บทที่ 6 พ่อลูกพบหน้า...

2315 Words
บทที่6 พ่อลูกพบหน้า..... ปั้ง!!!!! เสียงตบโต๊ะดังสนั่น ข้าวปลาอาหารระเนระนาด จินหลี่ตกตะลึง พลางสบถในใจ 'ฉิบหายเเล้ว.....' "กลับจวนเดี๋ยวนี้.."ใบหน้าของหมิงเทียนเปลี่ยนเป็นเเดงคล้ำ ไอสังหารฆ่าฟันพวยพุ่งรอบทิศทางพร้อมฆ่าฟัน เดินจ้ำอ้าวลงบันไดเพื่อออกจากโรงเตี๊ยม จินหลี่รีบวางก้อนตำลึงทองสามก่อนเพื่อเป็นค่าเสียหายเเละค่าอาหาร เหล่าทหารผู้ติดตามรีบลุกฮือแม้เสียดายอาหารเลิศรสที่มิได้กินนานแล้ว แต่ความจงรักภักดีมีมากล้นกว่าสิ่งอื่นใด พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ก็ยังมิสาย... "หมิงเทียนหยุดก่อน..."จินหลี่เอ่ยขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ตามสหายสนิทพ่วงด้วยตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ทันตรงหน้าโรงเตี๊ยม "ข้าจะกลับจวน..หากเรื่องที่ลือกันเป็นเรื่องจริง..ดาบข้าต้องได้ชิมเลือดคน..." หมิงเทียนเอ่ยเสียงเหี้ยม บุตรสาวของเขา..บุตรสาวเเม่ทัพใหญ่เชียวนะ.. หากไปตรากตำทำศึกเพื่อปกป้องบ้านเมือง แต่มิอาจปกป้องบุตรสาวเพียงคนเดียวได้... เขามันโง่ยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน... "ดูนั่นก่อน นั่นใช่คุณชายรองตงเว่ยใช่หรือไม่"จินหลี่ชี้ไปทางบุรุษที่กำลังยื้อยุดฉุดกระชากเด็กสาวผู้หนึ่งกับคนรับใช้คุ้นตาที่ไม่เจอกันหลายปี หึ.... อีกด้านหนึ่งจูจูและแม่นมจื่อเดินออกมาจากโรงรับจำนำชื่อดังของเมืองหลวงก็ชนเข้ากับบุรุษผู้หนึ่งโดยบังเอิญ "ต้องขอโทษด้วย..."จูจูเอ่ยขึ้นด้วยความไม่ตั้งใจ "โอ้ว..เจ้าเป็นบุตรสาวบ้านใด ข้าถูกใจเจ้ายิ่งนักแต่งเป็นอนุของข้าดีหรือไม่" ตงเว่ยเอ่ยวาจาอาจหาญ สตรีวัยไม่ถึงวัยปักปิ่นผู้นี้เขาถูกใจยิ่งนัก แม้จะผอมบางไปบ้างเสื้อผ้าอาภรณ์ซีดจางคงเป็นชนชั้นสามัญที่มีเพียงข้าวสารกรอกหม้อ หากแต่นางมีใบหน้างดงามเช่นนี้เขาพึงใจยิ่ง หากได้นอนกอดเสพสมทุกค่ำคืนคงมีความสุขยิ่ง "ปล่อยข้านะ"จูจูเอ่ยเสียงดังผู้คนบริเวณหน้าโรงรับจำนำเริ่มมุงดู ด้านพนักงานต้อนรับที่เห็นว่าคุณหนูหลานแขกคนสำคัญของนายท่านเกิดเรื่องก็รีบไปรายงานให้ผู้เป็นนายเป็นการด่วน "นายท่านรองไม่นะเจ้าค่ะ"แม่นมจื่อกระวนกระวายเอ่ยขึ้น พลางไปเข้าช่วยคุณหนูของตนที่ถูกจบเเขนไว้ไม่ยอมปล่อย "นี่..." "เจ้ากำลังทำอะไรอยู่หรือน้องรอง"ด้วยหมิงเทียนอารมณ์ไม่ดีเรื่องข่าวลือของบุตรสาว เเละเห็นท่าทางของน้องชายต่างมารดาไม่ได้เรื่องของตนก็อดหงุดหงิดไม่ได้ เสียงที่เปล่งออกมามีรังสีฆ่าฟันถึงเเปดส่วน "พี่...พี่....พี่ใหญ่" ตงเว่ยใบหน้าขาวซีด กว่าจะค้นหาเสียงตนเองเจอ ไหนว่าอีก10ราตรีจะมาถึง... เเล้วบุรุษสูงใหญ่ตรงหน้านี่ใครกันเล่า... แย่แล้ว....แย่แล้วจริงๆสุราที่ดื่มไปหลายไหบัดนี้มิอาจบดบังสติปัญญาได้ จะทำอย่างไรต่อดี..ต้องรีบกลับจวนไปหามารดาเป็นการด่วน... "ใช่ข้าคือพี่ใหญ่ของเจ้า ไหนลองพูดมาว่าเจ้ากระทำสิ่งใดอยู่" มองมือของน้องชายที่จับเเขนสตรีร่างเล็ก ใบหน้าช่างคุ้นเคยยิ่ง... "นายท่าน นายท่านใหญ่ฮือๆๆๆๆๆ ช่วยคุณหนู ช่วยบุตรสาวของนายท่านด้วยเจ้าค่ะ" แม่นมจื่อร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด "แม่นมจื่อ..." หมิงเทียนเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก เมื่อมองสตรีที่เลี้ยงดูบุตรสาวอายุน้อยกว่าเขายิ่งนัก บัดนี้มีผมสีดอกเลาเเซมดำร่างกายผอมบางสวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบอย่างตื่นตะลึง เพียงเเค่คิดความโกรธก็พวยพุ่งไปทั่วร่าง คุณหนูหรือ... บุตรสาวของเขาหรือ.... มองร่างบางผิวขาวราวหิมะ ในชุดอาภรณ์สีซีดปะชุนหลายที่ ใบหน้ากลับงดงามเเววตากระจ่างใสเหมือนคนรักของเขาถึงเเปดส่วน... ด้านตงเว่ยในใจตะโกนร้อง 'เเย่เเล้ว' พลั่ก!!พลัก!!!พลัก!!พลัก!!!!!!!!! หมัดดุ้นๆๆกระทบใบหน้าตงเว่ยยิ่งกว่าความเร็วเเสง เพียงสองหมัดร่างขุนนางขั้นหกลงไปกองกับพื้นพร้อมลูกเตะอีกหลายครั้ง จนตงเว่ยกระอึกเลือดออกมา เขาลืมไปแล้วว่าพกดาบอยู่ มันน่าปั่นคอให้ขาดเสีย..... จินหลี่ต้องเข้าไปดึงร่างสหายสนิทออก ร่างหนาหายใจฟึดฟัดไม่พอใจอยู่นานจึงค่อยๆสงบลง " พอๆๆเดี๋ยวตายเสียก่อน..." ไม่ต้องเล่าเรื่องก็พอจะรู้... ปล่อยบุตรสาวให้ฮูหยินผู้เฒ่าเลี้ยงดู อาแท้ๆๆยังไม่รู้จักหน้า เกือบได้เป็นอนุของอาแท้ๆๆเสียแล้ว เลี้ยงดูดียิ่งเสื้อผ้าอาภรณ์ทั้งหยาบหนาและมีรอยเย็บปะชุนไปทั่ว สาวใช้จวนอื่นยังดูดีกว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลหลานเสียอีกมองบุตรสาวของสหายสนิทชะตาอาภัพ เขาเองส่ายหน้าช้าๆ... จวนตระกลูหลานคงยากจนสินะ แล้วเบี้ยเลี้ยงตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ขั้นหนึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมาเล่าหายไปที่ใด ชาวบ้านต่างอดอนาถใจสงสารร่างบางไม่น้อย ข่าวลือล้วนเป็นความจริงท่านแม่ทัพใหญ่กลับมาแล้ว ด้านจูจูก็ตกตะลึงเช่นกัน ร่างกายของนางยืนแข็งทื่อด้วยมิได้เตรียมใจว่าจะพบเจอบิดาของเจ้าของร่าง น้ำตาค่อยๆๆไหลช้า ความรู้สึกเศร้าใจ น้อยใจถาโถม คงเป็นความรู้สึกของเจ้าของร่างเดิมสินะ "ท่านพ่อเจ้าค่ะ..." "จูจู...พ่อขอโทษ พ่อขอโทษจริงๆๆ"ความรู้สึกผิดถาโถมกระหน่ำ ดวงตาเเดงก่ำเมื่อมองบุตรสาวที่รักยิ่ง เขาโอบกอดนางไว้เเน่น เป็นเขาที่ละเลยนาง มองศีรษะบุตรสาวที่ไร้เครื่องประดับงดงามมีเพียงผ้าเก่าๆๆผูกผมสีดำสนิท มองผิวพรรณขาวบางที่เพียงห่อหุ้มร่างกายไร้กายดูเเลใจใส่ มองอาภรณ์หยาบกระด้างเต็มไปด้วยรอยปะชุนที่สวมใส่ยิ่งชอกช้ำ 'เมื่อมิเคยดูดำดูดีบุตรสาวเขาเช่นนี้ก็อย่าว่าเขาใจดำอำมหิต' "ลากคอมันมาด้วย ไปชำระความจวนตระกูลหลาน"เสียงแม่ทัพใหญ่ผู้เป็นขุนศึกคู่บ้านคู่เมืองเอ่ยดังลั่น ชาวบ้านที่มามุงดูต่างติดตามไป ด้วยอยาเห็นว่าท่านแม่ทัพใหญ่จะจัดการเช่นไรต่อ กงจวิ้นยืนเหตุการณ์ดูอยู่ที่ระเบียงชั้นสอง พรุ่งนี้คงมีข่าวลือมากมายเล่าลือไปอีกนานสินะ... หากเขาจะช่วยกระจายข่าวคงได้รับคำชมไม่น้อย.... อืม'ดียิ่งจากนี้ไปนางคงจะมีเเต่ความสุข' หน้าจวนตระกูลหลาน "เรียกทุกคนในตระกูลหลานให้ออกมาหน้าจวนทั้งหมด"เสียงตวาดดังลั่นของหมิงเทียน เหล่าข้ารับใช้ในจวนต่างตกใจยิ่งรีบลนลานออกมาหน้ารวมถึงพ่อบ้านฮุ่ย พ่อบ้านที่ดูเเลความเป็นไปของจวนตระกูลหลาน เสียงนี้ดังไปถึงห้องโถงที่ฮูหยินผู้เฒ่า เเละสะใภ้รองคนโปรดกำลังรับรองเเขกสตรีสูงศักดิ์ตระกูลอื่นอยู่ "ใครกันช่างบังอาจ ไม่เห็นจวนตระกูลหลานอยู่ในสายตา" ฮูหยินหรงเอ่ยขึ้นขณะจิบถ้วยชาเล็กน้อยอย่างหยามเหยียดในใจ ใบหน้าฮูหยินผู้เฒ่าเเข็งค้างสีเข้มขึ้นอย่างโกรธเคือง "สะใภ้รองพาข้าออกไปดูเสียหน่อย ว่าใครกล้าบังอาจหยามเกียรติจวนเเม่ทัพใหญ่หลานกัน"ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยอย่างโทสะมากล้น "เจ้าค่ะ"หนิงหลันตอบรับ นางเองก็อยากรู้เช่นกันว่าใครช่างกล้าเหิมเกริมเกียรติตระกูลหลานเช่นนี้ "เช่นนั้น ข้าคงต้องขอตัวก่อนขอบคุณฮูหยินผู้เฒ่าที่เชิญมาชมดอกไม้" ฮูหยินหรงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจที่จริงนางไม่อยากมาสักนิด เเต่ด้วยสามีของนางต้องการให้มาดูตัวว่าที่ลูกสะใภ้ เเละมีเทียบเชิญส่งมาที่จวนเพื่อชมดอกไม้นางขัดสามีมิได้ ฮูหยินผู้เฒ่า สะใภ้รองหนิงเเละอิงฮวารีบออกมมาหน้าจวนอย่างโกรธเกรี้ยว "ใครกันถึงกล้ามาบังอาจโวยวายหน้าจวนเเม่ทัพใหญ่เล่า คนคุ้มกันไปไหนเสีย"เสียงเเหบชราเริ่มตวาดลั่นทั้งที่ตัวยังมาไม่ถึง เเสดงถึงความไม่พอใจมาล้น "ข้าจะบังอาจ เเละวันนี้ต้องคุยให้รู้เรื่อง" หมิงเทียนเองก็เอ่ยดังลั่นเช่นกัน ตลอดมาเขาเป็นคนโผงผางซื่อตรงมาตลอด มองฮูหยินผู้เฒ่าที่ถูกประคองออกมาอย่างทะนุถนอมเสื้อผ้าอาภรณ์วาวระยับดั่งตู้เครื่องประดับเคลื่อนที่ มองเด็กสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกับจูจูที่สวมเสื้อผ้าเครื่องประดับหรูหราเต็มศีรษะแล้วโทสะสูงลิ่ว มองสาวใช้ของหลานสาวยังสวมอาภรณ์งดงามกว่าบุตรีของเขาแล้วแทบคลั่ง "เจ้า...เจ้า..ใหญ่"ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยเสียงขาดๆๆหายๆๆ ด้วยความตื่นกลัว "พี่..เขย" สะใภ้รองหนิงหวาดกลัวจนตัวสั่น "ท่านลุงหรือ...ท่านลุงใหญ่กลับมาทวงคืนของของข้าเเล้ว ข้าไม่ยอมนะท่านย่า ท่านแม่ท่านต้องช่วยข้านะเจ้าค่ะ "อิงฮวาด้วยความยังเป็นเด็กเพียงรับรู้การมาของญาติผู้เป็นลุงก็เริ่มโวยวายขาดสติกระสับกระส่ายเป็นลมล้มลงโดยมีสาวใช้ข้างกายคอยช่วยเหลือไว้ หนิงหลันเสมองไปทางอื่นไม่กล้าสบตาผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่เขย เหลือบมองเห็นคนคุ้นเคยผู้หนึ่ง "กรี๊ด ท่านพี่..ท่านพี่ตงเว่ยเป็นอะไรไปเจ้าค่ะท่านแม่รีบตามหมอเร็วเข้าเจ้าค่ะ"สะใภ้หนิงตะโกนลั่นเมื่อเห็นสภาพของสามี รีบวิ่งไปประคองสามีที่บัดนี้ใบหน้าปูดบวมดั่งหัวหมู ถูกลากไถมาตลอดทางคลุกฝุ่นยังมิฟื้นคืนสติยิ่งเจ็บปวดน้ำตาไหลพราก "เจ้า..ใหญ่เจ้า...ทำอะไรบุตรชายข้า" ฮูหยินผู้เฒ่าตวาดเสียงดังลั่นอย่างโกรธเคืองขาดสติ ความหวาดกลัวในตอนเเรกมลายหายไปสิ้น "ทำอะไรหรือ มันจะเอาบุตรสาวข้าไปเป็นอนุ ข้าจึงตีมันแล้วท่านเล่าเลี้ยงดูบุตรสาวข้าอย่างไรจึงมีสภาพไม่ต่างจากขอทาน ท่านเองก็สุขสบายดีไม่ใช่หรือ ขนาดสาวใช้ในจวนยังสวมเสื้อผ้างดงามกว่าบุตรสาวข้า นี่มันเรื่องบ้าบออันใดกัน"หมิงเทียนตะโกนลั่นไอสังหารพร้อมฆ่าฟันแผ่ออกมาจนผู้คนโดยรอบหายาใจอึดอัด ใบหน้าฮูหยินผู้เฒ่าขาวซีดดั่งไก่ต้ม ด้านสะใภ้รองชะงักค้าง อนุเต็มจวนยังคิดจะรับเพิ่ม ปล่อยร่างหนาให้นอนคุยกับดินดังเดิม ตายเสียได้ก่อดี..ตัณหามากนัก... "เจ้าเข้าไปคุยกับแม่ข้างในเถิด เรื่องนี้แม่อธิบายได้"สตรีเฒ่าเอ่ยเสียงเบาขึ้นเมื่อมองไปรอบๆต่างมีชาวบ้านมามุงดูเหตุการณ์มากมายนัก " ข้าจะคุยที่นี่ให้รู้เรื่องวันนี้ ตลอดมาข้านึกว่าท่านจะดีกับนางสักเล็กน้อย จะอย่างไรนางคือเลือดเนื้อเชื้อไขตระกูลหลานเบี้ยเลี้ยงตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ข้าล้วนยกให้ท่านจัดการทั้งหมด มิคิด...มิคิดเลยว่าท่านจะไร้การเหลียวแลหลานสาวถึงเพียงนี้"หมิงเทียนเอ่ยอย่างมีโทสะ ยากที่จะระงับยับยั้งไว้ได้ "เจ้ามันอกตัญญู เพียงเบี้ยเลี้ยงตำแหน่งแม่ทัพกลับลำเลิกบุญคุณที่ข้าเลี้ยงเจ้าจนเติบใหญ่บัดนี้กลับมาถึงเมืองหลวงไม่เพียงแต่ไม่คาราวะผู้อาวุโส กลับต่อว่าผู้อาวุโสทำร้ายน้องชายจนสาหัสถึงเพียงนี้"ฮูหยินผู้เฒ่าตะหวาดเสียงดังอีกครั้งไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรมด้วยความโมโห ขายหน้าตระกูลหลานยิ่งนัก ..มันน่าโมโหจริงๆๆ "ท่านพ่อ ลูกหวาดกลัวพวกเขายิ่งเจ้าค่ะ พวกเขาเอาสินเดิมของท่านแม่ไปหมดอีกทั้งไม่มีเงินเดือนให้ลูกแม้แต่อีแปะเดียวบอกว่าค่าใช้จ่ายในจวนมากมายนักเบี้ยเลี้ยงตำแหน่งของท่านพ่อไม่พอใช้จ่ายในจวนเจ้าค่ะ"ร่างบางในอ้อมกอดของบิดาเอ่ยเสียงเบาแต่ได้ยินจนทั่ว ใบหน้างามก้มลงยกยิ้มเจ้าเล่ห์โดยไม่มีผู้ใดมองเห็น ชาวบ้านต่างฮือฮา เงินเดือนแม่ทัพใหญ่ขุนนางขั้นหนึ่งมิใช่น้อยๆๆๆ ขนาดลูกสาวชาวบ้านธรรมดายังอาภรณ์สวมใสดีกว่าบุตรสาวท่านแม่ทัพ เรื่องราวเช่นนี้คนโง่เท่านั้นที่เชื่อคำพูดฮูหยินผู้เฒ่าผู้กลับกรอก "โอ้ว ..เบี้ยเลี้ยงรายปีท่านแม่ทัพใหญ่สี่หมื่นตำลึงทองนี่ไม่พอเลี้ยงคุณหนูผู้หนึ่งให้อยู่ดีกินดีเช่นนั้นหรือ ตระกูลหลานช่างทำให้เปิ่นหวางเปิดหูเปิดตายิ่งนัก"ชายสวมอาภรณ์ลายกิ่งไผ่สีขาวสะอาดตาเดินเข้ามากลางวงหน้าจวนตระกูลหลางอย่างสง่าผ่าเผย "ถวายพระพรองค์ชายใหญ่พะยะค่ะ/เพคะ"เหล่าผู้ร่วมมุงดูต่างทำความเคารพบุรุษร่างสูงศักดิ์อย่างนอบน้อม "ตามสบายไม่ต้องมาพิธี เราเพียงผ่านมาทางนี้โดยบังเอิญเท่านั้นไม่คิดว่าจะเจอเรื่องราวที่น่าตกใจถึงเพียงนี้" "องค์ชายใหญ่ กระหม่อม...."หมิงเทียนเอ่ยขึ้นอย่างละอาย แม้ตนเองไม่อยากทำให้เรื่องใหญ่โต แต่เพราะความโกรธจึงทำให้ขาดสติโวยวายเช่นนี้ "เปิ่นหวางขอยื่นมือตัดสินเรื่องราวดีหรือไม่"องค์ชายใหญ่เอ่ยอย่างขึ้น ตรงหน้าคือเสาหลักของแคว้นจากเมืองหลวงไปไกลหลายปี หากบุตรสาวไม่ได้รับความยุติธรรมกับเขา มิเเคล้วคงเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในราชสำนัก แม่ทัพใหญ่คู่แคว้น มิใช่ว่าใครก็สามารถเป็นได้ "เป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งแล้วพะยะค่ะ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD