บทที่ 4
แผนการต้อนรับของฮูหยินผู้เฒ่า
ข่าวการกลับมาทำให้ทั่วทั้งงานไม่ได้รื่นเริงมากนัก เเขกในงานต่างทยอยร่ำลารีบกลับจวนโดยไวเพื่อไปพูดคุยเรื่องใหญ่โตในวันพรุ่งนี้
เเม่ทัพใหญ่จะกลับเมืองหลวง...
ต่อหน้าล้วนพูดคุยสุภาพเป็นมิตรลับหลังต่างรู้เท่าทันเรื่องหลังบ้านไม่น้อย หากไม่โง่มากนักก็พอจะเดาเรื่องราวได้เป้นอย่างดี ตลอดเกือบสิบปีที่ฮูหยินของท่านเเม่ทัพหลานตายจากท่านเเม่ทัพใหญ่หลานต้องไปรบทัพจับศึกกับเผ่าซยงหนูกว่าสิบปีเเล้วไม่มีผู้ใดได้ยลโฉมของคุณหนูใหญ่เลยสักครั้ง เเรกเริ่มเมื่อก็มีชื่อคุณหนูใหญ่ในงานเลี้ยงน้ำชาคุณหนูฮูหยินขุนนางเล็กใหญ่ ประกอบกับฮูหยินของน้องชายท่านเเม่ทัพที่เป็นขุนนางสังกัดกรมโยธาขั้นหกนำบุตรสาวบุตรชายเขาร่วมงาน ด้วยหน้าตาที่โดดเด่นมีฐานะอำนาจมากจากท่านเเม่ทัพใหญ่ ชื่อของคุณหนูใหญ่หลานเสวี่ยจู ถูกเเทนที่ด้วยคุณหนูรองอิงฮวามาโดยตลอด
หลังจากเสร็จสิ้นงานเลี้ยงวันเกิดคุณหนูรองอิงฮวา
ในเรือนฮูหยินผู้เฒ่า
"ข้าไม่ยอม ข้าไม่ยอม...ท่านย่าต้องจัดการนังเด็กกาฝากนั่นให้หลานนะเจ้าค่ะ"อิงฮวาโวยวายไม่ยอมเลิกลา ด้วยไม่ยอมที่องค์ชายใหญ่เอาเเต่ถามหาเสวี่ยจูบ่อยครั้งช่างโง่งมสิ้นดี
"พวกเจ้าออกไปก่อน" ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยปากไล่บรรดาข้ารับใชที่อยู่รอบๆๆ เรือนให้จากไป เพราะเรื่องราวที่พูดคุยกันในที่นี้ผู้คนภายนอกมิควรไดรับรู้
"สงบสติเจ้าเสีย อิงฮวา"หนิงหลันเอ่ยปลอบประโลมบุตรสาวที่รักยิ่ง
"เจ้าตามใจนางจนเคยตัว ทีนี้จะเเก้อย่างไรหากพี่ใหญ่กลับมาเห็นบุตรสาวในสภาพไม่ต่างจากขอทาน เบี้ยเลี้ยงทรัพย์สินว่างเปล่าถูกพวกเราใช้ไปจนหมดเล่า"ตงเว่ยเอ่ยอย่างหงุดหงิดใจ
"ฆ่าเสวี่ยจูทิ้งเสียก่อสิ้นเรื่อง"ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยอย่างอำมหิต
"หากฆ่าเสวี่ยยจูทิ้ง พี่ใหญ่ต้องหาภรรยาใหม่เป็นเเน่ถึงตอนนั้นเบี้ยเลี้ยงรายปีของพี่ใหญ่ก็จะถูกภรรยาริบไว้จนหมด ครอบครัวของเราจะเอาเงินตำลึงที่ไหนใช้"ตงเว่ยเอ่ยอย่างร้อนรน
ใช่เเล้วตลอดเวลาที่ผ่านมาเบี้ยเลี้ยงของพี่ใหญ่คือรายได้ที่เขานำออกมาจับจ่ายใช้สอยในจวนอย่างสุขสบายมาหลายปี
เขาไปล่วงรู้ความลับของพี่ใหญ่เข้า ว่าได้รับปากกับพี่สะใภ้ก่อนเสียชีวิตว่ามิให้รับฮูหยินเพิ่มด้วยกลัวว่าจะฮูหยินคนใหม่จะมาเอารัดเอาเปรียบบุตรสาวของนาง
"ท่านพ่อว่าอย่างไรนะเจ้าค่ะ"อิงฮวาเอ่ยอย่างงงงวย เกี่ยวอะไรกับท่านลุงใหญ่รับภรรยากันเล่า
"ก็เงินตำลึงที่พวกเราใช้จ่ายทุกวันนี้เป็นเบี้ยเลี้ยงของลุงใหญ่อย่างไรเล่า"ตงเว่ยเอ่ยตอบบุตรสาวอย่างหงุดหงิดใจอีกครั้ง พูดถึงเพียงนี้เหตุใดยังโง่งมไม่รับรู้เหตุการณ์อีก
"เเล้วเบี้ยเลี้ยงท่านพ่อละเจ้าค่ะ"อิงฮวาเพิ่ง14หนาวยังมิเคยรับรู้เรื่องโสมมมาก่อน นางคิดเสมอมาว่าที่ใช้จ่ายเป็นบิดาหามาให้ตลอด
"ก็ขุนนางขั้น6ปีหนึ่งได้ไม่ถึงห้าร้อยตำลึงด้วยซ้ำ เพียงซื้อเครื่องประดับสองสามชิ้นก็หมดเเล้ว"หนิงหลันเอ่ยขึ้นอย่างประชดประชัน
ใครใช้ให้สามีของนางไม่เจริญในหน้าที่การงานเล่า
มีพี่ชายเป็นเเม่ทัพใหญ่เสียเปล่าน้องชายกลับไม่ได้เรื่องเป็นเพียงขุนนางขั้นหกช่างไม่ได้เรื่องเสียจริง มิรู้ว่าเเต่ก่อนนางใช้ตาข้างใดมองเขากันถึงได้ตกลงปลงใจเเต่งงานกับเขา
"ท่านเเม่ว่าอย่างไรนะเจ้าค่ะ.. ฮือ..ท่านโกหกใช่หรือไม่... หากลุงใหญ่กลับมาทวงเงินคืนข้าจะทำอย่างไร ข้าไม่คืนให้นะเจ้าค่ะ..."อิงฮวาเริ่มโวยวายอีกครา หากนางต้องใช้ชีวิตเยี้องพี่ใหญ่นางจะเอาหน้าไปไว้ที่ใดกัน นางขอตายเสียดีกว่า
"เงียบ ..เงียบให้หมด ข้ากำลังใช้ความคิด..."เสียงเเหบพร่าดังขึ้นอีกครั้งท่ามกลางเสียงโวยวายของอิงฮวา เเต่กลับได้ผลชะงักงันทั้งสามต่างเงียบสงบลงไม่มีการโต้เถียงอันใดต่อ
ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าเคร่งเครียดพลางนึกหนทางเเก้ไขในเรื่องนี้ หากฆ่าเสวี่ยจูนั้นช่างง่ายดายยิ่ง เเต่ทุกอย่างต้องมีเเผนการที่ครอบคลุมเเละไม่สาวมาถึงตัวนางเสียก่อน
"ตงเว่ย เจ้าพอจะรู้จักคนมีฝือในยุทธภพบ้างหรือไม่..."
"พอรู้จักบ้างขอรับ ท่านเเม่คิดทำสิ่งใดขอรับ"
"ต้องหาคนใช้พิษ ฆ่าเจ้าใหญ่เสียก่อนที่จะมาถึงเมืองหลวง เเล้วค่อยส่งบุตรสาวเจ้าใหญ่ตามไป เพียงเท่านี้ทั้งทรัพย์สินเงินทองลาภยศก็ตกที่เจ้า เข้าใจหรือไม่"ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยเสียงเหี้ยม
"ลูกเข้าใจเเล้วขอรับ"ตงเว่ยขายรับอย่าเจ้าเล่ห์ เเผนการนี้ช่างยอดเยี่ยม
ทางด้านหนิงหลันเเละอิงฮวาเงียบลงครุ่นคิด ถึงกับต้องฆ่าเเกงบุตรชายคนโตเพื่อผลประโยชน์เเละทรัพย์สินเงินทอง ฮูหยินผู้เฒ่าช่างอำมหิตนัก
________________________________________________
มุมมืดมุมสวนของงานจัดเลี้ยงวันเกิดคุณหนูรองตระกูลหลาน
ร่างบางในชุดสีซีดเเอบอยู่พุ่มไม้ไม่ไกลจากงานเลี้ยงมากนัก ยกยิ้มยินดี
ย้อนกลับไป
หลังจากที่นางเเม่นมเข้าเรือนตนเองโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นนั้นสำเร็จ จูจูเห็นเเม่นมของตนหลับไปเเล้วเพราะความเหนื่อยอ่อน นางจึงเเอบย่องออกมาจาเรือนเพื่อสำรวจเส้นทางหลีกหนีทีไล่ภายในจวนตระกูลหลาน ท่ามกลางความมืดมิดได้ยินเสียงดนตรีล่องลอยพร้อมเเสงสว่างไสวจากการจุดโคมมากมายละลานตา นั่นคงเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงงานวันเกิดของน้องรองสินะ
หากมีงานเลี้ยงก็ต้องมีอาหารโอชาต้องไปดูเสียหน่อยเเล้ว....
พอมาถึงเเบบลับๆๆ ล่อๆๆ
นางก็ซ่อนอยู่ตรงพุ่มไม้ที่พอได้ยินเสียงพูดคุยของคนในงาน
เห็นบุรุษผู้หนึ่งเดินเข้ามา เหล่าขุนนางฮูหยินเเละคุณหนูคุณชายทั้งหลายต่างให้ความเคารพนอบน้อม
นั่นคงเป็นเชื้อพระวงศ์สินะ
อืม..นางว่าบุรุษผู้นั้นช่างคุ้นตายิ่งนัก เเต่จำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหน
คงเป็นคนที่เดินผ่านกันในตลาดหรือเปล่า...
นางไม่มั่นใจ...
ร่างบางคิดอย่างเหม่อลอย
เเต่ยังทันได้ยินบุรุษผู้นั้นถามถึงคุณหนูใหญ่หลาน
อืม...เป็นนางใช่หรือไม่
ดูท่าทางน้องรองจะชื่นชอบบุรุษเชื้อพระวงศ์ผู้นี้ยิ่ง
เเย่งดีไหมนะ...จะได้ช้ำในตายเสีย
ความคิดฟุ้งซ่านกระเจิดกระเจิงยกยิ้ม
เเล้วคำๆๆ หนึ่งก็ล่องลอยมา
อีก10ราตรีท่านเเม่ทัพใหญ่จะกลับมาหลังจากชนะศึก....
บิดาจะกลับมาไม่เกินสิบราตรี...
โอ้ว...บิดาท่านช่างกลับมาได้ถูกเวลายิ่งบุตรสาวคนนี้อดใจรอไม่ไหวเเล้ว....
เรือนฮูหยินผู้เฒ่า
หลังจากบุตรชายคนรองลูกสะใภ้เเละหลานสาวจากไปเเล้ว ร่างชราที่เริ่มเหี่ยวย่นเเม้จะประทินผิวอย่างดีเเล้วก็ตาม กลับไม่สามารถยื้อยุดกับความสาวที่เริ่มโรยราไปทุกวี่วัน ใบหน้าที่เคยงดงามเป็นอดีตยอดพลูเมืองหลวงผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานเริ่มเหี่ยวย่นเพิ่มรอยขึ้นรอยเเล้วรอยเ
ล่า หวนคิดเรื่องราวนับ30กว่าปีก่อน
นางเเต่งเข้าจวนตระกูลหลานท่ามกลางความอิจฉาริษยาของสตรีทั่วเมืองหลวง สามีของนางนายท่านหลานซ่งอี้เป็นบุรุษรูปงามกุมตำเเหน่งเเม่ทัพทิศประจิมองอาจกล้าญเเละสัญญากับนางว่าจะมีเพียงนางผู้เดียวจะไม่รับผู้ใด เป็นภริยาอีกปีเเล้วปีเล่าที่อยู่ร่วมกันสามีของนางปฎิบัติต่อนางดียิ่งเเม้จะไปกลับชายเเดนกว่า100ลี้เพื่อพักปีละ3เดือนเท่านั้น เพื่อที่จะได้อยู่กับนางนานนับหลายปีนางยังมิมีข่าวดีเรื่องทายาทเลยสักครั้ง
ปัญหานี้ทำให้มารดาของสามีในตอนนั้นตัดสินใจให้ซงอี้รับอนุเพื่อผลิตทายาทเเล้วเรื่องราวเจ็บช้ำนี้ก็เกิดขึ้น อนุผู้นั้นเป็นญาติห่างๆๆ มารดาของซ่งอี้ทำให้นางเจ็บช้ำนักคิดจะยัดเยียดหลานสาวให้บุตรชายหรือ
นางทำด้เพียงยื้อให้สามีอยู่ข้าง เเสร้งเสียใจอยู่หลายวันซึ่งซงอี้ตามใจนางเเละอยู่กับนางเสมอ
เเต่เเล้ว...
เหมือนสวรรค์กลั่นเเกล้ง...
อนุผู้นั้นมาอยู่ในจวนตระกูลหลานได้เพียงเดือนเดียวกลับตั้งท้อง ทั่วทั้งจวนต่างตื่นเต้นยินดีที่กับทายาทในครานี้
เหมือนลากนางไปตบหน้ากลางตลาดใหญ่...
ไม่มีความสามารถ...เห็นเเก่ตัวไม่ให้รับอนุ...
ช่างโง่งม..
ตลอดมาซงอี้ทำดีกับนางมาตลอด เเต่พอรู้ว่าอนุญาติห่างๆๆ ของตนตั้งท้องจากการเข้าหอเพียง2ครั้ง สายตาของซงอี้สามีเริ่มเปลี่ยนไป
เขาเพียงเเวะมาหานางในบางวัน เริ่มคลุกอยู่เรือนอนุผู้ตั้งครรภ์เเรกของตระกูลหลาน
โอสถราคาเเพงลิ่วอาภรณ์เครื่องประดับงดงามเป็นเอกถูกส่งไปเรือนอนุผู้นั้นบ่อยครั้งจนละลานตา
นางทำได้เพียงเก็บตัวเงียบๆๆ ไม่ออกมาพบผู้ใด
วาจาหยามเหยียดจากมารดาของสามีกลับกระทบกระเทียบทุกวี่วันทำให้นางเครียดเเค้นเจ็บช้ำน้ำใจอยากเกินบรรยายให้ผู้ใดได้รู้
เเล้วไงเล่า...
ข้ากำหนดได้หรือว่าจะมีบุตรได้หรือไม่...
ไม่ว่ายาบำรุงร่างกายเพื่อมีทายาทขนานใดทั่วเมืองหลวงนางล้วนเคยลิ้มรสเเละดื่มกิน...
ศาลเจ้าวัดวาอารามทุกเเห่งหนล้วนไปขอพรเพื่อให้มีบุตรชายกับที่นางรัก...
เหมือนสวรรค์คงไม่เห็นใจนางสักนิด...
วันเวลาผ่านไปเชื่องช้าในฐานะฮูหยินเอกของเเม่ทัพตระกูลหลานทำให้นางชาชิน เเม้เจ็บช้ำขวางหูขวางตาเพียงไดได้เพียงเเต่กดข่มวางตัวเรียบเฉย
เเล้ววันหนึ่งโอกาสก็มาถึง
ซงอี้รับราชโองการไปชายเเดนด่วน อนุผู้นั้นอายุครรภ์เกิน9เดือนเเล้วยังไม่เจ็บท้องคลอด นางรอโอกาสนี้มานานใช่ให้นางคลอดบุตรชายได้ข้าอนุญาติเเต่เจ้ามิควรมีชีวิตอยู่จงตายไปเสีย
ใช่เเล้ว...
หลังจากอนุผู้นั้นคลอดเด็กชายออกมา นางจึงวางยาพิษให้อนุผู้นั้นตกเลือดจนตายโดยไม่มีผู้ใดสงสัย ซงอี้เมื่อรู้ข่าวกลับมาทันเพียงฝังศพเท่านั้น ท่ามกลางความเสียใจของคนตระกูลหลานนางกลับสะใจยิ่ง
หลังจากนั้นนะหรือนางเริ่มดูเเลเด็กชายผู้ได้ชื่อเป็นคุณชายใหญ่ตามมีตามเกิด นางเพียงจ้างเเม่นมชาวบ้านมาคอยดูเเล พอซงอี้สามีกลับมาก็คอยมาเเวะเวียนดูเเลอย่างดีสายตาของซงอี้ก็เปลี่ยนกลับมาเหมือนเดิมดูรักเเละดูเเลนางอย่างดีเหมือนเดิม พอซงอี้กลับไปชายเเดนก็ไม่สนใจคุณชายใหญ่ดีอีก
เป็นเเบบนี้กว่า6 ปี..
ใช่6ปี..เเล้วข่าวดีก็เกิดขึ้น
นางตั้งท้องทั้งที่ถอดใจไปนานเเล้ว...
จากนั้นปีเเล้วปีเล่าเจ้ารองถูกดูเเลเป็นอย่างดีโดยนางจนเติบใหญ่
เเละคงไม่ต้องบอกว่าลูกอนุผู้นั้นถูกเลี้ยงดูไม่ต่างคนใช้ผู้หนึ่ง
เเต่เเล้ว...
เหมือนสวรรค์กลั่นเเกล้งอีกครั้ง...
ในปีนั้น
ซงอี้สามีนางเป็นเเนวหน้ากองทัพถูกเผ่าซยงหนูฆ่าตายในสนามรบ
ฮองเต้พระราชทานทรัพย์สินมากมายเพื่อปลอบขวัญ โปรดเกล้าฯเรียกคุณชายใหญ่เเละคุณชายรองเข้าเฝ้า ตอนนั้นเจ้าใหญ่อายุเพียง16ปีอาสาเข้ากองทัพของบิดาเพื่อเเก้เเค้นเเทนบิดา...
หึ...ช่างอวดดี
หากตายในสนามรบจะดียิ่ง
วันเวลาผันผ่านไปอีกเเปดปี
ตงเว่ยคุณชายรองตระกูลหนานเติบใหญ่สอบเข้ารับราชการสังกัดโยธาขั้นหกอนาคตรุ่งเรืองสดใส นางดีใจยิ่ง
เเต่เเล้ว...
ยังมิทันพ้นเดือนเจ้าใหญ่กลับมาจากชายเเดนพร้อมตำเเหน่งเเม่ทัพใหญ่ยิ่งใหญ่ก้าวหน้ากว่าซงอี้ผู้เป็นบิดา เเละน้องชายมักนัก ยิ่งคิดเชื้อไม่ทิ้งเเถวเสียจริงจะเเก่งเเย่งชิงดีชิงเด่นน้องชายตัวเองได้เด่นดังนัก
เจ้าใหญ่กลับมาพร้อมภรรยาที่ตั้งท้องใกล้คลอดเเล้ว...
ช่างไม่เห็นหัวนางผู้เป็นมารดาฮูหยินเอกเลยสักนิด...
เเต่ก็ดียิ่ง..เสี้ยนที่ตำใจมานานต้องกำจัดทิ้งเสียที...
เเรกเริ่มนางคอยดีต่อสะใภ้ใหญ่ตลอด หลังจากนางคลอดทารกเพศหญิงเเล้ว เจ้าใหญ่ก็ไปกลับชายเเดนทุกๆๆ ปีเเละวางใจให้นางดูเเลภรรยาเเละบุตรสาวตัวน้อย
หึ...แผนการที่ยาวนานเริ่มผลิดอกออกผล นางวางยาสะใภ้จนตายเเสร้งบอกเจ้าใหญ่ว่าเพราะคลอดบุตรสาวจึงทำให้ร่างกายอ่อนเเอมาตลอด
เจ้าใหญ่เสียใจมาก จากนั้นจึงฝากบุตรสาวเอาไว้เเละให้นางรับเบี้ยเลี้ยงรายปีตำเเหน่งของเขาเพื่อเลี้ยงดูเเล้วไม่กลับมาอีกเลยตลอดเกือบสิบปี
มันกลับมาทำไม ...ทำไมไม่ตายไปเสียในสนามรบเล่า...
_________________________________________