~ 2 ~

862 Words
หลังจากไปพบกับเขา ศรันย์ คาร์เตอร์ ฉันก็ตรงไปเยี่ยมพ่อที่คุก ฉันอยากเจอหน้าพ่อ อยากเก็บความรู้สึกของการเป็นลูกสาวที่แสนดีของพ่อไว้ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะเปลี่ยนไป ถ้าพ่อรู้ว่าฉันคิดจะทำอะไรจะต้องทำให้พ่อเสียใจและเจ็บปวดมาก และฉันเองก็ไม่ต่างกัน แต่ฉันจำเป็นต้องทำ เพราะทนายของพ่อเหมือนเป็นแค่ตัวละครหนึ่งในเกม ไม่มีความรู้ความสามารถอะไรเลย ดังนั้นฉันจึงไม่มีทางเลือก ฉันนั่งรอพออย่างสงบในห้องเยี่ยมญาติ มองไปที่ผนังกระจกใส สภาพของพ่อดูทรุดโทรมมาก เขาผอมกว่าเดิมและมีผมขาวแซมเต็มหัว เห็นแล้วยิ่งทำให้ฉันปวดใจ “ว่าไงตัวเล็ก” พ่อนั่งลง มือถือหูโทรศัพท์ ส่งยิ้มให้และเรียกฉันแบบที่ชอบเรียก ฉันพยายามฝืนยิ้มส่งไปให้พ่อ แต่ท่านกลับหุบยิ้ม สีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจัง “เกิดอะไรขึ้น หนูปิดบังพ่อไม่ได้หรอก ทำไมถึงทำหน้าเศร้าอย่างนี้” “หนูไม่อยากให้พ่ออยู่ในนี้ หนูอยากให้พ่อกลับบ้านของเรา” “พูดน่ะมันง่าย” พ่อถอนหายใจ “พ่อจะยอมแพ้แล้วเหรอคะ” “ไม่ใช่อย่างนั้น แต่พอได้มาอยู่ในนี้ทำให้พ่อได้คิด พ่อคุยกับแม่ของหนูก่อนหน้า พ่ออยากให้หนูไปอยู่กับแม่” “ไม่มีทางหรอกค่ะ หนูไม่คิดเลยว่าแม่จะโทรหาพ่อแค่เพื่อขอเลิก ทั้งที่พ่อกำลังมีปัญหาอยู่ หนูรับไม่ได้หรอกค่ะ” “เอาละ ไม่เป็นไร แต่พ่อก็ดีใจที่อย่างน้อยแม่หนูก็ยังเป็นห่วงหนูอยู่ คดีนี้ค่อนข้างหนัก พ่อไม่แน่ใจว่าจะได้กลับออกไปเมื่อไหร่” พ่อพูดตามตรง ฉันไม่อยากมองสบตาพ่อเลยเพราะรู้ความหมายโดยนัยของท่าน แต่ฉันจะยังไม่เลิกหวังหรอกว่าพ่อจะออกมาได้ในเร็ววัน “ไปอยู่กับแม่เถอะนะ เชื่อพ่อ” “ไม่ค่ะ” ฉันปฏิเสธ พ่อคิดว่าฉันจะทิ้งท่านไปได้เหรอ พ่อจะอยู่คนเดียวได้ยังไง พ่อไม่มีใครเลยที่นี่ แล้วจะสู้คดียังไง “หนูไม่มีทางทิ้งพ่อเด็ดขาด พ่อเลิกพูดเรื่องนี้นะคะ” ฉันเกือบจะร้องไห้แล้วระบายทุกสิ่งให้พ่อฟังแต่อดกลั้นเอาไว้ “ก็ได้ ๆ ตัวเล็กของพ่อ ไม่ต้องห่วงพ่อหรอก หนักกว่านี้พ่อก็เคยเจอมาแล้ว พ่อแค่ห่วงหนูว่าอยู่ตัวคนเดียวไม่มีคนดูแล แล้วสายสืบนั่นยังมาหาหนูอยู่อีกมั้ย” “ค่ะ” “หนูระวังตัวไว้นะ ถ้าใครมาถามอะไรก็ไม่ต้องบอก บอกแค่ว่าหนูไม่รู้เรื่อง โดยเฉพาะสายสืบนั่น เพราะมันจะกวนน้ำให้ขุ่น” พ่อเตือน “ค่ะพ่อ หนูหรู้แล้ว พ่อไปต้องเป็นห่วงนะคะ หนูสบายดี” ฉันโกหก “แล้วหนูมีเงินใช้มั้ย หนูไม่ต้องฝากเงินให้พ่อหรอกนะ” “หนูฝากเงินในบัญชีให้พ่อแล้วค่ะ แต่พ่ออย่ากินแต่ ขนมหวานนะคะ พ่อต้องควบคุมน้ำตาล” ฉันเตือนเพราะพ่อชอบขนมหวานมาก “ที่นี่ไม่มีตัวเลือกให้พ่อนักหรอก” พ่อหัวเราะ “โธ่พ่อคะ ยังไงหนูก็เป็นห่วงพ่ออยู่ดี” “ไม่ต้องห่วงพ่อ ว่าแต่หนูมีเงินพอใช้มั้ย” “หนูทำงานพิเศษในร้านอาหารค่ะ” “หนูไม่เห็นต้องไปหางานทำเลย เงินเก็บของพ่อมีพอจนหนูเรียนจบ” “ไม่เป็นไรค่ะพ่อ หนูชอบทำงาน สนุกดี ค่าจ้างก็ดีแล้วก็ได้กินฟรีด้วย” “พ่อก็ยังเป็นห่วงหนูอยู่ดี” “ไม่ต้องห่วงนะคะพ่อ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นหนูจะรีบบอกพ่อค่ะ” ฉันโกหกพ่ออีกครั้ง ถ้าพ่อรู้ว่าลูกสาวของตัวเองกำลังจะทำอะไรในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า จะทำให้พ่อเสียใจจนวันตาย “หนูจะฝากเงินใส่บัญชีให้พ่อเพิ่ม พ่ออยู่ในนี้จะได้มีของ ดี ๆ กิน” “ฟังพ่อนะคะน้า” น้ำเสียงและแววตาพ่อเปลี่ยนเป็นจริงจัง “พ่อไม่จำเป็นต้องใช้เงินในนี้ และถ้าหนูไม่อยากย้ายไปอยู่กับแม่ก็ไม่เป็นไร พ่อรู้ว่าหนูกับแม่เหมือนน้ำกับน้ำมัน แต่แม่หนูพูดถูกอย่างหนึ่ง หนูจะต้องหยุดเรียนเพราะเรื่องของพ่อไม่ได้ หนูต้องตั้งใจเรียนให้จบเพื่ออนาคตของหนูเอง ส่วนเรื่องพ่อ พ่อจะจัดการเอง” ฉันมองหน้าพ่ออย่างไม่เห็นด้วย พ่อจะจัดการยังไงในเมื่อตัวเองถูกขังอยู่ในนี้ “หมดเวลาแล้ว” เสียงเตือนจากผู้คุมดังขึ้น “พ่อรักหนูนะ” พ่อบอกแล้วยิ้มให้ฉัน “หนูจะมาเยี่ยมพ่อใหม่ค่ะ” ฉันวางมือลงผนังกระจกที่กั้นระหว่างฉันกับพ่อ พ่อวางมือลงมาบนตำแหน่งเดียวกันก่อนที่จะแขวนหูโทรศัพท์กลับเข้าที่ ฉันมองผู้คุมนำตัวพ่อออกไป พ่อหันมามองฉันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะหายไปจากประตู
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD