บทที่ 2

2436 Words
ปัง! “คิกๆ แกล้งคนแก่สนุกชะมัดเลย~” เด็กแสบหัวเราะชอบใจ ที่เห็นฝ่ายชายร้อนรนกับการปลดเปลื้องของสาววัยเยาว์ เขาไม่กล้าแม้แต่จะมองเลยด้วยซ้ำ แล้วแบบนี้วันส่งตัวเข้าหอ เขาจะกล้าทำเรื่องอย่างว่าไหม วันต่อมา ตื่นเช้า ให้เป็นเรื่องของพระภิกษุสงฆ์ ตื่นบ่ายสาม ให้เป็นเรื่องของสาวสวย แต่ขอบ่นหน่อย ว่านอนบนโซฟาไม่สบายตัวเลย (ขนาดไม่สบายตัวยังตื่นบ่ายสาม คิดดู๊วววววว!) ปกตินอนเตียงยางพาราเกรดพรี่เมี่ยม ปูด้วยขนเฟอร์ทำจากขนแกะ ให้ความรู้สึกตอนนอน เหมือนนอนอยู่บนปุยเมฆ แต่นี่อะไร ต้องมานอนหลังขดหลังแข็งอยู่บนโซฟา แม้ว่าจะเป็นหนังหุ้มเกรดดี แต่มันไม่ใช่เตียง ไม่สามารถรองรับสรีระการนอนได้อย่างเหมาะสม ฉะนั้น คืนนี้ต้องได้นอนเตียง ติ้ง! เสียงแมสเสจดังขึ้น ดึงความสนใจไปจากสาวน้อย ที่ยังอยู่ในสภาพเพิ่งตื่นนอน ผมเผ้ายุ่งเหยิงเหมือนรังนก จนดูไม่ได้ พอเห็นเงาสะท้อนจากจอสมาร์ตโฟน ร่างเล็กก็รีบดีดตัว ลุกขึ้นไปล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำ หวีผมเผ้าให้เป็นทรง “ฮ่า ฮ่าาาาาา~” มีการเทสกลิ่นปากเล็กน้อย พอได้กลิ่นหอมกุหลาบชื่นใจ ถึงจะย้ายร่างออกมาจากห้องน้ำ แล้วเปลี่ยนจากชุดนอนแบบกระโปรง เป็นชุดเกาะอกแบรนด์เนมสีขาว กับกระโปรงยีน ปักลายลูกหมี แล้วไม่ลืมที่จะมัดผมแกะสองข้าง “นี่คนหรือนางฟ้า ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้~” สาวน้อยถือกระจกพกพาลายกระต่าย พลางเอ่ยปากชมตัวเอง ที่น่ารักไปเสียทุกมุม ก่อนจะหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาถ่ายเซลฟี่ แล้วอัพรูปลงทุกช่องทาง เพื่อบริหารสังคมในโลกโซเชียล ที่ตัวเองเป็นดาวเด่นของมหาลัย และในโลกออนไลน์ ติ้ง! แมสเสจแจ้งเตือนอีกครั้ง เจ้าตัวเลยกดเข้าไปอ่าน [แพรวา : โดนกักบริเวณสามอาทิตย์ โคตรเซ็งเลย] [เจ้าขา : เอิ่ม โดนเหมือนกันค่ะสาว แต่สองเดือน!] [หลิน : นี่โดนทั้งกักบริเวณ ทั้งตัดบัตรเครดิต แม่ง!] เหล่าเพื่อนสาว ต่างพากันโอดครวญกับบทลงโทษ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ค่อนข้างใหญ่สำหรับ ‘ตระกูลพิชาญชัยพรรค' เพื่อนที่พากันปลอมแปลงบัตรประชาชนเข้าไปในสถานบันเทิง เลยโดนลงโทษกันถ้วนหน้า สังคมของเหล่ามหาเศรษฐีมันแคบ พอโดนจับได้ จึงซวยหมด [แพรวา : อุตส่าห์วางแพลนไปเที่ยวอิตาลีช่วงปิดเทอม แต่กลับพังไม่เป็นท่า เพราะผัวใครก็ไม่รู้ ไปฟ้องแด๊ดดี้!] อ้าว พิมพ์มาแบบนี้ ก็ชัดเจนว่าเป็นผัวฉัน เอ้ย! คู่หมั้น [แพรวา : แกคิดจะรับผิดชอบอะไรไหม หนูดี?] [หนูดี : พวกแกจะให้ฉันรับผิดชอบยังไง ว่ามาเลย] นิ้วเรียวสวยพิมพ์ตอบกลับไป พร้อมกับสลับขานั่งไขว้ห้าง ระหว่างรอคำตอบ ก็กวาดสายตามองหาเจ้าของห้อง ที่ไม่เห็นวี่แววตั้งแต่ตอนตื่นนอน ไม่รู้ว่าเขาไปทำงานแล้ว หรือว่าเจ็บแผล จนนอนซมอยู่ในห้อง หากเป็นอย่างหลัง เธอจะเข้าช่วยไปดูแลถ้าเกิดว่าเขายอมเปิดประตูให้เธอเข้าไปอ่านะ [แพรวา : วันนี้ฉันมีนัดไปรับรูปจากศิลปินท่านหนึ่ง ในเมื่อฉันออกไปไหนไม่ได้ แกก็ต้องเป็นคนไปรับให้ฉัน หนูดี] [หนูดี : แล้วทำไมไม่ส่งรูปไปที่บ้านเลยละ?] [แพรวา : แกเข้าใจคำว่านัดไหม? ฉันนัดเขาเอาไว้แล้ว ว่าจะไปรับด้วยตัวเอง ศิลปินคนนี้เลือกคนรับภาพ ฉันเจรจาตั้งนานกว่าจะขอซื้อมาได้ ฉะนั้น แกต้องไปรับแทนฉัน] [หนูดี : โอเค ฉันจะไปรับให้แล้วกัน] [เจ้าขา : ส่วนฉันจะต้องไปรับสร้อยคาร์เทียร์ที่สยาม] [หนูดี : โอเค มีใครอยากให้ไปรับอะไรอีกไหม หลิน?] [หลิน : โดนทั้งกักบริเวณ โดนทั้งตัดบัตรเครดิต ฉันคงไม่มีเงินไปช้อปปิ้งหรอก แต่ถ้าแกอยากรับผิดชอบ กำไลคาร์เทียร์รุ่น***คือสิ่งที่ฉันอยากได้ ถ้าแกถอยมาฉันจะยกโทษให้] [เจ้าขา : หืม~ กำไลรุ่นนั้น เกือบเจ็ดหลักเลยนะสาว] [หลิน : ถ้าฉันไม่ถูกปะป๊าตัดบัตร คงมีเงินไปถอยเอง] [หนูดี : โอเคๆๆ ฉันจะจัดการให้ก็แล้วกัน] นิ้วเรียวสวยพิมพ์ตัดบท แม้ว่าหลินจะเป็นคนต้นเรื่อง ปลอมแปลงบัตรประชาชนเข้าไปในสถานบันเทิง แต่สุดท้ายแล้วคนที่ถูกจับได้ก็คือเธอ ทำให้ทุกคนซวยจนโดนกักบริเวณ ว่าแต่ว่า…ตอนนี้เธอไม่ได้โดนกักบริเวณอยู่ใช่ไหม? แค่ย้ายมาอยู่กับคู่หมั้นสามเดือน ไม่ได้แปลว่าออกไปไหนไม่ได้ ฉะนั้น วันนี้เธอขอออกไปทำธุระ ไถ่โทษเพื่อนก่อนแล้วกัน แต่ก่อนจะไป อาจจะต้องไปบอกกล่าวคู่หมั้นนิดหนึ่ง คิดได้ดังนั้น คนตัวเล็กก็รีบลุกขึ้นจากโซฟา แล้วเดินตรงไปที่ห้องนอนของชายคู่หมั้น ก่อนจะเคาะประตูเรียกสามครั้งเป็นมารยาท เมื่อไม่มีการตอบรับ มือนุ่มนิ่มจึงถือวิสาสะ บิดลูกบิดประตูสีเงินเปิดเข้าไป ปรากฏว่า ไม่มีใครอยู่ในห้อง! “อ้าว นึกว่าจะไม่ไปทำงานเสียอีก” สาวน้อยบ่นพึมพำ พลางกวาดนัยน์ตาสีน้ำตาลสวย สำรวจห้องนอนขนาดใหญ่ ที่ถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย แม้ว่าจะตกแต่งโทนสีดำเข้ม แต่กลับสะอาดสะอ้านสบายตา แถมยังมีกลิ่นกายเฉพาะตัว ที่หอมกว่าน้ำหอมแบรนด์ดังเสียอีก อธิบายง่ายๆ กลิ่นตัวเขาเหมือนกลิ่นฟิลชูก้าแด๊ดดี้ อบอุ่น “อุ้ย~ ดูเตียงนั่นสิ น่านอนชะมัดเลย” กระต่ายน้อยทำเสียงน่ารัก พลางมองซ้ายมองขวา ก่อนจะกระโดดโหยงเหยง ไปที่เตียงนอนขนาดคิงไซซ์ แล้วค่อยๆ ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างนุ่มนวล เพื่อสัมผัสถึงความฟินเวลาได้นอนบนเตียงพรีเมี่ยม เหมือนนอนอยู่ที่บ้านตัวเอง ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด! เสียงสัญญาณดังถี่ๆ เมื่อสาวน้อยบนเตียงเงยหน้าขึ้นไปมองต้นเสียง กลับพบไฟสีแดงกำลังสาดส่องมาที่ตัวเอง เหมือนจะเป็น กล้องวงจรปิดขนาดจิ๋ว ที่เจ้าของห้องติดเอาไว้ “อุ๊บส์~” มือเรียวสวยยกขึ้นปิดปาก ทำท่าทางตกใจที่ถูกจับได้ ว่าแอบเข้ามาในห้องนอนโดยพลการ แต่แทนที่จะรีบกลับออกไป เธอกลับส่งยิ้มหวานให้กล้อง แล้วชันขาเป็นรูปตัวเอ็ม ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด! เสียงสัญญาณยังคงดังต่อต่อเนื่อง ท่าทางการนอนหันเข้ากล้องพอดีเป๊ะ ก่อนที่กระต่ายน้อยแสนซน จะขยับขาถ่างกว้าง จนกระโปรงยีนเลื่อนขึ้น เห็นกางเกงในตัวจิ๋วสีชมพู ติ้ง! เสียงแมสเสจแจ้งเตือน เจ้าของเครื่องจึงหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาเปิดอ่าน ทั้งที่ยังนอนแหกแข้งแหกขา ในท่ายั่วเพศ [แพรวา : นัดเวลา 17.00 น. ห้ามไปสายเด็ดขาดนะ!] [เจ้าขา : ของฉัน 16.30 น. ค่ะสาว ไปรับของฉันก่อน] พอเห็นเวลานัดกระชั้นชิด ร่างเล็กก็รีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงด้วยความเร็วของเดอะแฟลช แต่ก่อนจะวิ่งออกไปจากห้องนอน เธอก็ถอยกลับไปยืนหน้ากล้อง แล้วขออนุญาต “หนูดีขอตัวออกไปทำธุระข้างนอกก่อนนะคะ กลับไม่เกินสองทุ่ม ไม่สิ อาจจะสามทุ่มไม่เกินนี้ หนูดีไม่มีเบอร์ติดต่อลุงราม เอาเป็นว่าขอผ่านกล้องก็แล้วกัน ขอบคุณนะคะ จุ๊บ!” สาวน้อยไม่ลืมที่จะส่งจูบใส่กล้อง ก่อนจะรีบวิ่งสี่คูณร้อยออกไปหยิบกระเป๋าสะพาย แล้วรีบออกไปทำธุระให้เสร็จ “คุณหนูครับ” เมื่อลงมาลิฟต์ถึงชั้นหนึ่ง ก็มีใครบางคนดักรอเธออยู่ “ผมชื่อกิต คุณรามสั่งให้ผมขับรถไปส่งคุณหนูครับ” โอ๊ะ! แสดงว่าเขาดูทุกอย่างผ่านกล้องอยู่จริงๆ ด้วย “ขอบคุณนะคะ คุณลุง~” สาวน้อยกล่าวคำขอบคุณ พลางคลี่ยิ้มสดใส ก่อนจะเดินตามคุณลุงกิต ไปที่รถบีเอ็มสีดำนิล ที่ชายคู่หมั้นส่งมารับ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางกรุง เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง ร่างเล็กกะทัดรัดก็รีบก้าวขาเรียวสวยลงจากรถคันหรู แต่ทว่าคนขับรถ ที่ชายคู่หมั้นสั่งให้มาส่ง กลับลงจากรถ แล้วรีบเดินตามมาติดๆ จนเธอต้องหยุดชะงัก แล้วหันกลับไปสอบถามคุณลุง ด้วยน้ำเสียงสงสัย “คุณลุงตามหนูดีมาทำไมเหรอคะ?” “อะ เออ คือว่า นอกเหนือจากให้ขับรถมาส่งแล้ว คุณรามยังกำชับให้ผมตามดูแลคุณหนูทุกฝีก้าว จนกว่าจะกลับถึงห้องครับ” ประโยคนั้น ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับยืนอึ้งไปชั่วขณะ เพราะไม่คิดว่าชายคู่หมั้น จะส่งคนมาตามเฝ้า ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เขาไม่เกินก้าวล้ำชีวิตของเธอ เลยแม้แต่ครั้งเดียว ขนาดเบอร์ติดต่อยังไม่มี แต่ตอนนี้ กลับให้คนมาตามควบคุม “ปกติคุณรามของคุณลุง เขาเคยสั่งให้คุณลุงไปตามเฝ้าผู้หญิงคนไหนไหมคะ?” เสียงใสแจ๋วถามกลับอย่างสุภาพ “ไม่เคยนะครับ คุณหนูเป็นคนแรกเลย” คำตอบชัดถ้อยชัดคำ ทำเอาสาวน้อยอมยิ้มกรุ้มกริ่ม “งั้นคุณลุงก็ตามมาได้เลยค่ะ” กระต่ายน้อยน่ารักพูดอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะย้ายร่างปุ๊กปิ๊ก ไปที่ช็อปแบรนด์ดัง เพื่อรับสร้อยและซื้อกำไลรุ่นใหม่ล่าสุดให้เพื่อนสาว ซึ่งราคาก็เป็นไปตามที่เจ้าขาบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ แต่เป็นจำนวนเงินที่เธอสามารถจ่ายได้สบายมาก ไม่ได้อยากอวดรวย แต่คนมันเหลือใช้ ทำยังไงได้ ป๊าให้บัตรเครดิตแบบไม่จำกัดวงเงิน แบบนี้ก็สบายบรื๋อสะดือโบ๋ “ขออภัยค่ะ บัตรใบนี้ไม่สามารถชำระได้นะคะ” “มะ หมายความว่ายังไงคะ?” “คุณหนูครับ คุณรามขอคุยด้วยครับ” คุณลุงกิตพูดพลางยื่นโทรศัพท์รุ่นเก่าให้เธอคุยสาย “ทำไมบัตรเครดิตของหนูดี ถึงใช้ไม่ได้ละคะลุงราม?” อันที่จริงคำถามนี้ต้องถามป๊า แต่เขาโทรมาพอดีเลยถามเขา [มันจะใช้ไม่ได้สามเดือน] “ยะ อย่าบอกนะคะ ว่านี่คือบทลงโทษ?” นอกเหนือจากย้ายไปอยู่กับเขาแล้ว เธอยังโดนระงับบัตรเครดิตอีกเหรอ!? ถามจริ๊งงง เธอจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีเงินใช้ [มื้อเช้าเจ็ดโมง มื้อเย็นหกโมง ถ้าหิวก็กลับมาที่ห้อง] “หมายความว่า ถ้าหนูดีตื่นไม่ทัน…” [ก็ไม่ต้องกิน] “แล้วถ้าหนูดีกลับไปทานมื้อเย็นไม่ทัน…” [ก็ไม่ต้องกิน] เฮือก! ขอแก้คำพูด เขาใจร้ายมาก ใจร้ายที่สุดในโลก! [เธอเป็นต้นเหตุ ทำให้รถที่มีเพียงสามคันบนโลกพังยับ ฉะนั้นเธอต้องรับผิดชอบ ติ๊ด!] พูดจบ ปลายสายก็กดวาง ทิ้งให้สาวน้อยยื่นช็อกตาค้าง เพราะไม่คิดว่าโดนจะลงโทษแบบนี้ เมื่อวานเขาดูไม่เอาความเรื่องรถ แต่ทำไมวันนี้ถึงได้... แงงง แล้วทีนี้เธอจะทำยังไงดี ขอร้องไห้ได้ไหม (T^T) “คะ คุณลุงพอมีเงินให้หนูยืมสักเก้าแสนไหมคะ?” “เออ คุณหนูครับ” คุณลุงกิตทำหน้าเจื่อน เพราะไม่มีเงินเยอะขนาดนั้น “ฮือออ หนูดีจะทำยังไงดี” จากที่เป็นคนรวยมีเงินเหลือใช้ แต่ตอนนี้ไม่เหลือแล้ว “คุณหนูลองกลับไปคุยกับคุณรามก่อนไหมครับ คุณรามเป็นคนใจดี ถ้าคุณหนูมีความจำเป็นจะต้องใช้เงินจริงๆ คุณรามต้องให้เงินคุณหนูอย่างแน่นอนครับ” คุณลุงกิตเสนอทางออกที่ดี แต่ถ้าลุงรามรู้ว่าเธอ จะเอาเงินเกือบเจ็ดหลัก ไปซื้อกำไล เพื่อไถ่โทษเพื่อนสนิท มีหวังเธอได้โดนเฉ่งอีกแน่เลย “งั้นเอาไว้ก่อนก็ได้ค่ะ” เด็กสาวตัดใจเสียงอ่อย ก่อนจะรีบเดินออกจากช็อปแบรนด์ดัง ไปยังคาเฟ่ที่อยู่ชั้นล่าง เพื่อรับงานศิลปะให้แพรวา “จะห้าโมงแล้ว ตายๆๆๆ!” สองเท้าเล็กภายใต้รองเท้าผ้าใบสีขาว ปักลายน่ารัก รีบวิ่งใส่เกียร์หมา เพื่อลงไปให้ทันนัดหมาย ซึ่งเธอพยายามวิ่งให้เร็วที่สุดในชีวิต จนขาพลิกไปหนึ่งรอบ แต่ก็ยังคงฝืนสังขารวิ่งต่อไป จนมาถึงสถานที่นัดหมาย ทว่ากลับไร้วี่แววศิลปินเจ้าของผลงาน ทั้งที่เธอมาช้า แค่เพียงหนึ่งนาทีเท่านั้น [ฉันย้ำเตือนไปแล้วไง ว่าแกห้ามไปสายเด็ดขาด!] เสียงตวาดจากปลายสาย ทำเอาอีกฝ่ายหน้าเจื่อน [รู้ไหมว่าฉันตามผลงานนี้มากี่ปี แล้วแกทำบ้าอะไร!] “ฉันขอโทษ…” [เก็บคำขอโทษไว้บอกพ่อแม่แกเถอะ อีปัญญาอ่อน!] สิ้นสุดคำด่า ปลายสายก็กดวางแล้วบล็อกเบอร์ รวมไปถึงบล็อกแมสเสจของเธอออกจากกลุ่มเพื่อน ส่วนหลินที่รู้ว่าไม่ได้ของตามที่ต้องการ ก็พานบล็อกไปอีกคน จนเหลือแค่เจ้าขาที่โทรมาคุย แต่สุดท้ายก็บล็อกตามเพราะอีกสองคนสั่ง “คุณหนูไปหาหมอก่อนไหมครับ?” คุณลุงกิตเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าเธอเดินขากะเผลก “ไม่เป็นไรค่ะ” น้ำเสียงแผ่วเบาตอบปฏิเสธ ก่อนจะเดินคอตกขึ้นรถ “เดี๋ยวหนูดีฝากคุณลุงเอาของในถุงนี้ ไปให้เพื่อนของหนูดีทีนะคะ” เมื่อนั่งรถกลับมาถึงคอนโดมิเนียมหรู เธอก็ไม่ลืมที่จะขอให้คุณลุงกิต เอาสร้อยคาร์เทียร์ ไปให้เจ้าขาที่บ้าน “รับทราบครับคุณหนู” “ขอบคุณนะคะ” สาวน้อยยกมือไหว้ขอบคุณ ก่อนจะเดินขากะเผลกเข้าคอนโด เธอพยายามคิด ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของเธอ แต่พอโดนเพื่อนสนิทเทยกแก๊งก็แอบนอยด์อยู่เหมือนกัน ติ้ง! ประตูลิฟต์เปิดออก ขณะที่คนตัวเล็กยืนแนบหน้าผากกับผนังเหล็กเย็นเฉียบ อย่างคิดไม่ตก หากเป็นเมื่อก่อน ตอนทะเลาะกับเพื่อนกลุ่มนี้ เธอจะไปตามง้อถึงบ้าน แล้วพาไปปาร์ตี้เป็นการไถ่โทษ แต่ตอนนี้ทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว เพราะเธอไม่มีเงิน ถ้าให้ไปง้อตัวเปล่า ไม่มีทางที่เพื่อนจะยกโทษให้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD