ตอนที่5 ความเมตตาแค่เด็กผู้หญิง

1415 Words
บทที่5 มนธิราเลือกที่จะออกทางประตูหลัง ตัดออกไปอีกซอย เท้าบางรีบก้าวเท้าให้ถึงปากซอยโดยเร็ว เพื่อต้องการที่จะเรียกแท็กซี่ ที่จะผ่านมานานๆ ครั้ง เธอยืนคอยไม่ถึงสิบนาทีก็เห็นรถแท็กซี่กำลังผ่านมาพอดี เธอจัดการโบกมือเรียก              ทันทีที่รถจอดสนิทแล้ว มนธิรารีบเปิดประตูด้านหลังแทรกเข้าไปนั่ง แล้วรีบบอกเส้นทางที่เธอต้องการจะไปกับคนขับที่เป็นชายวัยกลางคนทันที             เมื่อรถเคลื่อนที่ออกไป มนธิราก็เข้าไปในวังวนความเศร้าอีกครั้ง ตอนนี้เธอแค่อยากออกไปหาเพื่อน เพื่อจะทำให้ตัวเองหายสับสนกับคนบางคน ที่ไม่เคยมีความรู้สึกอะไรเลย                      ความเมตตาของเขาที่มีต่อเธอ เขาไม่ต้องการแม้จะได้รับคำขอบคุณจากเธอเลยหรือ เขาช่างเป็นคนใจดีเสียจริง...เมื่อคิดดังนั้น ขอบตาก็ร้อนผะผ่าวขึ้นมาทันที             “ลุงคะ...รั้วกำแพงสีฟ้าค่ะ หนูลงตรงนั้นค่ะ" น้ำเสียงที่บอกออกไปอย่างเหนื่อยหน่ายกับตัวเองเต็มที โชคดีที่เธอถึงจุดหมายเสียก่อน หากไม่เช่นนั้นเธอคงต้องนั่งเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัวเป็นแน่             ทันทีที่มนธิราเดินลงจากรถ ก็มีเสียงร้องเรียกของผู้หญิงดังอยู่ไม่ไกล             “ยายบี! ทางนี้ยายบี!”             “อ้าว” คนถูกเรียกหันมามองแล้วทำหน้าตื่นตกใจ “ฉันนึกว่าแกจะไม่มาเสียแล้วสิ” น้ำเสียงร้อนรนเอ่ยถามต่อ สีหน้าโล่งขึ้น             “แล้วเป็นอะไร ทำไมต้องออกมาดักรอฉันอยู่ตรงนี้ล่ะ หรือเธอหนีใครมา”              “มากไปยายบี...” ตากลมโตถลึงตาใส่ แล้วเอ่ยต่อด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป “ก็พี่ธิปสิ กลับมาตอนนี้ทำไมก็ไม่รู้” สีหน้าและน้ำเสียงเง้างอดเหมือนเด็กถูกขัดใจ” “......” มนธิราถึงกับพูดอะไรไม่ออก แล้วทำไมต้องกลัวก็คนรู้จักกันดี อดแปลกใจในคำพูดของเพื่อนรัก จึงต้องถามเพื่อให้คลายสงสัย             “พี่ธิปกลับมาแล้วหรือ แล้วทำไมต้องกลัวว่าเจอบี ทำอย่างกับเจอแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นล่ะ?” สีหน้าเศร้าๆ น้ำเสียงที่ถามมันฟังดูน้อยใจ มันทำให้คนที่ถูกถามถึงกับหน้าถอดสี             “อย่าคิดมากสิ...ที่ไม่อยากให้เจอเธอ เพราะฉันกลัวว่าพี่ธิปจะขอตามมาด้วยต่างหากละ ฉันเลยต้องรีบหนีออกมา ไม่อยากเดินควง เดี๋ยวคนอื่นมองว่าฉันมีแฟนแล้วหรือไม่ก็เธอ อีกอย่างพี่ชายฉันเหมือนจะชอบเธออยู่นะบี" พูดจบยายเพื่อนรักปิดปากหัวเราะชอบใจ จนทำให้อีกคนที่ยืนอยู่ถึงกับอายหน้าแดง              “เกินไปแล้วยายณี คนอย่างบีไม่มีใครสนใจหรอก" น้ำเสียงเศร้าๆ เอ่ยโดยอีกคนไม่ทันได้สังเกต เพราะยังติดอาการขำกับคำพูดและความรู้สึกพอใจที่ได้พูดประโยคนั้นออกมา              อาการหน้าแดงก็จางหาย เมื่อนึกถึงใบหน้าของใครบางคน แล้วรีบสลัดมันทิ้ง มันอาจจะเสียเวลาเสียสมอง หากคิดถึงคนคนนั้น ที่เขาไม่เคยคิดว่ามีคนที่เขาอุปการะอยู่ ต้องการตอบแทนในการมีน้ำใจของเขา...แค่เขาหยุดฟังคำขอบคุณของเธอสักคำก็ยังดี             “บี! เป็นอะไร" เสียงเรียกดังๆ ของเพื่อนรักทำให้มนธิราที่จมอยู่ในภวังค์สะดุ้ง             “อื้อ...อะไรหรือณี” ออกอาการหน้าเหวอเล็กน้อย ก็ไม่รู้ว่าเมื่อกี้เพื่อนพูดอะไรไว้ และเธอทำอะไรที่ผิดแปลกไปไหม             “เปล่า...แค่เห็นบีเงียบไป มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” น้ำเสียงเรียบๆ พร้อมกับสีหน้าบ่งบอกถึงความเป็นห่วงและกังวล เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับเพื่อนรักดี ดีในทุกเรื่อง จึงรับรู้ว่าไม่มีเรื่องอะไรที่ทำให้เพื่อนรักเป็นอย่างนี้แน่นอน น่าจะเป็นเรื่องคนที่รับเธอไปอุปการะเป็นแน่ เธอมั่นใจ และเคยได้รับรู้การกลับมาของเขาจากเพื่อนรักมาก่อนหน้านี้ ยิ่งทำให้เธอมั่นใจเต็มพิกัด             "ไปเถอะ อย่าคิดมาก มีอะไรก็ค่อยว่า..วันนี้บีออกมาทั้งทีต้องจัดเต็มสักหน่อย" เมื่อเห็นเพื่อนรักสีหน้าไม่ดีขึ้น สาวเจ้าเลยกึ่งลากกึ่งจูงเพื่อนเข้าบ้านหน้าตาเฉย โดยลืมความตั้งใจของตัวเองแต่แรก              และตอนนี้เริ่มผิดแผนไปแล้ว ที่ตั้งใจคิดว่าจะให้เพื่อนรออยู่ตรงนี้ แล้วตนจะแอบเข้าไปเอารถอย่างเงียบๆ ก็ผิดที่ดันลากเพื่อนติดมือ เพื่อจะเอาใจเพื่อนเสียหน่อย กว่าจะนึกขึ้นได้ก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าของใครบางคน เสียแล้ว....             “พี่ธิป/คุณธิป" เสียงเอ่ยอย่างตกใจ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องเปล่งเสียงตกใจออกไป ก็ไม่ได้ทำอะไรผิด มากมายก็...แค่ไม่อยากให้คนตรงหน้าตามติดก็แค่นั้น             มนธิราดึงแขนออกจากมือเรียวของเพื่อนรักเร็วๆ แล้วยกมือไหว้คนตรงหน้า "สวัสดีค่ะพี่อนาธิป" แม้จะรู้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าจะไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เธอกับเพื่อนรักคุยอะไรกันไว้ถึงคนคนนี้ แต่ก็รู้สึกผิดเล็กน้อยที่ไม่คิดจะเข้ามาทักทายจนต้องมาเจอกันเพราะเหตุบังเอิญที่ชายหนุ่มเป็นฝ่ายเดินออกมา             “.....!”             อาการอึ้งของชายหนุ่มตรงหน้า เหมือนกำลังนึกอะไรบางอย่าง ทำให้สองหญิงถึงกับมองหน้ากันอย่างแปลกใจ             อย่าบอกนะว่าเขาจำเธอไม่ได้... แค่ไม่กี่ปีที่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่ชายของเพื่อนรักของเธอ ทั้งที่ดูจะเมตตาเธอเหมือนน้องสาวอีกคน           “บีหรือเปล่าเนี่ย...โทษที สวยจนพี่เกือบจำไม่ได้แน่ะ" พูดพลางเอามือลูบท้ายทอยตัวเอง ไม่บอกก็รู้ว่านี่คืออาการเขินของชายหนุ่ม               หญิงสาวที่ดูกะโปโลผอมบางเมื่อหลายปีก่อน มาบัดนี้ช่างสวยงามรูปร่างสมส่วน ใบหน้างามที่ไม่เคยแต่งแต้มสีสัน มาวันนี้แต่งหน้าบางๆ มันทำให้เห็นแววความสวยขึ้นหลายเท่าตัว             อาการสำรวจไปตั้งแต่หัวจรดเท้าของชายหนุ่ม ที่ไม่ใช่สายตาจาบจ้วงอย่างผู้ชายทั่วไป แต่เป็นสายตาชื่นชม อย่างผู้ชายที่ชื่นชมน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น  อาการชื่นชมด้วยสายตาและคำชมซึ่งๆ หน้า คนถูกชมถึงกับหน้าแดงแปร๊ด               “พี่อนาธิปก็หล่อใช่ย่อยซะที่ไหนกันล่ะ อุ๊บ!"  บีรีบปิดปากตัวเอง เมื่อนึกได้ว่าตัวเองกล้ามากไปหรือเปล่าที่เอ่ยชมผู้ชายอย่างนั้น                ไม่น่าลืมตัวเลยแฮะ...แต่พี่อนาธิปหล่อจริงๆ นี่นา แถมใบหน้ารึก็ยิ้มแย้ม จนเราเผลอเสียงั้น.... คิดดังนั้น หน้าก็แดงระเรื่อจรดลำคอ ไม่ต่างอะไรกับผู้ชายที่ถูกชม แดงไม่แพ้กัน             “อะ แฮ่ม!!!!นี่คิดจะชมกันอีกนานไหม ไม่ต้องไปท่งไปเที่ยวแล้วมั้ง" คนที่ถูกปล่อยเกาะไปพักใหญ่เอ่ยน้ำเสียงน้อยใจ ค้อนเพื่อนรักพร้อมกับพี่ชายตัวเองยกใหญ่              “........!" เงียบไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา เพราะมัวแต่ยืนชมกันเองเลยลืมใครอีกคนที่ยืนทำหน้าเป็นจวักค้อนตาโตอยู่             “อ๊ะ! สงสัยน้องสาวของพี่ธิปคงจะงอนแล้วละ" อนาธิปเอ่ยแหย่น้องสาวตัวเอง โดยมีหญิงสาวเพื่อนรักทำสีหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของพี่ชายของเธอเช่นกัน             “เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะ" เพื่อนรักค้อนให้อีกรอบ ก่อนจะหายค้อนเมื่อเจอคำถามของพี่ชายตัวเอง "ไหน เมื่อกี้ว่าจะไปเที่ยวไหนกันหรือ พี่ขอไปด้วยคนสิ"             มนธิรามองหน้าเพื่อนรัก คำตอบอยู่ที่เพื่อนเธอคนเดียว งานนี้เธอก็แค่คนที่ถูกชักนำ           โดนคำถามและสายตาอ้อนของพี่ชาย ทำให้น้องสาวเริ่มคิดแผนใหม่ทันที "ได้แต่งานนี้พี่ต้องเลี้ยงตลอดงานนะ" น้ำเสียงเด็ดขาดกึ่งบังคับ อย่างที่ไม่ต้องคิดปฏิเสธ             “ร้ายนักนะ...ยายณี แต่ไม่เห็นจะยาก แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ สองคนคงกินไม่จุเท่าไหร่" ชายหนุ่มเอ่ยด้วยความยินดี แล้วรีบเดินนำไปที่รถที่จอดอยู่              
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD