ตอนที่ 9 หยอกเย้านาง

1803 Words
หลังจากกลับมาจากวังหลวง เหยียนเชี่ยหลงก็ตรงดิ่งไปหาฟ่านเหยาเหยาทันที เสมือนว่า หากช้ากว่านี้กลัวว่านางจะหายไปอย่างไรอย่างนั้น สำหรับเขาตอนนี้แล้ว จะทำอะไรโลกก็เป็นสีชมพู คนกำลังมีความรัก ทำอะไรก็มีความสุขไปหมด เป็นผลพลอยได้ให้บ่าวไพร่ในจวนต่างก็มีความสุขไปด้วย แตกต่างกับตอนที่เจ้านายทั้งสองทะเลาะกันยิ่งนัก แค่หายใจแรงๆ พวกเขาก็ยังผิด "ฮ่องเต้เรียกตัวท่านเข้าวังไปพบด่วน มีเรื่องอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ" เขายิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับนางและดึงนางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอย่างหวงเเหน "ไม่มีอะไรหรอกที่พระองค์เรียกพี่เข้าวัง" เข้าเว้นช่องเพื่อเฝ้ามองท่าทีของนางก่อนที่จะพูดต่อ "พระองค์มีพระประสงค์ต้องการที่จะให้พี่รับฮูหยินรองเข้าตำหนักเท่านั้นเอง" ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรต่อ ก็เห็นสีหน้าที่ตกใจของนาง ก็ให้นึกขันยิ่งนัก "ท่านว่าอะไรนะรับฮูหยินรอง เรื่องใหญ่เช่นนี้ท่านยังบอกว่าไม่มีอะไรอีกหรือ" "ใช่สิสำหรับท่านพี่แล้วมันเป็นเรื่องที่ดีสินะ" นางลืมความสงบเยือกเย็นของตัวเองไปเสียสิ้น ก็จะให้นางทำเช่นไรเล่าจะให้เขารับสตรีอีกคนเข้ามาในจวน นางรับไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่ไม่พอใจของนางเช่นนี้ก็ให้นึกพอใจนัก แสดงว่าอย่างน้อยนางก็ยังมีความรู้สึกหวงตัวเขาอยู่ นางพยายามสะบัดให้หลุดออกจากอ้อมแขนของเขา แต่มีหรือที่คนตัวโตจะยอมโดยง่าย ไม่พูดเปล่าเขายังก้มมาหอมแก้มนางอีกฟอดใหญ่หลายที "ไม่แกล้งเจ้าแล้ว พระองค์ประสงค์ให้พี่รีบฮูหยินรองจริง แต่พี่ไม่ได้รับไว้ พี่ปฎิเสธพระองค์ไปแล้ว พี่จะมีเจ้าเพียงคนเดียว" นางมองหน้าเขาอย่างสงสัย แบบนี้ก็ได้เหรอ ถ้าฮ่องเต้ประทานให้ แล้วบอกไม่เอา ก็ไม่เอาได้เหรอ ทุกอย่างมันจะง่ายอย่างนั้นจริงๆ หรือ เมื่อมองเห็นความสงสัยในดวงตาของนาง เขาจึงยกยิ้มมุมปาก และคลายความสงสัยให้กับนางได้ทราบ "เจ้าก็รู้ว่าพี่กับพระองค์เป็นสหายกันมาก่อน เมื่อพระองค์ทรงทราบข่าวเรื่องที่พี่ปลดหลี่ชิงชิง พระองค์จึงต้องการเพิ่มอำนาจในราชสำนักของพระองค์ให้แข็งแกร่ง แต่ในเมื่อพี่ปฎิเสธพระองค์อย่างแข็งขันเช่นนี้พระองค์ก็ไม่ขัดความตั้งใจของพี่หรอก " "ง่ายๆ เช่นนี้เลยหรือเจ้าค่ะ" "แล้วเจ้าต้องการให้มันยุ่งยากหรือ" "ข้าก็แค่ถามดูเท่านั้นเอง" พูดเสร็จก็ทำแก้มป่องใส่หนึ่งทีอย่างงอนๆ แต่ก็โล่งอกไปด้วยในตัว ช่วงเวลาแห่งความสุข ของพวกเขาทั้งสองคน ยังคงหมุนวนไปเช่นนี้ ทุกค่ำคืนเขาจะมานอนกอดนางและหลอกกินเต้าหู้นางทุกครั้งที่เขามีโอกาส คืนนี้ก็เป็นอีกคืนเช่นกัน ที่เขาไม่ยอมไปไหน สิงอยู่ในตำหนักของนางยิ่งกว่าเงาตามตัว หลังจากที่เขากลับมาจากค่ายทหาร เขาก็จะตรงดิ่งมาหานางที่นี่ทันที สำหรับฟ่านเหยาเหยาแล้ว เมื่อเห็นความจริงใจนี้ของเขา ก็ทำให้ใจนางรู้สึกอ่อนยวบอย่างช่วยไม่ได้ ถึงแม้นว่าจะไม่สามารถเอ่ยได้เต็มปาก ว่านางให้อภัยกับเขาแล้ว แต่การกระทำในตอนนี้ก็เสมือนกับว่านางและเขานั้นได้กลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง "ข้าบอกแล้วอย่างไรเล่าว่าวันนี้ข้าอาบน้ำแล้ว ถ้าท่านยังเล่นเป็นเด็กอยู่เช่นนี้ ข้าจะไม่ช่วยท่านอาบน้ำแล้วนะ" ดูเอาเถิดในตอนนี้นางเปียกอย่างกะลูกหมาตกน้ำ อาบน้ำให้เขาทีไรเขาจะชอบแกล้งนางแบบนี้ประจำเลยเชียว "ในเมื่อเจ้าเปียกปอนเช่นนี้แล้ว เจ้าก็ลงมาอาบน้ำเป็นเพื่อนพี่เถิด พี่จะได้ช่วยเจ้าอาบบ้าง" ไม่พูดเปล่าเขารั้งเอวบางของนางเข้ามาในอ่างน้ำ พร้อมกับใช้ริมฝีปากหนา บดจูบริมฝีปากนางอย่างเร่าร้อน เมื่อถูกเขาปลุกปลั่นไฟสวาทนางจึงอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนเขา สมองขาวโพลนไม่รับรู้เรื่องใดทั้งสิ้น มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่แผ่นหลังเปลือยเปล่าของนางถูกมือหนาลูบคลำ และเขาก็ยกตัวนางขึ้นมานั่งบนตักเปล่าเปลือยของเขา มันช่างเป็นท่าที่ล่อแหลมเหลือเกิน ริมฝีปากหนาเลื่อนลงมาสัมผัสที่ปากบางอย่างเร่าร้อน เขาสอดปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากนางอย่างช่ำชอง นางก็ตอบสนองเขากลับอย่างเร่าร้อนไม้แพ้กัน มือทั้งสองข้างนางเลื่อนลงไปที่ใต้สะดือของเขา เมื่อเจ้ามังกรตัวเขื่องไม่ได้หลับไหลอีกต่อไป นางจึงใช้มือรูดขึ้นลงเพื่อเร่งจังหวะ ปลุกเล้าอารมณ์ของคนร่างหนา ถึงกับทำให้เขาขบกรามแน่น ตัวเกร็งกระตุกขึ้นทันใด มือน้อยๆ ของนางนี้ มันช่างร้ายกาจอย่างที่เขาไม่เคยได้สัมผัสเสียจริง "อ๊า เร็วอีกหน่อยเถิดคนดี ซี๊ดดดด" "ชอบหรือไม่เจ้าคะ" ไม่รอคำตอบ นางมุดลงไปในน้ำ ใช้ปากและลิ้นน้อยๆ ของนาง สัมผัสกับมังกรของเขาอีกมือก็ใช่ย่อยสัมผัสกับไข่ทั้งสองใบอย่างช่ำชอง อมให้สุดเข้าออกอยู่อย่างนั้น ทำสลับกับเงยหน้าขึ้นมาเอาอากาศหายใจ ทำเช่นนั้นไปเรื่อย จนคนตัวโตถึงกับเกร็งกระตุก ปล่อยน้ำรักออกมาเต็มปากของนาง นางเองก็ไม่น้อยหน้ากลืนทุกหยาดหยดเข้าไปไม่มีเหลือ นี่นางพึ่งกลืนสิ่งมีชีวิตหลายล้านตัวเข้าไปในท้องเชียวนะ ที่นางต้องทำเช่นนี้ เพราะนางกลัวว่าเวลาที่ผู้ชายมันมีอารมณ์กลัดมันแล้วกลัวว่าเขา จะควบคุมตัวเองไม่อยู่ จนต้องมีอะไรกับนางก่อนที่นางจะพร้อมก็เท่านั้นเอง ณ พรรคมารทมิฬ หยางหย่งเซี่ยประมุคพรรคมารทมิฬ ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเป็นจังหวะรับฟังรายงานจากองครักษ์ลับอย่างใจเย็นอย่างไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ของเขาในตอนนี้ได้เลยว่า กำลังคิดอะไรอยู่ ใบหน้าที่ฉาบไว้ด้วยความเฉยชาไม่สนใจอะไรนั้น แท้ที่จริงแล้ว กำลังคิดถึงนางผู้ที่ซึ่งช่วยชีวิตเขาไว้ เขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่านางจะมีเจ้าของเสียแล้ว ในตอนแรกที่นางช่วยชีวิตเขาไว้นั้น เขาคิดว่านางน่าจะต้องการสิ่งตอบแทนจากเขา ผู้ใดกัน ที่มาช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน นางให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากสตรีโดยทั่วไป จะว่าเฉยชาก็ไม่ใช่ จะว่าขี้เล่นก็ไม่เชิงโดยเฉพาะสายตาเวลาที่นางมองมาที่เขาเหมือนกับว่านางกำลังสนุกที่ได้กลั่นแกล้งเขาอย่างไรอย่างนั้น ความรู้สึกแปลกประหลาดนี้มันคืออะไรทำไมเขาจะต้องคิดถึงนาง นางผู้ที่ซึ่งมีเจ้าของแล้วด้วย "เรียนท่านประมุข คนของเราได้สืบทราบมาว่า กลุ่มคนที่ทำร้ายท่านประมุขในคืนนั้น เป็นชนเผ่าเร่ร่อนชนเผ่าหนึ่ง ถูกว่าจ้างให้ฆ่าตามคำสั่ง หากมีงานผิดพลาดเกิดขึ้น พวกมันก็จะชิงลงมือฆ่าตัวตายเสียก่อน ที่จะมีผู้สืบสาวไปถึงผู้จ้างวานขอรับ พิษที่พวกมันใช้กับท่านประมุขคือพิษที่ร้ายแรงที่สุดของเผ่าเหลย มีชื่อพิษว่าเหมันต์ทมิฬ พิษชนิดนี้มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว เมื่อกินเข้าไปพิษจะยังไม่ออกฤทธิ์ จนกว่าจะไปรับพิษอีกทางหนึ่งจากบาดแผลภายนอก เมื่อได้รับพิษทั้งสองทางแล้ว คนผู้นั้นถือว่าชะตาถึงคาดแล้ว เพราะไม่ว่าจะเป็นหมอที่มีความสามารถมากเพียงใด ก็ไม่เคยมีหมอคนใดแก้พิษนี้ได้ ผู้ที่รู้วิธีถอนพิษเหมันต์ทมิฬนั้น จึงมีแค่ผู้คนในเผ่าเหลยเท่านั้นที่ทราบวิธี" "ถือว่าเป็นโชคดีของข้าสินะที่ได้พบเจอกับนาง" 'สตรีไร้ยางอายผู้นั้น นางจับเขาแก้ผ้าล่อนจ้อน พอฟื้นขึ้นมายังมิทันได้ลืมตา เขาก็พบว่านางกำลังใช้เข็มฝังไปที่ทั่วร่างกายของเขา และยังมีสายอะไรไม่ทราบได้อยู่ที่จมูก นางฉีดน้ำเข้าไปในสายใส่ลงไปในร่างกายของเขาและก็ดูดมันออกมา ทำเช่นนั้นอยู่เป็นนานสองนานถึงได้หยุด และเอาสายพวกนั้นออกไปจากร่างกายของเขา และถอนเข็มทั้งหมดออก พลันก่อนที่เขาจะลืมตาก็ได้พบว่านางกำลังจะไป เขาจึงรั้งข้อมือนางไว้ แต่ใครจะไปคาดเดาได้ว่า หลังจากที่เขาสบตาของนาง มันเหมือนกับเป็นมหาสมุทรลึก ที่ไม่สามารถอ่านได้เลย นางแตกต่างจากสตรีอื่นทั่วไป เหมือนนางมีความลับที่ไม่สามารถบอกผู้ใดได้อยู่มากมายเช่นนั้น นางคือสตรีคนแรกที่ทำให้เขาสนใจ แต่สุดท้ายนางกลับเป็นสตรีที่มีเจ้าของเสียแล้ว เขาเคยคิดว่าเขาจะไม่ปล่อยนางไป แต่หลังจากได้ทราบว่านางมีเจ้าของแล้วเขาก็ต้องปล่อยวางความคิดนั้นไปเสีย แต่บุรุษผู้นั้นคู่ควรกับนางจริงๆ หรือ "เราควรจะจัดการเช่นไรดีขอรับ กับพวกที่คิดร้ายกับท่าน" "ยังต้องให้ข้าต้องบอกอีกหรือ" พร้อมกับส่งสายตาเยือกเย็นไปให้องครักษ์ทันที "ข้าน้อยทราบแล้ว" ใครที่มันกล้ากระตุกหนวดเสืออย่างท่านประมุข คงจะไม่สามารถปล่อยมันเอาไว้ได้ "แล้วเรื่องสำรับอาหารที่จัดมาให้ท่านประมุข ก่อนที่จะถูกวางยาพิษนั้น สามารถจับตัวสาวใช้ที่ลงมือได้แล้ว ก่อนที่นางจะหนีไปไกลถึงชายแดน คนของเราสามารถสกัดจับเอาไว้ได้ นางเป็นคนของพรรคเหยี่ยวเมฆาขอรับ " หยางหย่งเชี่ยถึงกับเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อได้ฟังรายงาน มุมปากของเขายกยิ้มขึ้น สายตามีความเยือกเย็นขึ้นหลายส่วน "คงถึงเวลาที่ข้าต้องไปเยี่ยมเยียนสหายเก่าสักทีสินะ" มีเพียงคนสนิทของเขาเท่านั้นถึงจะทราบว่ารอยยิ้มเช่นนี้นั้นน่ากลัวเพียงใด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD