ตอนที่ 4

1788 Words
ตอนที่ 4 . บนโต๊ะงานเลี้ยง VIP “มันเกิดอะไรขึ้นมีนา เธอเล่าเรื่องราวให้พี่ฟังหน่อยซิ” พี่สาวสินธุไม่อยากฟังเรื่องจากปากคนอื่น เธออยากรู้จากน้องสะใภ้มากกว่า “อิงฟ้าหายตัวไป สิงห์เสียใจมากเลยค่ะคุณพี่ แต่เขาไม่อยากให้งานแต่งล้ม เลยจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเจ้าสาวค่ะ” คุณมีนาตอบไปตามจริง “หนูอัญเป็นคนดีครับคุณพี่ เธอเป็นที่รักของทุกคนในไร่” น้องชายยืนยันหนักแน่น “พี่ไม่ว่าอะไรหรอก ขอให้สิงห์มีครอบครัวที่มีความสุข มีหลานเล็กๆ ให้พวกเราชื่นชมก็เพียงพอแล้ว เจ้าสาวคนนี้ก็น่ารักน่าเอ็นดู พี่ว่าต่อไป ขี้คร้านที่สิงห์จะรักจะหลงเมียคนนี้จนลืมอีกคนไปเลย เชื่อพี่สิสินธุมีนา” คุณทรายพี่สาวของพ่อเจ้าบ่าวเอ่ยขึ้น เธอมองแวบเดียวก็รู้ว่าเจ้าสาวเป็นคนดีพอที่จะเป็นหลานสะใภ้ของนาง “มีนาก็ว่ายังงั้นเหมือนกันค่ะ หนูอัญเป็นเด็กดี เรียบร้อยอ่อนหวาน แต่เข้มแข็งในบางเวลา คงไม่ยากที่สิงห์จะรักหนูอัญ” คุณมีนาสนับสนุนความเห็นของคุณทราย หลังจากงานเลี้ยงสิ้นสุดลง เจ้าบ่าวอยู่ในสภาพเมามายประคองตนเองไม่ได้ ต้องให้คนงานผู้ชายพาเขาห้องหอ “ให้มันได้อย่างนี้สิ คืนแรกของการส่งตัวเข้าหอ เจ้าบ่าวเมาหมดสภาพ พ่อแม่เจ้าสาวที่ไหนจะอยากได้เป็นลูกเขย” สินธุบ่นเสียงดังอย่างไม่พอใจ เมื่อเจ้าบ่าวเมาหลับไปก่อนแล้ว การให้พรจึงเป็นการให้พรเฉพาะเจ้าสาวคนเดียว คุณมีนาลูบหัวอัญชันที่นั่งพับเพียบอยู่กับพื้น ก่อนเอ่ยขึ้น “หนูอัญไม่ต้องคิดมากนะ อีกสักพักพี่สิงห์ ก็กลับมาเหมือนเดิม เชื่อแม่เถอะ ความดีของหนูจะทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี หนูเป็นคนน่ารัก สักวันสิงห์ก็จะรักหนูเหมือนทุกคนอีกมากมายที่รักหนู จำคำแม่ไว้นะลูก” สรรพนามที่คุณมีนาเรียกขานลูกสะใภ้เปลี่ยนไป “ค่ะ คุณแม่” อัญชันก้มลงกราบเท้าคุณมีนากับคุณสินธุ และยิ้มรับแม้ในใจจะค้านว่าคงไม่มีทาง ก่อนจะขยับตรงหน้าพ่อแม่ขอเธอที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ถัดไป “แม่ก็ขออวยพรให้อัญมีความสุขในชีวิตสมรส ขอให้ลูกมีความอดทนให้มากที่สุด แต่ถ้ามีอะไรหนักใจก็บอกพ่อแม่หรือนายท่านกับนายแม่ได้นะลูก” นางเอื้องเอ่ยกับลูกสาวพร้อมกับลูบหัวเธอไปด้วย “พ่อก็ขอให้ลูกมีความสุข และก็ขอบใจลูกมากที่ยอมแต่งงานเพื่อช่วยพ่อแม่ พ่อรักลูกนะ” “ค่ะ พ่อแม่ หนูก็รักพ่อกับแม่ค่ะ” อัญชันก้มลงกราบทั้งสอง “ผมกับเอื้องขอฝากหนูอัญให้นายท่านกับนายแม่ ดูแลและรักเธอ เมตตาเธอด้วยนะครับ” “ไม่ต้องห่วงหรอกนายโมก ที่ผ่านมาฉันก็รักและเอ็นดูหนูอัญอยู่แล้ว ตอนนี้มาเป็นลูกฉันแล้ว ฉันก็จะยิ่งรักมากขึ้นไปอีก ฉันจะดูแลหนูอัญให้เหมือนกับลูกฉัน สบายใจได้นะ” คุณมีนาเอ่ยบอกสองสามีภรรยาที่เป็นลูกน้อง ก่อนที่ทุกคนจะออกจากห้องหอไป หลังจากทุกคนออกไป ทิ้งให้หญิงสาวอยู่กับเจ้าบ่าวของเธอที่เนื้อตัวเหม็นไปด้วยกลิ่นเหล้า เสื้อผ้าหลุดลุ่ย “ฮือๆ อย่ามายุ่งกับฉัน ออกไป” คนเมาตวาดเสียงดัง เมื่อหญิงสาว ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดตามหน้าตาชายหนุ่ม “หนูอัญรู้ว่านายสิงห์ต้องโกรธพวกเรามากที่พี่ฟ้าทำอย่างนี้ แต่หนูอัญเชื่อว่าความรักของนายสิงห์ที่มีต่อพี่ฟ้า มันจะนำทางให้พี่ฟ้ากลับมาหานายสิงห์ค่ะ” อัญชันเอ่ยเบาๆกับคนที่เมาหลับไปแล้ว ก่อนจะนำผ้าไปชุบน้ำมาใหม่และเช็ดตัวไปตามใบหน้า แขนขา ของคนบนเตียง แม้จะมีการประท้วงบ้างบางครั้ง ผ่านไปสักพักเธอก็เช็ดตัวให้เขาเสร็จ เธอนำผ้าไปเก็บและอาบน้ำเพื่อมานอน โดยเธอปูผ้าห่มนวมนอนที่มุมห้อง วันรุ่งขึ้น เสียงไก่ขันตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้นปลุกให้หญิงสาวตื่นจากนิทราแม้จะได้นอนไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง “เช้าแล้วหรือนี่ นายสิงห์หายไปไหนของเขา” หญิงสาวลุกขึ้นเดินไปดูก็ไม่เห็นคนเมาที่นอนอยู่บนเตียง เธอเดินไปเปิดประตูห้องน้ำ ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีเธอ มันกลายเป็นการแต่งงานที่มัดมือชกทั้งเขาและเธอไปแล้ว อัญชันพับผ้าห่มและปัดฝุ่นที่นอนทั้งของเธอและบนเตียง ก่อนจะเดินมาเปิดตู้เสื้อผ้าก็เจอเสื้อผ้าของสิงห์ราชและอิงฟ้าอัดอยู่เต็มตู้ “พี่ฟ้าไม่น่าทำแบบนี้เลย ทุกอย่างมันถูกจัดเตรียมเพื่อพี่ฟ้าแล้ว ทั้งนั้น” เธออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า โดยใช้เสื้อผ้าของเธอที่แม่เอื้องเตรียมใส่กระเป๋าใบเล็กมาให้เมื่อวาน วันนี้เธอคงต้องกลับไปเอาเสื้อผ้ามาเพิ่ม เพราะเธอคงไม่ใส่เสื้อผ้าของอิงฟ้า อัญชันเดินลงมาจากบ้านในตอนเช้าก็เจอกับคุณมีนาพอดี “หนูอัญลงมาพอดี ไปกินข้าวเช้าได้แล้วลูก ป่ะ” คุณมีนาเดินมาตามหญิงสาวเรือนหลังเล็กที่ถูกสร้างเป็นเรือนหอ “ตาสิงห์ไปอบรมที่กรุงเทพหลายวัน พอดีกระทรวงเกษตรจัดอบรมให้ความรู้เรื่ององุ่นสายพันธ์ใหม่น่ะ” นางมีนาเอ่ยบอกเมื่อเห็นหญิงสาวมองไปรอบๆบ้าน “ค่ะคุณป้า”หญิงสาวเอ่ยออกมา “เรียกว่าคุณแม่ดีกว่า หนูอัญกลายมาเป็นลูกสาวของแม่อีกคนแล้วนะ ต่อไปนี้ขอให้หนูเห็นแม่เป็นแม่อีกคนนะลูก” “ขอบคุณค่ะ คุณแม่” หญิงสาวเข้ามากราบที่อกมีนา แสดงความรักและฝากเนื้อฝากตัวกับแม่สามี ***** “อ้าว หนูอัญมายืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น เข้ามาข้างในก่อน” คุณมีนาเรียกลูกสะใภ้อย่างรักใคร่ “คุณป้ามีอะไร ให้หนูช่วยทำไหมคะ” อัญชันมานั่งพับเพียบใกล้ท่าน หยิบมีดเล็กมาช่วยปอกเปลือกมะม่วงและผลไม้อื่น “บอกว่าให้เรียกแม่ อย่าเรียกป้าเลย แม่อยากได้หนูอัญมาเป็น ลูกสาวตั้งนานแล้ว ขอแม่เอื้องเขาก็ไม่ยอมยกให้” “คราวนี้สมใจแล้วใช่ไหมคะ ได้ลูกสาวเพิ่มอีกคน” สำเภาอดแซวเจ้านายไม่ได้ นางรู้ว่านายแม่เอ็นดูอัญชันมาตลอด “มีงานอะไร ก็ไปทำ ไป” ท่านหันไปบอกแม่บ้าน แต่นางไม่สนใจว่าท่านหาทางไล่ แต่กลับเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วย “หนูอัญน่ารัก เรียบร้อย ใครเห็นก็อดรักใคร่ไม่ได้ ไม่เหมือนคุณฟ้า ....ไม่มีใครอยากเข้าใกล้” สำเภาเอ่ยขึ้นจากใจจริง แต่ทว่า.. “ฮะแฮ่มๆ” คุณมีนาทำเสียงให้อีกฝ่ายหยุดพูด เห็นสีหน้าของอัญชันเปลี่ยนสีแล้ว “หล่อนนี้มันชอบพูดมาก พูดไปเรื่อยเลย” คุณมีนาดุเบาๆอย่างไม่จริงจัง “ใครจะเหมือนคุณนายล่ะคะ ไม่เคยว่าใครเลยถูกเอาเปรียบเป็นประจำ สำเภาไม่อยากพูดเลย” นางพูดจบก็สะบัดก้นจากไป “อย่าไปถือเป็นอารมณ์เลย ป้าสำเภาเลี้ยงนายสิงห์มาตั้งแต่แบเบาะ เขาก็รักมาก ใครทำให้เสียใจ จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเท่านั้นแหละจ๊ะ” อัญชันได้แต่ยิ้มรับ ไม่พูดจาอะไรต่อ “นายสิงห์โทรกลับมาหาหนูอัญ บ้างไหมจ๊ะ” “นายสิงห์คงกำลังยุ่งๆกับการอบรมอยู่มั้งคะ เดี๋ยวว่างๆก็คงโทรกลับมาเองล่ะค่ะ” มีนายิ้มอย่างรู้สึกสงสารหญิงสาวที่ต้องแต่งงานกับคนที่ไม่รัก แถมต้องจากพ่อแม่มาอยู่กับคนอื่นอีกต่างหาก “หนูอัญไปหาพ่อแม่ได้นะจ๊ะ คนเป็นพ่อแม่ต้องห่วงลูกสาวอยู่แล้ว” “พรุ่งนี้เช้าหนูอัญขอไปเยี่ยมคุณแม่ที่บ้านนะคะ” “หนูอัญขับรถยนต์เป็นไหม เอารถยนต์ที่จอดในโรงรถออกไปใช้งานได้ จอดไว้นานๆ เดี๋ยวเสียหมด” “หนูเอารถมอเตอร์ไซค์ไปดีกว่าค่ะ มันสะดวกดี แล้วบ้านพ่อแม่ก็อยู่ภายในไร่ ไปมาไม่ลำบากอะไร” “แต่ถ้าจะออกไปทำงานหรือไปทำอะไรนอกไร่ ให้เอารถยนต์ไปนะลูก มันอันตราย” “ขอบคุณค่ะ คุณแม่” หญิงสาวบอกก่อนจะช่วยคุณมีนาทำงานปอกผลไม้ต่อไปเงียบๆ ภายในห้องอาหารวันนี้มีเสียงหัวเราะอย่างเบามีความสุขของมีนาและสินธุ “มะม่วงสุกค่ะ คุณแม่คุณพ่อ” ชายสูงวัยรับจานในเล็กที่จัดเรียงมะม่วงสุกเหลืองอย่างสวยงาม “ฮื่ม สวยด้วย อร่อยจริงๆด้วย” “หนูอัญมาอยู่บ้านเรา ทำให้ทุกคนมีเสียงหัวเราะ แม่ดีใจนะที่มีหนูมาอยู่ด้วย” คุณมีนาเอ่ยเบาๆอย่างมีความสุข “แต่คุณสิงห์ไม่รู้จะกินข้าวหรือยัง นอนยังไงเน้อคืนนี้” นางสำเภาเอ่ยขัด ทำให้บรรยากาศอึ้มครึ้มเล็กน้อย “มันคงกำลังกินเหล้าเคล้าเสียงเพลง อย่างมีความสุขที่กรุงเทพอยู่หรือเปล่าแม่สำเภา” คุณสินธุเอ่ยขึ้นกับนางสำเภา นางสำเภาหันมาค้อนเจ้าของบ้านอย่างไม่กลัวเกรง “นายสินธุไม่เคยมองคุณสิงห์ในมุมดีๆบ้างเลยนะคะ คุณสิงห์เป็นคนดี ตั้งใจทำงานจะตาย “ นางสะบัดหน้าและเดินจากไป “คุณไม่น่าไปพูดเรื่องกับสำเภาเลย รู้ว่าใครก็ไปแตะนายสิงห์ไม่ได้ ยังจะไปพูดอย่างนั้นกับเธออีก อัญไม่ต้องคิดมากนะ เดี๋ยวมันก็กลับมา ป่านนี้คงไปสำเริงสำราญกับเพื่อนฝูงที่กรุงเทพอยู่เพราะนานๆได้เจอกันที ส่วนเรื่องสาวๆไม่ต้องไปห่วงนะ มันไม่มีใครหรอก” คุณมีนาได้เอ่ยเชิงติสามี และหันมาเอ่ยกับลูกสาวคนใหม่ยิ้มๆ ช่วงค่ำเธอโทรหาลูกชาย เขากำลังดื่มกินอยู่กับเพื่อนๆอย่างที่คนเป็นพ่อบอก “ค่ะ คุณแม่” อัญชันยิ้มรับแห้งๆพลางคิดตาม ‘ไม่มีสาวไหนเพราะมีพี่ฟ้าอยู่เต็มหัวใจนะสิ’ “คุณคะพรุ่งนี้วันพระใหญ่ พวกเราไปทำบุญที่วัดกันนะคะ” คุณมีนาเอ่ยชวนสามี ซึ่งคุณสินธุก็พยักหน้ารับ “ดีเหมือนกัน หนูอัญไปด้วยกันนะ ไปทำบุญจะได้สบายใจขึ้น” คุณสินธุเอ่ยชวนลูกสะใภ้ก่อนจะเดินออกไปทำงานที่ไร่ *******
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD