สักพักเพื่อนของพี่ชายที่แยกออกไปเดินเข้ามาสมทบหลายคน และเริ่มพูดคุยกันมากขึ้น รวมทั้งกลุ่มสาวๆ เพื่อนร่วมก๊วนของมีนาที่รู้จักโมกข์ก็มาเพิ่มอีก แพรวพิมพ์ก็สนิทกับเพื่อนกลุ่มนี้เพราะทำงานวงการคล้ายๆ กัน บางคนก็เป็นเซเลป ซึ่งเต็มที่กับงานปาร์ตี้มาก พอดื่มเข้าไปแล้วก็เริ่มเคล้าคลอกันสนุกสนาน ตามปริมาณแอลกอฮอล์ที่เพิ่มขึ้นจนไม่รู้ว่าที่กอดกันมั่วตั้วนั้นไม่รู้ว่าใครเป็นกิ๊กใคร
ในขณะที่ปาร์ตี้กำลังดำเนินไปอย่างสนุกจากที่พยายามจับคู่ให้พี่ชายกับเพื่อนตนเอง มีนาถึงได้สังเกตว่ากาจน์ หนึ่งในเพื่อนของพี่ชายนั้นมองที่แพรวพิมพ์ตลอด แพรวพิมพ์เองก็มองเขา ส่วนพี่ชายตัวดีของหล่อนไปคลอเคลียยัยมิงค์ เพื่อนสนิทของเขาที่เป็นนักร้องในร้านมากกว่าจะสนใจเพื่อนหล่อน....
“เอ่อ... เราไปเข้าห้องน้ำครู่หนึ่งนะมีนา” แพรวพิมพ์สะกิดแล้วบอก หลังจากที่โดนคะยั้นคะยอให้ดื่มค็อกเทลไปครึ่งแก้ว เจ้าตัวก็ดูท่าจะคอพับ คิดว่าจะรอดูอะไรนิดหน่อยแล้วค่อยพากลับ
แพรวพิมพ์ลุกไปแล้วจึงหันไปคุยกับพี่ชาย ให้กาจน์พอได้ยินด้วย...
“เดี๋ยวมีนากับแพรวจะพากันกลับแล้วนะคะ รอแพรวกลับมาจากห้องน้ำจะไปเลย”
“อ้าว ทำไมกลับไว ง่วงนอนแล้วเหรอ”
“จะไปต่อน่ะสิคะ... ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล งัดเพื่อนมาเที่ยวได้ทั้งที ไม่กลับตัวเปล่าหรอกค้า”
“ปากเก่งจริง” โมกข์เขกหัวน้องสาว... “รีบพากันกลับไปดื่มนมก่อนนอนเถอะจ้ะ เดี๋ยวพี่ให้คนไปส่ง ดึกแล้ว”
“โธ่ เราพากันโตแล้วน้าพี่โมกข์ เพื่อนเค้าก็โตแล้ว อายุเท่ากันเรียนจบแล้วน้า....” บอกพี่ชายเสียงอ้อน... “สนใจจีบไหม จัดการให้” ถามพี่ชายแต่หันไปมองกาจน์ เห็นมือที่ยกแก้วขึ้นดื่มชะงัก
“พี่จะจีบติดเหรอ เพื่อนเราไม่เห็นดูสนใจพี่”
“มีนาเป็นแม่สื่อซะอย่าง...” น้องสาวบอกหัวเราะติดตลก “แต่อยู่ที่ว่าเพื่อนมีนาจะชอบพี่โมกข์ไหมเท่านั้นนะ เพราะถ้าเขาไม่ชอบ สิบมีนาก็ช่วยไม่ได้” บอกเปรยๆ ไปอย่างนั้นเพราะแค่อยากรู้อะไรบางอย่าง พี่ชายก็ดูเหมือนรู้ว่าคนน้องพูดเพ้อเจ้อเพื่อกันท่าเขากับมิ้งเท่านั้นเพราะเจ้าตัวมักไม่ค่อยชอบเวลาเขามีสาว ไม่ว่าจะคนไหน...
บทสนทนาเงียบไปแล้ว มีนานั่งดื่มต่อ แต่สายตาแอบเหล่มองกาจน์ที่เดินออกไปจากโต๊ะ แล้วไปดักแพรวพิมพ์ที่มุมสลัวๆ หน้าห้องน้ำ แต่ว่าไม่อาจบดบังสายตาเรดาร์ของหล่อนไปได้...
“คิดไว้ไม่มีผิด” มีนาพึมพำ