ไปคัดตัว

1229 Words
“รอแป๊บนะคะผู้กำกับ เด็กคนนี้การันตีความแซ่บ” เจ๊ฉิ่งส่งเสียงอ้อนวอน “ดอยทางนี้” สายตาที่สอดส่ายมองหาชายหนุ่มกับหญิงสาวที่ชายหนุ่มได้การันตีว่าสวยสะดุดตาน่ารักในแบบฉบับที่เจ๊ฉิ่งโปรดปราน ผิวขาวที่ไม่ได้ค่อยเปิดเผยเด่นแข่งกันกับชุดเดรสสีขาวสมราคา เจ๊ฉิ่งกับผู้กำกับอ้าปากค้าง เพราะเด็กสาวช่างตรงกับคาแรกเตอร์ของเรื่องเสียจริง ๆ ‘เด็กสาวห้าวห่ามถูกพระเอกจับมาแปลงโฉมจนสวยวับ’ ท่าทางการเดินที่ยังดูเก้ ๆ กัง ๆ ทั้งเจ๊ฉิ่งและผู้กำกับหันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย “แคสต์เลย” ผู้กำกับหันไปสั่งน้อง ๆ ทีมงาน “ดอย” เจ๊ฉิ่งลากแขนดอยให้หลบมุม มีเด็กสาวที่เธอยังจับมือเขาแน่นเดินตามมาด้วย “ชื่ออะไร” เสียงเจ๊ถาม “เปรี้ยวค่ะ” เธอตอบด้วยวาจาฉะฉาน “เอางี้...” แล้วเจ๊ก็เริ่มซุบซิบเพราะกลัวคนในกองถ่ายได้ยิน “ผู้กำกับให้ทำอะไรก็ทำนะ” เธอเน้นย้ำกับเด็กสาวอีกครั้งหนึ่ง ดอยสะกิดแขนเธอก่อนจะบอกคำคำหนึ่ง “เงิน ท่องไว้เปรี้ยว เงิน...” เขายิ้มให้ เธอทำหน้าแหย ๆ มองเขาตากะพริบ ๆ เจ๊ฉิ่งรีบดันหลังเธอเข้าไปในกล้อง ‘หึ... ท่องไว้ยายเปรี้ยวเงิน...เงิน ๆ เงิน ๆ...’ เธอเริ่มยิ้มให้กับมุมกล้อง และเริ่มทำตามที่ผู้กำกับบอกทุกอย่างอย่างแข็งขัน เด็กสาวก็ยังแปลกใจว่าตัวเธอเองทำได้อย่างไร เสียงปรบมือเกรียวเมื่อทุกอย่างสิ้นสุด เจ๊ฉิ่งปรี่เข้าไปหาผู้กำกับทันที “เป็นไงบ้างคะ ผ่านไหม” นางยิ้มพราวเพราะเปรี้ยวช่างได้ใจนางเสียจริง ๆ พี่เหน่งค่อย ๆ คลี่ยิ้มออก ก่อนจะยกนิ้วหัวแม่โป้งให้ “กรี๊ด....” เสียงเจ๊ฉิ่งดังยิ่งกว่าถูกลอตเตอรี่ วิ่งเข้าไปจับไม้จับมือสาวน้อยยกใหญ่ “ไปบ้านเจ๊ เราต้องเตรียมตัวกันอีกเยอะ” นางบอกเธอ ดอยยืนยิ้มอย่างภาคภูมิใจ เขาส่งยิ้มกว้างให้สาวน้อยแบบยินดี ‘ผมเอาคืนคุณเจ็บแน่’ เขาหยันนึกไปถึงนางเอกที่เคยเป็นเบอร์หนึ่งของเจ๊ฉิ่ง   “เหนื่อยเป็นบ้าเลย” เธอบ่นก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟาในคอนโดของดอย แล้วเอนตัวลงนอนทันที นาฬิกาตรงผนังบอกเวลาตีหนึ่งกว่า ๆ “เฮ้ย... เปรี้ยว ไปอาบน้ำก่อน” ดอยเข้ามาดึงสาวน้อยที่หลับตาสนิทและขัดขืนการดึงรั้งของเขา “ไม่เอาแล้วเปรี้ยวจะนอน” เธอบอกเขาเสียงอู้อี้ หน้าตาบ่งบอกว่าง่วงสุด ก่อนจะทิ้งร่างหัวทิ่มลงไปในโซฟา ดอยออกมายืนห่าง ๆ หัวเราะให้ในความดื้อของเธอ และก็สงสารเธอจับใจ วันนี้โดนเจ๊ฉิ่งอบรมไม่รู้กี่เรื่องต่อกี่เรื่อง แล้วยังให้ช่างประจำตัวของนางแต่งหน้าแต่งตาให้สาวน้อยในหลายรูปแบบ ก่อนจะให้ช่างภาพคนสนิทเก็บภาพของเธอในทุกมุม เขาค่อย ๆ ช้อนร่างของเธอขึ้น เดินตรงไปยังห้องนอนของเขา ก่อนจะวางเธอลงบนเตียง ห่มผ้าให้ หาผ้าชุบน้ำและอุปกรณ์เช็ดทำความสะอาดผิวหน้า และลงโทนเนอร์กับครีมบำรุงให้ เปรี้ยวยังคงหลับอุตุไม่รู้เรื่อง ชายหนุ่มเดินเข้าห้องน้ำ ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วตรงไปนอนยังห้องของพี่ชาย ทิ้งตัวลงไปนอนด้วยความอ่อนล้าเช่นกัน    ------------------   “ตื่นได้แล้ว” เสียงดังของดอยตอนเปิดประตูลอยเข้ามากระทบใบหู เปรี้ยวคว้าผ้าห่มปิดคลุมไปทั้งหัว ก่อนจะหมุนตัวนอนตะแคงหันหลังให้กับต้นเสียง “ไอ้หนอนเน่า ตื่นได้แล้ว” ดอยมายืนตะโกนอยู่ใกล้ ๆ สาวน้อยไม่มีทีท่าจะขยับ ดอยนึกแกล้ง ทาบร่างใหญ่หนาของเขาบนร่างของเปรี้ยวที่นอนทำเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่ใต้ผ้าห่ม “อืม... หนักนะ” เธอบ่นอู้อี้คล้าย ๆ คนหายใจไม่ออก “ก็จะลุกไหม” เขาว่าเธอ สาวน้อยค่อย ๆ โผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม ดอยยิ้มกว้าง ใบหน้าหล่อคมคายของเขาห่างจากใบหน้าของสาวเปรี้ยวไปไม่ถึงคืบ เปรี้ยวหัวใจเต้นแปลก ๆ เธอเริ่มหน้าแดง “โอ้ยพี่ดอย เปรี้ยวหายใจไม่ออก” เธอตะโกนใส่หน้าของเขา ก่อนจะดันมือผลักหน้าอกของดอยใต้ผ้าห่ม “วันหลังถ้านอนขี้เซาอีก พี่จะ...” เขาเว้นคำ “จะอะไร” เธอแว้ดใส่หน้าพี่ชายต่างสายเลือด “จะทำอย่างงี้ไง” ดอยพูดจบก็ใช้มือจี้ไปที่เอวของเธอใต้ผ้าห่ม เสียงเปรี้ยวหัวเราะดังลั่น น้ำตาเล็ด “ไอ้พี่ดอยบ้า อย่าให้หลุดไปได้นะ น่าดู” เธอปรามาสเขา ส่ายดิ้นหนีการรุกรานของดอยอย่างจริงจัง   กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง... เสียงโทรศัพท์ของดอยดังขึ้น เขาชะงักก่อนจะหันไปหยิบโทรศัพท์ที่วางไว้บนหัวเตียงลุกขึ้นนั่ง “ลืมนัดกับพี่หรือเปล่า วันนี้มีแคสต์หลายงานนะ” เสียงเจ๊ฉิ่งดังทะลุออกมาข้างนอก เสียงแหลมปรี๊ดตามสไตล์ “ตื่นกันแล้วครับ” ดอยบอกนาง “มากินอะไร มากินที่นี่นะ” เจ๊ฉิ่งลดระดับเสียง ดูอารมณ์ดี เมื่อเขาวางสายเสร็จ รีบหันมาหาสาวน้อยที่ทิ้งหลังลงไปนอนนิ่งอย่างหมดแรง เขาฉุดแขนเธอให้ลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะออกคำสั่ง “ไปอาบน้ำ” เธอลุกขึ้นเดินเหมือนซอมบี “ยายเปรี้ยว” เสียงเรียกที่ดัง พอจะทำให้เธอสะดุ้ง พอหันมาเห็นดอยทำท่าจะวิ่งเข้ามาหา เธอรีบกระโดดเข้าห้องน้ำปิดประตูลงอย่างรวดเร็ว เขายิ้มระบายออกมาเต็มใบหน้า รู้สึกมีความสุข และผ่อนคลายเมื่ออยู่กับเปรี้ยว เขายกหูหาผู้เป็นย่าของเปรี้ยวเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟัง และรับประกันจะดูแลเปรี้ยวเป็นอย่างดี “อือ...” เสียงย่ารับคำ “ดูแลน้องด้วยนะ” คุณย่าสำทับ แต่พอนึกถึงเม็ดเงินที่จะได้ก็ยิ้มพราว จะได้อยู่กันแบบสุขสบายไม่ขัดสนเสียที ข่าวผู้กำกับเหน่งเลือกนางเอกไร้ชื่อมาเป็นตัวนำในเรื่อง รักอลเวง ทำให้ปภัสสรถึงกับปรี๊ดปรอทแทบแตก “ยังไงคะเจ๊ฉิ่ง” เธอยกหูหาผู้จัดการส่วนตัวทันที (“อ๋อ... โผล่หัวมาแล้วเหรอ”) เสียงเจ๊ทักแบบไม่ไยดี (“หายหน้าหายตาไป ทั้ง ๆ ที่แพลนงานก็ออกแล้ว ดีนะที่ฉันสนิทกับหลาย ๆ คน เขาเลยยอมให้ฉันเปลี่ยนตัวดาราได้ มีความรับผิดชอบบ้างสิหนูปลา”) นางกล่าวหยันแดกดันสาวสวย “ก็...” เธออ้ำอึ้ง “ไม่รู้แหละ ทุกทีเจ๊ยังบล็อกงานให้หนูได้ แต่ทำไมเรื่องรักอลเวง พี่เหน่งถึงเปลี่ยนตัวแสดงนำ (“ยะ...”) เจ๊สบถออกไปแทบทันทีเช่นกัน (“เมื่อวานหล่อนไม่มา เขาแคสต์งานกัน ใครเขาจะรอหล่อนคะ คนทั้งกอง อีกอย่างพี่เหน่งเขาเป็นใคร ปภัสสร เดี๋ยวนี้โลกมันหมุนเร็วนะคะ หล่อนไม่รู้เหรอ”) นางพูดสิ่งที่อัดอยู่ในใจมาแสนนาน ทนมาเยอะแล้วกับนางเอกคนนี้ “เจ๊...” ปภัสสรเธอก็ขึ้นเสียงสูงเหมือนกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD