ตอนที่ 2

1896 Words
ตอนที่ 2 “ไม่ครับ ผมไม่ยกเลิกงานแต่งงานเด็ดขาด งานแต่งต้องมีต่อไป ผมไม่คิดว่าเรื่องที่ฟ้าหายตัวไปจะไม่มีใครช่วยให้หนี และผมไม่รอจนมีคนมาหัวเราะเยาะใส่หน้าผม คนอย่างนายสิงห์ถูกเจ้าสาวทิ้งในวันแต่งงาน รู้ไปถึงไหน อายไปถึงนั้น ผมจะไม่ยอมให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นแน่นอน “ คนฟังอดตกใจกับคำพูดสิงห์ราชไม่ได้ และเป็นคนเป็นแม่ที่กล้าถาม “แต่เจ้าสาวไม่มี จะมีงานแต่งงานต่อไปได้ยังไงล่ะ” มีนาถามอึกอักอย่างไม่สบายใจ สิงห์ราชหันหน้าไปจ้องพ่อเจ้าสาวและเอ่ยเสียงเย็นออกไป “อาโมกต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้” ผู้ใหญ่ที่ยืนอยู่เครียดหนักกว่าเดิม ทั้งสี่คนมองหน้ากันไปมา “พวกเราจะไปหาเจ้าสาวที่ไหนมาแต่งงานกับนายสิงห์ เราพยายามตามหาแล้วแต่ก็ไม่เจอ ยายฟ้าไม่น่าก่อเรื่องเลย” เอื้องได้แต่น้ำตาคลอพูดไม่ออก ไม่กล้าบอกว่าลูกสาวขึ้นรถไปกับใคร เพราะไม่รู้ว่ามันจะเป็นผลดีหรือผลเสียมากกว่ากันถ้านายสิงห์รู้ อัญชันเดินออกมาจากห้องเพื่อเอาขยะไปทิ้ง ทุกสายจ้องมองเธอตาแทบไม่กะพริบ อัญชันพยายามทำตัวลีบๆเข้าไว้ และยิ้มแห้งๆออกไปก่อนจะเอ่ยขอโทษ “หนูอัญเข้ามาผิดเวลาใช่ไหมคะ ขอโทษค่ะ” นางมีนารีบเอ่ยบอกหญิงสาวที่เธอเอ็นดูมาตลอด อาจจะบอกว่านางรักและเอ็นดูอัญชันมากกว่าอิงฟ้าด้วยซ้ำไป “ไม่ๆจ๊ะ หนูอัญมาถูกเวลาจริงเลย พวกเรากำลังต้องการความช่วยเหลือจากหนูอัญ” นางมีนายิ้มขึ้นเมื่อนึกอะไรได้และเอ่ยกับอัญชัน “หนูอัญ..จะช่วยอะไรได้ค่ะ” อัญชันทำหน้างงๆ เมื่อคุณมีนาดึงตัวหญิงสาวร่างเล็กให้นั่งลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่ที่อยู่กลางห้อง จนทำให้ทุกคนเดินตามไปนั่งลงด้วย ยกเว้นสิงห์ราชที่ยืนกอดอกเป็นยักษ์เฝ้าเสาอยู่ เอ่ยเสียงกระชากขึ้นมาโดยไม่อ้อมค้อม “เธอต้องแต่งงานแทนพี่สาวเธอ” “อะไรนะคะ” อัญชันได้ฟังก็ร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ เธอหันไปมองหน้าพ่อแม่ เพื่อขอความยืนยัน “แม่คะ” “หนูอัญต้องช่วยพ่อแม่แล้วล่ะจ๊ะ” นางมีนาพยักหน้าและเกลี้ยกล่อมอีกแรงหนึ่ง หญิงสาวหันไปมองหน้าพ่อที่พยักหน้าตามที่แม่พูด “หนูอัญต้องแต่งงานกับนายสิงห์แทนพี่สาวหนูนะลูก” แม่บอกลูกสาวคนเล็กที่ตกใจตัวแข็ง “หนูอัญว่าพวกเรารอพี่ฟ้าติดต่อกลับมาก่อนดีไหมคะ งานแต่งงาน จัดใหม่เมื่อไรก็ได้” “เนรคุณ!!” สิงห์ราชพูดขึ้น พร้อมกับมองหน้าสามคนพ่อแม่ลูก ก่อนจะเดินลงจากบ้านไป คำพูดของเขาทำให้อัญชันเห็นน้ำตาของพ่อแม่ที่ไหลออกมา เธอรู้ว่าคำว่า ‘เนรคุณ’ เขาไม่ได้หมายถึงแค่เธอ แต่เขาหมายความถึงพ่อแม่เธอด้วย ซึ่งมันทำให้เธอเห็นน้ำตาของคนเป็นพ่อที่ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยเห็นพ่อผู้เข้มแข็งจะต้องเสียน้ำตาให้กับอะไรเลย แต่ครั้งนี้ เพราะคำพูดของนายสิงห์ ทำให้พ่อของเธอถึงขั้นร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร ก่อนที่สิงห์ราชจะก้าวขึ้นรถยนต์ “สิงห์ พ่อมีเรื่องจะพูดกับลูก ลงมาคุยกันก่อน” สินธุเดินตามลูกชายลงมาจากบ้าน และเรียกเขาไว้ สิงห์ราชหันหน้ามองคนเป็นพ่อ ชายหนุ่มเดินกลับมาหาพ่อ “คุณพ่อมีอะไรจะพูดหรือครับ แต่ตอนนี้ผมไม่อยากฟัง เรื่องอะไรทั้งนั้น “ “แต่ลูกทำอย่างนี้ มันไม่ยุติธรรมต่อยายอัญเลยนะ เธอต้องกลายมาเป็นแพะรับบาปที่ตนเองไม่ได้ก่อขึ้นเลย” สินธุพูดเพราะรู้ว่าในที่สุดอัญชันก็ต้องยอมแต่งงานแทนพี่สาว เพราะคำว่าสั้นๆของลูกชาย ‘เนรคุณ’ คำสั้นๆแต่ความหมายยิ่งใหญ่นัก “เธอเป็นน้องสาวของอิงฟ้า ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของพี่สาวและครอบครัวของเธอ” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดขึ้นเมื่อนึกถึงใบหน้าเจ้าสาวที่หายไป “นี่ลูกจะไปไหน เหลือกี่ไม่ถึงชั่วโมง งานรดน้ำสังข์และพิธีจดทะเบียนสมรสจะเริ่มขึ้นแล้วนะ” ท่านบอกลูกชายเมื่อเขายืนยันที่จะแต่งงาน “ผมแค่อยากไปตามหาอิงฟ้าอีกครั้ง ให้มั่นใจว่าหล่อนหนีผมไปจริงๆ ไม่เกิดเรื่องร้ายๆกับเธอ” เขาอยากให้แน่ใจในบางเรื่อง แต่ไม่อยากพูดให้พ่อไม่สบายใจจึงพยายามเลี่ยง “ตามใจแกแล้วกัน แต่ระวังหน่อยแล้วกัน ขอให้ทำอะไรอย่างมีสติ อย่าหุนหันพลันแล่น ถ้าลูกเป็นอะไรไป พวกเราต้องเสียใจมากๆเลย” นายสินธุพอรู้บ้างว่าลูกจะทำอะไรแม้ว่าเขาจะไม่ได้บอก แต่เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก สอนมากับมือ จึงทำได้แต่เตือนสติเท่านั้น “ครับพ่อ “ รถยนต์วิ่งออกไปอย่างรวดเร็วแทบไม่แตะเบรกเลย “ให้มันได้อย่างนี้ซิ เจ้าลูกชาย” สินธุเดินกลับขึ้นไปบนบ้าน เมื่อเห็นสถานการณ์น่าจะเป็นไปในทางที่ดีแล้ว เขาก็ยิ้มให้คุณมีนาเมียรัก เขาโทรไปสั่งให้ลูกน้องของลูกชายตามไปเผื่อต้องช่วยเหลือกัน จากนั้นก็กลับไปที่งานแต่งงานเพื่อรับหน้าแขกที่อยู่ในงาน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อัญชันนั่งนิ่งอย่างใช้ความคิด เธอสับสนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนเองเหลือเกิน ‘มันเกิดอะไรขึ้นกับเรา แต่งงานนี่นะ’ “พ่อมีอะไรจะคุยกับลูกหน่อยได้ไหม” คนเป็นพ่อที่เช็ดน้ำตาออกและนั่งตรงกันข้ามกับหญิงสาวเอ่ยขึ้น “เรื่องงานแต่งครั้งนี้ พ่อรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะทำใจได้ พี่สาวลูกหนีการแต่งงาน นายสิงห์ไม่ยอมให้งานแต่งล้ม” หญิงสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ “งานนี้มันต้องมีเจ้าสาว และคนที่นายสิงห์เจาะจงก็คือลูก” “คุณพ่อ..”เสียงขาดหายไปในลำคอ “พ่อรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่หนูไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ หนูไม่จำเป็นที่จะต้องแต่งถ้าหนูไม่อยากแต่ง แต่พ่อต้องรับผิดชอบมัน แม้จะรับผิดชอบด้วยชีวิตของพ่อ พ่อก็ยอม พ่อไม่อยากเป็นคนเนรคุณกับนายท่านและ นายแม่ รวมทั้งคุณสิงห์ เพราะถ้างานแต่งงานล้มเลิกไป ไร่สิงห์ราช นายสิงห์ก็ต้องถูกคนเหยียดหยาม หัวเราะเยาะ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่พ่อทนไม่ได้ “ นายโมกพูดทั้งน้ำตาที่ไหลหลั่งมาอีกครั้ง “พ่อคะ หนูยินดีแต่งงานกับนายสิงห์แทนพี่ฟ้าค่ะ พ่ออย่าร้องไห้นะคะ ไม่ต้องร้องไห้แล้ว หนูจะรับผิดชอบแทนทุกคนเอง” อัญชันลุกไปนั่งลงระหว่างพ่อกับแม่ เธอกอดพ่อและหันมากอดแม่ ทั้งสามร้องไห้กอดกัน นายโมทเข้าลูบหัวหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของเมีย “พ่อดีใจที่หนูยอมแต่งงานครั้งนี้ นายสิงห์เป็นคนดี เขาจะดูแลหนูเป็นอย่างดี นายท่านกับนายแม่ก็ดีกับครอบครัวเรามากๆเลย” มันเป็นความจริงที่อัญชันรับรู้ตลอดเวลา เพราะที่วันนี้เธอเรียนจบปริญญาตรี มีงานทำ มันด้วยความเมตตาจากครอบครัวสิงห์ราชทั้งนั้น “ค่ะพ่อ หนูจะทำหน้าที่เจ้าสาวแทนพี่ฟ้าให้ดีที่สุดเลยค่ะ” “แม่รู้ว่าหนูต้องเจ็บปวดใจขนาดไหน ที่เรื่องราวมันเป็นแบบนี้ แต่ก็ถือว่าเราทำเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่และคุณๆนะลูก” เอื้องก้มลงหอมหัวลูกสาวที่อยู่ในอ้อมกอด พร้อมปาดน้ำตาตนเอง “แม่เชื่อว่า สักวันหนึ่งนายสิงห์ต้องเห็นความดีของหนูและยินดีรับหนูเข้าเต็มหัวใจ” อัญชันเจ็บในอกเพราะเธอรู้ว่าสิงห์ราชรักอิงฟ้ามาก มากจนไม่มีสายตามาเหลียวแลผู้หญิงอีกคนที่แอบรักเขามาตลอด กริ๊งๆ เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าดังเสื้อขึ้น นางเอื้องยกมันขึ้นมาดู ดวงตาเบิกโพลง พลางรีบกดรับสายทันที “ยายฟ้าลูกอยู่ที่ไหน”น้ำเสียงคาดคั้นแต่เบากลัวคนอื่นได้ยินเสียงพูดคุย “แม่คะ พี่สิงห์เป็นยังไงบ้าง ฟ้าขอโทษ” มันเป็นคำพูดที่ฟังง่ายๆ เหมือนเรื่องที่เธอทำไว้เป็นเรื่องเล็กน้อย “ฟ้ารีบกลับมาเลยนะ งานแต่งยังรอลูกอยู่ “ นางเอื้องบอกลูกสาว ปลายสายเงียบเหมือนพยายามรวบรวมสติอีกครั้ง “แม่...ฟ้ากำลังจะเดินจากไปอเมริกากับคุณก้อง แม่ไม่ต้องเป็นห่วงฟ้านะ ฝากบอกพ่อด้วยแล้วกัน แค่นี้นะคะ แล้วฟ้าจะติดต่อกลับมาใหม่” “ฟ้า ยายฟ้า..เดี๋ยว..” เอื้องพยายามตะโกนเรียก แต่ลูกสาววางสายไปแล้ว แม้เธอจะโทรกลับอีกครั้งแต่ก็พบว่า หมายเลขนี้ ไม่สามารถติดต่อได้ อัญชันเดินเข้ามากอดคนแม่ที่ร่างกายเริ่มสั่นเทา “ยายฟ้า โทรมาหาแม่ มันบอกจะไปอยู่อเมริกากับแฟนใหม่มัน” “คุณแม่...ไม่เป็นไรค่ะ พี่ฟ้าคงตัดสินใจดีแล้วค่ะ อย่าโกรธพี่ฟ้าเลยนะคะ ให้เธอไปใช้ชีวิตตามที่เธอเลือกแล้วกัน” “ทำไมมันไม่บอก นายสิงห์ตรงๆ งานแต่งงานวันนี้ จะได้ไม่เกิดขึ้น ทำเขาขายหน้า ยังนายท่านกับนายแม่อีกล่ะ” “หนูจะแต่งงานแทนพี่ฟ้าเองค่ะ” หญิงสาวบอกเด็ดเดี่ยวกับสิ่งที่ตัดสินใจ แม้ว่าจะรู้ว่าเจ้าบ่าวไม่ได้รับเธอเลยก็ตาม “แม่ขอบใจลูกมากๆเลย ที่ยอมเสียสละชีวิต ความสุขส่วนตัว ช่วยพ่อแม่ให้ผ่านพ้นเรื่องพวกนี้ไปได้” “ค่ะแม่ หนูรักพ่อกับแม่นะคะ” สามคนพ่อแม่นั่งกอดกันอยู่บนโซฟา โดยมีคุณมีนานั่งยิ้มสมใจที่ได้อัญชันมาเป็นลูกสะใภ้สมใจ ‘มาเป็นลูกสะใภ้แม่นะหนูอัญ’ ทุกคนงานในไร่กำลังยกต้นไม้เพื่อตกแต่งสถานที่วางมันลงและมีการเมาส์มอยกันตามประสา “เมื่อเช้ามืด ฉันเห็นมีรถยนต์วิ่งเข้ามาในไร่แล้วก็วิ่งออกไป” “เงียบไปเถอะ อย่าปากดีไป เดี๋ยวนายสิงห์มาได้ยิน จะบ้านแตกเสียเปล่าๆ” สำเภาแม่บ้านที่ดูแลทุกอย่างพูดห้ามปราม “พวกเราเป็นห่วงนายสิงห์มากๆเลย คุณฟ้าไม่น่าทำเรื่องแบบนี้เลย รู้ไปถึงไหน อายไปถึงนั้น” นางช้อยคนงานอีกคนหนึ่งพูดขึ้น “หุบปาก แล้วไปทำงานของตัวเอง” นางสำเภาพูดขึ้นก่อนรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว “ทำมาเป็นห้ามพูดโน้นพูดนี้ ทำไม ฉันเป็นห่วงนายสิงห์มันผิดตรงไหนบอกมาหน่อยซิ” นางช้อยยังไม่เลิกพูด “ป้าจะพูดให้มันได้อะไรขึ้นมา เท่านี้นายสิงห์ก็เสียใจจะแย่แล้ว” จ้อยเด็กหนุ่มวางลังแก้วน้ำแล้วหันไปพูดกับนางช้อย “ข้าผิดใช่ไหมที่เป็นห่วงนายสิงห์”นางหันมาหาคำตอบกับเด็กหนุ่มที่ยืนเกาหัวแทน “ฉันไม่รู้..แล้วแต่ ป้าจะคิดแล้วกัน” มันเดินหนีไปอีกคน .
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD