“จะทำบ้าอะไรของนายเนี่ย ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!!!” เสียงโวยวายด้านนอกห้องปลุกให้สิงห์ตื่นจากอาการเมาได้ไม่ยาก ว่าแต่ใครมาส่งเสียงอะไรวะเนี่ย น่ารำคาญชิบหาย
...แต่เสียงคุ้นเกินไปมั้ย
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!! ว๊ายย” ดอกรักพยายามที่จะปัดป้องสุดชีวิตเธอโดนบังคับให้ใส่ชุดเมท แต่พอเธอไม่ยอมเหยี่ยวก็ให้พวกสาวใช้มารุมกันจับตัวเธอไว้แล้วเปลี่ยนให้เอง
ถ้าเขาออกมาเห็นในสภาพนี้คงหาว่าเธอบ้าแน่ๆ
“อ้าว นายตื่นแล้วเหรอครับ ?” เธอหันไปด้านหลังช้าๆก่อนจะไปสบตากับสิงห์ที่ยืนกอดอกพิงประตูมองเธอด้วยสายตานิ่งๆ เขาพยักหน้าไล่ทุกคนออกไปข้างนอกจนเหลือแค่ฉันกับเขาตามลำพัง
“นั่งอยู่ทำไม ลุกขึ้นมา” ดอกรักส่ายหน้ารัวๆเธอยังคงนั่งหันหลังให้กับเขา ใครจะไปบ้าลุกทั้งที่ยังใส่ชุดนี้อยู่ล่ะ น่าอายจะตาย
หมับ!
“กรี๊ดด คุณจะทำบ้าอะไรเนี่ย” แขนแกร่งรัดเอวเธอจากด้านหลังแล้วหิ้วเดินเข้าห้องนอนไป เสียงวี๊ดว๊ายของดอกรักดังลอดออกไปด้านนอก ทำเอาพวกพอดี้การ์ดมองหน้ากันเลิ่กลักก่อนจะกระจายออกไปให้ไกลจากตัวบ้านมากกว่าเดิม
...ถ้าต้องได้ยินเสียงอะไรๆ มันคงจะทรมานเกินไป
ตุบ
“อะ โอ๊ย ...เจ็บนะโยนลงมาได้” ดอกรักลูบสะโพกตัวเองเพื่อบรรเทาความเจ็บแต่สิงห์กลับเห็นเป็นอย่างอื่น อารมณ์บางอย่างในร่างกายเขาปะทุขึ้นมาจนยากจะควบคุม
ถ้าได้ลองเข้าไปในตัวเธออีกครั้งมันคงจะดีไม่น้อยเลย
“มองอะไรของคุณ” ดอกรักที่เห็นเขาเงียบไปแถมยังมองหน้าเธอแปลกๆก็เริ่มมีความระแวงนิดหน่อย ไม่รู้ว่าวางแผนที่จะแกล้งเธอหรือเปล่า
“เลิกถูก้นได้แล้วถ้าไม่หยุดฉันจะคิดว่าเธอยั่วฉัน” ดอกรักอ้าปากค้างกับคำที่เขาพูดเธอไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นซะหน่อย!! ยังไม่ทันที่จะได้เถียงเขาก็เดินออกไปสูบบุหรี่ข้างนอกซะก่อน
“อะไรอีก” เสียงแข็งดูไม่สบอารมณ์ที่เห็นเธอเดินตามออกมา อุตส่าห์หลีกมาอยู่ข้างนอกยังจะตามมาอีก
“ขอยืมชุดหน่อยได้มั้ย ...คะ” เขามองตาดุตอนที่เธอพูดไม่มีหางเสียง ...ทีตัวเองยังไม่พูดมีหางเสียงกับเธอเลยแล้วจะหวังให้คนอื่นสุภาพกับตัวเองแบบนี้ไม่ตลกไปหน่อยเหรอ
“เสื้อกับกางเกงอยู่ในตู้” เธอพยักหน้าแล้วรีบไปเลือกเสื้อผ้าในตู้ ทุกการกระทำของดอกรักอยู่ในสายตาของสิงห์ทั้งหมด สิงห์ไม่รู้ว่าควรต้องจัดการกับความรู้สึกของตัวเองยังไง
...ถ้ารู้สึกมากไปเขาอาจจะทรยศความรักที่มาแตร์มีให้เขา และเขาจะทำแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด
“ฉันจะไม่มีวันให้ใครมาแทนที่เธอ ...มาแตร์”
“วันนี้เราจะไปไหนกันคะ” สิงห์ลากเธอออกมาจากบ้านริมทะเลตั้งแต่เช้าและก็ยังไม่ยอมคุยกับเธอสักคำเดียว ถึงขนาดตอนนี้ที่อยู่บนรถด้วยกันเธอถามไปมากกว่าสิบคำถามแล้วมั้ง เขายังไม่ยอมตอบเธอเลย ใจดำขนาดไหนลองคิดดู
“งานแต่งพี่ชายฉัน”
“แล้วเกี่ยวอะไรกับฉันคะ”
“ก็เธอเป็นเมียฉันไงวะ ...ทำไมต้องให้ย้ำหลายรอบหรือต้องให้ทวนก่อนที่งานจะเริ่ม” สิงห์เริ่มหงุดหงิดกับคำถามไร้สาระของดอกรักเต็มที ถามอะไรซ้ำไปมาจนเขารำคาญ
“ปะ เปล่า ฉันก็แค่ถาม ...ไม่เห็นต้องดุกันเลยนี่นา” สิงห์เดินลงไปจากรถโดยไม่รอให้ดอกรักเดินตามมา จนคนตัวเล็กต้องวิ่งตามเขาไปเอง
ดอกรักได้แต่นั่งอยู่ที่โต๊ะเท่านั้นเพราะสิงห์หายไปตั้งแต่งานเริ่ม เธอไม่รู้จักใครสักคนและนึกโกรธเขาที่ทิ้งเธอไว้ในงานคนเดียวแบบนี้
“ปากก็บอกว่าฉันเป็นภรรยาแต่การกระทำนี่ตรงข้ามกันหมดเลยนะคนบ้า!” รู้งี้เธอเอาเวลาไปนั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบจะยังน่าสนใจกว่าเลย
“นั่งทำอะไรคนเดียวครับคนสวย” ผู้ชายแปลกหน้าหลายคนต่างพากันแวะเวียนเข้ามาทักทายทำความรู้จักเธอจนลืมไปว่านี่คืองานแต่งงานไม่ใช่งานเลี้ยงที่เจอกันในผับ
“พวกนายไม่มีมารยาทเหรอ ...นี่งานแต่งเสือไม่ใช่งานเลือกภรรยา ช่วยให้เกียรติบ่าวสาวด้วย” ดอกรักหันไปตามเสียงดุดันก็ต้องตกใจอย่างมากเพราะเธอคือนางร้ายเบอร์หนึ่งของประเทศอย่างวิคตอเรียยืนกอดอกจ้องมองพวกนั้นด้วยสายตานางพญาเหยี่ยว จนพวกนั้นหนีกระเจิงกันไปคนละทางเลย
“ขะ ขอบคุณค่ะ” วิคพยักหน้าแล้วนั่งลงข้างๆดอกรัก เธอรู้สึกเหนื่อยๆที่ต้องมางานแบบนี้ถ้าผู้จัดการไม่ขอร้องให้มาเธอไม่มีวันตามมาด้วยเด็ดขาด
...เหนื่อยเป็นบ้าเลย
“หัดปฏิเสธซะบ้าง ไม่ใช่ยอมให้พวกนั้นเข้ามาแทะโลมอยู่ได้ ฉันมาช่วยเธอไม่ได้ทุกรอบหรอกนะ ไปละ” ดอกรักมองตามเธอไปจนสุดสายตา ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้เท่เป็นบ้าเลย
ไฟเริ่มดับลงจนบรรยากาศในงานเหลือเพียงแสงสลัวดอกรักจึงถือโอกาสนี้เดินออกมาจากงาน เธอไม่ค่อยชอบงานเลี้ยงแบบนี้เท่าไหร่ มันไม่เข้ากับตัวเธอเลย
“อากาศเย็นดีจัง ...เมื่อไหร่จะได้กลับบ้านนะ ...อุ๊ย ขอโทษค่ะ” นิ้วเย็นๆแตกที่แผ่นหลังขาวนวลของเธออย่างถือวิสาสะ แต่ดอกรักคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายไปชนเธอเลยขอโทษเขาแทน
“ผมกระทิง ...คุณชื่ออะไร” กระทิงเห็นผู้หญิงคนนี้ก็แค่รู้สึกถูกชะตาแล้ว เหมือนจะรู้จักแต่ก็ไม่รู้จักบอกไม่ถูกเหมือนกันแค่รู้ว่าเธอต้องมีอะไรพิเศษอยู่บ้าง
“ดอกรักค่ะ ขอโทษที่ฉันเดินไปชนคุณนะคะ” กระทิงยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์นานๆทีจะมีเหยื่อหลงมาให้ขย้ำก็ดีเหมือนกันแต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้เข้าใกล้เธอก็มีมีดถูกปาผ่านหน้าของกระทิงและดอกรักไปอย่างเฉียดฉิว
ปึก!
“กลับมาเมื่อไหร่ ...แล้วเล่นอะไรของเฮียเนี่ย” สิงห์ไม่ยอมตอบคำถามกระทิงเพราะเขามัวแต่จ้องดอกรักอยู่ แววตาดุดันของเขาทำให้เธอรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยจนไม่กล้าที่จะหันไปสบตาด้วย
“จ้องทำไม ...สนใจเหรอแต่ผมมาก่อนนะ ต้องต่อคิวสิ” เหมือนกระทิงจะพอรู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้กับพี่ชายเขามีความสัมพันธ์กัน พอเห็นอย่างนี้แล้วก็ยิ่งอยากจะแกล้ง
“นัดกันเรียบร้อยแล้วหรือไง?” เขายังคงจ้องมองมาที่เธอเหมือนเดิมแต่ที่เพิ่มคืออารมณ์โมโหมากกว่า
“ช่ายยย คืนนี้ที่ห้องผม” ยิ่งเห็นสิงห์โมโหกระทิงก็ยิ่งสนุกผิดกับอีกคนที่ยืนนิ่งเป็นอากาศ เธอพูดไม่ทันผู้ชายสองคนนี้เลยพวกเขาพูดเองเออเองหมดทุกอย่าง และเหมือนว่าความซวยมันจะมาตกที่เธอเนี่ยสิ!!
“ขอร่วมด้วยสิ ...ยังไงก็ของเคยๆ หึ” คำพูดร้ายกาจของสิงห์ทำให้ดอกรักน้ำตาเอ่อคลอขึ้นมา พาเธอมาที่งานแล้วทิ้งไว้ยังไม่พอ เขายังจะมาพูดทำร้ายจิตใจเธอแบบนี้อีก
“ทุเรศ! พวกคุณมันทุเรศที่สุด! ...ฉันไม่ไปไหนกับใครทั้งนั้นแหละ” ดอกรักตะโกนใส่หน้าของทั้งสองคนก่อนจะรีบวิ่งหนีออกมาทั้งน้ำตา กระทิงมองทุกอย่างแล้วยิ้มออกมาอย่างสนุกสนานผิดกับสิงห์ที่ยืนหน้านิ่งไร้อารมณ์
“ไม่ตามไปเหรอ? ...เหมือนเขาจะโกรธอยู่น้า”
“โกรธเองก็หายเอง” ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่ในใจของสิงห์ก็แอบรู้สึกผิดนิดหน่อยที่พูดจารุนแรงกับเธอเกินไป
“ว้า แย่จังเหมือนว่าเธอจะมีคนมาปลอบใจแล้วนะเนี่ย ...เมื่อกี้ถ้าเฮียไม่เอาก็ไม่บอกผมจะได้พาไปที่ห้องเลย” ปืนสีดำถูกจ่อที่ขมับของคนอารมณ์ดีและเขาพร้อมลั่นไกทันทีถ้าเกิดว่าไอ้น้องชายพูดอะไรที่ไม่เข้าหูเขาอีกแค่คำเดียว
“หวงเหรอ? เป็นใครอ่ะไม่เห็นแนะนำบ้างเลย” กระทิงยังถามต่อโดยไม่สนใจกระบอกปืนที่จ่อขมับตัวเอง แต่เขาใจเต้นแรงกับคำตอบของสิงห์มากกว่า เพราะคำตอบนี้มันทำให้กระทิงคิดเรื่องสนุกๆในอนาคตออกเลย... หึๆ
“...เมียกูเอง”