ลินด์ไปพบผู้จัดการตามที่ได้รับแจ้งไว้ ร่างอรชรนั่งเก้าอี้ตรงข้ามโต๊ะทำงานของแจ็ค ก่อนจะมีเอกสารวางลงตรงหน้า
“ตอนนี้ทางรีสอร์ตของเราต้องการผู้จัดการด่วน และเห็นว่าควรมองหาคนที่เคยหรือกำลังทำงานที่นี่ก่อนที่จะประกาศรับคนนอกหากคนในนี้ไม่มีใครเหมาะสม” แจ็คเริ่มประโยคสนทนาขึ้น เขาได้รับแจ้งจากเจ้าของรีสอร์ตอย่างดัสตินเมื่อวันก่อน
“คะ…” ดวงตาสวยกะพริบพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่แจ็คพึ่งบอกเธอ
“ทางผู้บริหารมีความเห็นตรงกันว่าคุณเหมาะสมนะลินด์”
“..ล..ลินด์เหรอคะ?” แทบจะไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน เพราะเธอทำงานตำแหน่งพนักงานทำความสะอาดมาตลอดหกปี ซึ่งเป็นพาร์ทไทม์ระหว่างเรียนด้วยซ้ำ
“เท่าที่ผมเห็นคุณมาตลอดหกปี คุณมีความสามารถทั้งการจัดการสถานการณ์ จัดการอารมณ์และด้านภาษาก็ไม่น้อยหน้าใคร” ช่วงนี้นักท่องเที่ยวจากไทยก็มีเยอะขึ้นและลินด์เองก็เป็นคนไทย
“ขอบคุณค่ะคุณแจ็ค” หญิงสาวยิ้มด้วยความดีใจกับโอกาสตรงหน้า ตอนเรียน เธอลงเรียนภาษาอื่นด้วยให้พอเข้าใจและสื่อสารได้
“ถ้าคุณสนใจ ก็เริ่มเทรนและทดลองงานได้เลย มีเวลาตัดสินใจอีกหนึ่งอาทิตย์ ศึกษาสัญญาจ้างงานก่อนก็ได้”
“ขอบคุณมากอีกครั้งค่ะคุณแจ็ค” หญิงสาวลุกขึ้นยืนแล้วก้มโค้งขอบคุณผู้จัดการรีสอร์ต ก่อนออกมาก็ไม่ลืมหยิบเอกสารสัญญาจ้างงานออกมาด้วย
ดัสตินเดินมาลงมาจากห้องทำงานพอดี เห็นหญิงสาวคนที่เขาหมายตาเอาไว้ก็ยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี
“ลินด์”
“สวัสดีค่ะคุณดัสติน” ลินด์ก้มศีรษะทักทายเจ้านายอย่างที่เคยทำ
“แจ็คบอกคุณแล้วใช่ไหม” ดัสตินเอียงหน้าถามมองอย่างเจ้าเล่ห์
“ลินด์ทราบแล้วค่ะ”
“รีสอร์ตของเราต้องการบุคลากรที่มีคุณภาพมาร่วมงานที่เหมาะสมกับความสามารถอย่างคุณนะลินด์” ดัสตินส่งยิ้ม ทำงานดี มีความรับผิดชอบและเก่งพอตัวแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว สำหรับว่าที่ผู้หญิงของเขาในอนาคต
ตำแหน่งที่เสนอลินด์ไป เขาก็เป็นคนเสนอคุณพ่อเอง ถึงแม้ว่าที่รีสอร์ตจะมีผู้ช่วยผู้จัดการครบทุกฝ่ายแล้วก็ตาม
...
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา...
ลินด์ตกลงทำงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการรีสอร์ต ระหว่างนี้ถึงสามเดือนก็ยังอยู่ในช่วงทดลองงานกันก่อน
หญิงสาวสวมชุดทำงานที่เหมาะสมกับตำแหน่งใหม่ เดรสสีขาวครีมยาวเหนือเข่า คอเสื้อด้านบนติดกระดุมและมีโบว์ผูกประดับเล็กน้อย ผมยาวสลวยสีน้ำตาลเข้มถูกดัดเป็นวอลลุ่มปล่อยยาวถึงกลางหลัง มีกิ๊บดอกไม้ติดผมไว้ข้างหนึ่ง
“รีสอร์ตเรามีผู้บริหารระดับสูงเพิ่มมาอีกหนึ่งคนนะ” แจ็คพูดขึ้นขณะที่ลินด์กำลังเปิดเอกสารอ่านข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้นของรีสอร์ต
“ค่ะ ค...คุณราม เลอร์มิงตัน...” เธออ่านถึงหน้านั้นพอดี ดวงตาสวยกะพริบปริบๆ เพราะเข้าใจว่าเขาเป็นลูกค้ามาตลอดจนถึงตอนนี้
“เข้าไปแนะนำตัวกับท่านด้วย”
ลินด์ยังอ้าปากค้าง ตำแหน่งเธอเป็นแค่ผู้ช่วยฝึกหัด เขาไม่น่าจะใส่ใจพนักงานตัวเล็กแบบเธอสักนิด
“จะได้ถามความเห็นด้วยไง เขาเคยเป็นลูกค้าคนสำคัญและตอนนี้เป็นผู้บริหาร น่าจะตอบคำถามได้ดีไม่ใช่เหรอ” แจ็คอธิบายต่อ
“อ้อ ใช่ ใช่ค่ะคุณแจ็ค” ลินด์พยักหน้ายิ้มรับ เธอถือโอกาสที่อ่านเอกสารจบแล้วแต่แจ็คยังทำงานไม่เสร็จ สืบค้นข้อมูลของผู้บริหารรีสอร์ตคนใหม่ทันที
มือเล็กกุมปากตัวเอง ดวงตาโตเบิกกว้างเมื่ออ่านข้อมูลที่เธอสืบค้นได้จากทางอินเทอร์เน็ต
หุ้นที่พึ่งซื้อไป เขาซื้อเล่นๆ หรือเปล่าเนี่ย...
“ตกใจล่ะสิ ฉันก็คิดเหมือนเธอนั่นแหละ” แจ็คพูดขึ้นด้วยท่าทางสบายๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนทำให้ลินด์ลุกยืนตาม
สายตาคมของรามสูรมองร่างอรชรเดินตามผู้จัดการรีสอร์ต เธอกำลังพยายามเรียนรู้งานกับตำแหน่งใหม่ที่เธอได้รับ
“คุณราม เลอร์มิงตัน ผู้บริหารอีกคนของรีสอร์ตเรา” หญิงสาวก้มโค้งทักทายอย่างสุภาพ
รามสูรยิ้มมุมปากเล็กน้อยเพียงไม่นานใบหน้าก็กลับเป็นปกติ ความจริงเขาพึ่งลงทุนซื้อหุ้นเล็กๆ น้อยๆ ของรีสอร์ตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
“สวัสดีค่ะท่าน”
“อืม” รามสูรส่งเสียงตอบรับแค่นั้นก่อนหมุนตัวมองวิวข้างนอก
แจ็คสะกิดให้ลินด์ถามความรู้สึกหรือความต้องการจากคนที่เข้าพักรีสอร์ตให้ดูเป็นมิตรและเป็นกันเอง นอกจากรามสูรจะเป็นลูกค้าระดับสูงแล้วก็ยังเป็นหุ้นส่วนใหญ่เหมือนดัสตินอีกด้วย ดังนั้นเวลาถามความเห็นก็จะได้ทั้งสองด้านคือด้านลูกค้าและด้านผู้บริหาร
“คุณรามพอจะมีเวลาสักสิบนาทีให้ดิฉันสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับรีสอร์ตหรือเปล่าคะ”
“เวลาแค่นั้นมันพอใช่ไหม ฉันรู้สึกว่ามันต้องนานกว่านั้น”
“เท่าที่คุณรามจะสละเวลาให้ได้ค่ะ”
“ฉันไม่ชอบคนเยอะ รำคาญ”
ประโยคดังกล่าวทำให้แจ็คปลีกตัวออกจากโซนพักผ่อนส่วนตัวของรามสูรทันที
ร่างสูงใหญ่หันกลับมาพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ตัวใหญ่ ส่งสายตาบอกให้หญิงสาวนั่งลงตรงข้ามกันแต่เธอกลับยืนนิ่ง
“จะนั่งหรือไม่นั่ง”
“นั่ง นั่งค่ะ”
ลินด์นั่งลงเก้าอี้ไม้ตรงข้ามกับเขา เธอเปิดสมุดบันทึกเล่มเล็กที่ลิสต์คำถามเอาไว้และพร้อมจดคำตอบของเขาลงไปในนั้นด้วย
“ลินด์ขอเริ่มคำถามเลยนะคะ”
“ฉันไม่ชอบการถูกซักถาม”
“ขอโทษค่ะ”
หญิงสาวรีบก้มหน้าลงเมื่อทำบางอย่างผิดไป ดวงตาหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด เธอหวาดหวั่น ตื่นเต้น เหงื่อออกตรงฝ่ามือจนชื้น และที่สำคัญหัวใจของเธอเต้นแรงมากเมื่ออยู่ใกล้เขา
“ลินด์ มองฉัน”
“ค่ะ คุณราม” ดวงตาสวยเงยขึ้นสบตากับสายตาคม แววตาของเธอแน่วแน่พร้อมกับรอยยิ้มริมฝีปากเพิ่มความมั่นใจ
“ไม่ต้องกลัว” เสียงทุ้มเอ่ยราบเรียบ มองหญิงสาวด้วยแววตาที่ไม่เคยมองใครมาก่อน ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ตัว
น้ำเสียงทุ้มนุ่มนวลที่เอ่ยบอก ทำให้ลินด์คลายกังวลและประหม่าน้อยลง หัวใจดวงน้อยยังรู้สึกฟูขึ้นและกล้าที่จะสบตาและพูดคุยกับเขามากขึ้นกว่าเดิม
เธอสามารถต่อบทสนทนาอันน้อยนิดของเขาได้อย่างราบรื่น เสียงใส นุ่มนวลของเธอทำให้เขาไม่เบื่อที่จะฟัง
เด็กช่างพูด...
“ฮึ่ม! ขออนุญาตนะครับ”
ดัสตินเข้ามาขัดจังหวะเมื่อรู้ว่าลินด์กำลังคุยกับผู้บริหารคนใหม่อีกคนของรีสอร์ตแค่สองต่อสอง และท่าทางการพูดจาของหญิงสาวเหมือนตอนที่พูดคุยกับเขาซึ่งใช้เวลาหลายปี กว่าลินด์จะกล้าพูดหรือเสนอความเห็นต่อเขา แต่กับรามสูร...
รามสูรเหลือบมองคนมาใหม่ก่อนจะพยักหน้าลงเล็กน้อยเป็นมารยาท เขายกแก้วเหล้าขึ้นดื่มตัดรำคาญ