เหลือแค่หนึ่งเดือนสองสัปดาห์ที่เจ้าตัวเล็กจะคลอดออกมาดูโลกภายนอก นวลพรรณนั่งลูบไล้ท้องกลมโตตัวเองที่ตอนนี้เจ้าตัวเล็กซุกซนดิ้นแรงขึ้นทุกวันยิ่งใกล้คลอดแบบนี้ด้วย หญิงสาวในวัย 27 ปี นั่งลูบท้องตัวเองไปพลางอ่านหนังสือนิยายเล่มโปรดในสวนกุหลาบหลังบ้านที่เป็นมุมพักผ่อนตัวเองไปพลาง
“เป็นยังไงบ้างลูกวันนี้” ตองถามลูกสาว ตั้งแต่ลูกสาวออกจากโรงพยาบาล ลูกเขยก็พานางมาอยู่ดูแลลูกสาวที่ใกล้คลอดทันที
“เหนื่อยนิดหน่อยค่ะ” เธอยิ้มบอกแม่ที่เดินมานั่งลงเก้าอี้ตรงข้ามตัวเอง
“อีกไม่นานก็คลอดแล้ว เดี๋ยวคลอดจะเหนื่อยกว่านี้อีก” นางบอกลูกสาว
“ท่าจะจริงค่ะ ขนาดอยู่ในท้องดิ้นทีนวลจุกมากเลยค่ะแม่” เธอบอกท่านพร้อมกับยิ้มให้ท้องกลมโตของตัวเอง
“วันนี้แม่ต้องกลับแล้วนะลูก พ่อเจียงของเราโทรตามแล้ว เดี๋ยวใกล้คลอดแม่กับพ่อจะมาอยู่ช่วยเลี้ยงเจ้าตัวเล็กนะ” นางบอกลูกสาว
“ค่ะแม่ แล้วนี่แม่จะกลับยังไงคะ”
“พ่อภูจะไปส่งแม่จ้ะ แม่โทรบอกพ่อภูว่าจะกลับ พ่อภูเลยบอกว่าให้รอจะไปส่งเอง”
“เหรอคะ” เธอไม่เข้าใจ ทำไมเขายังอยู่ที่นี่ แล้วเมียอีกคนของเขาล่ะ เธอเป็นยังไงบ้างในตอนนี้
“อือ...มีอะไรก็คุยกันนะลูก จริงอยู่ที่พ่อภูหลอกลูกเรื่องครอบครัวและแต่งงานซ้อน แต่แม่เชื่อว่าพ่อภูรักหนูนะนวล ตลอดเวลาเขาก็อยู่กับลูกไม่ไปหาผู้หญิงคนนั้น”
“ใครจะรู้คะ เขาบอกว่าไปทำงาน เขาอาจจะไปอยู่กับเธอคนนั้นก็ได้ใครจะไปรู้คะแม่ตอง” เธอบอกตอบท่านกลับ
“ไม่เอาไม่คิดมากสิลูก เดี๋ยวก็เครียดเข้าโรงพยาบาลอีกหรอก ตอนนี้ก็พยายามคิดถึงแต่เรื่องดีๆ ที่ทำให้มีความสุขนะลูก ระหว่างนี้อยู่ด้วยกันก็อย่าชวนกันทะเลาะนะลูก ยิ่งเราเสี่ยงคลอดก่อนกำหนดด้วย” นางบอกลูกสาว
“นวลจะพยายามค่ะแม่” เธอรับปากไม่เต็มเสียงนัก
เพณิตามาหาสามีที่บริษัท เธอถามเลขาหน้าห้องของเขาและพอทราบว่าเขาทำงานอยู่ในห้องก็ไม่รอช้าที่จะให้เลขาโทรแจ้งชายหนุ่ม มือเล็กเรียวก็ผลักเปิดประตูห้องแทรกตัวเข้าไปในห้องทันที พอเข้ามาก็เห็นเขาเลิกคิ้วมองมาทางตนเองพอดี
“น้องกี้”
“ค่ะ นึกว่าพี่ภูลืมเมียคนนี้ไปซะแล้ว” หล่อนตอบแล้วเดินไปลากเก้าอี้ตรงข้ามเขาออกมานั่ง
“มีธุระอะไรกับพี่ครับ” น้ำเสียงยังคงสุภาพเหมือนครั้งแรกที่รู้จักกัน
“กี้ต้องมีธุระกับสามีตัวเองด้วยเหรอคะถึงจะมาหาได้” เธอตอบกลับอย่างมีอารมณ์
“เรื่องของเรา พี่ขอโทษ พี่คงทำหน้าที่สามีให้กี้ไม่ได้” เขาบอกไปตามที่คิดโดยไม่คิดจะรักษาหัวใจของอีกฝ่าย ทั้งๆ ที่มองออกว่าเพณิตาคิดยังไงกับตนเอง
“แล้วมาแต่งงานกับกี้ทำไม ถ้าทำหน้าที่สามีให้กี้ไม่ได้”
“พี่ทำตามที่คุณแม่ต้องการ และตอนนี้พี่ก็ทำหน้าที่สามีไม่ได้จริงๆ พี่มีคนที่พี่รักอยู่แล้ว” เขาบอกไปอย่างไม่ปิดบัง
“แล้วมาหลอกกี้ทำไม ชีวิตทั้งชีวิตของกี้ต้องมาพังเพราะพี่ภู” เธอตะโกนเสียงแหลมตอกกลับ
“พี่ขอโทษ เรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้จริงๆ” เขาบอกอย่างรู้สึกผิด
“ไม่รู้ล่ะ ในเมื่อแต่งงานกับกี้แล้วก็ต้องเป็นสามีของกี้ กี้ไม่สนใจหรอกนะคะว่าที่ผ่านมาพี่จะมีใคร จะรักใคร แต่ต่อไปนี้พี่เป็นของกี้ แล้วเรื่องจดทะเบียนสมรสล่ะคะ เมื่อไหร่พี่จะพร้อมไปจด กี้รอพี่อยู่นะคะ”
“พี่จดไม่ได้ เพราะพี่จดทะเบียนสมรสแล้ว” เขาบอกไปตามจริง
“สารเลว!” ใบหน้าสวยที่แต่งมาสวยงามบิดเบี้ยวด้วยความกรุ่นโกรธคนตรงหน้า
“พี่ขอโทษ เรื่องระหว่างเราถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น เรายังไม่ได้เข้าหอ พี่ก็ไม่ได้แตะต้องกี้”
“แต่งานแต่งของเราทุกคนรับรู้ คนในสังคมรู้ว่าเราแต่งงานกัน”
“พี่รู้ แต่จะให้พี่อยู่กับกี้ พี่ทำไม่ได้จริงๆ เพราะพี่มีคนที่รักรอพี่อยู่ และลูกของพี่ด้วย”
“ลูก?”
“ใช่ พี่กำลังจะมีลูก เธอกำลังจะคลอดลูกของพี่ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้ พี่หวังว่าเรื่องระหว่างเราจะเป็นเพียงความผิดพลาด และพี่ก็พลาดมากที่ทำลายครอบครัวตัวเอง ตอนนี้เธอเกลียดพี่เพราะเรื่องของพี่กับกี้”
“เธอรู้เรื่องของเราด้วยเหรอคะ?” หล่อนถามด้วยไม่เข้าใจในประโยคก่อนหน้านี้
“อือ...เธอรู้และเสียใจมาก ตอนนี้เธอต้องการหย่าจากพี่ แต่พี่จะไม่มีวันหย่าจากเธอและจะไม่ปล่อยมือเธอ”
“พี่ภูรักเธอคนนั้นเหรอคะ?”
“ใช่ พี่รักนวลและลูกมาก ทั้งสองคือชีวิตจิตใจของพี่ ถ้าไม่มีทั้งสอง พี่ก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม เรื่องของพี่กับกี้ พี่ขอโทษนะ และเราก็อยู่กันแบบนี้ไปก่อน สักปีหรือไม่สี่ห้าเดือน เราค่อยมาบอกสังคมว่าเราไปกันไม่ได้แล้วแยกทางกัน”
“พี่พูดง่าย แต่กี้เสียหาย”
“พี่รู้ แต่มันคือทางที่ดีที่สุดในตอนนี้ที่พี่ทำได้ เพราะพี่ต้องรักษาครอบครัวของพี่ พี่ไม่ต้องการเสียเขาทั้งสองไป”
“ได้ค่ะ แต่ถ้ายังไงหากกี้ต้องการความช่วยเหลือรบกวนพี่ภูด้วยนะคะ และพ่อของกี้อยากทานข้าวกับพี่ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ พี่ว่างไหมคะ”
“ได้สิ เดี๋ยวพี่ไปทานข้าวกับท่าน”
“ขอบคุณนะคะ กี้จะไม่ยุ่งเรื่องของพี่แล้ว คนมันไม่รักยังไงก็ไม่รัก กี้เข้าใจค่ะ” แม้จะเจ็บปวดแต่ก็ต้องยอมรับ เพราะในสายตาของคนตรงหน้าไม่ได้มองเธอเลยสักนิด มันมีแต่ความว่างเปล่า แต่พอพูดถึงใครอีกคน มันกลับเต็มไปด้วยความรักความห่วงใย
“ขอบคุณนะคะ หวังว่าหลังจากนี้ พี่ภูจะช่วยกี้แสดงละครนะคะ แล้วจะจบกันเมื่อไหร่ กี้จะเป็นคนบอกเอง”
“ครับ ขอบคุณนะครับที่เข้าใจพี่ และขอโทษที่ทำให้ชีวิตกี้พัง”
“ไม่เป็นไรค่ะ” หล่อนบอกกลับเสียงดัง ทั้งๆ ที่ในใจเจ็บปวดเหลือเกิน เพิ่งจะได้รู้จักความรักก็อกหักเสียแล้ว อกหักตั้งแต่เริ่มต้น
“งั้นกี้ก็ไม่มีอะไรจะพูดกับพี่ภูแล้ว ขอตัวกลับนะคะ”
“ครับ และขอโทษจริงๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้น”
“ค่ะ กี้เข้าใจ ความรักมันบังคับกันไม่ได้ อกหักตั้งแต่ลงสนาม เจ็บแต่ก็รับได้ค่ะ พี่ภูบอกตรงๆ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน กี้จะได้ตัดใจตั้งแต่เริ่มรัก” เพณิตาเอ่ยอย่างเข้มแข็งแล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องทำงานไป ส่วนภูเบศก็ได้แต่มองตามด้วยความรู้สึกผิด แต่เขารักหล่อนไม่ได้ เพราะหัวใจที่มีมันมีนวลพรรณแล้ว และเขาไม่คิดจะเปลี่ยนไปรักใครได้อีกแล้วในชีวิตนี้