รวบรวมความกล้าเดินเข้ามาหาเขาในที่สุด
“พี่ภัทรคะ” เสียงเรียกเบาๆ ที่ดังขึ้นนั้นทำให้เจ้าของวันเกิดหันกลับไปมอง ก่อนจะส่งยิ้มอบอุ่นให้เจ้าของเสียงที่เขารู้จักมาตั้งแต่เด็กๆ
ซ้ำยังรัก และเป็นห่วงใยอีกฝ่ายไม่ต่างกับน้องสาวที่น่ารักคนหนึ่ง
“น้องปิ่น มานานแล้วหรือครับ”
บัวบูชายิ้มรับก่อนจะจ้องมองชายหนุ่มที่เธอหลงรักมาตลอดหกปีเต็มด้วยความรักอย่างไม่คิดปกปิดความรู้สึกของตัวเอง แต่ไม่ว่าจะพยายามให้ตายยังไง เธอก็เป็นได้แค่คนนอกสายตาของเขาอยู่ดี ไม่มีวันจะกลายเป็นอย่างอื่นไปได้เพราะทั้งหัวใจของเขามีเพียงผู้หญิงคนนั้นคนเดียวที่เขารัก รักมากจนไม่คิดจะเผื่อสายตาเอาไว้มองผู้หญิงคนไหนได้อีก
เพราะพ่อของเธอและพ่อของเขาทำธุรกิจร่วมกัน ความสัมพันธ์นั้นเองทำให้เธอมีโอกาสได้รู้จักกับเขาจนมันก่อเกิดกลายเป็นความรักขึ้นมา รักข้างเดียวที่คงไม่มีวันสมหวังเพราะว่าเขามีคนที่รักอยู่แล้ว และมันคงไม่มีวัน ที่ผู้หญิงนอกสายตาอย่างเธอจะเข้าไปแทนที่ได้ แต่เธอก็ยังรักเขาอยู่ดี
รักเขาทั้งๆ ที่ก็รู้ดีแก่ใจว่ามันคงเป็นแค่รักข้างเดียวที่ไม่มีวันสมหวัง
“ปิ่นมาถึงได้สักพักแล้วค่ะ สุขสันต์วันเกิดนะคะพี่ภัทร ปิ่นขอให้พี่ภัทรมีความสุขมากๆ นะคะ” บัวบูชาเอ่ยอวยพรให้รุ่นพี่ที่เป็นรักแรกและรักเดียวของตัวเองพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะส่งของขวัญวันเกิดที่ทำขึ้นเองให้ไป
ผู้ชายคนนี้คือความสุขเดียวที่เธอมี
“ขอบคุณมากนะครับ แล้วนี่ดาวไม่ได้มาด้วยกันเหรอ” ดนัยภัทรเอื้อมมือไปรับของขวัญกล่องเล็กที่ผูกโบว์สีชมพูน่ารักก่อนจะเอ่ยถามถึงเพื่อนสนิทของอีกฝ่ายที่ไม่ว่าบัวบูชาจะไปไหนก็มักจะมีอีกคนไปด้วยเสมอ
“มาค่ะ แต่ปิ่นขอแยกออกเอาของขวัญมาให้พี่ภัทรก่อน” บทสนทนาของทั้งสองเป็นอันต้องจบลงเมื่อเพลงขวัญเดินเข้ามาสมทบ ทำให้บัวบูชาต้องหันไปส่งยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างไม่มีทางเลือก แม้ว่าใจลึกๆ จะอิจฉาเพลงขวัญที่ได้หัวใจของผู้ชายคนนี้ไป แต่เธอก็หาได้มีความเกลียดต่อรุ่นพี่ที่แสนจะเพียบพร้อมคนนี้ไม่ เพราะอีกฝ่ายทั้งดีแสนดีจนเธอไม่กล้าเกลียด ต่อให้เกลียดก็คงรู้สึกเกลียดตัวเองมากกว่าที่มีใจริษยาต่อทั้งคู่
“สวัสดีค่ะพี่ขวัญ”
“สวัสดีค่ะน้องปิ่น วันนี้น้องปิ่นแต่งตัวสวยจังเลยนะคะ เห็นข้างหลังพี่แทบจำไม่ได้ คุณคิดเหมือนขวัญไหมคะภัทร” คนถูกถามส่งยิ้มให้คนรักก่อนตอบ
“ครับ วันนี้น้องปิ่นน่ารักมาก ตามสบายนะครับ พี่กับขวัญขอตัวก่อน” เพลงขวัญส่งยิ้มให้รุ่นน้องที่น่ารักก่อนจะยอมเดินตามแรงฉุด ของคนรักไป โดยไม่รู้เลยว่าภาพของทั้งคู่กำลังสร้างความบอบช้ำให้คนที่ทำได้เพียงแต่มองอย่างบัวบูชาแค่ไหน มันเจ็บทุกครั้งที่เห็นพวกเขาอยู่ด้วยกัน
และมันคงจะดีหากข้างกายเขาเป็นเธอ ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น…
ดนัยภัทรจูงมือคนรักมาที่สวนของบ้านที่ไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่านเท่าไหร่ เขาอยากพูดบางอย่างกับเธอตามลำพังโดยไม่มีใครมาขัดขวาง บางอย่างที่คิดแล้วว่าจะต้องเป็นเพลงขวัญเท่านั้นที่เหมาะสมกับคำๆ นี้
“แต่งงานกับผมนะครับขวัญ…”
“เราเลิกกันเถอะค่ะภัทร!” ทว่าประโยคของทั้งสองคนที่เอ่ยขึ้นพร้อมกันนั้นกลับไปคนละทาง และคนที่ตกใจมากกว่าเห็นทีจะหนีไม่พ้นชายหนุ่มที่หวังจะขอคนรักแต่งงาน แต่แล้วเขากลับได้คำบอกเลิกเป็นของขวัญวันเกิดครบรอบสามสิบสองจากเธอแทน คำว่าตกใจยังน้อยไปกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
“ขวัญ! คะ…คุณพูดอะไร”
“ขวัญมาคิดๆ ดูแล้ว ขวัญว่าเราสองคนเหมาะที่จะเป็นแค่เพื่อนกันมากกว่า เราไม่มีอะไรเหมือนกันเลยสักอย่าง ขวัญชอบป่าเขาส่วนภัทรชอบทะเล ขวัญไม่ชอบอยู่กับที่ส่วนภัทรก็ต้องสานต่องานที่บ้าน อยู่กันไปคงไม่มีความสุข คุณเป็นคนดีนะคะภัทร ขวัญผิดเองค่ะ” ใช่ว่าเธอจะไม่เสียใจกับการบอกเลิกคนดีๆ อย่างดนัยภัทร แต่เพราะเธอเองก็มีความฝัน ฝันที่อยากจะไปเที่ยวในที่ต่างๆ ฝันที่อยากจะใช้ชีวิตของตัวเองให้คุ้มค่า ซึ่งฝันของเธอมันช่างต่างจากฝันของเขาโดยสิ้นเชิง เพราะเขามีธุรกิจของพ่อที่ต้องสานต่อ และเธอคงทนไม่ได้ที่จะหยุดกับที่เพื่อสร้างฝันนั้นของเขา ในเมื่อต่างคนต่างมีความฝันที่เข้ากันไม่ได้ ฝืนต่อไปก็คงไร้ประโยชน์อยู่ดี
สู้ให้เรื่องทุกอย่างมันจบเสียตั้งแต่วันนี้จะดีกว่า
“ผมเปลี่ยนเพื่อคุณได้นะครับขวัญ ขวัญอยากให้ผมทำอะไรขวัญบอกผมสิ ผมทำเพื่อคุณได้ทุกอย่าง ขออย่างเดียวเราไม่เลิกกันได้ไหมขวัญ” ดนัยภัทรเอ่ยขึ้นอย่างเว้าวอน เขาไม่มีวันให้เรื่องทุกอย่างมันต้องจบลงแบบนี้แน่ ตลอดเวลาที่คบหันเขาหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตคู่กับผู้หญิงมาโดยตลอด ไม่เคยคิดเผื่อใจเลยว่าวันนี้จะมาถึง วันที่เธอเป็นฝ่ายเดินมาขอเลิกกับเขาเอง
“ขวัญขอโทษค่ะภัทร ขวัญขอโทษจริงๆ” ทว่ากลับไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนใจเธอไปได้ เธอกล่าวเพียงสั้นๆ ก่อนตัดสินใจเดินจากกันไปอย่างเงียบๆ
“ขวัญ”ทิ้งไว้แต่คนรักที่เรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่คล้ายคนจะหมดแรง
บัวบูชาไม่ได้ตั้งใจจะแอบดู เธอกำลังเดินตามหาเพื่อนรักอย่างสกาวใจจนกระทั่งได้ยินคำบอกเลิกของเพลงขวัญเข้าถึงได้หยุดดูอย่างคนไร้มารยาท ยอมรับว่าลึกๆ แอบดีใจแต่พอได้เห็นสีหน้าเจ็บปวดของพี่ภัทรของเธอเข้า ความรู้สึกก่อนหน้าก็ค่อยๆ หายไปกลายเป็นความสงสารแทน
“แกมาทำอะไรตรงนี้ยัยปิ่น!”
“ชูว์ เงียบหน่อยสิดาว เดี๋ยวพี่ภัทรก็ได้ยินหรอก” สกาวใจมองตามมือของเพื่อนรักไปถึงได้เห็นภาพของรุ่นพี่ที่เธอนับถือกำลังทรุดกายนั่งลงไปกับพื้นหญ้า ครั้นจะเอ่ยปากถามเพื่อนอีกฝ่ายกลับเฉลยออกมาซะก่อน
“พี่ขวัญเพิ่งบอกเลิกพี่ภัทร…”
“แกว่ายังไงนะ! บ้าน่า! แกหูฝาดไปรึเปล่า คนอย่างพี่ภัทรเนี่ยนะจะถูกบอกเลิก จ้างให้ฉันก็ไม่เชื่อ” แม้สภาพของคนที่พวกเธอกำลังกล่าวถึงอยู่ตอนนี้จะชวนให้เห็นเป็นแบบนั้นก็เถอะ แต่มันก็ยังยากที่จะเชื่ออยู่ดี ผู้หญิงคนนั้นต้องสมองเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ
“ฉันได้ยินกับหู ได้เห็นกับตาตัวเอง พี่ขวัญเพิ่งบอกเลิกพี่ภัทรจริงๆ ฉันสงสารพี่ภัทรจังเลยดาว” บัวบูชาไม่เคยมีความลับกับเพื่อน กับคนอื่นเธอคงไม่กล้าเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อเขาออกไปแบบนี้ ยิ่งสถานการณ์ตรงหน้าเป็นแบบนี้ก็ยิ่งอดเศร้าตามเขาไม่ได้ เขาควรมีความสุขในวันเกิดสิ ไม่ใช่มานั่งเสียใจอยู่อย่างนี้ หากเลือกได้เธออยากเห็นเขามีความสุขมากกว่า แต่ว่าเธอจะไม่ใช่คนที่สามารถสร้างความให้เขาได้ก็เถอะ เธอยอมให้ตัวเองเจ็บเพื่อแลกกับความสุขที่เขาควรมีในวันนี้
“นี่อะไร” ทว่าเมื่อเห็นสิ่งที่สกาวใจหยิบออกมาจากกระเป๋าถือแล้วส่งให้บัวบูชาก็อดที่จะเอ่ยถามเพื่อนรักไม่ได้ ถึงสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังยื่นให้กัน
“ยานอนหลับ ฉันพกไว้เพื่อว่าจะมีจังหวะดีๆ แบบนี้” สกาวใจตอบความจริง นี่น่าจะเป็นโอกาสดีที่ทำให้เพื่อนรักของเธอสมหวังกับคนที่รัก
“ดาว! นี่แกคิดจะทำอะไร”