SAVAGE 9

1693 Words
“คุณโอเคมั้ย เป็นอะไรหรือเปล่า เห็นหน้าซีดมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว” ดอกรักไม่ได้แกล้งถามแต่เธอรู้สึกกังวลกับอาการของเขาจริงๆ ตั้งแต่ขึ้นรถมาสิงห์ยังคงเงียบและช็อคอยู่ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไร แล้วทำไมเขากับแอนถึงได้รู้จักกัน? “...” สิงห์ไม่พูดอะไรเขาสับสนและกระวนกระวาย เธอคนที่เขาเห็นใบหน้าเหมือนมาแตร์มากแต่อะไรบางอย่างทำให้สิงห์รู้ว่าเธอไม่ใช่อย่างที่เขาอยากจะให้เป็น “สิงห์ ...คุณสิงห์” “อะ อืม ...มีอะไรหรือเปล่าทำไมถึงได้เรียกเสียงดังขนาดนี้” “ฉันเรียกคุณนานแล้วนะคะแต่คุณไม่ตอบมีเรื่องอะไรหรือเปล่า” “ไม่มีอะไรหรอก ...คืนนี้ฉันไม่กลับนะนอนไปก่อนเลย” อยู่ๆเขาก็นึกถึงอะไรบ้างอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นพูดกับเขา ทันทีที่ดอกรักลงจากรถเขาก็ขับกระชากออกไปอย่างรวดเร็ว ‘ถ้าอยากรู้ว่าฉันเป็นใคร ...คืนนี้มาที่BARREL PUB คุณจะได้ทุกคำตอบ’ ...ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าเธอเป็นใคร RUK ON สิงห์ขับรถออกไปเร็วมากเขาดูกระวนกระวายใจจนผิดปกติ ฉันยังคงหาสาเหตุไม่ได้แต่คงไม่ได้ไปใส่ใจเขามากขนาดนั้น ฉันแค่ห่วงในฐานะที่เขาเป็นเพื่อนร่วมโลกเท่านั้นเอง “คุณรักคะ ทำไมกลับมาคนเดียวแล้วคุณสิงห์ล่ะคะ” ฉันอึกอักไม่รู้ว่าจะตอบคุณป้าแม่บ้านไปว่ายังไงดี ตอนนี้ทุกคนรู้สถานะของฉันหมดแล้วว่าฉันเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของสิงห์ พวกเขาเลยเคารพฉันมากกว่าครั้งแรกที่เจอหน้ากัน “รักไม่รู้เลยค่ะ เขารีบร้อนออกไปมากเดี๋ยวก็คงกลับมามั้งคะ” ฉันตอบป้าแม่บ้านกลับไปแบบนั้นทั้งที่ตัวเองก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่ “งั้นก็ดีค่ะ งั้นเดี๋ยวป้าขอเตรียมมื้อเย็นก่อนนะคะคุณรักกลับมาเหนื่อยๆเดี๋ยวให้เด็กไปเสิร์ฟน้ำให้บนห้องค่ะ” “ไม่เอาค่ะ รักอยากทำอาหารด้วย เดี๋ยวรักไปเป็นลูกมือให้ค่ะ” ฉันเดินนำเข้าไปในครัวแล้วหยิบนู่น หยิบนี่ทำจนอาหารออกมาหลายจานและคิดว่าตัวเองคงกินคนเดียวไม่หมดแน่นอน ฉันเลยชวนพวกบอดี้การ์ดเข้ามานั่งกินข้าวด้วยกันแต่พวกเขากลับปฏิเสธฉันซะอย่างนั้นแหละ “เดี๋ยวค่อยผลัดกันมากินก็ได้ค่ะ บ้านเราต้องมีคนเฝ้านะคะ” “เหนื่อยจังเล้ย ง่วงด้วย” ฉันแผ่ตัวลงบนเตียงอย่างอ่อนล้า เรื่องของวันนี้กินพลังงานชีวิตฉันไปเยอะเลย “เหนื่อยจนไม่อยากจะทำอะไรแล้วเนี่ย” ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่ฉันก็ยังคงต้องทำมันอยู่ดีทั้งอ่านหนังสือ ทั้งทำการบ้าน ไหนจะรายงานช่วงที่ขาดเรียนไปอีก ...เหนื่อยไปมั้ยเนี่ย T_T เวลาผ่านไปเกือบหกชั่วโมงสิงห์ก็ยังคงไม่กลับบ้าน ฉันอ่านหนังสือรอเขาจนกระทั่งเที่ยงคืนกว่าก็เผลอหลับไปคาโซฟา “...ดื้อจริงๆ” นั่นเสียงใครนะ RUK OFF SING ON ทั้งที่บอกแล้วแท้ๆว่าจะไม่กลับก็ยังมานอนรอที่โซฟาข้างล่าง ถามว่าผมรู้ได้ยังไงว่าดอกรักมารอก็เพราะปกติเธอไม่เคยนอนเกินสี่ทุ่มแล้วตอนนี้มันเกือบจะตีหนึ่งแล้วเธอเพิ่งจะนอนหลับไปเมื่อกี้ แถมหลับลึกซะด้วย “เดี๋ยวป่วยก็จะมาบ่นฉันอีก” ผมช้อนตัวเธออย่างเบามือแล้วพาเดินขึ้นไปข้างบนด้วยกัน แต่ต่อให้ผมทำอะไรเสียงดังไปมากเท่าไหร่ดอกรักก็ไม่ตื่นหรอกครับ ขี้เซาจะตายไป “ฉีดน้ำหอมตอนนอนด้วยเหรอวะเธอเนี่ย” กลิ่นหอมสะอาดมาจากดอกรักทำให้ร่างกายผมตื่นตัวมากกว่าปกติจนต้องรีบวางเธอลงแล้วหนีเข้าไปอาบน้ำอย่างไว “มึงคึกอะไรขนาดนี้วะ ไอ้ห่า” ผมใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำประมานชั่วโมงกว่าๆถึงจะระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของตัวเองได้ พอเดินออกมาก็เห็นยัยตัวยุ่งนอนหลับสบายใจ ฟอดด “เฮ้ย ทำอะไรลงไปวะกู” ผมเผลอไปหอมแก้มขาวๆของดอกรักอย่างแรงแล้วเสือกจูบแก้มเธออีก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับผมวะเนี่ย แค่คิดว่าแก้มเธอขาวดีก็แค่นั้นเอง ...อันตรายแล้วกู Rrrrrr(A) ยังไม่ทันที่จะได้คิดเรื่องของดอกรักมากกว่านี้ผู้หญิงที่หน้าเหมือนคนรักของผมก็โทรมาหาซะก่อน ผมค่อนข้างสับสนและรู้สึกว่าเธอมีบางอย่างที่แปลกๆ “ครับ ...ว่าไง” ถึงอย่างนั้นผมก็ยังอยากที่จะได้ยินเสียงของเธอเพราะมันเหมือนเสียงของมาแตร์เลย (ทำไมห่างเหินจังคะ สิงห์พูดแบบนี้แอนน้อยใจนะคะ) “ปกติผมเป็นคนแบบนี้ครับ ...นี่ดึกแล้วคุณยังไม่นอนเหรอ” (แอนคิดถึงคุณจนนอนไม่หลับค่ะ ...ทำไมถึงหนีกลับไปก่อนคะ) เธอคงจะหมายถึงตอนที่ผมไปส่งเธอที่คอนโดแล้วไม่อยู่ค้างกับเธอสินะ ...ผมแค่ไม่ชอบการทรยศเท่านั้นเอง จริงอยู่ว่าผมกับดอกรักอาจไม่ได้แต่งงานกันเพราะความรักแต่ผมก็ไม่อยากที่จะหักหลังเธอทั้งๆที่ผมเป็นคนบอกเองว่าไม่ชอบการโดนทรยศ ถ้าผมทำก็เท่ากับกลืนน้ำลายตัวเองสิ (สิงห์คะ ยังฟังแอนอยู่หรือเปล่า) “ครับ ฟังอยู่ครับ” ระหว่างที่คุยกับแอนตาผมก็ยังมองที่ดอกรักที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงตลอด น่าอิจฉาชะมัด (พรุ่งนี้แอนอยากเจอคุณอีกค่ะ อยากเจอตอนตื่นนอนด้วย อยากเจอทุกเวลาเลย) น้ำเสียงออดอ้อนของเธอดูน่าฟังแต่ผมกลับไม่รู้สึกอะไรสักอย่างเลย “ครับ ...งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ ฝันดีครับ” ผมกดวางสายทิ้งโดยไม่สนว่าแอนจะว่ายังไงเพราะตอนนี้ผมเริ่มที่จะง่วงจากการจ้องหน้าดอกรักนานๆ “เธอมันยัยปีศาจ ...ทำให้ฉันง่วงได้ยังไงวะ” ...หวังว่าคืนนี้เธอจะทำให้ฉันฝันดีเหมือนคืนที่ผ่านมา SING OFF “อื้อ ...มานอนตรงนี้ได้ไงเนี่ย” ดอกรักลืมตาตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนนุ่มอย่างงงๆ เมื่อคืนเธอนอนหลับที่โซฟาด้านล่างแล้วทำไมถึงได้มานอนข้างบนล่ะ ...ที่นอนข้างเธอเย็นชืดไม่มีความอบอุ่นอยู่เลยแสดงว่าเขาไม่ได้กลับมานอนที่นี่ “สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณรัก ...ให้ตั้งโต๊ะเลยมั้ยคะ” “ยังดีกว่าค่ะ แล้วเมื่อคืนรักไปนอนข้างบนได้ยังไงเหรอคะ ...เหมือนจำได้ว่ารอสิงห์อยู่ที่โซฟา” ดอกรักแอบลุ้นกับคำตอบเหมือนกัน ถ้าเป้นอย่างที่เธอคิดก็น่าจะดี “ผมอุ้มขึ้นไปเองครับ ...มีอะไรหรือเปล่า” เหยี่ยวเดินออกมาจากมุมห้องครัวแล้วยิ้มทักทายตอนเช้าอย่างอารมณ์ดี ใจของดอกรักที่กำลังพองฟูอยู่ถึงกับแฟนและเหี่ยวลงมาทันที ...หวังสูงมากเกินไปหรือเปล่าเนี่ย “เปล่าหรอกค่ะ ...ไม่มีอะไร” เหยี่ยวมองหญิงสาวที่เดินคอตกกลับห้องไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม พวกคนงานในบ้านรู้กันหมดว่าฝั่งห้องนอนของสิงห์จะไม่อนุญาตให้ใครขึ้นไปแม้แต่คนเดียว ...เห็นขึ้นได้คงจะมีแค่ป้าแม่บ้านคนเดียวขนาดเขา สิงห์ยังไม่ยอมให้ขึ้นไปด้วยเลย แล้วยิ่งไปอุ้มเมียมันด้วยแล้วคงได้โดนมันเอากระสุนยัดใส่หัวซะก่อนจะเข้าใกล้น่ะสิ “ไปแกล้งคุณรักแบบนั้นได้ยังไงกันคะ แสดงอาการผิดหวังซะเห็นชัดเลยถ้าเผลอไปงอนใส่คุณสิงห์อีกบ้านจะแตกเอานะคะ” “ไม่หรอกครับเชื่อผมสิ ...คราวนี้บ้านไม่มีแตกแน่นอน” เหยี่ยวยิ้มอย่างมั่นใจก่อนจะโทรไปรายงานกับคนที่เป็นนายของเขาอีกคนนึง “ตามแผนครับ ...คิดว่าอีกไม่นานคงกลับไปเป็นเหมือนเดิม ครับผม” ปลายสายวางไปพร้อมกับสิงห์ที่เดินเข้ามาในห้องโถง เขามองพวกลูกน้องอย่างประหลาดใจ ...มายืนออกันตรงนี้ทำไม? ไม่มีงานทำกันหรือยังไงวะ “ขอให้โชคดีนะครับ ?” เหยี่ยวพูดไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกไปจากตัวบ้าน คนอื่นๆก็กระจายออกไปจนไม่เหลือใครอีก “อะไรของพวกมัน” ทันทีที่เขาเปิดประตูห้องนอนเข้ามาก็รู้สึกถึงบรรยากาศมาคุบางอย่างที่มากซะจนเขาเกร็งๆ “ไปยืนทำอะไรตรงนั้นคนเดียว” ดอกรักเบะปากค้อนคว่ำอย่างน้อยใจเธอเลือกที่จะเดินหนีเขาไปอีกห้องโดยไม่ตอบคำถามอะไรเลย “เป็นอะไรอีกวะ ...กูทำอะไรผิดอีกเนี่ย” ถึงแม้เขาจะไม่เข้าใจแต่สิงห์ก็ยอมที่จะเดินตามดอกรักทั้งที่เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องเดินตามก็เถอะ หมับ “หันมาคุยกันดีๆดิ๊ เธอแม่งน่ารำคาญ” ยิ่งฟังที่เขาพูดเธอก็ยิ่งปรี๊ดแตก นิ้วเรียวหยิกที่แขนเขาหลายทีอย่างแรงแต่สิงห์ก็ยืนนิ่งเหมือนเขาไม่รู้สึกอะไรเลย “โอ๊ย ฉันเกลียดคุณคนบ้า!! อยากจะไปตายที่ไหนก็ไปเลย” “เดี๋ยวฉันทำอะไรผิดอีกวะเนี่ย ดอกรักหันหน้ามาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้!” ยิ่งเขาตะคอกก้อนความน้อยใจของเธอก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นอีก ร่างบางขังตัวเองให้อยู่ในห้องน้ำแล้วปล่อยให้คนบ้าตะโกนเรียกเธออยู่ข้างนอกจนขาดใจตายไปเลย ปัง! “กรี๊ดดดดด คุณทำบ้าอะไรเนี่ย” กระสุนปืนเฉียดหัวเธอไปนิดเดียวเท่านั้นเอง เขากะจะฆ่าเธอเหรอ?? “ออกไปคุยให้รู้เรื่อง” “ฉันไม่อยากคุยกับคุณ!!!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD