ตอนที่ 7
ตี 5 ของวันใหม่ มันเป็นวันที่มีนาและสินธุต้องเดินทางเข้ากรุงเทพไปผ่าตัดตามที่หมอนัดผ่าตัดสินธุ
“หนูอัญ ไม่ๆต้องป้าช่วยดีกว่า หนูอัญไปดูคุณมีนากับนายสินธุเถอะ เตรียมข้าวของเรียบร้อยหรือยัง ไปอยู่หลายเดือนด้วย”
นางสำเภาดึงของที่เตรียมอาหารออกจากมืออัญชัน พร้อมกับจะดันเธอออกจากห้องครัว แต่อัญชันทำเพียงยิ้มหวานๆให้นางและเอ่ยบอก
“ไม่เป็นไรค่ะป้าสำเภา หนูอัญช่วยกันทำอาหารเช้า จัดโต๊ะอาหารเสร็จก่อนก็ได้ ป้าเพิ่งหายป่วยใหม่ๆด้วย น่าจะพักผ่อนให้หายดีก่อน “
“ป้าไม่เป็นอะไรแล้ว แข็งแรงขึ้นด้วย ถ้าไม่ได้หนูอัญพาไปส่งโรงพยาบาลและดูแล ป้าคงเจ็บหนักไปแล้ว”
ความซาบซึ้งเกิดในใจเกิดขึ้นกับนางสำเภา
คุณมีนาเดินเข้ามาตามเสียงพูดคุย
“สองสาว คุยอะไรกันกะหนุงกะหนิงเชียวจ๊ะ”
“แม้..คุณมีนาก็ คุยกันเรื่องทั่วไปล่ะค่ะ ว่าแต่คุณเก็บเสื้อผ้าของใช้ครบแล้วหรือคะ”
นางสำเภาถามคนเป็นนายออกไป พร้อมกับทำกับข้าวไปด้วย
“หนูอัญเขาช่วยจัดเตรียมตรวจดูความเรียบร้อยครั้งสุดท้ายแล้วจ้า”
มองลูกสะใภ้ที่จัดวางช้อนชามแก้วน้ำอยู่อย่างเอ็นดู
“เช้านี้ข้าวต้มนะคะ ป้าสำเภาลุกมาทำแต่เช้ามืดเลย แค่ได้กลิ่นโชยมาก็รู้แล้วว่าต้องอร่อยมากๆเลย”
อัญชันเอ่ยกับแม่สามี โดยยกความดีความชอบให้แม่บ้านเก่าแก่ จนคนทำยิ้มไม่หุบที่ได้รับคำชม
“หนูอัญก็พูดเกินไป แค่อาหารพื้นๆ เท่านั้น ป้ายังทำอาหารอร่อยๆ อีกหลายอย่าง เอาไว้ทำให้หนูอัญกินนะคะ” นางสำเภาเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มๆ
“ขอบคุณค่ะ ขอหนูอัญเป็นลูกศิษย์ด้วยคนได้ไหมคะป้าสำเภา หนูอัญอยากเรียนทำอาหาร เผื่อจะได้ทำให้ทุกคนได้กินบ้าง”
อัญชันยกมือไหว้นางสำเภาและรีบยิ้มประจบขอเป็นศิษย์ทันที จนได้รอยยิ้มจากครูคนใหม่และเสียงหัวเราะจากคุณมีนาก่อนจะหันมาเอ่ยกับลูกสะใภ้
“แม่ว่าจะบอกกับหนูอัญแต่ลืมทุกครั้งเลย หลังผ่าตัดแม่กับพ่อคงอยู่กรุงเทพสักพัก มันใกล้หมอและสะดวกในการเดินทางไปโรงพยาบาล หนูอัญอยู่บ้านได้ไหมจ๊ะ”
“ได้ค่ะ คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วง หนูอัญมีป้าสำเภาอยู่เป็นเพื่อนแล้วและอีกไม่กี่วัน นายสิงห์ก็กลับมาจากอบรมแล้ว”
อัญชันพูดและยิ้มเพื่อให้แม่สามีสบายใจ คุณมีนาหน้าสลดนิดหนึ่งเพราะกังวลเรื่องของลูกชาย ก่อนกลับมาเหมือนเดิม
“พ่อตัวปัญหา สร้างปัญหาแล้วหนีไป ทิ้งให้เมียต้องแบกรับมันไว้คนเดียว มันน่าตีนัก สำเภาถ้านายสิงห์กลับมาก็จัดการด้วยนะ แล้วอย่าให้นายสิงห์ของเธอมารังแกหนูอัญของฉันนะ ถ้าฉันรู้ ฉันจะกลับมาจัดการขั้นเด็ดขาด” คุณเอ่ยบอกพี่เลี้ยงของลูกชาย พร้อมกับคาดโทษไปในตัว
ณ บ้านพักของโมก
“ยายฟ้ามันเห็นแก่ตัว ไปหาความสุขสบายใส่ตัว ทิ้งความอัปยศอดสูให้น้องกับพ่อแม่ แล้วนี่มันติดต่อกลับมาบ้างไหม”
นายโมกบ่นถึงลูกสาวคนโตกับภรรยาในตอนที่อยู่ด้วยกัน
“ฟ้าโทรมาบอกเอื้องวันแต่งงาน หลังจากนั้นก็ติดต่อลูกไม่ได้อีกเลยจ๊ะ” นางเอื้องสารภาพเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างกลัวสามีโกรธ
“คนทั้งไร่ซุบซิบนินทากันทั่ว เรื่องมันหนีมันตามผู้ชายไป ฉันไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว ยังชื่อเสียงนายท่านกับนายแม่อีกที่ต้องพลอยเสื่อมเสียไปด้วย”
เอื้องรู้สึกเสียใจและผิดหวังในตัวบุตรสาวคนโตไม่แพ้สามีเหมือนกัน
“เธอไม่ต้องติดต่อกับมันแล้ว ลูกที่ไม่รักดีแบบนี้ไม่มีเสียดีกว่า มันจะเป็นตายร้ายดี ยังไงก็เรื่องของมัน”
โมกลุกขึ้นเขาเซเล็กน้อย เอื้องรู้ว่าสามีเครียด บางคืนเหม่อลอย เธอรู้เขารักลูกสาวคนโตมาก เธอเป็นหน้าตาของบ้าน เป็นความภาคภูมิใจของครอบครัว แต่พอมาก่อเรื่องแบบนี้ จึงทำให้ทุกคนรับไม่ได้และเสียใจมาก
“ฉันไปตรวจงานในไร่ก่อนนะ นายสิงห์ไปกรุงเทพ 2 อาทิตย์ ยังไม่กลับ คงยากที่จะทำใจให้ยอมรับได้”
เอื้องเดินตามหลังสามีไป วันนี้ทำไม เธอรู้สึกไม่สบายใจแปลกๆแถมไม่อยากให้โมกออกไปทำงานอีกด้วย
โมกกำลังจะขับรถไปตรวจงานไร่ ด้วยสภาพเหมือนคนป่วย
“เมื่อคืนพี่มีไข้ กินยาแก้ไข้หรือยังจ๊ะ”เมียรักอดเป็นห่วงไม่ได้
“กินเรียบร้อยแล้ว บ่ายๆฉันกลับมา เธอไม่ต้องห่วง”
นายโมกพูดจบก็ขับรถออกไป โดยมีสายตาของเมียมองตาม
“พี่โมก..ฉันรู้ว่าพี่ไม่ค่อยสบาย แต่ฝืนสังขารตนเองทุกครั้งเลย”
นางมองรถยนต์ที่วิ่งหายไป อย่างไม่สบายใจ
โมกลงตรวจแปลงกล้าองุ่นสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งสั่งมาใหม่ องุ่นเป็นพืชชนิดใหม่ที่สิงห์ราชสั่งให้ปลูกเพิ่มจากส้มและสตอเบอร์รี่ จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิดมากขึ้นในช่วงแรกๆ
“ทูล อีกกี่วันถึงจะลงแปลงได้ ต้นกล้าดูสวยและแข็งแรงดีนะ”
โมกเดินตรวจทุกอย่างและหยุดคุยกับคนดูแล
“อาทิตย์หน้าคงลงหลุมปลูกได้แล้วครับ ว่าแต่นายโมกจะปลูกทดลองกี่ไร่ดีครับ”
“นายสิงห์บอกว่าจะลองปลูกที่แปลงทดลองสัก 10 ไร่ก่อนมั้ง นายก็ลองไปดูแปลงที่จะปลูกด้วยว่าเตรียมดินพร้อมหรือยัง”
“ได้ครับ สายๆจะลองไปดู แต่นายโมกรู้หรือยัง แปลงเล็กที่อยู่ท้ายไร่มันมีปัญหา หนอนลงหรือยังไงก็ไม่รู้ ลองไปดูหน่อยซิ”
โมกพยักหน้ารับ แต่นายสินธุโทรเข้ามาพอดี
“โมก...นายอยู่ที่ไหน ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย”
สินธุเอ่ยถามขณะที่กำลังเช็กรถยนต์ที่ใช้ในการเดินทาง
“นายท่านมีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ เดี๋ยวบ่ายๆ ผมเข้าไปหาที่บ้าน ตอนนี้จะไปท้ายไร่ ดูแปลงองุ่นที่หนอนเพลี้ยลงเสียหน่อยครับ”
“ไม่เป็นไร แค่จะบอกให้นายช่วยดูแลไร่แทนนายสิงห์ด้วยเท่านั้น ฉันไปครั้งนี้ คงอยู่กรุงเทพหลายเดือน”
“นายสิงห์เป็นอะไรหรือครับ”ถามอย่างร้อนรนและเป็นห่วงเป็นใย
“ทำเรื่องขนาดนี้แล้วหายหัวไป มันผิดปกติไหมล่ะ”
โมกได้แต่เงียบเขารู้เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดชายหนุ่ม
“ได้ครับ..นายท่านไม่ต้องเป็นห่วงกังวลใดๆทั้งสิ้น ผมดูแลทุกอย่าง แทนให้ได้ครับ”
นายโมกบอกกับเจ้านายใหญ่ ก่อนจะกดตัดสายไป เขาขับรถไปที่ท้ายไร่ ขณะนั้นท้องฟ้ามืดดำ ลมพัดมาแรง สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมา โมกขับรถด้วยความระมัดระวัง
“จะไปทันฝนไหม ทางยิ่งลาดชันด้วย เอ๊ะ..อะไรอยู่ข้างหน้า.เด็กนี่หว่า เอ๊ย ไอ้หนูหลบไป...”
โมกหักพวงมาลัยหลบเด็กชายสองคนที่ปั่นจักรยานมาใกล้ ทำให้รถยนต์เสียหลักไถลลงไปชนต้นไม้ใหญ่ จากนั้นเขาก็หมดสติไป
ณ บ้านพักของอัญชัน
“คุณพ่อ...มันเกิดอะไรขึ้น” อัญชันมือเท้าเย็นเฉียบไปหมด หญิงสาวรีบเดินไปที่รถยนต์ทันทีที่รู้ข่าวจากป้าสำเภา รู้เรื่องจากจ้อยรีบตามมา
“หนูอัญ..เดี๋ยวป้าไปเป็นเพื่อนค่ะ”
นางรีบขึ้นมานั่งข้างก่อนที่อัญชันจะขับรถยนต์ไปอย่างรีบร้อน
“นายโมก คงไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ คุณพระต้องคุ้มครองคนดีๆอย่างนายโมก”นางพูดปลอบใจให้กำลังใจคนที่กำลังขับรถ
บริเวณที่เกิดเหตุ
คนงานในไร่ช่วยกันเอาคนเจ็บขึ้นมา รถฉุกเฉินของโรงพยาบาลอำเภอมารอรับคนเจ็บ
“ใครเป็นญาติคนเจ็บ นั่งรถไปด้วยกันเลยครับ”เสียงเจ้าหน้าที่ร้องบอก อัญชันได้ยินรีบเดินออกมา
“ฉันเองค่ะ” เธอบอกพร้อมกับหันมาทางนางสำเภา
“ป้าสำเภาให้ลุงทูลขับรถตามไปนะคะ หนูอัญไปถึงที่โรงพยาบาลป้าคงไปถึงพอดี” บอกนางสำเภาเสร็จเธอก็รีบขึ้นรถของโรงพยาบาลไป
ณ โรงพยาบาลประจำจังหวัด
รถฉุกเฉินวิ่งเข้ามา อัญชันเปิดประตูลงมาอย่างรีบร้อน
“คุณพ่ออย่าเป็นอะไรเป็นอะไรไปเลย หนูอัญขอวิงวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้คุณพ่อปลอดภัย”
“พาคุณเจ็บเข้าห้องฉุกเฉิน ญาติคนไข้ทำบัตรด้านหน้าเลย”
เสียงหมอสั่งดัง ทำให้หญิงสาวหวาดกลัวมือเท้าเย็นไปหมด
“หนูอัญ คุณพ่อไม่เป็นอะไรแล้ว ถึงมือคุณหมอ โมกต้องปลอดภัย”
แม่สามีกอดเธอไว้แน่น อย่างถ่ายทอดความรู้สึกดีๆให้ เมื่อรู้ข่าวนางมีนากับนายสินธุก็รีบมาโรงพยาบาลทันที
“พวกเรามีนัดผ่าตัดกระดูกคุณพ่อด้วย ทำไงดีงานนี้”
คุณมีนาบ่นเสียงดังอย่างไม่สบายใจเลยที่ต้องทิ้งให้ลูกสะใภ้อยู่คนเดียวในสถานการณ์แบบนี้ แต่กำหนดผ่าตัดดก็กำหนดไว้แล้ว
“คุณแม่พาคุณพ่อสินธุไปผ่าตัดเถอะ หนูอัญอยู่ดูแลพ่อโมกได้ค่ะ ที่นี่มีแม่เอื้อง มีป้าสำเภา อยู่เป็นเพื่อนหนูอัญอยู่ค่ะ”
หญิงสาวปลอบใจคุณมีนาให้คลายกังวลใจ
“เดี๋ยวแม่โทรตามนายสิงห์ ให้กลับมาดูแลหนูอัญดีกว่า”
หญิงสาวพยายามห้ามแต่ผู้ใหญ่ไม่ฟัง นางมีนากดมือถือหาลูกชายทันที
สิงห์ราชนอนหลับอยู่บนเตียง หญิงสาวที่มานอนด้วยเมื่อคืนหายไปแล้วหลังจากได้รับเงิน
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เมื่อมองชื่อคนโทรมา เขาก็กดรับทันที แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร เสียงแม่ก็สวยกลับมาทันที
“นายสิงห์กลับบ้านด่วน”เสียงแม่บังเกิดเกล้าของเขาสูงปรี๊ดแสดงถึงความโกรธที่มันเกิดขึ้นไม่บ่อยหนัก
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ คุณแม่”
ชายหนุ่มดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอน มองดูเวลาเกือบ 2 โมงเย็น
“นายโมกประสบอุบัติเหตุ อาการสาหัส”
นายหนุ่มได้ฟังตกใจมาก “มันเกิดอะไรขึ้นครับ”
คุณมีนาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ชายหนุ่มฟัง แถมกำชับให้เขารับกลับมาไร่อย่างด่วน
“แม่จะพาคุณพ่อไปผ่าตัดกระดูก หมอนัดไว้ด้วย ถ้าสิงห์ยังไม่กลับมา พ่อก็คงไม่ไปผ่าตัดแน่ ๆ เพราะห่วงไร่ ห่วงคนที่ไร่ที่ตอนนี้ไม่มีคนดูแลเลย สิงห์อยากให้พ่อทำงานจนไม่ได้ผ่าตัดเลยใช่ไหม ถึงไม่ยอมกลับมาสักที “ นางมีนาเอ่ยยาวเหยียดแบบไม่มีช่องว่างให้ลูกโต้แย้ง
สิงห์ราชได้ฟังถึงกับจุกที่อก มันทำให้ชายหนุ่มรู้สึกผิดมาก เรื่องของคนในครอบครัวเขา ลืมไปได้ยังไง เพียงผู้หญิงคนเดียวทำให้เขาเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ เชียวหรือ เมื่อคิดได้สิงห์ราชก็รีบลุกขึ้นจากเตียงและเอ่ยบอกกับคนเป็นแม่
“ผมจะรีบกลับ เดี๋ยวนี้เลยครับคุณแม่ คุณแม่บอกคุณพ่อให้ไปผ่าตัดได้เลยครับ “