บทนำ

3818 Words
บทนำ                ฉันไม่แน่ใจว่าตัวเองตัดสินใจถูกหรือเปล่า ขณะพาเขาก้าวเข้ามาในห้องพักของตัวเอง จู่ๆ ก็เกิดความลังเล แต่ก็เพียงไม่กี่เสี้ยววินาทีเท่านั้น เพราะเมื่อร่างสูงผ่านประตูเข้ามาไม่กี่ก้าว เขาก็คว้าร่างฉันไปแนบร่างแกร่งของตนเอง บดเบียดเสียจนฉันรู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อที่แน่นตึงไปทุกสัดส่วนของเขา และตรงนั้นก็เสียดสีกับหน้าท้องของฉัน เพราะความสูงที่ต่างกัน ระหว่างผู้ชายสูงถึง 185 เซนฯ ขณะที่ฉันก็เป็นเพียงสาวร่างกะทัดรัด แค่ 162 เซนฯ เท่านั้น ตรงนั้นของเขาร้อนผ่าวพร้อมจะเผาไหม้ฉัน          แต่ฉันก็คิดว่า...          นาทีต่อมาฉันก็คิดอะไรไม่ออก เพราะถูกร่างสูงอุ้มเอาเอว และขาเล็กๆ ของฉันก็เกี่ยวเอวเขาไว้ราวกับกลัวจะหลุดจากอ้อมกอดที่รัดแน่นของเขา          ก่อนจูบอันเร่าร้อนจะบดลงมาบนกลีบปากของฉัน บดแรง ก่อนแผ่วเบา จูบละเลียดไปทั่วริมฝีปาก ขบเม้ม ตามด้วยใช้ลิ้นไล้เลียอย่างยั่วเย้าทำให้ฉันครางเสียงแผ่ว แล้วผละออก มองสบตาคมพราวอย่างขัดใจ เขายิ้มมุมปาก ก่อนจะก้มลงจูบอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ฉันครางเสียงดังขึ้น เพราะเขาสอดลิ้นเข้ามาในโพรงปาก ไล้ลิ้นไปตามไรฟันฉัน เก็บกวาดอย่างวาบหวาม ดูดดึงปลายลิ้นเล็กๆ ของฉัน แตะต้องยั่วเย้า ผละห่าง จู่โจม จนฉันตัวอ่อนปวกเปียกในอ้อมกอดที่ขาทั้งสองข้างเริ่มเกาะเอวเขาไว้ไม่อยู่          เหมือนเขาจะรู้ว่าฉันไม่ไหวแล้ว จึงอุ้มฉันเข้าไปวางบนโซฟายาว ไม่ปล่อยให้หายใจหายคอ ก้มลงบดจูบอย่างร้อนแรง โดยไม่ยอมผละห่าง แถมมือของเขายังสอดเข้ามาสำรวจเรือนร่างของฉันอย่างจัดเจน          “คุณเตนท์...อย่า...” ฉันร้องออกไปด้วยสัญชาตญาณ หรือความเขินอายมากกว่าจะให้เขาหยุดจริงๆ เพราะมือนั้นลากจากลำคอ แตะต้องบนฐานอก คลึงเคล้าเบาๆ ก่อนมาแตะยอดอก ไล้วนเบาๆ แต่เรียกความกระสันจนร่างฉันสั่นสะท้าน          ปลายนิ้วอ่อนนุ่มสัมผัสหัวนมแผ่วเบา มันสร้างความรู้สึกพลุ่งพล่านจนร่างฉันบิดเร้า          “ผมเชื่อแล้วจริงๆ ว่าคุณยังไม่เคย” เขาพูดแค่นั้น แต่ดวงตาพราวหวานเหมือนถูกใจกับสิ่งที่ฉันเป็น          “ตาลแค่...อ๊ะ...” ฉันแค่อยากอธิบายในสิ่งที่บอกเขาก่อนหน้านั้น แต่ไม่ทันแล้วเพราะทุกคำที่หลุดจากปากของฉัน มันคือเสียงครางแผ่ว สลับกรีดร้อง เหมือนริมฝีปากนั้นทักทายยอดอกของฉัน ตุ่มไตแข็งชันกับลิ้นชื้นๆ สร้างความรัญจวนจนฉันกรีดร้อง          มือที่จิกลงบนโซฟา กลับรั้งศีรษะเขาไว้แน่น แล้วสอดนิ้วลงบนเรือนผมของเขาอย่างเผลอไผล          “คุณเตนท์ ตาลกำลังจะ...ตาย....”          ฉันได้ยินเสียงหัวเราะเหมือนขบขำ ก่อนได้เสียงทุ้มต่ำปลอบโยน          “ก่อนตาย ตาลจะได้ขึ้นสวรรค์” จากนั้นเสื้อผ้าของฉันก็หลุดออกจากร่าง เหลือเพียงบิกินีสีดำที่ปกปิดส่วนนั้นไว้          ความเขินอายทำให้ฉันวางมือแปะไว้ แต่นั่นทำให้ถูกโจมตีส่วนอื่นได้อย่างสบาย เพราะเขาบดจูบไปยังหน้าอก จูบทั้งเต้าอย่างเมามัน จากเบาๆ ก็แรงขึ้นจนได้ยินเสียงจ๊วบจาบ สร้างความกระสันในตัวเขามากยิ่งขึ้น          และฉันจึงเผลอสอดปลายนิ้วเข้าไปในเล่นกับเส้นผมของเขาอีกครั้ง พร้อมรั้งเข้ามาแนบชิด          ทรวงอกอิ่มของฉันเหมือนขนมหวานที่เขาไล้เลีย กลืนกินอย่างหิวโหย ความรู้สุขขึ้นสวรรค์เป็นแบบนี้เองเหรอ          ฉันถามตัวเอง ขณะปล่อยกายใจไปกับรสเสน่หาที่เขาปรนเปรอ          ก่อนฉันจะรู้ว่าสวรรค์ที่ได้สัมผัสเมื่อครู่นั้น มันเพิ่งเริ่มต้น เพราะนาทีต่อมาฉันก็กรีดเสียงร้องลั่น เมื่อเขาจูบไปทั่วร่าง สัมผัสแผ่วเบา สลับขบเม้ม พร้อมสอดปลายนิ้วเข้าไปในบิกินีของฉัน ไล้เบาๆ บนกึ่งกลางกลีบดอกไม้ แต่ฉันเหมือนหายใจไม่ออก สูดปากแรง กลั้นเสียงที่รู้ว่าพยายามไปก็ไร้ประโยชน์          “คุณเตนท์ขา ตาล...ไม่ไหว...”          “ถึงขนาดนี้แล้ว ไม่ไหว ก็ต้องไหวนะ” เขาพูดกลั้วเสียงหัวเราะทุ้มต่ำที่ฟังแล้วโคตรเซ็กซี่          “และนี่คือสวรรค์อีกขั้นที่ผมอยากให้ตาลสัมผัส”          ฉันยังมึนงงกับคำพูดของเขาไม่กี่เสี้ยวนาที ก่อนรับรู้ถึงปลายลิ้นชื้นที่แตะทักทายตุ่มไตตรงกลางกึ่งกลางกลีบดอกไม้ของฉัน          “อือ...กลิ่นของตาลดีมากๆ ผมชอบ อ๊า...” เขาครางเสียงพร่า ก่อนปลายลิ้นนั้นจะกวาดไล้ไปทั่วกลีบดอกไม้ของฉันสร้างความเสียวซ่านจนฉันไม่อาจกลั้นเสียงร้องอันรัญจวนได้          “อ๊ะ อา...คุณเตนท์ขา อือ...”          เขาจูบพรมไปทั่วกลีบดอกไม้อันชุ่มฉ่ำ เสียงครางพร่าต่ำของเขาก็ยิ่งทำให้ฉันสั่นสะท้าน และหวีดเสียงร้องอย่างรัญจวน พร้อมกับมองเห็นแสงดาวพริบพราวอยู่ตรงหน้า เมื่อเขาเอาลิ้นสอดเข้าไปในโพรงลึก ดูดดื่มความหอมหวานที่เขาบอกว่าชื่นชอบกลิ่น          ฉันหวีดร้องสุดเสียงกับความเชื่องช้า แอ่นตัวเข้าหา ดวงตาฉ่ำปรือของฉันมองสบนัยน์ตาคมพราวนั้นอย่างวิงวอน          “ยัง...ตาลยังไม่เคย ต้องเล้าโลมนานๆ เพื่อให้น้ำหล่อลื่นออกมาเยอะๆ ไม่อย่างนั้นคุณจะเจ็บนะ”          “ไม่เป็นไรค่ะ ตาลต้องการคุณเตนท์...เดี๋ยวนี้เลย อ๊ะ...อา”          ฉันพูดได้แค่นั้นเมื่อเขารัวลิ้นกวาดไปทั่วกลีบอันชุ่มฉ่ำของฉัน”          “ตาลสวยมากจริงๆ สะอาด หอมหวาน”          ฉันไม่รู้ว่าเขาพูดเพราะความต้องการถึงที่สุดแล้วหรือเปล่า แต่ฉันไม่สน เพราะตอนนี้ฉันกำลังทรมานเพราะความต้องการเขาจนแทบจะร้องไห้          “คุณเตนท์ขา เข้ามาในตัวตาลเถอะ ตาล...ต้องการคุณ”          “ถ้าผมให้แล้ว ตาลจะเป็นของฉันคนเดียวหรือเปล่าล่ะ” เขาถามยิ้มๆ แต่มือกลับทำหน้าที่แทนริมฝีปากด้วยการลูบไล้สลับสอดเข้าไปในกายของฉันอย่างช้าๆ          “ตาลจะเป็นของคุณเตนท์คนเดียวค่ะ”          “สัญญาสิ”          “สัญญา” ฉันพูดไปเพราะตอนนี้ฉันไม่คิดจะมีใครอื่นเลย ไม่ว่าจะเป็นพี่เร หรือใครที่จะมีในวันข้างหน้าอีกหรือไม่          “โอเค ผมจะเชื่อตาลก็ได้” ไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็เปลือยกายต่อหน้าฉัน ลมหายใจหายเป็นห้วงๆ กับร่างกายอันสวยงามของเขา          ผู้ชายคนนี้เหมือนเทพเจ้าปั้นแต่ง นอกจากใบหน้าหล่อราวเทพบุตรเข้าข่ายตี๋เข้มที่ตรงสเปกฉัน เขายังมีรูปร่างที่ดีมากๆ ทั้งความสูงและสัดส่วนของร่างกายที่ไร้ที่ติ แถมเนื้อตัวยังลีน แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อทั้งที่เขาไม่ได้ตัวหนาล่ำใดๆ เป็นผู้ชายที่เรียกว่าหุ่นนักกีฬาของแท้          ฉันอดไม่ได้เอื้อมไปสัมผัสตัวเขา ตั้งแต่ใบหน้าหล่อเหลา สัมผัสช้าๆ ตั้งแต่คิ้ว แก้มสาก คาง และริมฝีปากที่สร้างความเสียวซ่านในทุกจุดบนร่างกายฉัน          อีกฝ่ายขยับเข้ามาใกล้เพื่อให้ฉันสัมผัสเขาได้ถนัด ฉันลูบไล้กล้ามแขน ลามมาถึงหน้าอกแน่นตึง และลองแตะบนยอดอกของเขาเหมือนที่เขาทำกับฉัน          “อา...” เขาครางเบาๆ ดวงตาคมพราวนั้นมองฉันอย่างท้าทาย ทำให้ฉันกล้าที่จะทำมากกว่าฉัน ด้วยการขยับตัวขึ้นแล้วก้มลงจูบยอดอกของฉัน ไล้ปลายลิ้นสลับขบเม้มไม่ต่างจากที่เขาทำกับฉัน          “จะเอาคืน...” เขาเอ่ยเย้าพร้อมครางเสียงพร่าต่ำอีกครั้ง เมื่อฉันจูบกระหน่ำอย่างไม่ยั้งจนเขาตัวอ่อน ทอดตัวลงนอนบนโซฟา ปล่อยให้ฉันสำรวจเขาไปทั่วร่างกาย แต่ก่อนจะแตะต้องต้องกึ่งกลางที่ชูชัน ที่มีขนาด...สมกับรูปร่างของอีกฝ่าย          เขาก็ดันร่างฉันออกห่าง          “ยังก่อน”          “ทำไมคะ...” ฉันถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะเขายังแตะต้องของฉันได้ ทำไมฉันจะทำไม่ได้          “ผมกลัวว่าจะพาคุณไปไม่ถึงสวรรค์น่ะสิ”          ฉันพยายามทวนคำพูดของเขา แต่ไม่กี่เสี้ยวนาที เพราะเขาตวัดวงแขนอุ้มฉันไปวางบนเตียงนอนเสีย ก่อนบดจูบอย่างเร่าร้อน ฉันจูบตอบอย่างกระหาย          ฉันชอบจูบของเขา และชอบจูบเขามากๆ ด้วยเช่นกัน จริงๆ แล้วฉันชอบเขาทุกอย่างนั่นแหละ ทั้งหน้าตา รูปร่าง และโปรไฟล์อันที่ทำให้เขากลายเป็นผู้ชายที่แสนเพอร์เฟกต์ที่สุด          ความคิดของฉันหยุดลงแค่นั้นเมื่อริมฝีปากอุ่นร้อนนั้นได้จู่โจมจุดอ่อนของฉันอีกครั้ง ทั้งหน้าอก และกึ่งกลางร่างกาย ลิ้นที่พลิ้วไหวในบางครา ชั่วขณะเหมือนอาวุธร้ายที่แข็งแกร่งจู่โจมสอดลึกโจมตีจนฉันดิ้นพล่าน          หยาดน้ำจากภายในหลั่งไหล พร้อมกับเสียงดูดกลืนรัญจวนใจ จนฉันเชื่ออย่างหมดใจว่าเขาหลงใหลตรงนั้นของฉันจริงๆ เพราะใช้เวลานานมาก จนฉันแทบจะขาดใจ ร้องครวญครางจนเสียงแห้ง กายบิดเร้าทรมานเหมือนถูกไฟอัง          “คุณเตนท์ขา...อ๊ะ...อา กรี๊ด...” ท้ายประโยคนั้นคือความเจ็บปวดที่ไม่เคยพานพบมาก่อน          “เจ็บ...” ความเสียวซ่านชะงักงัน พร้อมกับดันมือที่หน้าอกเขาไว้ สูดปากครางด้วยความเจ็บ พร้อมขยับตัวจะผละออก          “นิ่งๆ ก่อนครับคนดี ไม่งั้นตาลจะยิ่งเจ็บนะ”          ฉันทำตามที่เขาบอก มือของเขาประคองใบหน้าฉันไว้ ยิ้มให้ สายตาอบอุ่นนั้นทำให้ฉันส่งยิ้มตอบ ก่อนเขาจะก้มลงมาจูบฉันอย่างอ่อนโยน          “ไว้ใจฉันนะ”          “ค่ะ ตาลไว้ใจคุณเตนท์ อ๊ะ...” สิ้นเสียงเขาก็ขยับเบาๆ และมือใหญ่ก็ลูบไล้บนยอดอก          ฉันตัวสั่นสะท้านขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับแอ่นหน้าอกรับปลายลิ้นที่ก้มลงจูบ บดเคล้า ฉันหวีดร้องอีกครั้งขณะที่ช่วงล่างขยับเบาๆ ความเจ็บก่อนหน้านั้นปลิวหาย ตอนนี้มีแต่ความกระหายอยากในรสสัมผัส          ฉันกรีดร้องวิงวอนเหมือนหญิงร่าน ที่อยากสุขสม อยากให้เขากระแทกตัวเข้าหาแรงๆ และให้เขาบดเคล้าหน้าอกให้ถึงใจกว่านี้ เรียกร้องให้เขาทำทุกอย่างที่ภายในใจรู้สึกอย่างสิ้นอาย          “แรงอีกค่ะคุณเตนท์ อา...อ๊า ดีค่ะ แรงอีก อ๊ะ อา”          เขากระแทกเข้าหาอย่างไม่ยั้งตามที่ฉันเรียกร้อง ขณะมือกับปากก็สลับบดคลึงหน้า จูบเฟ้นอย่างที่ฉันปรารถนา          กระทั่งฉันมองเห็นแสงวิบวับที่อยู่ตรงหน้า พร้อมขยับร่างบดเบียดเข้าหาจังหวะที่เข้าถาโถมเข้าใส่          “คุณเตนท์ อ๊า”          ฉันร้องเสียงดังพร้อมกับเกร็งตัวสั่นเทิ้ม ร้อนเร่าเหมือนไฟเผา เหงื่อชุ่มตัว และวินาทีต่อมาเขาก็มีอาการไม่ต่างจากฉัน เสียงครางพร่าต่ำนั้น ร่างเกร็งก่อนสั่นเทิ้มซุกซบกับอกของฉัน          การมองเห็นเขาสุขสมทำให้อารมณ์ฉันกระพือขึ้นมาอีกครั้ง มันเป็นเรื่องปกติหรือเปล่า ฉันไม่รู้ เพราะนี่เป็นครั้งแรกของฉัน          ฉันอยากทำกับเขา อยากสัมผัสเขาไม่ต่างจากที่เขาทำกับฉัน โดยเฉพาะตรงนั้น อยากจูบ อยากไล้เลีย อยากดูด และอยากเป็นฝ่ายขยับตัวบนร่างของเขาบ้าง          “ล้างตัวก่อนเถอะ เหมือนมีเลือดออกด้วยนะ” เขาบอกด้วยสายตาขอโทษ ฉันก้มลงดูตรงนั้น และผ้าปูที่นอนสีขาวมีเลือดจางๆ แทบจะเป็นสีชมพู          “ตาลไม่เห็นเจ็บเลยค่ะตอนนี้” ฉันพูดพร้อมกับวางมือที่หน้าอกของเขา ทำท่าจะไล้นิ้วเล่น แต่เขาจับมือฉันไว้          “ไปล้างตัวก่อน จากนั้นค่อยว่ากัน” เขาบอกยิ้มๆ เหมือนอยากเอาใจฉัน          ฉันจึงไม่ลังเลที่จะให้เขาอุ้มเข้าไปในห้องน้ำ ปล่อยให้เขาอาบน้ำให้เหมือนเด็กเล็กๆ ที่ทำอะไรไม่เป็น นอกจากร้องครวญครางยามฝ่ามือนั้นลูบไล้สบู่บนเนื้อตัว โดยเฉพาะฐานอก และยอดปทุมที่แข็งเป็นไตสู้มือของเขา          แม้กระทั่งตรงนั้นเขาก็ล้างให้ ก่อนตัวเขาจะล้างอีกครั้งด้วยปลายลิ้นชื้นอย่างไม่รังเกียจ มันทำให้ฉันเสียวซ่านพร้อมกับอิ่มเอมใจอย่างประหลาด          มันเหมือนกับว่าฉันกับเขาเป็นคู่รัก ที่รักกันผูกพันกันมานาน ไม่ใช่คู่นอน วันไนท์ เพราะฉันกับเขา ที่ฉันรู้จักแค่ว่า เขาชื่อคุณเตนท์ เพื่อนสนิทของแฟนคนใหม่ของเพื่อนสนิทฉันอีกที          ที่เราเพิ่งเจอกันครั้งแรกเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา          “คิดอะไรอยู่” เขาถามหลังจากผละจากตรงนั้นแล้วอุ้มฉันนั่งบนขอบอ่างล้างหน้า          “ก็คิดว่า...ระหว่างเรา เหมือน...คือ...”          “คืออะไร”          “มันดีจนตาลคิดมโนเรื่อยเปื่อย”          “หยุดคิดได้แล้ว สนใจตรงนี้สิ”          “อ๊ะ อา...” ฉันครางไม่หยุดเมื่อเขาจูบหน้าอกฉันอีกครั้ง          “แรงๆ” ฉันบอกเสียงกระเส่า          “เป็นรอยแล้วอย่าโทษผมนะ”          “ไม่...อ๊ะ อา...”          เขาจูบ ขบเม้มและกัดเบาๆ บางจังหวะก็แรงจนเจ็บ แต่ก็ทำให้เสียวซ่านจนกรีดร้อง          บทรักบนห้องน้ำไม่ได้เล้าโลมนานเหมือนครั้งแรก แต่โหมแรงด้วยความเร่าร้อนดิบเถื่อนอย่างที่ฉันไม่ต้องเรียกร้องใดๆ          มันให้อารมณ์สุดทาง คลั่งไคล้และน่าหลงใหล จนฉันคิดว่าชาตินี้คงขาดคุณเตนท์ไม่ได้ และปรารถนาในตัวเขาไม่สิ้นสุด          แม้จะรู้ว่ามันเป็นไม่ได้ที่ฉันกับเขาจะเดินทางไปด้วยกันตลอดเส้นทางชีวิต หรือแม้จะพานพบมาพบกันบ่อยๆ ได้ เพราะเขากับฉันต่างกันราวสวรรค์กับนรก การได้อยู่กับเขาในคืนนี้ก็น่าอัศจรรย์แล้ว แค่นี้ก็คงพอกับชีวิตสาวบริสุทธิ์มาตลอดชีวิตยี่สิบห้าปีของฉัน          ที่มีผู้ชายที่หน้าตารูปร่างดีขนาดนี้มาเปิดประสบการณ์ทางเพศให้อย่างตราตรึง          บทรักในห้องน้ำจบลง เราต่างหลับใหล ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาในตอนที่สายมากๆ แล้ว และฉันตื่นสายกว่าเขา ที่เข้ามาในห้องพร้อมมื้อเช้า นั่นคือแซนวิชไข่ดาวกับไส้กรอก พร้อมน้ำส้มพร้อมดื่มที่เขาคงหาได้จากตู้เย็น          “ขอบคุณค่ะ” ฉันเอ่ยขอบคุณก่อนหยิบแซนวิซเข้าปากด้วยความหิวโหย          “คุณเตนท์ทานหรือยังคะ”          “ทานแล้วครับ” เขานั่งมองฉันกินพร้อมรอยยิ้ม เมื่อฉันกินหมดแล้วก็ยกออกจานออกจากห้อง แล้วกลับเข้ามาในห้อง ขณะที่ฉันเดินเข้าห้องน้ำ และเพราะเดินตัวเปล่าเข้าห้องน้ำ จึงเดินตัวเปล่าออกมา ฉันหน้าร้อนผ่าวเมื่อเห็นเขามองมาด้วยแววตาร้อนแรง          ฉันจึงรีบขึ้นไปเอนตัวบนเตียงข้างๆ เขา          “คุณเตนท์...เออ วันนี้ไม่ทำงานเหรอคะ”          “ผมเพิ่งกลับจากเมืองนอกไง ยังไม่ทำงานเร็วๆ นี้หรอก จะอยู่เที่ยวสักเดือนสองเดือน”          “โห เที่ยวนานจังเลย”          “เที่ยวด้วยกันไหม”          “เที่ยวไหนดีคะ เพราะวันพุธตาลก็ต้องไปทำงานแล้วนะ”          “ก็เหลือเวลาอีกตั้งสามวันเลยนะ เราไปเที่ยวทะเลกันดีไหม”          “ดีค่ะ ทะเลที่ไหนดีนะ” ถึงเพิ่งจะรู้จักกัน ฉันไม่คิดกลัวเขาเลยจริงๆ ว่าจะพาฉันไปทำมิดีมิร้ายหรือเปล่า ก็เมื่อคืนฉันให้เขาทำไปหมดแล้ว มีอะไรที่ต้องเสียอีกล่ะ เว้นแต่เขาจะพาฉันไปขายซ่อง แต่เขารวยอยู่แล้ว จะได้อะไรจากการทำแบบนั้นล่ะ ฉันหลงเสน่ห์เขา หลงทุกอย่าง ทั้งหน้าตา รูปร่าง ความร่ำรวยที่อยากไปเที่ยวไหนก็ไป อยากไม่ทำงานกี่เดือนก็ได้          ที่สำคัญฉันหลงเซ็กส์ที่เพิ่งเริ่มต้นกับเขา กล้าพูดอย่างไม่ละอายใจใดๆ ว่าหลงมาก กระหายมาก แค่มองตาเขาก็กระสันจนแทบฟังที่เขาพูดไม่รู้เรื่อง          “ภูเก็ต”          “ตกลงค่ะ”                     “ไม่คิดหน่อยเหรอ”          ฉันส่ายหน้าหวือ ก็แน่นอนสิ ขณะที่ถาม เขายิ้มด้วย ดวงตาคมพราวนั้นเป็นประกายระยับ          โอ๊ย ใจฉัน...ละลายไม่รู้กี่ครั้ง          “ตาลมองผมเหมือนอยากกลืนกิน”          “ตาลอยาก...กลืนกินคุณเตนท์จริงๆ” ฉันบอกออกตรงๆ อย่างไม่กระดากปาก ทั้งที่ปกติฉันชอบเก็บงำคำพูด ออกจะอายที่พูดอะไรทำนองนี้ แต่ผู้ชายคนนี้ทำให้ฉันหลุดจากกรอบที่เคยเป็น          ก็แน่นอนเมื่อคืนเปิดเปลือยอารมณ์ ความรู้สึกทุกอย่างไม่มีหมกเม็ด กล้าขนาดเรียกร้องสัมผัสจากเขา ทั้งบอกให้ทำแรงๆ จูบตรงนั้น เลียตรงนี้ให้หน่อย ทำเสียงออดอ้อนกึ่งออกคำสั่งด้วย และเขาก็ยอมทำตามทุกอย่าง แล้วจะมาเหนียมอายตอนนี้คงไม่ทันแล้ว          “งั้นก็อย่าช้าสิ...” เขาจบประโยคนั้นด้วยการจับมือของฉันไปวางตรงกึ่งกลางลำตัวของเขาที่ชูชันต้อนรับมือของฉัน          “อือ...แข็งแล้วนะคะ”          “แค่มองตาตาลที่มองผมเหมือนจะกลืนกิน ผมก็ต้องการคุณแล้ว”          “จริงๆ เหรอคะ”          “ไม่เชื่อก็ลอง...ชิมดูก่อน”          “แล้วจะอร่อยเหมือนไอติมรสโปรดของตาลไหมน๊า” ฉันทำเสียงอ้อนๆ ยั่วๆ เรียกเสียงหัวเราะทุ้มจากเขา ก่อนฉันจะเปลี่ยนเสียงหัวเราะนั้นให้เป็นเสียงร้องคราง          “เก่งเหมือนกันนะ เคยกินมาก่อนเหรอ”          “ไม่เคยค่ะ แต่อ่านนิยายอีโรติกมาเยอะค่ะ เขาสอนละเอียดกว่าบทความเรื่องเซ็กซ์อีกนะคะ”          “นักเขียนมากประสบการณ์สินะ”          “เปล่าค่ะ นักเขียนบอกว่าดูจากหนังโป๊ค่ะ” และนั่นทำให้เขาหัวเราะอีกครั้ง          “อือ...บอกนักเขียนคนนั้นด้วย ของจริงมันดีกว่าแค่ดูนะครับ”          “ค่ะ เห็นด้วย ของจริง มันดีกว่าการอ่านแล้วจินตนาการเอาเฉยๆ”          “งั้นตอนนี้ ทำตามที่ตาลอ่านนิยายมาก่อนสิ อยากรู้ทฤษฎีกับปฏิบัติสอดคล้องกันไหม”          แน่นอนแตกต่างกัน เพราะของจริงนั้นมีรายละเอียดปลีกย่อย และต้องเรียนอีกมากมาย ที่เขาก็สอนฉันทุกขั้นตอน จนฉันสามารถทำให้เขาครางเสียงดังลั่น ไม่เกรงกลัวห้องข้างๆ จะติดป้ายประจานหน้าห้อง          ฉันชอบที่เห็นเขาสุขสม มองฉันด้วยสายตากระหายเหมือนอยากลุกมาขย้ำ แต่เกมนี้ฉันขอไว้แล้วว่าฉันจะเป็นฝ่ายเดินเกม และเขาเป็นเพียงทาสรักของฉันเท่านั้น          กระทั่งฉันได้กินน้ำขาวขุ่นนั้นอย่างหนำใจ ไล้เลียยั่วยวนเรียกเสียงครางทุ้มจากเขา พร้อมกับสวมเข้าปากดูด เม้ม รูดรึงอย่างชำนาญขึ้น เจ้ามังกรก็ผงาดอีกครั้ง และครั้งนี้ฉันต้องควบคุมให้อยู่หมัดอีกครั้ง          เมื่อฉันคร่อมตัวสอดเข้าไปในโพรงลึกของตัวเอง ที่คิดว่าจะควบคุมกลับกลายเป็นถูกเขาควบคุม เมื่อเขาสวนกลับจังหวะที่เร่าร้อน และฉันหวีดร้อง ปากของเขาก็ครอบครองทรวงอกของเขา แถมปลายนิ้วยังสอดเข้าสะกิดเกสรกึ่งกลางกลีบดอกไม้ขยับไปมา          เสียงจังหวะของเรา เสียงหวีดร้องปนเสียงคำรามพร่าต่ำ และแรงกระแทกของสองร่างจนเกิดเสียงเนื้อกระทบเนื้อ ยิ่งสร้างความรัญจวน ฉันเหมือนจะตาย แต่ไม่ตาย เหมือนจะขึ้นสวรรค์ แต่คล้ายตกนรก เมื่อความทรมานจะไปให้สุดปลายทาง แต่ถูกเขาดึงกลับไว้ด้วยการขยับตัวช้าๆ          “คุณเตนท์ อือ อย่าแกล้ง...”          “อยากให้ช้าๆ ผมจะได้อยู่ในตัวคุณนานๆ ไง อ๊ะ...”          “แต่ตาลไม่ไหวจริงๆ” ฉันเป็นฝ่ายขยับตัว แล้วเร่งเร้าเขาด้วยแรงปรารถนาจนเขาควบคุมไม่อยู่ ขยับตัวตามและแรงจังหวะ ก่อนเราทั้งสองจะเปล่งเสียงร้องแข่งกัน แล้วจูงมือกันเดินไปยังปลายทางสวรรค์อย่างร้อนแรง          “คุณน่ะ เอาแต่ใจ”          เมื่อเสียงลมหายใจเป็นปกติ เขาก็ต่อว่าฉันเล็กน้อย แต่ใบหน้ากลับเปื้อนยิ้ม ฉันมองเขาด้วยความหลงใหล          “ทำไมต้องหล่อขนาดนี้ด้วย”          “แล้วไง”          “ตาลหลงคุณมากๆ เลยรู้ไหม”          “หลงผม หรือหลงเจ้านี่” เอามือฉันไปแตะกึ่งกลางของเขาที่เหมือนจะแข็งตัวอีกครั้งแล้ว          “ตาลไม่รู้ แต่ตาลชอบใบหน้าของคุณ ชอบรูปร่าง กลิ่น จูบ มือ ลิ้น และตรงนี้ด้วย”          “ก็หลงไปสิ เพราะผมก็หลงคุณมากๆ เหมือนกัน”          “แต่ตาล...ไม่คิดครอบครองคุณหรอก ไม่ต้องกลัวนะ ตาลรู้ว่าระหว่างเรา...มันคงเป็นความฝันที่...”          “มันอยู่ที่คุณทั้งนั้น ผมจะมาหาคุณตราบที่คุณยังต้องการผม”          “จริงๆ เหรอคะ”          “จริงสิ”          “ถ้าตาลต้องการคุณเตนท์ตลอดไป...จะทำไง”          “ผมก็จะมาหาคุณ...ตลอดไปเหมือนกัน”          “คุณเตนท์...” ฉันรู้ว่าคำพูดนั้นมันคือบทสนทนาที่มันทำให้คำพูดของฉันสมบูรณ์มากกว่า เขาคงไม่อยากให้ฉันเสียหน้าที่พร่ำเพ้ออะไรไปมากมาย และบางทีฉันอาจเพ้อเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันมีเซ็กส์ ที่ฉันติดใจอย่างมาก อยากมีอีกและมีอีกไม่สิ้นสุด แต่ฉัน...ก็อยากมีกับเขาคนเดียว          หรือจริงๆ ฉันยังไม่หลุดจากคำว่า ‘สาวยุคใหม่หัวโบราณ’ ที่ใครๆ จำกัดความให้ฉันมาตลอด แม้แต่พี่เร...ผู้ชายที่เพิ่งหักอกฉันไปเมื่อวานนี้          ใช่...ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ทั้งการเลิกรา และการมีเซ็กส์ที่เร่าร้อนกับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักไม่กี่ชั่วโมง แต่ฉันกลับไว้ใจเขาเพียงเพราะใบหน้าหล่อเหลา รูปร่างสูงสง่าไม่ต่างจากผู้ชายในสเปกที่ได้แต่ตามกรี๊ดเวลาดูซีรีส์          ฉันบ้าไปแล้วเพราะถูกแฟนทิ้งไปมีสัมพันธ์สวาทกับคู่อริ หรือเพราะฉันเมาไวน์ที่กินไปแค่ครึ่งแก้ว หรือจริงๆ แล้ว ฉันเองก็อยากมีเซ็กส์ดีๆ กับผู้ชายที่หล่อเหลา รูปร่างดีเหมือนพระเอกซีรีส์ที่ฉันคลั่งไคล้          แต่ช่างเถอะ...จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้ว ฉันจะไม่คิดถึงมันอีก เพราะตอนนี้สมองฉันขาวโพลนไปหมดแล้ว เพราะคุณเตนท์ได้เริ่มบทรักของเขาอีกรอบ ด้วยการขยับมือฉันให้ลูบไล้กึ่งกลางเขาอย่างเร่งเร้า และเสียงครางพร่าต่ำของเขาก็ดึงฉันให้จมอยู่กับความต้องการที่ไม่รู้จักพอ          ฉันจะทิ้งความรักบ้าๆ ที่เกิดขึ้นแค่สามเดือนกับรุ่นพี่ในที่ทำงานไปให้หมด เพื่อใช้เวลากับผู้ชายที่แสนเพอร์เฟกต์คนนี้ให้สาแก่ใจที่เคยบอบช้ำมา :::::::::::::::::::::::::::
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD