ตอนที่ 5 - 2

1194 Words
“พี่ติณณ์คะ …” ทิพรดาเรียกชายหนุ่มโดยไม่สนใจเด็กสาวทั้งสองคน แต่เสียงเรียกของหญิงสาวไม่อาจทำให้ติณณ์ละทิ้งความสนใจจากเด็กสาวสองคนได้ จนเขาต้องเอ่ยปากถาม “แล้วนี่จะกลับกันอย่างไรล่ะ” คนถูกถามทั้งสองอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ก่อนที่เพียงตะวันซึ่งประสานสายตากับคนถามชั่วครู่จะเอ่ยตอบ ว่าพวกเธอมาที่นี่ด้วยวัตถุประสงค์อันใดและมีคนรถที่บ้านของมินตรามาส่งและก็กำลังรอพวกเธออยู่ที่รถซึ่งจอดอยู่ที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า แล้วก็รีบตัดบท “ขอตัวก่อนนะคะ...ไปกันเถอะมิ้นต์” ติณณ์เขม้นมองตามหลังร่างบางไปด้วยความรู้สึกห่วงใย ชายหนุ่มย้ำกับตัวเองว่า ห่วงใยในฐานะผู้ปกครอง ซึ่งติณณ์เองก็รู้ไม่ว่าสายตาที่ทอดมองตามร่างบางไปนั้นมีความรู้สึกที่มากกว่าความห่วงใยมันมากถึงขนาดที่หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างกายสามารถสัมผัสได้ “ทำไมพี่ติณณ์ไม่รับอาสาไปส่งตะวันเสียหน่อยละคะ!” คนถูกถามตกใจกับคำพูดนั้น ครั้นก้มหน้าลงมองก็เห็นทิพรดายิ้มทั้งปากทั้งตาไปด้วย ซึ่งเขาไม่สามารถเดาออกได้เลยว่าเป็นคำพูดที่จริงใจหรือเธอเพียงแค่อยากประชดเขาเท่านั้น “คงไม่ต้องหรอกมั้งพี่ว่า เพราะเพื่อนของตะวันก็ตอบแล้วนี่ว่ามีคนรถคอยรับส่ง แล้วนี่ทิพย์มีอะไรหรือที่อยากให้พี่ไปช่วยดู” “ทิพย์ว่าเดี๋ยวค่อยไปดูดีกว่าค่ะ พี่ติณณ์มาดูกิ๊บติดผมนี่ดีกว่า ทิพย์ว่ามันสวยดีนะคะ” มือเรียวของทิพรดาแตะลงกับกิ๊บติดผมที่เป็นรูปผีเสื้อตัวเดียวกันกับที่เพียงตะวันยืนมองด้วยความสนใจ ปกติติณณ์จะคะยั้นคะยอให้ทิพรดารีบ ๆ ซื้อเสีย แต่วินาทีนี้คงไม่เป็นอย่างนั้น ในเมื่อสิ่งของที่ทิพรดาหยิบมันขึ้นมาดูด้วยความสนใจตรงหน้านั้น มันเป็นอันเดียวกันกับที่เขาเห็นเด็กสาวที่ชื่อเพียงตะวันจดจ้องมองด้วยความอยากได้อยู่นาน “ตกลง….ทิพย์ซื้อกิ๊บติดผมนี่ดีกว่าค่ะ” หญิงสาวหยิบเตรียม พร้อมจะยื่นให้พนักงานขายตรงหน้า แต่ทว่ามือใหญ่ของติณณ์แตะลงไปที่มือเธอทำนองห้ามปราม “พี่ว่า อย่าเลยครับทิพย์” “คะ...ทำไมคะ” “อื่ม” ชายหนุ่มลากเสียงยาว ดวงตาทั้งสองข้างมีแววลังเลและครุ่นคิด ก่อนที่ริมฝีปากของชายหนุ่มจะคลายออกหลังจากเม้มอยู่นาน “พี่ว่ามันไม่เหมาะกับทิพย์น่ะครับ...เปลี่ยนไปเป็นอันนี้ดีกว่า” ชายหนุ่มบอกแล้วรีบเอื้อมมือไปหยิบกิ๊บรูปดาว ซึ่งวางอยู่ไม่ไกลขึ้นมา ...เพราะน้อยครั้งนักที่พี่ติณณ์จะแสดงความเห็นในเรื่องความสวยความงามกับเธอ เวลาไปไหนมาไหนด้วยกันโดยเฉพาะในช่วงที่เธอออดอ้อนให้เขามาเดินห้างสรรพสินค้าเป็นเพื่อน ซึ่งชายหนุ่มจะมีท่าทีเงียบขรึม พูดน้อย จนบางครั้งเธอก็อดน้อยใจและเกรงใจเขาไปพร้อม ๆ ด้วยท่าทางแบบนั้นของเขามันกำลังฟ้องว่าเขาไม่ใส่ใจเธอ แล้วนี่ พี่ติณณ์ของเธอเป็นอะไรไป เอ...หรือว่า… หลังจากหญิงสาวใคร่ครวญได้ เธอก็ยิ้มทั้งปากทั้งตา สงสัยว่ากิ๊บที่มีตัวผีเสื้อแสนสวยนี้มันคงไม่เข้ากับเธอ พี่ติณณ์เลยท้วงขึ้น สุดท้ายทิพรดาจึงวางกิ๊บติดผมรูปผีเสื้อลงที่เดิม แล้วยื่นมือไปรับอีกอันหนึ่งที่ชายหนุ่มหยิบมาให้แทน “ตกลงทิพย์เอารูปดาวอย่างที่พี่ติณณ์ว่าก็ได้ค่ะ” นั่นแหละจึงเรียกรอยยิ้มน้อย ๆ ด้วยความพึงพอใจปากมุมปากของติณณ์ได้ “เท่จังเลยตะวัน...ผู้หญิงคนนี้เหรอที่ลงข่าวบ่อย ๆ ว่าอีกหน่อยจะมีข่าวดีด้วยกันน่ะ แต่มินต์ว่าผู้หญิงคนนี้ดูเชิด ๆ หยิ่ง ๆ ยังไงไม่รู้สิ ” นี่เป็นส่วนหนึ่งบทสนทนาที่มีเรื่องของติณณ์และทิพรดาซึ่งออกมาจากปากของมินตราอย่างไม่หยุดหย่อน นับตั้งแต่เพียงตะวันพามินตราออกมาจากร้านกิ๊บต์ช็อป เมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวของเธอไม่แม้แต่จะตอบรับ มินตราจึงยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ ใบหูของเพียงตะวันมากกว่าเดิมและครั้งนี้จะทำให้เพื่อนสาวตอบคำถามเธอให้ได้ “ตกลง ผู้หญิงสวย ๆ เมื่อครู่ใช่คนที่กำลังจะหมั้นกับคุณติณณ์รึเปล่า” เพียงตะวันชะงักไปชั่วครู่ แววตาของเธอหม่นหมองลงเล็กน้อยก่อนจะตอบคำถามมินตราเบา ๆ อย่างไม่เต็มเสียงนัก “ไม่รู้สิ” ตอบแล้วก็ให้รู้สึกเบาโหวงเหวงขึ้นมาอย่างน่าแปลกประหลาด เพียงตะวันเองก็ไม่ค่อยเข้าใจว่ามีสาเหตุมาจากสิ่งใด แต่ก็พอนึกภาพออกอยู่ราง ๆ ถ้าหากเป็นเรื่องจริง แล้วเธอจะเป็นเช่นไรกันนะ เธอจะเป็นตัวถ่วงของเขาและว่าที่ภรรยาของเขาหรือไม่หนอ... ว่าที่ภรรยาของเขาหรือ! หัวใจของเด็กสาวกระตุกแรง ๆ กับคำพูดนั้น เด็กสาวเผลอถอนหายใจออกมา ก่อนจะรีบปัดความคิดบ้า ๆ ออกไปจากหัว โดยการตัดบทมินตรา “อย่ามัวพูดอยู่เลยมินต์ รีบไปกันเถอะ” เพียงตะวันเดินนำหน้ามินตรามาจนมาหยุดที่บันไดเลื่อนที่ดูวุ่นวายเพราะเด็กชายตัวเล็กที่กำลังซนโดยการ ต้องการจะเกาะบันไดเลื่อนขึ้นมาเพียงลำพัง และพยายามปัดมือของมารดาออกจากตัวราวกับกำลังรำคาญนักหนา เพียงตะวันเผลอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ที่เห็นเด็กน้อยทำกิริยาแบบนั้นกับมารดาของเขา เสียงถอนหายใจนั้นไม่เบาเลย มินตราที่เดินตามหลังมาถึงกับชะโงกหน้าถามด้วยความเป็นห่วง “ทำไม...ตะวันคิดถึงคุณแม่เหรอ” เพียงตะวันเหลียวหน้ามองดูใบหน้าคนถามก่อนจะสะบัดหน้าหนีแล้วตอบด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ ที่คนถามรู้สึกได้ว่าเธอกำลังถามคำถามจี้ใจดำเพื่อนของตัวเองมากเกินไป “ไม่ตะวัน จะคิดถึงเขาทำไม” ตอบเสร็จแล้วเด็กสาวก็ก้าวลงลง มินตราจึงรีบก้าวเท้าตาม ก่อนจะแอบมองใบหน้าของเพื่อนที่มีแวว โกรธขึ้งอย่างเห็นได้ชัด แน่นอนว่าเพียงตะวันไม่ได้โกรธมินตราที่จู่ ๆ ก็นึกถามคำถามเกี่ยวกับมารดาที่หายสาบสูญไปนาน แต่เธอกำลังโกรธคนที่หายไปจากชีวิตเธอนั่นเอง “ตะวัน มิ้นต์ทำให้ตะวัน เอ่อ...ไม่สบายใจรึเปล่า” มินตราเอ่ยถามอย่างอึกอัก ถามหลังจากเพื่อนก้าวพรวดจากบันไดเลื่อนของลงมายังชั้นจีของห้างแล้ว เพียงตะวันรีบส่ายหน้าแล้วยิ้มน้อย ๆ คล้ายกับกำลังปลอบใจมินตราที่อาจจะใจเสียขึ้นมาเนื่องจากเธอเป็นสาเหตุ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD