เพราะไม่มีตัวช่วยอย่างจักรเย็บผ้าและร่างกายที่ไม่ค่อยถนัดของฉินเสี่ยวหราน ชุดแรกที่ออกแบบและลงมือตัดเย็บใช้เวลานานถึงห้าวันกว่าจะได้หนึ่งชุด ฉินเสี่ยวหลิงลองใส่แล้วพบว่ามันพอดีตัวมาก
"ชุดสวยมากเลยค่ะพี่สาวใหญ่ นึกไม่ถึงว่าพี่จะตัดเย็บได้สวยมากขนาดนี้" ฉินเสี่ยวหลิงเอ่ยชม ชุดที่เธอใส่เมื่อตัดกับผิวแล้วขับผิวให้ขาวขึ้น ไหนจะขนาดตัวที่ไม่คับและไม่หลวมเกินไป
"ฝีมือของฉันไม่เคยพลาด"
ใช่ ไม่ว่าจะลองตัดเย็บครั้งแรกหรือครั้งไหน ๆ ดีไซเนอร์อย่างลิลลี่ไม่เคยทำพลาด ยิ่งฉินเสี่ยวหรานมีพื้นฐานการตัดเย็บอยู่แล้ว ชุดที่ได้มาจึงไร้ที่ติ หากชุดนี้ถูกขายด้วยชื่อของเธอ มันจะขายได้หลายล้านบาทเลยทีเดียว
ฉินเสี่ยวหรานปล่อยให้น้องสาวตื่นเต้นไปกับชุดใหม่ เธอเข้าครัวเพื่อทำอาหารไปส่งให้แม่ที่โรงตัดเย็บ ซึ่งเป็นแหล่งรวมตัวของสมาคมแม่บ้านทหาร ต่อให้ไม่ได้ทำงาน พวกคุณนายทหารก็ชอบไปรวมตัวกันที่นั่น วันนี้พ่อฉินถูกเรียกตัวออกไปช่วยภารกิจนอกกองทัพ ไม่ต้องนำปิ่นโตอาหารไปส่ง
วันก่อนที่บ้านซื้อเนื้อหมู ขาหมูมา ฉินเสี่ยวหรานใช้วิธีทำหมูน้ำค้างเพื่อให้มีเนื้อกินในทุกวัน และพ่อไม่ต้องออกไปซื้อของที่ตลาดให้เหนื่อย เพียงแค่เนื้อที่ทำอาหารไม่ใช่เนื้อสด
ที่บ้านมีแปลงผักที่ปลูกเอาไว้ แต่กว่าจะโตฉินเสี่ยวหรานจึงทำหมูผัดถั่วงอกที่เพาะเอาไว้แทน นอกจากนี้ยังมีเกี๊ยวหมูที่เพื่อนบ้านนำมาฝาก ทำเป็นเกี๊ยวน้ำปรุงรสใหม่ อาหารเพียงเท่านี้แม่ของเธอคงกินไม่หมดแล้ว
ก่อนจะไปที่โรงตัดเย็บของกองทัพ ฉินเสี่ยวหรานเปลี่ยนชุดใหม่ เนื่องจากทำอาหารจึงมีกลิ่นอาหารติดตัว ในขณะที่ฉินเสี่ยวหลิงใส่ชุดใหม่ไปอย่างเด็กเห่อชุดใหม่ และฉินเสี่ยวหรานไม่ห้าม เพราะเป็นสิ่งที่เธอต้องการ
เป็นครั้งแรกที่ฉินเสี่ยวหรานได้มาเยือนโรงตัดเย็บ เธอกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เห็นได้ว่าส่วนมากจะเป็นภรรยาของทหารยศน้อย มีเพียงภรรยาของพันตรีไม่กี่คนที่ทำงานที่นี่ หนึ่งในนั้นเป็นแม่ของเธอ พอเห็นเป้าหมายสองพี่น้องก็รีบเดินไปทันที
จ้าวหยู่ฟางเห็นว่าวันนี้ลูกสาวคนโตมาด้วยจึงรีบเดินมาหา "ทำไมวันนี้เสี่ยวหรานมากับน้องด้วยล่ะ เอ๊ะ! นี่ชุดที่ลูกตัดหรือ" และเมื่อเห็นว่าลูกสาวคนเล็กใส่ชุดที่แปลกตาจึงตกใจ
"ค่ะแม่"
คุณนายเว่ยเดินตามหลังมาติด ๆ มองชุดที่ฉินเสี่ยวหลิงใส่ด้วยสายตาเป็นประกาย "เสี่ยวหลิงจ้ะ หนูไปซื้อชุดมาจากที่ไหนหรือ สวยมาก น้าไม่เคยเห็นชุดแบบนี้มาก่อน"
"ไม่ได้ซื้อหรอกค่ะ" ฉินเสี่ยวหลิงหัวเราะคิกคักก่อนหมุนตัวให้เพื่อนใหม่ของแม่ได้ดู "พี่สาวใหญ่เป็นคนตัดเย็บชุดนี้ให้ค่ะ ตัดเย็บมาหลายวันแล้ววันนี้เสร็จพอดี"
คุณนายทั้งหลายที่เดินตามกันมาหันไปมองฉินเสี่ยวหรานเป็นตาเดียว คาดไม่ถึงว่าสาวน้อยคนนี้จะตัดชุดได้ ที่สำคัญชุดนี้ยังมีความสวยที่แปลกตาและน่ามอง
"อยู่ที่บ้านนอกจากอ่านหนังสือแล้วไม่มีอะไรให้ทำค่ะ ก่อนหน้านี้ฉันได้ม้วนผ้ามาจึงลองตัดเย็บดู" ฉินเสี่ยวหรานบอกตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อ่านหนังสือเองก็ตาม
แต่ก่อนช่วยแม่เย็บเสื้อผ้าอยู่แล้ว และเหมือนที่ฉินเสี่ยวหลิงบอก เธอไม่เคยตัดชุดใหญ่ขนาดนี้ พอบอกว่าลองทำเท่านั้นที่บ้านก็ไม่ได้สนใจ คนเราต้องมีครั้งแรก ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด
"ฉันอยากได้ชุดใหม่ เสี่ยวหรานเธอตัดชุดให้ฉันได้หรือไม่ ผ้าที่จะใช้ตัดฉันจะหาให้เอง ส่วนค่าฝีมือนั้นเท่าไหร่ก็จ่าย" คุณนายเว่ยรีบเอ่ยก่อนที่จะมีคนตัดหน้าไปก่อน
ฉินเสี่ยวหรานพยักหน้า "ได้ค่ะ แต่ว่าการตัดเย็บต้องใช้ความประณีต อีกทั้งที่บ้านไม่มีจักรคงใช้เวลาหลายวัน แต่ว่าค่าฝีมือของฉันนั้นมีราคาแพง ถ้าสนใจฉันตกลงค่ะ"
"แน่นอน ค่าฝีมือกี่หยวนฉันก็ยอมจ่าย"
"ที่นี่มีสายวัดตัวหรือไม่คะ" เพราะกะทันหันเกินไป ฉินเสี่ยวหรานไม่ได้เตรียมอุปกรณ์มาด้วย และไม่คิดว่าจะมีคนสั่งตัดเย็บอย่างไม่ถามราคา "ยิ่งได้ขนาดตัวเร็วการตัดเย็บจะเร็วขึ้นค่ะ"
"ไม่ ๆ ชุดใหม่ที่อยากได้คืออยากตัดให้ลูกชายคนเล็กของฉัน เธออาจจะเคยเจอพันตรีเว่ยมาก่อน เขาว่างช่วงเย็นนี้" คุณนายเว่ยรีบบอก ชุดใหม่อยากได้เองก็จริง แต่ลูกชายไม่มีชุดใหม่นานแล้ว
"ถ้าอย่างนั้นตอนเย็นฉันจะไปหาที่บ้านพักนะคะ"
"จ้ะ"
ฉินเสี่ยวหรานไม่มีปัญหา หลังส่งปิ่นโตอาหารเสร็จเธอก็พาน้องสาวกลับบ้านและเตรียมของสำหรับการวัดตัวตอนเย็น เมื่อถึงเวลาก็ปล่อยให้น้องสาวทำอาหารมื้อเย็นที่บ้าน ส่วนตนเองเดินเท้าไปยังบ้านพักของท่านนายพลเว่ย ถึงจะไม่เคยไปแต่ว่าบ้านพักท่านนายพลเป็นบ้านพักหลังใหญ่และเด่นที่สุดในกองทัพแล้ว
หน้าบ้านพักมีคุณนายเว่ย ผู้หญิงที่ไม่คุ้นหน้า และเด็กชายหญิงอีกสองคนที่นั่งเล่นอยู่ ฉินเสี่ยวหรานคาดว่าน่าจะเป็นภรรยาของพันโทเว่ยแน่ ๆ บ้านหลังนี้มีเพียงคนเดียวที่แต่งงาน
“คุณนายเว่ย"
"มาแล้ว ๆ"
เหยาหงซีสะใภ้ใหญ่บ้านเว่ยหันมามองฉินเสี่ยวหรานที่ถือกระเป๋ามาด้วย "สวัสดีจ้ะ ฉันเหยาหงซีสะใภ้ใหญ่เว่ย"
"สวัสดีค่ะ"
"แม่สามีของฉันเล่าว่าเธอตัดชุดสวยมาก เดือนหน้าวันเกิดพ่อของฉัน ฉันกำลังหาชุดให้ลูกใส่ แต่ไม่รู้ว่าเธอตัดชุดเด็กได้หรือไม่" เหยาหงซีเป็นลูกสะใภ้ของคุณนายเว่ยและยังเป็นพยาบาลทหาร เงินเดือนที่บ้านเว่ยของใครของมัน ราคากี่หยวนเธอจ่ายได้ทั้งหมด
"ฉันตัดเย็บชุดเด็กได้ค่ะ แต่ว่าชุดของเด็กจะราคาสูงเท่าผู้ใหญ่เพราะต้องมีความปราณีต ละเอียดอ่อนค่อนข้างมาก" สำหรับใครที่บอกว่าชุดเด็กถูกกว่าผู้ใหญ่ก็ไปซื้อที่นั่น เธอผ่านการตัดเย็บมามาก และชุดเด็กบอกได้เลยว่างานหินสุด ๆ
"ราคาเท่าไรฉันยอมจ่าย"
"ถ้าอย่างนั้นให้ฉันวัดตัวเด็ก ๆ เลยไหมคะ เจ้าของชุดที่จะต้องตัดเธอยังไม่เห็นเขาโผล่มา จะได้ไม่เสียเวลา
“ได้"
ลูกชาย ลูกสาว ของเหยาหงซีถูกอุ้มมาวัดขนาดตัว ทั้งสองเป็นเด็กดีมากให้ทำอะไรก็ทำ และให้ความร่วมมือดีสุด ๆ ระหว่างวัดตัวฉินเสี่ยวหรานจดขนาดต่าง ๆ ใส่กระดาษเพื่อไม่ให้ผิดพลาด
"ชุดที่อยากได้สีอะไรคะ? หรือถ้ามีผ้าให้ด้วยจะดีมากเลยค่ะ"
"ไม่มีหรอก ฉันอยากได้ของลูกชายสีม่วง ของลูกสาวสีชมพู ให้คล้ายกันจะดีมาก" เหยาหงซีบอก
ฉินเสี่ยวหรานจดสิ่งที่ลูกค้าอยากได้ เธอต้องซื้อม้วนผ้าตั้งสองม้วนเห็นทีต้องยืมเงินของบ้านมาซื้อก่อน "ฉันคิดว่าน่าจะใช้เวลาชุดละสองวันคงจะเสร็จแล้วค่ะ ต้องดูชุดใหญ่ว่าจะเสร็จตอนไหนต้องทำชุดนั้นก่อน"
"อืม"
"เอ๊ะ เจ้าลูกชายคนนี้ ปกติกลับบ้านเร็วมากทำไมวันนี้ถึงกลับช้ากันนะ ใช้ไม่ได้จริง ๆ" คุณนายเว่ยอดที่จะบ่นไม่ได้ ในแต่ละวันเวลานี้ปกติลูกชายคนเล็กจะอาบน้ำเตรียมพักผ่อนแล้ว
พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา เว่ยเซียวเดินมาที่บ้านเว่ยด้วยใบหน้านิ่ง เขาเห็นว่ามีคนอยู่หน้าบ้าน จากที่ควรเข้าบ้านจึงเดินมาตรงนี้แทน เห็นแม่ พี่สะใภ้ หลาน ๆ และลูกสาวพันตรีคนใหม่ของกองทัพที่ยืนอยู่
"มีอะไรกันครับ"
คุณนายเว่ยถอนหายใจ "แม่ให้เสี่ยวหรานตัดเย็บชุดให้ลูก น้องมารอที่นี่นานแล้วไม่กลับมาสักที ปกติกลับเร็วกว่านี้ไม่ใช่หรือ" เสียเวลาของฉินเสี่ยวหรานจริง ๆ ดีที่ไม่ใช่คุณหนูเอาแต่ใจ ไม่งั้นแย่แน่
"ขอโทษครับ เพิ่งจัดการงานเสร็จ"
ฉินเสี่ยวหรานมองท้องฟ้าที่เริ่มไม่มีแสงแล้ว "ฉันขอวัดตัวพันตรีเว่ยจะได้หรือไม่คะ ใกล้มืดแล้ว ต้องรีบกลับบ้าน น้องสาวของฉันอยู่บ้านคนเดียว ฉันเป็นห่วงค่ะ"
"เอาสิ"
ฉินเสี่ยวหรานวัดขนาดตัวเว่ยเซียวอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีความเขินอายให้แก่ชายหนุ่ม ก่อนขอตัวกลับ