“ไอ้ดัส”
หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ น้ำเสียงเหมือนคนที่เธอกลัว เหมือนเจ้าของประโยคที่ยังดังอยู่ในสมอง ร่างอรชรก้าวขาหลบมุมทางเดินเป็นอัตโนมัติ มือน้อยกุมหน้าอกที่กำลังเต้นแรงราวกับเสียงกลอง ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นทันที ยิ่งได้ยินเสียงนั้นใกล้ๆ เธอก็ยิ่งมั่นใจ
แมทธิว…
เท้าเล็กก้าวถอยหลังอัตโนมัติ ร่างอรชรสั่นกลัว ในหัวสมองบอกว่าให้เธอรีบออกจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด เมื่อคิดได้ดังนั้น…
ขาเรียวก้าวอย่างรวดเร็วเพื่อหวังออกจากห้องนี้ เธอไม่สนอะไรทั้งนั้น ขอแค่คนนั้นไม่เจอเธอก็พอ
ตุบ! เพล้ง!
ร่างเล็กชนเข้ากับพนักงานเสิร์ฟอย่างจังจนล้มลงทั้งคู่ แก้วค็อกเทลสีสวยแตกกระจายลงพื้น ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนในงานต่างหันมอง
หญิงสาวแทบน้ำตาร่วงได้แต่ก้มหน้าพยุงตัวเองขึ้น ดัสตินรีบปรี่เข้ามาช่วยทันทีที่เห็น ลินด์ปฏิเสธและพยายามก้มหน้าให้นานมากที่สุด
แมทธิวเพ่งมองอย่างชั่งใจอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่รอยยิ้มมุมปากจะผุดขึ้นพร้อมกับดวงตาแข็งกร้าวมองทางหญิงสาว เขาพลิกหน้ามือและหลังมือของตนเองมองตำแหน่งที่ลูกตะกั่วเคยทะลุผ่าน
จำไม่ลืมว่าเป็นเพราะใคร...
“ช่างบังเอิญจริงๆ นะลินด์ งานนี้สนุกแน่ ฮ่าฮ่า” เขาไม่ได้เป็นคนตามหา เขาไม่ได้ทำอะไรเลย แต่จู่ๆ ยัยเด็กนั่นก็อยู่ตรงหน้า เท่ากับว่าเขาไม่ได้ผิดข้อตกลง
“เดี๋ยวกูมา” ดัสตินหันไปบอกเพื่อน เพราะเขาจะพาลินด์ไปทำแผล ดัสตินแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาเป็นห่วงลินด์มากกว่าฐานะเจ้าของรีสอร์ตและพนักงาน
“ไม่ ไม่ต้องค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธทันที เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ดวงตาสวยสั่นระริกด้วยความตื่นกลัวเมื่อมองเห็นผู้ชายคนนั้นยิ้มเจ้าเล่ห์และมองมายังเธอก่อนจะยกมือข้างที่เคยโดนยิงให้เธอเห็น เพื่อย้ำความทรงจำ
หัวใจดวงน้อยสั่นวูบไหว ขอบตาร้อนผ่าวราวกับจะร้องไห้
“เดี๋ยวดิฉันพาลินด์ไปทำแผลเองค่ะคุณดัส” ซาเมียเอ่ยบอกดัสติน และสั่งคนมาทำความสะอาดพื้นอย่างรวดเร็ว ส่วนตัวเองพาลินด์ไปทำแผลจากการโดนเศษแก้วบาด
ผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งถูกยื่นให้หญิงสาว ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองคนที่ยื่นมาให้ คุณราม...
“ขอบคุณค่ะ” เธอรับไว้ด้วยมืออีกข้างหนึ่งแล้วเอ่ยขอบคุณ
“ขอบคุณค่ะท่าน” ซาเมียก้มศีรษะขอบคุณรามสูรอีกครั้งแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นซับเลือดบนฝ่ามือของลินด์ไว้ก่อน
เหตุการณ์ทุกอย่าง รวมถึงกิริยาท่าทางของแมทธิวและอาการหวาดกลัวของหญิงสาวนั้นอยู่ในสายตาของรามสูรตั้งแต่แรก
มีเรื่องให้เขาต้องคิดอีกแล้วสิ...
ดัสตินมองหุ้นส่วนรีสอร์ตเช่นเดียวกับเขา ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ผู้ช่วยผู้จัดการฝึกหัด พร้อมกับนึกเสียดายที่ตัวเขาไม่รั้นพาลินด์ไปทำแผลเอง
“ผู้หญิงคนนั้นเหรอที่มึงจ้องอยู่”
“อืม แต่กูจะจ้องอย่างเดียวคงไม่ได้แล้ว”
“น่าสนุกนะ กูร่วมด้วยสิ”
“ไอ้แมท กูบอกแล้วไงว่ากูก่อน” ดัสตินส่งสายตาเขม่นใส่เพื่อน เขายกแก้วค็อกเทลขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว
“มึงก่อนหรือรามสูรก่อน” ยัยเด็กนั่นหนีเสือปะจระเข้ชัดๆ แมทธิวยิ้มกับความคิดตัวเอง
“มึงอยากคุยงานกับเลอร์มิงตันอยู่มั้ย” ดัสตินพูดอย่างไม่พอใจ
“เออๆ เดี๋ยวกูไปรอที่ห้องรับรองเลยแล้วกัน” แมทธิวบอกพลางสอดสายตาไปรอบๆ งาน รู้สึกเบื่อเกินกว่าจะทนอยู่ ขอไปรอเลอร์มิงตันเลยแล้วกัน
อีกอย่างยัยเด็กนั่นอยู่ที่นี่ ไปทักทายอย่างเป็นทางการหน่อยดีกว่า
...
“เข้าไปในงานกันเถอะ” ซาเมียทำแผลให้ลินด์เสร็จเรียบร้อย
“ขอบคุณนะคะคุณซาเมีย แต่ลินด์...” หญิงสาวคิดไม่ตกว่าจะเอาตัวเองไปอยู่ตรงไหนให้ปลอดภัยจากแมทธิวที่สุด
“ไปสิ งานเริ่มแล้วนะ”
“คุณซาเมียไปก่อนก็ได้ค่ะ ลินด์ขอเข้าห้องน้ำก่อน”
“เอางั้นเหรอ” หญิงสาวพยักหน้า ซาเมียจึงกลับเข้าไปในงานก่อน
ลินด์แอบออกจากห้องพยาบาลของรีสอร์ต เธอมองซ้ายมองขวาอย่างหวาดระแวงขณะเดินออกมา
“ยังไงดีลินด์ เอายังไงดี” ขอบตาของเธอร้อนขึ้นอีกครั้ง พยายามกลั้นน้ำตาแห่งความกลัวเอาไว้ขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกราวกับจะหายใจไม่ออก
ดวงตาสวยสอดส่องซ้ายขวาและหน้าหลังก่อนจะเจอคนที่เธอกำลังหลบหนีอย่างไม่ตั้งใจ เมื่อแมทธิวอยู่ตรงทางเดินฝั่งตรงข้าม โชคดีที่มีต้นไม้ทรงพุ่มใหญ่บังอยู่
“ลินด์ ตั้งสติ”
หญิงสาวมองซ้ายขวา ก่อนจะตัดสินใจเปิดเข้าไปในห้องห้องหนึ่งอย่างรวดเร็ว เธอมองผ่านกระจกเล็กๆ ข้างประตูก็ตกใจมากกว่าเดิมเมื่อแมทธิวกำลังเดินมาทางนี้
ร่างเล็กสั่นไปทั้งตัว กวาดสายตาหาที่หลบซ่อน ก่อนจะเดินไปหลบหลังตู้โชว์สีขาวหลังใหญ่ เธอสะดุ้งตกใจอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูและเสียงเท้าของใครสักคนเดินอยู่ในห้องนี้
มือเล็กแบมือปิดปากแน่นจนแผลปริเลือดซึมออกมา เธอพยายามกำหนดลมหายใจและตั้งสติ
แมทธิวพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิดเพราะเขาหายัยเด็กนั่นไม่เจอ จึงมานั่งรอเวลาคุยงานกับรามสูรในห้องที่นัดไว้
“เสร็จงานเมื่อไหร่ สนุกแน่ยัยลินด์”
ร่างอรชรที่หลบอยู่ในห้องนั้นด้วยก็ตัวแข็งทื่อน้ำตาคลอ หัวใจเต้นแรงจนเธอกลัวว่าแมทธิวจะได้ยิน ยิ่งอยู่ที่ที่แสงเข้าไม่ถึงและแคบแบบนี้ ยิ่งทำให้เธอหายใจไม่ออก
อดทน ลินด์ อดทน...
ไม่กี่นาที หญิงสาวก็ได้ยินเสียงใครอีกคนเดินเข้ามาในห้อง
รามสูรเหลือบสายตามองมุมที่หญิงสาวจะหลบอยู่ ก่อนจะยิ้มปากเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เจคอบพึ่งเห็นลินดาของเขาเข้ามาในห้องนี้ก่อนที่แมทธิวจะเข้ามา
แมทธิวตกใจที่รามสูรมาก่อนเวลา และมาทีหลังเขาแค่ไม่กี่นาที
เขาพยายามอย่างหนักเพื่อให้รามสูรยอมร่วมธุรกิจด้วย หากได้เครื่องบินจากเลอร์มิงตันก็จะทำให้บริษัทของเขาดูน่าเชื่อถือและน่าไว้ใจมากขึ้น ทำให้นักธุรกิจคนอื่นๆ ทั้งสายเดียวกันหรือคนละสายตัดสินใจร่วมลงทุนกับเขาด้วย
ในแวดวงการบินใครๆ ก็รู้ว่าเลอร์มิงตันแข็งแกร่งขนาดไหน
ระหว่างที่แมทธิวเสนอข้อตกลงต่างๆ อย่างตั้งใจ รามสูรนั่งฟังด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง สายตาสอดส่องไปทางที่หญิงสาวหลบอยู่บ่อยครั้งแต่แมทธิวไม่ทันสังเกต
“ขออนุญาตครับ”
ลูกน้องคนหนึ่งของแมทธิวเดินเข้ามาในห้องอย่างรีบร้อนทำให้การเจรจาหยุดชะงัก รามสูรพยักหน้าอนุญาตให้เจ้านายกับลูกน้องได้รายงานกันก่อน
ลูกน้องเดินเข้าไปใกล้แล้วบอกเบาๆ ไม่ถึงกับกระซิบ
“คุณหญิงเสียแล้วครับ”
“อะไรนะ!”
สีหน้าแมทธิวเปลี่ยนเป็นตกใจและตึงเครียดทันที ก่อนจะมาที่นี่เขายังเข้าไปเยี่ยมคุณแม่ที่โรงพยาบาลอยู่เลย แมทธิวกำมือแน่นเสียใจแต่ต้องพยายามเก็บอารมณ์เอาไว้ เขาต้องเลือกระหว่างคุยงานตรงนี้ให้เสร็จหรือจะกลับไปจัดการเรื่องที่บ้านเลย
“เสียใจด้วยนะครับ เอาไว้เราค่อยคุยกันใหม่” หลังจากเงียบอยู่สักพัก รามสูรจึงเอ่ยขึ้น
แมทธิวรู้สึกโล่งใจทันที เพราะเขากำลังคิดวิธีติดต่อคุยงานอีกครั้งกับเลอร์มิงตันอยู่ แต่ในเมื่อรามสูรเป็นคนพูดขึ้นเอง ครั้งหน้าก็คงไม่มีปัญหาอะไร
“ถ้าอย่างนั้นผมต้องขอโทษด้วยนะครับ” แมทธิวลุกขึ้นยืนก้มโค้งขอโทษอีกครั้ง ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องไป
แมทธิวเดินเร็วด้วยความเร่งรีบเรื่องแม่ของเขา ก่อนจะฉุกคิดอีกอย่างหนึ่งขึ้นได้
เดี๋ยวเราได้เจอกันอีกแน่ ยัยลินด์...