bc

PRETTY BOY เจ้าชายตัวน้อยของผม

book_age18+
129
FOLLOW
1K
READ
HE
stepfather
drama
mystery
like
intro-logo
Blurb

'ทราฟ' ได้เจอกับเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักทว่าตาบอดอย่าง 'เค้ก' ที่ร้านขายอาหารสัตว์ เขาได้ช่วยเหลือพาไปส่งที่หอและเกิดความรู้สึกสงสารและเอ็นดู เพราะนอกจากตาบอกแล้วยังอาศัยอยู่ในหอพักเพียงลำพัง เขาจึงคอยวนเวียนให้ความช่วยเหลือเป็นพี่เป็นเพื่อนเล่นอยู่ใกล้ๆ จนทั้งคู่แอบรู้สึกดีๆ ต่อกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ต่างคนต่างไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นมันเป็นเพียงความรู้สึกระหว่างพี่น้องที่สนิทหรือลึกซึ้งมากกว่านั้น เพราะทราฟมีแฟนสาวอยู่แล้ว! เรื่องราววุ่นวายชวนเสียน้ำตาจึงเกิดขึ้น

chap-preview
Free preview
Chapter 1
Traf says: “เออๆ กูรู้แล้ว รีบอยู่เนี่ยแม่ง ขากูจะขวิดกันอยู่แล้ว” ผมรีบเดินด้วยความเร่งรีบเพราะว่าฝนใกล้จะตกในไม่ช้า ยังไงก็ต้องไปถึงที่หมายก่อนที่ฝนจะเทลงมา [เร็วๆด้วยไอ้ทราฟ ก่อนที่ปลากูจะขาดออกซิเจนตาย!] “เออ!” ผมกระแทกเสียงใส่ไอ้เจเพื่อนตัวดีของผม ที่ไล่ผมออกมาซื้อออกซิเจนให้ปลามัน ส่วนมันนะเหรอ นอนเฝ้าปลา! แม่งบ้า แต่ตอนนี้ผมไม่มีเวลาแล้ว เพราะนอกจากไอ้เจมันจะเร่งผมยิกๆ ฝนก็ทำท่าจะตกอยู่รอมร่อ แต่ถ้าผมสามารถล่วงรู้อนาคตได้ ผมคงจะต้องขอบคุณไอ้เจ ขอบคุณปลาทองของมันที่กำลังจะตาย และคงต้องขอบคุณฝนที่กำลังทำท่าจะเทลงมา เพราะทั้งหมดนี่ทำให้ผมค้นพบคำว่า...รักแท้ พอถึงร้านขายของเกี่ยวกับสัตว์ ผมก็รีบผลักประตูเข้าไป แต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวเข้าไปในร้าน เด็กผู้ชายตัวเล็กๆหน้าตาน่ารักก็เดินถือโถปลาทองเดินมาทางประตู อีกแค่สองก้าวก็จะถึงตัวผมแล้ว มันดูเหมือนไม่มีปัญหาใช่ไหม แต่ที่จริงมันมี เพราะว่าเขายังเดินไม่มีทีท่าที่จะหยุดแม้ว่าผมจะยังยืนขวางทางอยู่ก็ตาม และอยู่ๆเขาก็เอื้อมมือออกมาแตะที่ตัวผม ผมว่าท่าทางของเขามัน...แปลกๆ “อุ๊ย! เอ่อ...ขอโทษครับ” คนตรงหน้าผมเอ่ยขอโทษอย่างตกใจ คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน ตาที่กลมโตอยู่แล้วก็ยิ่งโตเข้าไปใหญ่ แต่ไม่ได้ทำให้ใบหน้าที่ทั้งหวานและน่ารักเกินเด็กผู้ชายดูดีน้อยลงเลย แต่กลับดูน่าเอ็นดูยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ โดยเฉพาะตากลมโตที่ใสราวกลับตาเด็กเล็กๆ ทำเอาผมเคลิ้มไปชั่วขณะ “อ่อไม่เป็นไรครับ” ผมบอกเมื่อได้สติแล้วก็เบี่ยงทางให้น้องเขาเดิน แล้วผมก็นึกขึ้นได้ว่าผมรีบอยู่ ช้ากว่านี้ปลาไอ้เจคงไม่รอดจริงๆ คิดได้ดังนั้นผมก็รีบพุ่งเข้าร้านไปหยิบอ็อกซิเจนก่อนจะเดินไปจ่ายตังค์อย่างว่องไว “ทั้งหมดร้อยยี่สิบบาท” ผมหยิบเงินออกจากกระเป๋าให้คนขายและยืนรอเงินทอน “เอ๊ะ ข้างนอกฝนตกแล้วเหรอ ตายแล้ว! หวาน  ยัยหวาน! ไปไหนเนี่ย โอ๊ยยยย เอาไงดีเนี่ย” คนขายทำท่าทางลุกลี้ลุกลนมองออกไปข้างนอกด้วยสีหน้าเป็นกังวล พร้อมกับตะโกนเรียกใครสักคนในร้านเสียงดัง “มีอะไรเหรอครับ” ผมเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ ไม่ได้อยากเสือกหรอกนะครับ แต่ดูเหมือนคนขายแกจะมีปัญหา ผมคนดีก็ควรต้องช่วยเหลือ จริงไหมครับ “ก็น้องเค้กอ่ะ เด็กคนเมื่อกี้ที่เดินออกไปเขาตาบอด และตอนนี้ฝนมันก็ตก น้องเขาไม่มีร่มด้วย ทำไงล่ะที่นี้ ไม่มีคนเฝ้าร้าน ฉันจะออกไปส่งก็ไม่ได้ด้วย หากเกิดอุบัติเหตุไปก็แย่เลย” ผมเบิกตาโตเมื่อได้ยิน ตาบอด! แล้วออกมาข้างนอกคนเดียวเนี่ยนะ! “งั้น เดี๋ยวผมเดินไปส่งเขาเองครับ!”  ผมรีบอาสาช่วยเหลือทันทีแบบไม่ต้องคิด รอไปก่อนจะไอ้เจ ชีวิตปลามึงไม่เท่าชีวิตน้องเค้กที่น่ารักหรอก กูบอกเลย! “ดีจริงๆเลย อ่ะนี่ค่ะร่ม รบกวนทีนะคะ” ผมรับร่มมาแล้วรีบวิ่งออกไป มองซ้ายมองขวาก็เจอเค้กที่ยืนนิ่งหันซ้ายหันขวาไม่ยอมก้าวเดินไปไหน เนื้อตัวเริ่มเปียกเพราะเม็ดฝนที่โหมตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา ผมรีบเดินเข้าไปหาพร้อมกับกางร่มกันฝนให้คนตัวเล็ก “ยืนนิ่งทำไมล่ะ เปียกฝนหมดเลยเห็นไหม” ผมถามเสียงอ่อนโยนเพราะกลัวน้องเขาจะตกใจ “เอ่อ คือว่า...คือเค้ก” สีหน้าเค้กดูวิตกกังวลจนน่าสงสาร “บ้านอยู่ไหนล่ะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” ผมบอกอย่างใจดี สภาพแบบนี้ผมคงยอมให้กลับเองไม่ได้หรอกครับ อันตรายเกินไป “ไม่...ไม่เป็นไรครับ” เค้กปฏิเสธเสียงสั่น ไม่รู้ว่าสั่นเพราะกลัวผมหรือสั่นเพราะหนาวกันแน่ “ฝนตกนะ มองไม่เห็นทาง...ใช่ไหม” ผมถามอย่างระมัดระวังเพราะไม่อยากให้เขาตกใจ แต่ดูเหมือนจะไม่ช่วยเท่าไหร่ “คุณ!” เค้กเบิกตาโตตกใจ คงคิดไม่ถึงว่าผมจะรู้ “พี่ไว้ใจได้นะ บอกพี่สิว่าบ้านอยู่ไหน เดี๋ยวพี่ไปส่งนะครับ” ผมรีบบอก ไม่อยากให้เค้กกลัวผม ไม่รู้สิ ทั้งที่เพิ่งเจอกันแต่ผมอยากให้เค้กมีความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับผมมากกว่าจะกลัวผม “...” เขาเงียบ ผมเลยต้องถามอย่างอ่อนโยนอีกครั้ง “กลับบ้านกับพี่นะเค้ก” เค้กนิ่งคิดก่อนจะพยักหน้าเบาๆ “ครับ” Cake says: “ถึงหน้าห้องเค้กแล้ว ขอบคุณนะครับ” ผมหันหลังกลับไปขอบคุณพี่ทราฟที่มาส่ง และเอื้อมมือออกไปเพื่อรับโถปลาทองที่พี่เขาเอาไปถือให้กลับมาถือไว้เอง ผมเองก็ไม่รู้ว่าไว้ใจให้เขามาส่งได้ยังไง แต่ว่าผมเองก็ไม่มีทางเลือก มองไม่เห็นแบบนี้ผมจะกลับมาเองได้ยังไง “จะไม่ชวนพี่เข้าไปกินน้ำหรือหลบฝนในห้องเค้กก่อนเหรอ” ผมนิ่งไม่รู้จะตอบอะไร ผมรู้แค่ว่ามันไม่ปลอดภัยที่จะให้คนที่ไม่รู้จักเข้าไปในห้องผม ผมอยู่หอพักน่ะครับ เพราะผมตาบอดและมักโดนทำร้ายอยู่บ่อยๆ ผมเลยกลัวที่จะพูดคุยกับใคร แม้ว่าระหว่างทางที่คุยกันพี่ทราฟจะดูเป็นคนดี แต่ว่า...ผมก็ยังกลัว ผมไม่ควรไว้ใจคนง่ายเกินไปเพียงแค่เขาดีกับเรา ประสบการณ์แย่ๆที่เคยเกิดขึ้นสอนผมแบบนั้น “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ พี่ไม่เข้าก็ได้ อย่าเครียดนะครับ ไม่ต้องกลัวพี่ไม่ทำอะไรเราหรอก” “...” “ถ้าอย่างนั้น พี่กลับก่อนนะ” ผมยังยืนนิ่งค้างอยู่ที่เดิม เสียงรองเท้าที่เบาลงจนไม่ได้ยินในที่สุด บ่งบอกว่าพี่เขาเดินจากไปแล้ว แต่ผมกลับรู้สึกใจหายแปลกๆยังไงไม่รู้ “พี่ทราฟ!” ผมตะโกนเรียกชื่อพี่เขากลับไป ไม่รู้ว่าเรียกทำไม แต่เหมือนร่างกายผมมันสั่งให้ขยับปากเรียกชื่อคนที่เพิ่งเดินจากไปแบบไม่รู้ตัว “หืม มีอะไรเหรอครับเค้ก” เอ๊ะ! พี่ทราฟยังไม่กลับไปอีกเหรอ พอได้ยินเสียงพี่ทราฟอีกครั้ง ผมก็ฉีกยิ้มกว้างอย่างโล่งใจ “ถ้าไม่รังเกียจก็เข้าไปหลบฝนในห้องผมก่อนได้นะครับ” ผมพูดออกไปแล้ว ผมไม่มีทางรู้ได้เลยว่าพี่ทราฟจะเป็นคนดีมากแค่ไหน จะเหมือนคนอื่นที่ผมเคยเจอมาหรือเปล่า แต่ผมกลับรู้สึกอุ่นใจที่พี่เขาเดินกลับมาส่งผมที่หอ พอพี่เขาจะไปผมก็เลยรู้สึกใจหายแบบแปลกๆ คงไม่มีอะไร...ผมได้แต่ปลอบตัวเอง “หึหึ ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ” พี่ทราฟขำเบาๆ ผมยิ้มเขิน หันไปไขกุญแจห้อง ไออุ่นนิดๆจากข้างหลังทำให้ผมรู้ได้ว่าพี่ทราฟมายืนอยู่ข้างหลังผม ผมยิ้มให้ตัวเองก่อนจะเปิดประตูเดินเข้าห้องอย่างคุ้นชิน ก่อนจะเดินถือโหลปลาที่อยู่ในมือไปวางไว้บนโต๊ะข้างตู้เย็น “เค้ก” “ครับ” “ไม่เปิดไฟเหรอ แล้วทำไมปิดผ้าม่านซะขนาดนั้นล่ะ มืดแบบนี้อยู่ได้ยังไงน่ะเรา” “ต่อให้สว่างเค้กก็มองไม่เห็นอยู่ดีนั่นแหละครับ จะเปิดให้เปลืองไฟทำไม” “เอ่อ...เค้ก พี่ขอโทษ” “ไม่เป็นไรครับ เค้กชินแล้ว แต่ว่าพี่ควรจะเปิดไฟนะ พี่จะได้มองเห็น” ผมบอกแล้วก็เดินไปนั่งลงที่เตียง เสียงสวิตถ์ดังขึ้น พื้นที่ข้างๆผมบนเตียงยุบตัวลง ทำให้ผมพอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง “เค้กอายุเท่าไหร่แล้วครับ” “สิบเก้าจะยี่สิบแล้วครับ” “แล้วอยู่กับใคร” พี่ทราฟถามผมอีก “เค้ก...อยู่คนเดียวครับ” “อยู่คนเดียว!!! ทำไมล่ะ พ่อแม่เค้กไปไหนทำไมปล่อยให้เค้กมาอยู่ข้างนอกคนเดียวแบบนี้!!!” พี่ทราฟดูจะตกใจมากกับคำตอบของผม พี่เขาโวยวายใหญ่โต แต่ผมกลับรู้สึกดี “ก็อยู่คนเดียว แม่เค้กตายไปแล้ว ส่วนพ่อเค้ก...เขาไม่รักเค้ก” “ทำไมล่ะ” ผมไม่เข้าใจคำถามของพี่ทราฟสักเท่าไหร่ว่าถามถึงอะไร แต่ผมก็ตอบตามความเข้าใจของตัวเอง “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” นั่นสินะ ทำไมพ่อถึงไม่รักเค้กล่ะ เป็นคำถามที่ผมอยากถามมาตลอดแต่ไม่เคยได้พูดออกไป บางที คงเป็นเพราะผมรู้คำตอบดีอยู่แล้ว เลยไม่คิดจะถาม สัมผัสเบาๆที่ศีรษะ ผมหันไปยิ้มให้พี่กราฟที่ลูบหัวผมอยู่ ชอบจัง...ผมไม่ได้รับสัมผัสอ่อนโยนแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ ยิ่งคิดผมก็ยิ่งอยากร้องไห้ เพราะผมอ่อนแอ...ผมถึงต้องเจ็บอยู่เสมอ “เค้กร้องไห้ทำไมครับ” พี่ทราฟถามผมด้วยน้ำเสียงร้อนรน และพี่ทราฟก็ดึงผมเข้าไปกอด แค่นั้นผมก็ปล่อยโฮออกมา ผมไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนต้องทิ้งผม ทิ้งให้ผมอยู่คนเดียว...อยู่กับความมืด ผมกลัว กลัวมาก ใครจะช่วยผมได้ มีสักคนไหมที่รักผม ขอแค่คนเดียว คนเดียวเท่านั้นที่จะพาผมออกไปจากความมืดมิดนี้ ผมร้องไห้อยู่นานโดยมีพี่ทราฟคอยปลอบผมอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อผมมีสติครบตามเดิม ผมก็รู้สึกว่าตัวเองเปิดเผยความอ่อนแอให้คนที่ไม่รู้จักเห็นมากเกินไป ผมไม่ควรทำแบบนั้น ถ้าเกิดเขาคิดไม่ดีแล้วทำร้ายผมขึ้นมาผมจะทำยังไง ถึงแม้ว่าผมจะรู้สึกดีที่พี่ทราฟอยู่ข้างๆ แต่ผมก็กลัวว่าตัวเองจะถูกทำร้ายซ้ำอีก เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นกับผม มันสอนให้ผมรู้ว่าผมไม่ควรไว้ใจใคร ยิ่งมองไม่เห็นแบบนี้แล้วด้วย ผมก็ยิ่งไม่ควร หลังจากพี่ทราฟกลับไปเพราะผมบอกพี่เขาว่าผมอยากอยู่คนเดียว ผมก็หลับไปเพราะร้องไห้จนเหนื่อย ตื่นมาอีกทีก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น น่าแปลก...ใครมาหาผมแต่เช้าแบบนี้ ปกตินอกจากป้านวลแล้วก็บิ๊ก ก็ไม่มีใครขึ้นมาหาผมถึงห้อง หรือจะเคาะห้องผิด “ใครครับ” ผมตะโกนถาม ไม่กล้าเปิดประตูสุ่มสี่สุ่มห้า “พี่เองครับ พี่ทราฟ เค้กเปิดประตูให้พี่หน่อย” ผมชั่งใจว่าจะเปิดหรือไม่เปิดดีอยู่แวบหนึ่งก่อนจะตัดสินใจลุกจากเตียงเดินไปเปิดประตู “พี่ทราฟมีอะไรหรือครับ” ผมโผล่หัวออกพ้นกรอบประตูไปถาม “วันนี้ไปเที่ยวกันนะเค้ก”

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

ครั้งหนึ่ง...(Yaoi, boy story)

read
2.3K
bc

Papa is my Mom พ่อครับอย่าดื้อ (Mpreg)

read
1.1K
bc

บุปผากลางใจ จอมจักรพรรดิ

read
5.4K
bc

เกิดใหม่เป็นเมียคุณปราบ

read
1K
bc

แน่นะ...ว่ารักฉัน

read
1K
bc

โอกาสที่สองของนที

read
1K
bc

DONE FOR ME ได้โปรดยกโทษให้ผม

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook