แต่เมื่อคิดกลับกันอีกทีอีกฝ่ายก็คงคิดไม่ต่างอะไรกับเธอ ที่จู่ๆ ก็ต้องเอาผู้หญิงแปลกหน้าที่ไหนไม่รู้มาอยู่ร่วมชายคาด้วย ดูแล้วตัวเธอน่าจะถูกมองอย่างไม่ไว้วางใจมากกว่าซะอีก
คิดมาคิดไปท้องเจ้ากรรมก็ร้องครวญครางขึ้นมาเพราะความหิว เพราะตั้งแต่เย็นยังไม่มีอาหารอะไรตกถึงท้อง ด้วยมัวแต่คิดไม่ตกเรื่องที่จู่ๆ ก็จะถูกพาไปให้ใครไม่รู้ดูตัวยังกับละครน้ำเน่าทั้งหลาย หญิงสาวรีบก้าวลงจากเตียงคิดว่าจะลงไปห้องครัวซะหน่อย เมื่อกี้เธอเห็นตาคนหน้างอเป็นจวักนั่นถือของกินหลายอย่างลงจากรถ หวังว่าคงไม่หวงของกินกับเธอหรอกนะ
เจ้าของร่างระหงเดินลงจากชั้นลอยไปยังด้านหลังซึ่งเป็นส่วนของครัวจริงๆ อย่างที่คิด แล้วดวงตาหญิงสาวก็เบิกโตขึ้นด้วยความแปลกใจ เพราะสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าคือลานกว้าง พื้นปูด้วยกระเบื้องสีน้ำตาลที่มองเผินๆ คล้ายกับไม้ เป็นครัวแบบเปิดโล่งมีหลังคาคลุม ริมผนังด้านหนึ่งเป็นเคาน์เตอร์ยาวปูด้วยกระเบื้องสีขาวสูงเทียมเอวมีตู้สำหรับเก็บของสีน้ำตาลเข้มตั้งอยู่ ด้านบนมีตู้ติดผนังสีเดียวกันสำหรับเก็บอุปกรณ์การทำครัวแขวนอยู่ เรียกว่าย้ายครัวทันสมัยจากในห้องแคบๆ มาอยู่ในที่โล่งกว้างก็คงไม่ผิดนัก
บนเคาน์เตอร์มีหม้อข้าวที่คงถูกเสียบหุงไว้ตั้งแต่เช้าแล้วตั้งอยู่ ในนั้นมีข้าวสวยที่กะด้วยสายตาน่าจะประมาณพูนจานได้ หญิงสาวจึงจัดการกดอุ่นไว้ก่อน
แล้วพริมาก็แทบจะร้องกรี๊ดออกมา เมื่อหันไปเห็นต้นมะม่วงที่มีลูกห้อยระย้า พลางนึกในใจพรุ่งนี้จะต้องเก็บมาทำน้ำปลาหวานกินให้ได้ เพราะนึกอยากกินตั้งแต่เดินทางกลับมาใหม่ๆ แล้ว หลังจากวาดแผนการเรื่องอนาคตไว้แล้วหญิงสาวก็หันกลับมายังเรื่องปัจจุบันต่อ
เมื่อเปิดตู้เก็บของสิ่งที่ปะทะกับสายตา คืออาหารแห้งหลากหลายชนิดถูกจัดวางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ ซึ่งมองดูแล้วน่าจะใช้เวลาในการทำเนิ่นนานเป็นแน่ อาหารที่ง่ายและเหมาะกับเธอที่สุดตอนนี้น่าจะเป็นไข่เจียว เมื่อคิดได้ดังนั้นพริมาก็เดินไปที่ตู้เย็นขนาดใหญ่ ซึ่งแน่ใจว่าเปิดแล้วจะต้องเจอไข่อย่างแน่นอนและก็ไม่ผิดหวัง เพราะพบเข้ากับไข่ไก่ไข่เป็ดวางเรียงกันเป็นแถว
“โอ้โห นี่เขาไม่คิดจะออกไปไหนเลยหรือไงนะ อย่าว่าแต่อยู่เป็นเดือนเลยให้หลายเดือนด้วย”
ภายในใจนึกสงสัยแต่มือก็หยิบไข่สองฟองมาตอกใส่ชาม คว้าหม้อใบเล็กที่ราวกับไม่เคยถูกใช้งานมาก่อนตั้งบนเตา เปิดแก๊สแล้วเทน้ำมันลงไปพอสมควร
พริมารู้เคล็ดลับของการเจียวไข่ให้อร่อยว่าต้องเจียวในหม้อเท่านั้น จากการลองผิดลองถูกตอนเรียนอยู่ต่างประเทศ ขณะรอให้น้ำมันในหม้อร้อนได้ที่หญิงสาวก็จัดการตีไข่ในชามไปด้วย เพื่อให้ทันกับน้ำมันร้อนและไม่ลืมหั่นพริกขี้หนูที่เจอในตู้เย็นลงไปด้วยเพื่อเพิ่มรสชาติ
นึกเสียดายที่ไม่มีหัวหอมแดงเพราะคุณยายเคยทำให้กิน บอกว่าใส่แล้วหอมทำให้น่ากินยิ่งขึ้น แต่ได้เท่านี้ก็นับว่าดีแล้วสำหรับคนหิวจนตาลายอย่างเธอ
ขณะเดียวกับนรภัทรที่จัดการอาบน้ำ จนเรียกความสดชื่นให้เกิดกับตัวเองแล้ว ชายหนุ่มก็คิดว่าจะออกไปทำงานตรงโต๊ะริมระเบียงสักหน่อย หลังจากพบเจอกับอุบัติเหตุไม่คาดฝัน จนต้องพาผู้หญิงไม่รู้หัวนอนปลายเท้าที่ไหนก็ไม่รู้มาอยู่ร่วมบ้านด้วย แต่จะว่าไปแล้วดูจากหน้าตาผิวพรรณแล้วไม่น่าจะเป็นคนไม่ดี
ตอนนี้มีหนทางเดียวคือพร่ำสวดภาวนา ให้แม่เจ้าประคุณฟื้นความทรงจำโดยเร็วแล้วกัน
ขณะเท้าทั้งคู่กำลังจะก้าวไปยังระเบียงโดยถือแล็ปท็อปคู่ใจอยู่ในมือ กลิ่นหอมของไข่เจียวก็โชยเข้าจมูกทำให้ต้องชะงักเท้าในฉับพลัน ที่มาของกลิ่นนั้นมาจากในครัว ทำให้พยาธิในท้องของเขาพากันร้องครวญคราง จนต้องเปลี่ยนจุดหมายจากระเบียงเป็นห้องครัวแทน
ตอนแรกชายหนุ่มหลงนึกว่านางประภา แม่ครัวที่เพื่อนสนิทหามาให้เป็นคนทำ แต่แล้วก็เพิ่งนึกได้ในเวลาติดๆ กันว่า เพิ่งเชิญเจ้าตัวออกไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ด้วยทนฝีมือการทำอาหารอันแสนจะห่วยแตกของอีกฝ่ายไม่ไหวจริงๆ
เมื่อก้าวเข้าไปในครัว ภาพที่ปรากฏในสายตาทำเอานรภัทร ผู้ที่ผ่านมาไม่เคยทำอะไรที่เสียหน้าหรือเสียกิริยากับเรื่องอื่นใดทั้งสิ้น ถึงกับลอบกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อกใหญ่ เมื่อเห็นจานข้าวสวยโปะด้วยไข่เจียวสีเหลืองน่ากินวางอยู่บนโต๊ะอาหาร แต่เจ้าตัวคนทำไม่รู้ว่าไปอยู่ตรงไหนแล้ว
หลังจากกวาดตามองหาคนทำอยู่รอบหนึ่งไม่เห็น ซึ่งถ้าเขาจะแอบกินข้าวไข่เจียวตรงหน้าคงไม่ผิดหรอกนะ
ในเมื่อสิ่งของทุกอย่างในบ้านเป็นของเขานี่นา
เมื่อคิดได้ดังนั้นบวกกับความหิว ที่สะสมมาตั้งแต่ตอนซื้อของที่เพิ่งจะแสดงออกตอนนี้ ชายหนุ่มผู้ไม่เคยทำอะไรมาดหลุดเช่นนี้มาก่อน ก็ใช้ช้อนตักข้าวไข่เจียวใส่ปากกิน
และความรู้สึกแรกที่ลิ้นสัมผัสคือ...ความอร่อย
ไม่ใช่อร่อยธรรมดาแต่อร่อย...มาก
นรภัทรยอมรับว่าไม่เคยกินไข่เจียวอร่อยเท่านี้มาก่อน ไข่เจียวโรยด้วยพริกขี้หนู แม่บ้านคนเก่าที่เคยทำให้กินนั้น ไข่ที่เจียวก็แข็งไม่นุ่มฟูแถมรสชาติไม่กลมกล่อมอร่อยลิ้นแบบนี้ และเป็นเพราะความอร่อยทำให้เผลอกินเข้าไปจนเกือบหมดจาน และคงกินจนหมดถ้าไม่เห็นหญิงสาว ที่เขาเก็บมาอยู่ด้วยยืนจ้องมาที่ตัวเขาสลับกับจานข้าวด้วยดวงตาเบิกโพลงบวกสีหน้าเอ๋อๆ ซึ่งเขามองออกว่ามีความเสียดายปะปนอยู่ด้วยกว่าครึ่ง ดูแล้วน่าตลกชะมัด
“ข้าว...ไข่เจียวของฉัน คุณกินจนเกือบหมด”
คนขโมยกินข้าวไข่เจียวจนเกือบหมดจานไม่ได้รู้สึกผิดแต่อย่างใด มิหนำซ้ำยังปรับสีหน้าให้ดูเคร่งดุก่อนจะพูดน้ำเสียงไม่ต่างกัน
“ข้าวเป็นของผม ไข่ก็เป็นของผม คุณเอาอะไรมาคิดว่าเป็นของคุณ ดังนั้นถ้าผมกินย่อมไม่ผิด หรือ...ไม่จริง”
คนหิวข้าวจนตาลายได้แต่อึ้งกับคำพูดของอีกฝ่าย ขโมยกินข้าวแล้วยังจะมาพูดกับเธอด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเช่นนี้อีก
อย่างนี้จะเรียกว่าหน้าทนเบอร์ไหนกันเนี่ย
“แต่ฉันเป็นคน...ทำ”