ตอนที่ 1 โดนทิ้ง

1473 Words
ในห้องคอนโดหรูกลางเมือง มีหญิงสาวอายุใกล้สามสิบสองคนนั่งดื่มเบียร์กระป๋องอยู่ในห้องนั่งเล่น ในขณะที่โทรทัศน์กำลังฉายหนังตลก แต่สีหน้าของทั้งคู่กลับตึงเครียดสุด ๆ เพราะมีคนหนึ่งถูกคนรักเชิดเงินเตรียมงานแต่งงานหนีไปกับชู้ ส่วนอีกคนก็เพิ่งถูกเจ้านายคนใหม่จิกหัวใช้งานเยี่ยงทาส วันศุกร์แบบนี้ถึงได้มาปรับทุกข์กันอย่างขมขื่น “ไอ้เลวนั่นมันถอนเงินไปจนเกลี้ยงบัญชีเลย!” เมธาวีตะโกนออกมาอย่างสุดจะกลั้น แววตาเกรี้ยวกราดด้วยความแค้น มือเล็กขยำกระป๋องเบียร์จนบุบบี้แล้วทุบลงกับโต๊ะเล็กข้างหน้า แต่แค่นี้ยังไม่สามารถบรรเทาอารมณ์หงุดหงิดที่ปะทุอยู่ในใจได้ “ไอ้ชั่วนั่นแม่งเลวจริง ๆ มันทำกับแกแบบนี้ได้ยังไง ขโมยเงินแต่งงานแล้วหนีไปต่างประเทศกับชู้เนี่ยนะ โคตรเหี้ย แล้วแกไปแจ้งความรึยัง” นาราถามเพื่อนสาวอย่างห่วงใย ทั้งที่ในใจก็โกรธจนอยากจะบินไปกระชากหัวไอ้เลวภวัฒน์กลับมาเข้าคุก แต่ไอ้ชั่วนั่นมันลบทุกช่องทางติดต่อ หายเข้ากลีบเมฆอย่างไร้ร่องรอย มันน่าเจ็บใจเพราะเธอเป็นคนแนะนำให้เบลรู้จักกับภวัฒน์ด้วยตัวเอง โดยไม่คิดว่าผู้ชายคนนั้นมันจะเลวระยำขนาดนี้ เมธาวีพยักหน้าพลางถอนหายใจ “แจ้งแล้ว แต่ตำรวจแค่ลงบันทึกประจำวัน” “เชี่ย! แบบนี้จะได้เงินคืนเหรอ เป็นล้านเลยนะนั่น” นาราสบถอย่างไม่พอใจ รู้สึกเจ็บใจแทนเพื่อนไม่น้อย “เขาบอกว่ามาแจ้งความช้าไป อายัติบัญชีไม่ทันเพราะมันถอนไปหมดแล้ว แถมชื่อก็เป็นชื่อร่วม จะเอาคืนยังไงล่ะ แม่งเอ๊ย” เมธาวีทั้งแค้นทั้งสิ้นหวัง ทั้งที่เธอใช้ชีวิตอย่างมีสติมาโดยตลอด แต่ดันถูกผู้ชายหลอกจนเกือบหมดตัว เธอเก็บเงินเพื่อแต่งงานมาตั้งสามปี แต่ถูกไอ้ชั่วภวัฒน์ตุ๋นจนเปื่อย ถ้าที่บ้านรู้เข้าเธอคงถูกตัดหางปล่อยวัดแน่ โดยเฉพาะพ่อของเธอที่ชอบเหยียดหยามเธอตลอดเวลาว่าคงหาสามีดี ๆ ไม่ได้เพราะทำงานบ้านไม่เป็น อีกอย่างเธอบอกไปแล้วว่าสัปดาห์หน้าจะพาแฟนไปเปิดตัว แต่ไหนล่ะแฟน หอบเงินเธอหนีไปพร้อมกับชู้แล้วเรียบร้อย! ก็ไม่คิดว่าชีวิตจะบัดซบขนาดนี้ นาราสงสารเพื่อนจับใจและรู้สึกผิดที่แนะนำคนชั่วให้เพื่อน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากปลอบใจ และด่าผู้ชายคนนั้นแทน “ไอ้ลูกหมานั่น ถ้าเงินหมดสักวันมันก็ต้องกลับไทย ถึงตอนนั้นฉันจะขอให้เฮียหนึ่งลากมันเข้าคุก” นาราเอ่ยถึงพี่ชายคนโตที่ทำงานเป็นตำรวจ พูดถึงตำรวจแล้วก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ “เออเบล แกไม่ลองขอให้เฮียหนึ่งช่วยอะ เผื่อจะได้เงินคืน” “แกจะบ้าเหรอ เฮียหนึ่งอยู่หน่วยปราบปรามยาเสพติด จะมาตามเงินให้ฉันได้ยังไง” เมธาวีหัวเราะเบา ๆ เธอเข้าใจความหวังดีของนารา แต่ก็ไม่อยากรบกวนพี่ชายคนนั้น เพราะเขาคือรักแรกที่ไม่สมหวังของเธอ หากเขารู้ว่าเธอถูกผู้ชายหลอก คงจะเอือมระอามากกว่าเดิม เธอไม่อยากถูกมองด้วยสายตาดูถูกแบบนั้นอีกแล้ว “ยังไงเฮียก็ยศใหญ่ คงตามได้แหละ ให้ฉันบอกเลยมั้ย” นาราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมจะกดเบอร์ แต่เมธาวีห้ามเอาไว้ก่อน “อย่าเลย เรื่องมันเกิดแล้วก็ช่างเถอะ เงินล้านนึง ตัดคนเลว ๆ ออกจากชีวิตได้ ก็ถือว่าฟาดเคราะห์แล้วกัน” หญิงสาวเปิดเบียร์อีกกระป๋องแล้วยกดื่มรวดเดียว ก่อนใช้หลังมือปาดฟองเบียร์ออกจากมุมปาก วันนี้เธอตั้งใจว่าจะตัดใจแล้วเหมือนกัน ถึงจะทำใจยากก็ตาม นารารู้สึกเสียดาย จึงไม่อยากให้เพื่อนยอมแพ้ “แต่เงินตั้งล้านนึง แกเก็บเงินนี้มาตั้งสามปีเลยนะ จะยอมแพ้ง่าย ๆ ได้ยังไง” เมธาวีถอนหายใจเฮือกใหญ่ หยิบไก่ป๊อบราดซอสเกาหลีเข้าปาก ระหว่างที่เคี้ยวก็คิดถึงเรื่องที่ใหญ่กว่านั้น “จริง ๆ มีเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นอีก” นาราได้ยินแบบนั้นก็เหงื่อตก ยังมีเรื่องใหญ่กว่าถูกขโมยเงินอีกเหรอ “เรื่อง...อะไร” สีหน้าของเมธาวีตึงเครียดขึ้นทันที “หนูนา แกรู้ใช่มั้ยว่าฉันไม่เคยพาภวัฒน์ไปเปิดตัวกับที่บ้าน กะว่าจะเปิดตัวทีเดียวก่อนแต่งงาน ที่บ้านก็คงจะคัดค้านไม่ได้ เพราะฉันก็ใกล้จะสามสิบแล้ว...” นาราฟังแล้วก็กลืนน้ำลายอย่างลำบาก บ้านของเมธาวีเคร่งกว่าบ้านของเธอเสียอีก “ฉันบอกป๊าไปว่า อาทิตย์หน้าจะพาผู้ชายไปแนะนำ...” น้ำเสียงหญิงสาวฟังดูสิ้นหวังสุด ๆ “ฉิบหายแล้ว” นาราถึงกับกุมขมับ เครียดจนไมเกรนเรียกหาเลยทีเดียว เมธาวีพยักหน้า “อันนี้ฉิบหายของแท้เลย แกก็รู้ว่าป๊าฉันเป็นคนยังไง” เมธาวีเกิดในครอบครัวเชื้อจีน แต่แม่ของเมธาวีเป็นครึ่งฝรั่ง ครอบครัวก็เลยไม่ชอบเมธาวีเท่าใด ยิ่งเป็นลูกสาวด้วยแล้ว ยิ่งนอกคอก แม่ทนความเผด็จการของพ่อและครอบครัวไม่ไหว จึงหย่าขาดในตอนที่เมธาวีมีอายุได้แค่สิบปีเท่านั้น ตอนนั้นแองเจลีนผู้เป็นแม่ตั้งใจจะพาเมธาวีไปอยู่อังกฤษด้วยกัน แต่เมธาวีเลือกที่จะอยู่ที่ไทยเพราะไม่อยากทิ้งเพื่อนดี ๆ อย่างนาราไป แต่ก็ต้องแลกกับการเป็นหมาหัวเน่าของบ้าน โดนดูถูกว่าเมื่อโตมาก็จะเป็นผู้หญิงใจง่ายหนีตามผู้ชายเหมือนแม่ เมธาวีต้องอดทนอยู่กับครอบครัวลำเอียงที่รักน้องชายมากกว่า หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย เมธาวีไม่เคยกลับบ้านเลยสักครั้ง ในวันที่เรียนจบแม่ของเมธาวีได้ซื้อคอนโดนี้ให้เป็นของขวัญ โดยที่พ่อของเธอไม่เคยดูดำดูดีเธอเลยสักครั้ง สัปดาห์ก่อนมาวินน้องชายของเมธาวีแต่งงาน หญิงสาวจึงได้กลับบ้านไปร่วมงานด้วย พอเป็นงานรวมญาติก็ถูกถามเรื่องแต่งงาน นิพนธ์พ่อของเมธาวีได้พูดดูถูกลูกสาวคนโตว่าคงไม่มีใครเอา เพราะเป็นผู้หญิงแท้ ๆ แต่ทำงานบ้าน ทำอาหารไม่เป็น ความอดทนของคนถูกดูแคลนมาทั้งชีวิตต้องหมดลงในสักวัน เมธาวีเผลอลั่นไปว่าตัวเองก็มีคนรักแล้วเช่นกัน วางแผนจะแต่งงานแล้วด้วย อีกหนึ่งสัปดาห์ จะพามาแนะนำให้รู้จัก แต่ไอ้คนที่เธอจะพาไปแนะนำให้รู้จัก ดันหนีไปแล้วนี่สิ ถ้าพ่อของเธอรู้เข้า คงดูถูกเธอกลางวงญาติจนเธอต้องหนีออกนอกประเทศด้วยแน่ “เอาเฮียไปแก้ขัดก่อนดีมั้ย” นาราคิดอะไรไม่ออก ก็เอ่ยถึงพี่ชายขึ้นมาอีกครั้ง เมธาวีกลอกตาใส่เพื่อนสาวไปหนึ่งที “หนูนา แกเลิกคิดถึงเฮียหนึ่งเถอะ แกก็รู้ว่าฉันกับเฮียหนึ่งเคยมีเรื่องกันมาก่อน” นารามองเพื่อนอย่างมันเขี้ยว “นั่นก็ตั้งแต่สมัยมหาลัยแล้วไหม เฮียคงลืมหมดแล้วแหละ” แต่ฉันยังไม่ลืมนี่ “ไม่เอา ๆ เป็นเฮียไม่ได้หรอก ป๊ารู้แน่ว่าฉันพาคนมาหลอก ไปจ้างเด็กเอนท์สักวันดีมั้ย เหมาจ่ายทั้งวันคงไม่แพงเท่าไหร่หรอก” ยิ่งพูดก็ยิ่งเครียด เมธาวีกระดกเบียร์แล้วบีบกระป๋องคลายเครียด อีกหนึ่งสัปดาห์ก็ต้องพาคนไปแนะนำตัวแล้ว ถ้าเกิดถูกจับได้ขึ้นมา หลังจากนั้นคงเป็นเรื่องใหญ่แน่ ถึงพี่ชายของนาราอย่างนิรันดร์จะน่าสนใจ แต่เธอคงแสดงเป็นคนรักของเขาไม่ได้ ถึงตอนนี้เธอไม่ได้คิดกับเขาในเชิงชู้สาวแล้วก็เถอะ “แกจะบ้าเหรอเบล จ้างเด็กเอนท์ไปหลอกพ่อแกเนี่ยนะ สิ้นคิดมาก” นาราไม่เห็นด้วยอย่างแรง “แล้วแกจะให้ฉันทำยังไง ก็มันไม่มีทางเลือก อีกอย่างจะให้ฉันไปหาคนจากไหนมาสวมรอยเล่า ปัดแอพเหรอ คงหาง่ายมากมั้ง” เมธาวีทำปากจู๋เมื่อถูกเพื่อนขัดใจไปซะทุกอย่าง นาราถอนหายใจ เอือมระอาเหลือเกินกับความดื้อรั้นของเพื่อน ทั้งที่เธอก็เสนอตัวเลือกที่ดีที่สุดให้แล้ว “ก็บอกแล้วไงว่าเฮียหนึ่งช่วยแกได้” เมธาวีชักสีหน้าไม่พอใจ “ก็บอกแล้วไงว่าไม่เอาโว้ย!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD