กรึบ~
ประตูห้องน้ำเปิดออก หลังจากที่คนด้านใน ล้างเนื้อ ล้างตัว และเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จสรรพ เพื่อมาทานดินเนอร์มื้อเย็น สองต่อสองกับชายคู่หมั้น บริเวณระเบียงห้องกว้างขวาง
ฟิ้วววว~
ลมหนาวพัดผ่านในยามเย็น ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนจากสีครึ้มเป็นสีคราม บรรยากาศนอกคอนโดมิเนียมสามสิบชั้น สร้างความโรแมนติกสมกับเป็นคอนโดหรูหรา ที่ห้อมล้อมไปด้วยแสงสีเบื้องล่าง เห็นถึงความงดงามของกรุงเทพในยามนี้
เหตุผลที่เธอเรียกมื้อนี้ว่า ‘ดินเนอร์’
เพราะว่าเขาเตรียมอาหารพรีเมี่ยม ระดับภัตตาคารมาเสิร์ฟถึงห้อง ซึ่งอาหารแต่ละจาน ล้วนเป็นของโปรดที่เธอชอบ ราวกับว่าเขารู้ใจเธอดี แค่ไม่พูดแต่เน้นแสดงออกให้เห็น
แม้ว่าจะถูกระงับบัตรเครดิตสามเดือน
แต่ถ้าเขาเลี้ยงเธอดีแบบนี้ ก็โอเคอยู่นะ
ฟิ้วววว~
แน่นอน ว่าดินเนอร์มื้อนี้ มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่าน ไม่มีการสนทนาใดๆ เพราะเธอไม่กล้าเอ่ยปากถามเรื่องบนเตียง ว่าสรุปแล้ว การที่เธอหลั่งไว มันแปลกมากไหม สำหรับผู้ชาย
ยิ่งเขาเงียบ เธอก็ยิ่งไม่กล้าถาม จึงเก็บความสงสัยเหล่านั้น ไปถามอากูในโลกอินเตอร์เน็ตแทน ซึ่งคำตอบที่ได้ ก็ทำให้เธอสบายใจขึ้นมาเปราะหนึ่ง เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่มีความอ่อนไหวบริเวณหน่มหน้ม เวลาโดนเพศตรงข้ามสัมผัส ทำให้เกิดการ Orgasm หรือเรียกอีกอย่างว่า ถึงจุดสุดยอด ได้ในทันที ซึ่งไม่ใช่ความผิดปกติ และ สามารถมีเซ็กซ์ได้ปกติ
โอ๊ะ! นี่เรากำลังคิดที่จะมีเซ็กซ์กับเขาจริงๆ ใช่ไหม?
สาวน้อยคิดในใจ พลางเหลือบมองหนุ่มหล่อตรงหน้า ที่ชันตัวลุกขึ้น หลังจากทานเนื้อสเต็กเกรดพรีเมี่ยมจนหมดจาน ตัดภาพมาที่เธอ มัวแต่หาข้อมูลเรื่องนั้น จนทานสเต็กปลาไม่หมด พอรู้ตัวว่าไม่ควรเหลืออาหารทิ้งก็รีบทานให้หมด
พรึบ~
หลังจากทานอาหารเกลี้ยงจาน คนตัวเล็กก็รีบวิ่งดุ๊กดิ๊กตามเข้ามา เพื่ออาศัยจังหวะ ในการแทรกตัวเข้าไปในห้องนอน ขณะที่ฝ่ายชาย ยังคงยืนมองการกระทำของเด็กดื้อ
“หนูดีไม่ชินกับการนอนบนโซฟา เพราะงั้น คืนนี้หนูดีขอนอนบนเตียงกับลุงรามนะคะ” น้ำเสียงน่ารัก อ้อนขอชายคู่หมั้น ก่อนจะกระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงนุ่ม โดยที่เจ้าของเตียงยังไม่ได้รับอนุญาต ทว่าการเกลือกกลิ้งไปมา ในชุดนอนวาบหวิว ทำให้เขายืนตัวแข็งทื่อ จนเธอคิดว่าเขาอนุญาตแล้ว
“ลุงรามคะ”
กระต่ายแสนซนกระโดดลงจากเตียง ไปยืนจ้องหน้าหล่อเหลาในระยะประชิด ทำเอาคนตัวสูงชะงัก ก่อนจะรีบเดินหลบเลี่ยงไปนอน โดยที่ไม่พูดกับเธอ แม้แต่ประโยคเดียว
ซึ่งเธอรู้ดี ว่าเขาเป็นผู้ชายประเภท ‘อินโทรเวิร์ต’
เพราะก่อนหน้านี้ ที่เรารู้จักกัน เขาแทบจะไม่เข้ามาวนเวียนในชีวิตของเธอเลยด้วยซ้ำ เขาเป็นพวกรักสันโดษ ชอบอยู่คนเดียว ไม่ค่อยพูด ไม่ชอบเข้าสังคม ผิดกับเธอที่เป็นเอ็กซ์โทรเวิร์ต ชอบมีสังคม ไม่ชอบอยู่คนเดียว เวลาที่คนสองประเภทจำเป็นต้องมาอยู่ด้วยกัน เลยค่อนข้างจะปรับตัวยาก
แต่เธอคิดว่าตัวเองสามารถเข้าไปอยู่ในโลกของผู้ชายอินโทรเวิร์ตได้นะ ขอเวลาสักนิด เพื่อให้เขาเปิดใจยอมรับเธอ
เวลา 03.00 น.
ดวงตากลมสวย จ้องมองเพดานห้อง ไร้ความรู้สึกง่วง
แม้ว่าตอนนี้จะดึกมากแล้ว แต่เธอก็ยังข่มตาหลับไม่ลง เลยชันตัวลุกขึ้นนั่งในความมืดสนิท อาจจะเป็นเพราะว่าเธอไม่เคยนอนในที่มืดขนาดนี้ อย่างน้อยก็ต้องมีโคมไฟดวงหนึ่งเปิดอยู่ ทว่า ภายในห้องนอนของฝ่ายชาย กลับมืดตึ๊ดตื๋อ
“ลุงราม หนูดีขอเปิดโคมไฟได้ไหมคะ?”
น้ำเสียงอ่อนนุ่มเอ่ยปากขอคนข้างกาย พอไม่มีเสียงตอบรับ เธอจึงหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาเปิดจอ ส่องแสงไฟไปที่ใบหน้าชายคู่หมั้น ซึ่งตอนนี้เขานอนหลับสนิท แต่ยังคงความหล่อจนเธออึ้งไปสามวิ ก่อนจะสะบัดหน้าเรียกสติ แล้วหันไปเปิดโคมโฟข้างเตียง ให้พอมีแสงสีแดงสลัวๆ ภายในห้องนอน
“บรรยากาศค่อยน่านอนขึ้นมาหน่อย”
ดวงหน้าจิ้มลิ้มยกยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะหันกลับมานอน แต่ทว่าภาพช่วงล่างของชายคู่หมั้น ทำเอาเธออึ้งอีกครั้ง
นัยน์ตาสีน้ำตาสวยเบิกโต พลางจ้องมองฝ่ามือหยาบใหญ่รูดชักอวัยวะเพศของตัวเอง ขณะที่เขากำลังหลับสนิท แต่มือยังคงกำรูด กับสิ่งที่เจ้าตัวควักออกมา จากกางเกงนอน
“นะ นี่คือน้องนุ่มนิ่มของเขาเหรอ?”
แม้ว่าจะอึ้งปนตกใจ ที่ได้เห็นของลับฝ่ายชายเต็มสองตา แต่พอเห็นว่านี่ เป็นสิ่งที่เธอพยายามจับของเขา ก็เริ่มนั่งมองเจ้าสิ่งนั้น ด้วยความประหลาดใจ เขาไม่มีขนเพชรตรงนั้น แม้แต่เส้นเดียว แถมน้องยังสะอาดสะอ้าน ดูนุ่มนิ่มน่าจับ
ซึ่งการกระทำ มักจะไปไวกว่าความคิดเสมอ
รู้ตัวอีกที มือเล็กก็ยื่นไปสัมผัสเจ้าสิ่งนั้น พอมีมืออื่นมาแทนที่ เขาก็คลายมือตัวเอง เพื่อให้เธอเล่นกับน้องนุ่มนิ่ม ขนาดพอดีมือ ก่อนที่เสียงหัวเราะคิกคักจะดังขึ้น เพราะน้องเริ่มสู้มือกลับ พลางขยายขนาดใหญ่ยาวขึ้น อย่างน่าอัศจรรย์
“อืม!”
เสียงทุ้มครางต่ำในลำคอ ก่อนที่น้ำเหนียว สีขาวขุ่น จะพุ่งออกจากปลายหัวเห็ด เปรอะเปื้อนมือเล็กที่กำลังสัมผัส
“ว้าว~”
แทนที่สาวน้อยจะตื่นกลัว กลับตื่นเต้นที่ได้เห็นชายคู่หมั้นกระตุกเสร็จสมคามือ ก่อนที่ความแข็งขืนเหมือนท่อนซุง จะหดตัวลงเป็นน้องนุ่มนิ่มเวอร์ชั่นเดิม เธอเคยเรียนสุขศึกษา แต่ไม่คิดว่าอวัยวะเพศของผู้ชาย จะอัศจรรย์ใจได้ถึงขนาดนี้ ยิ่งเวลาน้องพ่นน้ำ ยิ่งรู้สึกสนุกสนาน จนอยากทำอีก
“ทำอะไร!?”
เสียงทุ้มเข้มถามขึ้น ทำเอาร่างเล็กถึงกับสะดุ้งโหยง
“นี่เธอ…!?”
ชายคู่หมั้นที่เพิ่งตื่นจากภวังค์ฝันดี ตอนนี้กลับถลึงตาใส่สาวน้อย ที่ถูกจับได้ว่าเล่นซุกซนกับของสงวนของฝ่ายชาย เพราะหลักฐานยังอยู่คามือ ไม่สามารถคลายสิ่งนั้นได้ในทันที
ปัง!
ประตูห้องนอนปิดอัดหน้าคนตัวเล็ก หลังจากที่เธอแอบเล่นน้องนุ่มนิ่ม จนอีกฝ่ายจับได้ สีหน้าของเขาดูตกใจมากกว่าโกรธ แต่ก็หอบหิ้วเธอออกมาจากห้อง เป็นการขับไล่
กระต่ายน้อยยืนเบะปาก ทำหน้าเศร้าสร้อยเหมือนอยากจะร้องไห้ แต่พอเห็นน้ำรักเปรอะเปื้อนมือขาว ก็รีบเดินไปล้างมือแล้วกลับมายืนทำหน้าหงอย พลางเคาะประตูเรียก
“ละ ลุงรามขา หนูดีตั้งใจ เอ้ย! ไม่ได้ตั้งใจล่วงเกินลุงรามนะคะ” เสียงหวานผลัดเปลี่ยนคำพูดใหม่ เพราะเธอไม่ได้ตั้งใจ (เอ๊ะ! หรือเราตั้งใจ) เอาเป็นว่า เธอแค่เอ็นดูน้องนุ่มนิ่ม เลยจับเหมือนที่เขาจับ แต่ไม่คิดว่า น้องจะพ่นน้ำออกมาด้วย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
“หนูดีขอโทษ เปิดประตูให้หนูดีเถอะนะคะ ลุงรามขา”
กำปั้นเล็กจิ๋ว เคาะประตูเรียกคนในห้อง ให้เปิดประตู ทว่าความเงียบ ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีทางเปิดประตูให้ เธอจึงเดินคอตกกลับไปที่โซฟา แล้วจำใจนอนนอกห้อง โดยที่ไม่มีสิ่งของคลายเหงา เพราะสมาร์ตโฟนของเธอ ยังอยู่ในห้องนั้น
ฮือ...ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างงี้ ไม่น่าไปเล่นกับน้องนุ่มนิ่มเลย
เวลา 12.00 น.
เจริญพร คนสวยตื่นไม่ทันมื้อเช้าอีกเช่นเคย
แต่จะทำยังไงได้ เธอไม่มีนาฬิกาปลุก สมาร์ตโฟนก็ไม่มีเล่น กว่าจะข่มตาหลับได้ ก็เกือบตีห้า เลยนอนลากยาวจนถึงเที่ยงวัน และตอนนี้ ก็มีเพียงชานมไข่มุกในตู้เย็นเท่านั้น ที่พอดื่มประทังชีวิต ยังดี ที่ปกติเธอไม่อีทมื้อเช้า ไม่งั้นหิวตาย
ติ้ง!
เสียงแจ้งเตือนแมสเสจดังขึ้น ดึงความสนใจจากสาวน้อยที่ยืนดูดชานมไข่มุกอยู่หน้าตู้เย็น ให้รีบวิ่งไปหยิบสมาร์ตโฟนคู่ใจ ที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟา ขึ้นมาจุ๊บด้วยความคิดถึง
ไม่รู้ว่าลุงรามเอามาคืนตอนไหน เพราะตื่นนอนเธอก็งัวเงีย จนไม่ได้มองของบนโต๊ะ แต่พอเห็นว่าเขาเอามาคืนให้ ก็รู้สึกดีใจ อย่างน้อย การอยู่ห้องคนเดียว ก็ยังมีอะไรให้ดูบ้าง
แม้ว่าจะเหงา (ตัวเท่าช้าง!) แต่เธอต้องทน (เศร้าจุง~)
ตืดดดด~
รอสายพี่ชาย เหมือนรอวันที่น้ำแข็งขั้วโลกเหนือจะละลาย ยังไงอย่างงั้น โดยเฉพาะพี่เนม ไม่เคยรับสายน้องเลย
“โทรหาพี่นนท์ก็ได้ ชิ!”
ตืดดด… [ไม่ว่าง ติ๊ด!]
เป็นการโทรหาสามวิที่แท้ทรู รับปุ๊บ พูดปั๊บ ตัดสายทิ้ง
“แงงงง เหงาจะตายแล้ว”
สาวน้อยล้มตัวลงนอนดิ้นพล่านบนโซฟา เพราะไม่มีใครอยู่เล่นด้วยเลยสักคน เพื่อนก็เท คู่หมั้นก็ไปทำงาน (แถมโกรธอยู่ด้วย) ส่วนพี่ชายสองคนมีก็เหมือนไม่มี เห็นงานดีกว่าน้อง ไหนจะป๊ากับหม่าม้าที่ไม่มีเวลาให้ลูกสาว คิดแล้วนอยด์
ว่าแต่แมสเสจที่ส่งมาก่อนหน้านี้ เป็นของใครอะ?
พอนึกขึ้นได้ มือขาวนวลก็รีบหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาเปิดจอดูแจ้งเตือน ก่อนจะกดเข้าไปอ่านแมสเสจ ที่ส่งมาจากผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่อีกฝ่ายติดตามเธออยู่
“โอ๊ะ! เขาเป็นเจ้าของงานศิลปะชิ้นนั้นนี่หน่า”
เธอยังไม่อ่านข้อความที่ส่งมา เพราะอยากเช็กหน้าโปรไฟล์ก่อน แต่พอเห็นภาพวาดชิ้นเดียวกันกับที่แพรวาอยากได้ ร่างเล็กก็รีบดีดตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วเปิดอ่านข้อความที่ชายคนนั้นทักมา ซึ่งไม่ได้ทักแค่ครั้งเดียวแต่ทั้งมาถึงสามครั้ง
[ลีออน : สวัสดีครับ]
ข้อความแรก ทักมาตอนหกโมงเช้า ไม่รู้ว่าลุงรามเห็นข้อความนี้แล้วหรือยัง แต่ถ้าเห็น เขาคงไม่ทำอะไรหรอก (มั้ง)
[ลีออน : ผมไม่รู้ว่าน้องหนูดี เป็นคนมารับภาพวาด ปกติผมค่อนข้างซีเรียสเรื่องเวลานัด ถ้ามาช้าผมจะกลับทันที แต่ถ้าผมรู้ว่าเป็นน้องหนูดี ผมจะรอ ต่อให้ครึ่งวันก็รอได้ครับ]
หือออ? มาทรงนี้ อย่าบอกนะว่าจะจีบ เอ๊ะ! หรือไม่ใช่
[ลีออน : ถ้าไม่เป็นการรบกวนมากจนเกินไป วันนี้มาเจอกันที่คาเฟ่เดิมได้ไหมครับ เดี๋ยวผมจะนำภาพวาดไปให้ ผมรู้ว่าคนที่อยากได้ภาพนี้ ไม่ใช่น้องหนูดี แต่ผมอยากให้ฟรีแทนคำขอโทษ ที่ทำให้น้องหนูดีเสียเวลา] สองข้อความหลัง เพิ่งส่งมาล่าสุด ทำให้เธอมึนงงเล็กน้อย แต่นิ้วเรียวกลับพิมพ์ตอบกลับไปโดยอัตโนมัติ ว่า ได้ค่ะ! ขอบคุณนะคะ พี่สุดหล่อ
อยากเขกกะโหลกตัวเอง ที่ตอบกลับไปแบบไม่คิด แต่ถ้าได้ภาพวาดนั้นมา แล้วเอาไปให้แพรวาแบบฟรีๆ นางก็น่าจะหายโกรธ และกลับมาคืนดีด้วย ถึงแม้ว่าลุงรามจะบอกให้เธอเลือกสังคม แต่สภาพตอนนี้ ไม่สามารถเลือกอะไรได้เลย เพราะโดนคุมพฤติกรรม ไหนจะโดนระงับบัตรเครดิตอีก!
แต่ก่อนอื่นก่อนใด ต้องไปเข้าขออนุญาตคู่หมั้นผ่านกล้องในห้องนอน เพื่อให้คุณลุงกิตมารับเหมือนเมื่อวานนี้ แต่พอประตูห้อง ถูกเปิดจากด้านใน เธอก็รีบชักมือเล็กกลับทันที
“อะ อ้าว วันนี้ไม่ได้ไปทำงานเหรอคะ?”
เจ้าของนัยน์ตาสีเทาหม่นทำหน้านิ่ง ก่อนจะเอื้อมมือหยาบใหญ่มาดึงสมาร์ตโฟนออกจากมือเธอ ไปกดเปิดอ่านข้อความที่ผู้ชายส่งมา แล้วหายใจฟึดฟัด อย่างไม่สบอารมณ์