ตอนที่หนึ่ง การพบเจอที่ไม่บังเอิญ
“คุณหนูคะมันไม่ดีนะคะทำอย่างนี้คุณหนูโธ่” เสียงกระซิบกระซาบบอกอย่างเกรงใจของหญิงสาวอายุคราวแม่ที่ทำหน้าที่
พี่เลี้ยงไม่ได้ทำให้ราชาวดีหยุดการกระทำที่กำลังถูกห้ามปรามอยู่เลยแม้แต่น้อยนิด...
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ... หนึ่งแค่มีธุระนิดหน่อยเท่านั้น...พี่จันดา
ไม่ต้องกลัวหนึ่งแต่งตัวเป็นผู้ชาย ไม่มีอะไรอันตรายหรอกค่ะ...”
“โธ่พิโธ่พิถังแต่งตัวเป็นชายแต่กายยังเป็นหญิงนะคะคุณหนูหนึ่ง... จะออกนอกบ้านยามราตรีอย่างนี้ได้อย่างไรกันคะ... ไม่ควรนะคะพี่จันดาหัวใจจะวายอย่าไปเลยค่ะนะคะ” พี่เลี้ยงพยายามอ้อนวอนหากแต่ไม่ได้รับการสนใจแม้แต่น้อย...
สาวน้อยร่างเพรียวบางในชุดเยี่ยงชายชาตรียังคงป่ายปีนกำแพงบ้านในมุมอับของกล้องวงจรปิดอย่างตั้งใจ...
“ว้ายคุณหนูนั่นเจ็บไหมคะ”
“โอ๊ะพี่จันดาคะ... อย่าร้องสิคะแค่นี้ไม่มีอะไรหรอกค่ะเดี๋ยวหนึ่งปีนใหม่” หญิงสาวป่ายปีนบ้านอีกรอบ... และก็โหนตัวไปนั่งบนกำแพงสำเร็จ...
“คุณหนู” พี่เลี้ยงทำท่าจะร้องไห้ที่ห้ามปรามหญิงสาวไม่ได้แถมยังมีส่วนรู้เห็นในการทำความผิดครั้งนี้เต็มๆ อีกต่างหาก
“ไม่ต้องห่วงค่ะหนึ่งแค่ไปช่วยเพื่อนหนึ่งจะกลับมาอย่างปลอดภัยเชื่อสิคะ... พี่จันดาคอยมารับหนึ่งที่ตรงนี้นะคะหนึ่งจะโทรหาให้เอาเชือกมาพาดกำแพงตรงนี้แล้วโยนไปอีกฝั่งหนึ่งจะปีนกลับเข้ามา... หนึ่งไปไม่นานไม่ต้องกลัวค่ะบ๊าย บาย”
หญิงสาวโบกมือลาพร้อมกับกระโดดลงไปอีกฝั่งพร้อมกับเสียงตุ้บดังๆ และ
“โอ๊ย”
“คุณหนูคะคุณหนู... เป็นอะไรไหมคะ” จันดาตะโกนถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย
“ไม่เป็นไรค่ะพี่จันดาหนึ่งไหวๆ”หญิงสาวบอกผ่านกำแพงมา “ไปแล้วจริงๆ นะคราวนี้”
หญิงสาวหายไปพร้อมกับคนที่ยืนกังวลอยู่เบื้องหลัง... จันดาเก็บบันไดที่หญิงสาวใช้ปีนมาซ่อนไว้ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้านอย่างใจจดใจจ่อที่หญิงสาวขอความร่วมมือก็เพราะว่าหล่อนอยากมีคนมาช่วยตอนหล่อนกลับเพราะด้านนอกของบ้านไม่มีอุปกรณ์ช่วยปีนนั่นเองนั่นทำให้จันดาไม่สบายใจเลยและไม่เห็นด้วยทั้งหมดที่หญิงสาว
ทำแต่ความดื้อดึงของหญิงสาวก็เอาชนะจันดาจนได้...
“ตายๆ นังจันดาได้ตายแน่คงนอนไม่หลับจนกว่าคุณหนูจะกลับมา... ตายๆ”
พี่เลี้ยงจันดาเดินกลับไปยังตัวบ้านด้วยความกลัดกลุ้ม... ยามวิกาลเช่นนี้คนในบ้านอย่างบิดาของราชาวดีและน้องสาวของราชาวดีอย่างลีลาวดีคงนอนหลับไปแล้วไม่ได้รับรู้ว่ามีคนคนหนึ่งหนีออกจากบ้านไป...
ราชาวดีวิ่งออกมาพ้นตัวบ้านแล้วก็เดินให้เป็นปรกติยามค่ำคืน
ในเมืองนี้ไม่ได้ร้างผู้คนแต่ก็ไม่ได้ครึกครื้นมากมายอะไรนักหล่อนนัดเพื่อนเอาไว้และเมื่อเห็นรถโฟล์กสวาเกนสีขาวคุ้นตาของเพื่อนที่สนิทสนมกันเปิดไฟหน้ารถเป็นจังหวะเรียกหล่อนก็เปิดเข้าไปที่นั่งข้างๆ คนขับ...
“ว่าไงยัยหนึ่ง... ถึงกับต้องปีนกำแพงบ้านออกมาเลยหรือไง” หลิงหลิงเพื่อนสนิทที่อยู่หลังพวงมาลัยและเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างเอ่ยถามติดตลก... ค่อนข้างขำแต่ก็ยังเกรงใจที่สร้างความลำบากให้เพื่อนขนาดนั้น
“เกือบจะพิการเลยล่ะ... ขากลับถ้าไม่มีพี่เลี้ยงคอยโยนผ้ามา
ให้ปีนกลับ... หนึ่งเข้าบ้านไม่ทันอาจตายได้”
“ขอบใจมากนะที่ช่วย... หลิงหลิงสัญญาว่าจะรีบกลับมาส่งหนึ่งให้ทันแต่ว่าทำไมหนึ่งแต่งตัวมาแบบนี้ล่ะ”
“ก็แต่งชุดผู้ชายออกจากบ้านมาเพราะกลัวพี่จันดาสงสัย... แล้วจะเปลี่ยนชุดได้ที่ไหนเนี่ยต้องแต่งหญิงใช่ไหมล่ะถ้าจะไปทำตามแผนของเราน่ะ” ราชาวดีมองชุดแมนๆ ของตัวเองที่ไปแย่งของน้องสาวที่ชอบสวมชุดแนวสปอร์ตคล้ายทอมบอยมาสวมใส่เพราะไม่อยากให้พี่เลี้ยงต้องกังวลมากนักกับการหนีออกจากบ้านยามค่ำคืน...
“ก็แน่นอนล่ะ... ถุงนั่นคือชุดที่หนึ่งเตรียมมาเปลี่ยนใช่ไหม... หนึ่งปีนไปเปลี่ยนที่หลังรถได้ไหม... มีเวลาไม่มากคนของเราบอกว่าพี่เราพานังนั่นไปผับแล้ว... เราต้องไปที่นั่นก่อนที่พี่ภพเทพจะพานังนั่นขึ้นห้องไม่อย่างนั้นแผนเราไม่สำเร็จ” หลิงหลิงเร่งเร้าเพื่อนสาว...
“ตายๆ จะให้เราแก้ผ้าบนนี้แล้วเปลี่ยนหลิงหลิงคิดได้ยังไงน่ะ...” ราชาวดีบ่นแต่ก็ปีนไปด้านหลังเพราะต้องทำตามที่ตกลงกับเพื่อนไว้ด้วยความที่ตกลงเรื่องผลประโยชน์ที่เอื้อต่อกันเอาไว้แล้วยังไงหล่อนก็ต้องทำตามที่หลิงหลิงต้องการ... “อย่าแอบดูเรานะ... ขอยืมผ้าห่มที่อยู่หลังรถพันตัวด้วย”
“หนึ่งน่ารักที่สุดเลย... ขอบคุณมากนะ... เราไม่แอบดูหรอกเราไม่ใช่ผู้ชายเสียหน่อยแต่ก็อยากมองนะหนึ่งอึ๋มขนาดนั้นเราชักอยากเบี่ยงเบน”
“พูดเรื่อยเปื่อยไป... เธอเหรอจะเบี่ยงเบนลง... เลิกกรี๊ดผู้ชายให้ได้ก่อนเถอะแม่คุณไอ้อึ๋มก็มีเหมือนกันไม่เห็นต้องมาเบี่ยงเบนเพราะเห็นว่าหนึ่งอึ๋มเลย...” ราชาวดีบ่นเพื่อนสนิทไปพลางเปลี่ยนชุดไป... หลังจากการเปลี่ยนชุดอย่างระแวดระวังในขณะที่รถยนต์ยังวิ่งทำให้ค่อนข้างทุลักทุเล... แต่โชคดีที่ชุดเดรสผ้ายืดเนื้อดีสีแดงไม่ได้ยากต่อการสวมใส่เท่าไหร่นักทำให้เปลี่ยนชุดได้ในเวลาอันรวดเร็ว
“อื้อหือโป๊สะบัดได้ใจจริงๆ”หลิงหลิงมองชุดเกาะอกที่อยู่บนเรือนร่างสวยของเพื่อนสาวหากว่าอยู่บนเนื้อตัวคนอื่นมันคงไม่โป๊แต่ว่าราชาวดีนั้นมีหน้าอกหน้าใจล้นหลาม... ผิวขาวผ่องสีน้ำนมกับ
ดวงหน้าสวยโฉบเฉี่ยวทำให้น่ามองขนาดว่าหลิงหลิงเป็นผู้หญิงยังคิดว่าสวยไม่อยากคิดว่าผู้ชายได้เห็นคงน้ำลายหก... “หนึ่งสวยขนาดนี้... แผนเราไปได้สวยแน่นอนแต่หนึ่งแต่งหน้ามาอ่อนไปนะลงลิปสติกสีแดงจัดๆ เหมือนชุดไปเลยดีกว่า” หลิงหลิงชมและแนะนำไปด้วย...
“ฮื่อรู้แล้วล่ะ... ตอนออกมาแต่งชายไงพี่จันดาคงตกใจเป็นลมถ้าจะทาปากแดงมาตั้งแต่ตอนนั้น...”
เสียงหัวเราะคิกคักของสองสาวเพื่อนสนิทดังก้องรถราชาวดีหยิบลิปสติกสีแดงสดออกมาแล้วบรรจงทาลงไปบนเรียวปากอิ่ม... ดวงหน้าที่แต่งไว้บางๆ อย่างเตรียมพร้อมนั้นสวยโดดเด่นเซ็กซี่เข้ากับชุดแดงได้อย่างภาคภูมิ... ขนาดว่าหลิงหลิงจอดรถติดไฟแดงหันมามองแล้วยังร้องโอ้โฮ...
“จ้างร้อยเล่นล้านจริงเพื่อนฉัน...” หลิงหลิงหัวเราะน้อยๆ พอรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนหล่อนที่สนิทกันตั้งแต่เรียนโรงเรียนนานาชาติด้วยกันที่ฮ่องกงจนกลับมาเรียนมหาวิทยาลัยที่ไทยก็ยังเรียนที่เดียวกันนั้นจะสวยเซ็กซี่ได้ขาดนี้เพราะปรกติแล้วราชาวดีเป็นสาวสวยหวานเหมือนพวกนางเอกแต่ไม่นึกว่าเมื่อแปลงโฉมจากนางฟ้าสุดสวยใจดีเป็นนางร้ายจะสวยจัดชวนมองกว่าเดิมเสียอีก...
“จ้างร้อยที่ไหนเล่า... สิ่งที่หลิงหลิงเอามาตอบแทนค่าที่หนึ่งไปช่วยปัดเป่าผีร้ายๆ ที่หลอกหลอนพี่ชายหลิงหลิงน่ะมันมีค่ามากสำหรับหนึ่งหนึ่งต้องตอบแทนให้คุ้มค่าอย่างไรล่ะ...
“จ้า... ยังไงก็ขอบใจนะขอบใจมากที่สุดที่เข้าใจเราและไม่คิดว่าแผนเราคือแผนบ้าๆ หนึ่งเป็นคนเดียวเลยที่เข้าใจเรามากที่สุดมาโดยตลอด”
“อย่าทำซึ้งสิจ๊ะเดี๋ยวหนึ่งตีหน้าร้ายไม่ลงนะเออ”
“ก็ไม่ต้องตีหน้าร้ายแต่วีนนังนั่นให้แตกพ่ายเลิกยุ่งกับพี่ชายของเราสักที”
“นั่นแหละจ้ะเค้าเรียกบทร้าย...”
“ร้ายได้ยังไงจ๊ะบทที่หนึ่งเล่นนี่บทนางเอกถูกคนอื่นแย่งคู่หมั้นนะจ๊ะ...ว่าแล้วก็ลืมนี่แหวนจ้ะแหวนประจำตระกูลของเรา
แม่นั่นจะได้เชื่อสนิทว่าเธอคือคู่หมั้นของพี่ภพเทพจริงๆ ”
หลิงหลิงถอดแหวนจากนิ้วนางข้างขวามาให้ราชาวดีสวมในนิ้วนางข้างซ้ายอย่างพอดิบพอดี... แหวนเพชรเม็ดเดี่ยวบนเรือนทองเนื้อดีแต่ดีไซน์ค่อนข้างเก๋เพราะว่ามีการใส่พลอยไพลินเล็กๆ เป็นเส้นรอบวงแหวนหญิงสาวสวมมันได้พอดีก่อนจะนั่งเงียบๆ เรียกกำลังใจให้ตัวเอง...
สิ่งที่ราชาวดีตกลงกับหลิงหลิงคือราชาวดีจะต้องทำตัวเป็นคู่หมั้นของภพเทพพี่ชายของหลิงหลิงแล้วก็โผล่ไปขัดขวางการเดตแบบสนิทสนมสุดๆ ของเขากับนาตาชาหรือยัยเห็บแนตตี้ที่หลิงหลิงชอบเรียก
นาตาชาเป็นดาราที่ดังมากหลิงหลิงเล่าว่าภพเทพพี่ชายของหล่อนกำลังต้องการแต่งงานกับใครสักคนแล้วนาตาชาก็ดูเพียบพร้อมในสายตาเขา... ภพเทพไม่ฟังเสียงคนรอบข้างเลยเขาเดินหน้าเดตกับดาราสาวปล่อยข่าวการคบหาให้ดังไปทั้งฝั่งไทยฝั่งฮ่องกงแล้วนาตาชาก็พูดออกสื่ออย่างหน้าชื่นตาบานว่ากำลังดูใจอยู่กับมหาเศรษฐีฮ่องกงสิ่งนั้นทำให้หลิงหลิงทนไม่ได้ต้องบินกลับมาขอร้องให้เพื่อนสนิทช่วยเหลือเป็นการด่วน...
“แล้วถ้าเกิดว่าสองคนนั้นเขารักกันเราไม่บาปแย่เหรอ”
“สองคนนั้นไม่ได้รักกันพี่ภพเทพจะแต่งงานเพราะแฟนเก่าที่เลิกกันตามมาขอคืนดีเขายังรักผู้หญิงคนนั้นมากแต่ว่าผู้หญิงคนนั้นไปคั่วกับเพื่อนของเขา... พี่ภพเทพคงมองออกว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มาดีและจะตัดใจเขาเลยต้องการแต่งงานกับใครสักคนเพื่อตัดปัญหา... ส่วนยัยเห็บแนตตี้นั่นเธออยู่เมืองไทยเธอไม่อ่านข่าวดาราบ้างหรือไง... เราอยู่ฮ่องกงตามอ่านข่าวแม่นี่ทางอินเทอร์เน็ตอย่างเดียวยังแทบอยากกราบงามๆ ในความร่านที่แสนเหนือชั้นของแม่นี่... ข่าวฉาวมีตลอดไม่ได้ถูกกล่าวหาลอยๆ ด้วยนะหลักฐานเพียบที่สำคัญคนที่เราส่งมาทดสอบความร่านของแม่นี่ก็ได้ฟาดแม่นี่ทั้งสามคนแล้วเธอคิดว่าเราจะให้คนแบบนี้แต่งงานไปเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของตระกูลไหม”
ราชาวดีจำคำพูดที่เต็มไปด้วยความอัดอั้นของหลิงหลิงได้...หล่อนอยู่เมืองไทยก็ทำแต่งานไม่ได้สนใจวงการบันเทิงเลยแม้หล่อนจะสวยเข้าตาจนมีคนชักชวนเข้าวงการแต่การทำงานธุรกิจของหล่อนสำคัญกว่าหล่อนจึงไม่รู้เรื่องในวงการที่หลิงหลิงบอกเลยแต่พอค้นข่าวนาตาชาดูก็เห็นด้วยกับหลิงหลิงผู้หญิงคนนี้ฉาวตั้งแต่เข้าวงการมาตอนอายุสิบเก้าตอนนี้สามสิบเต็มหล่อนก็ยังฉาวสะท้านเมืองที่เป็นดาราดังได้เพราะความฉาวของหล่อนทั้งแย่งสามีชาวบ้านกิ๊กกับคนนั้นแล้วแอบควงคนนี้รวมทั้งข่าวเกาเหลาดาราคนอื่นข่าวถูกจับเพราะปาร์ตี้ยาอีแต่ก็รอดมาได้เพราะแค่ไปมั่วเซ็กซ์ในปาร์ตี้ไม่ได้เสพยาฉี่เลยไม่เป็นสีม่วง
ข่าวที่ว่ามานี่ดูรู้ว่าไม่ได้ถูกใส่ร้ายเลยเพราะว่าหลักฐานเพียบทั้งคลิปวิดีโอภาพนิ่งไฟล์เสียงที่นาตาชาผู้มีเสียงเป็นเอกลักษณ์โทรออดอ้อนสามีคนอื่น... แน่นอนว่าหากภพเทพแต่งงานกับนาตาชาเข้าคนไทยคงได้หัวเราะเยาะเขาเหมือนที่หลิงหลิงบอกหล่อนจึงคล้อยตามที่จะช่วยเหลือหลิงหลิงโดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือให้หลิงหลิงจัดหาแพกเกจเที่ยวต่างประเทศที่รวมค่าตั๋วโดยสารที่พักและพ็อกเก็ตมันนี่ให้หล่อนเพื่อที่หล่อนจะได้มอบมันให้กรรณิการ์เป็นของขวัญที่น้องสาวจบการศึกษาการช่วยเหลือครั้งนี้นอกจากจะทำให้เพื่อนสบายอกสบายใจแล้วหล่อนยังสามารถหาของขวัญที่ดีให้กับน้องสาวได้เพราะลำพังหล่อนเองคงไม่มีทางหาเงินได้มากขนาดนั้นเพื่อสานความฝันของน้องสาวในการไปเที่ยวต่างประเทศหลังเรียนจบให้เป็นจริงในสภาวะที่ที่บ้านขาดเงินหมุนเวียนอย่างหนัก...
การช่วยหลิงหลิงจึงเป็นการเอื้อผลประโยชน์กันแบบวินวิน
ราชาวดีจึงยอมทำและทุ่มเทเต็มที่กับภารกิจรักลวงโลกนี้...