บทที่ 7

1232 Words
ฝนข้างนอกหยุดตกและเสียงฟ้าก็เงียบไป แต่มีเสียงร้องไห้สะอื้นของร้อยรักดังขึ้นมาแทน ตอนนี้หล่อนกำลังก้มลงเก็บเสื้อผ้าของตัวเองด้วยมือที่สั่นเทา ทั้งเสียใจและเจ็บปวด หล่อนรักเขา รักผู้ชายที่ชื่อติณณ์มาตลอด แต่ทำไมเขาถึงย่ำยีทำเหมือนเธอเป็นผู้หญิงไร้ค่าแบบนี้ “อย่าสำออยได้ไหม แค่นี้เอง อีกอย่างเธออาศัยอยู่ในบ้านฉันตั้งแต่เด็กก็ควรตอบแทนลูกชายเจ้าของบ้านบ้าง และถ้าการถูกเอาแค่นี้ ทำให้เธอหมดอาลัยตายอยากในชีวิตนักก็ไปตายซะ อย่ามาร้องไห้ให้ได้ยิน น่ารำคาญ” พูดจบก็ลุกขึ้นก้าวขายาวๆ ไปยังโต๊ะทำงานมุมห้องของตัวเองเพื่อหยิบซองบุหรี่ออกมาแล้วก็ไฟแช็กที่วางใกล้กันออกมาติดบุหรี่สูบโดยไม่คิดจะสนใจคนที่ร้องไห้สะอื้นร่วมห้อง ร้อยรักมองแผ่นหลังใหญ่ของคนตัวโตที่ยืนเปลือยเปล่าสูบบุหรี่อยู่ที่ข้างโต๊ะทำงานของเขาแล้วก็รีบแต่งของตัวเอง เขาร้ายเหลือเกิน เขาร้ายยังไงก็ร้ายแบบนั้น เขาไม่เคยใจดีหรือพูดดีกับเธอสักครั้ง ขนาดว่าตอนนี้เขาได้เธอแล้ว และเป็นผู้ชายคนแรกและอาจจะเป็นคนเดียวในชีวิตก็ได้ เธอไม่สามารถพาเนื้อตัวที่เปื้อนราคีไปให้ชายอื่นได้อีกแล้ว และหัวใจของเธอก็ไม่สามารถจะรักใครได้อีกแล้ว เพราะมันรักเขา รักผู้ชายใจร้าย แต่ตอนนี้หล่อนจะหยุดความรักนี้ไว้ ให้มันตายไปกับเรื่องราวในวันนี้ “รักไม่เคยทำอะไรให้คุณ คุณติณณ์ทำแบบนี้กับรักทำไม อึก! ฮือ...” เธอถามเขาเมื่อตอนนี้แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว “ไม่รู้สิ บรรยากาศมันพาไปมั้ง อีกอย่างวันนี้ฝนตก ฉันหิว ฉันต้องการ และเธอเข้ามาพอดี ฉันแค่หลับหูหลับตาเอาเท่านั้นแหละ เธอมันก็งั้นๆ จืดก็จืด” ปากบอกแบบนั้น แต่ในใจไม่ได้คิดแบบนั้นเลย มันกลับตรงกันข้าม ร้อยรักดีกว่าทุกคนที่เขาเคยได้มา และไม่มีใครเทียบได้ ภายใต้เสื้อผ้าเชยๆ นั้นมีของดีซุกซ่อนอยู่ และเขารู้เลยว่าเขาจะไม่อิ่มหล่อนแค่ครั้งนี้ เขายังต้องการคนตัวเล็กอีก แต่ก็ไม่อยากหักโหมใช้งานร่างหล่อนมากเกินไป แค่สามยกก็มากเกินพอแล้วสำหรับครั้งแรกของเธอ “เรื่องวันนี้รักจะถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณคุณท่านที่เลี้ยงหนูมา” “แน่อยู่แล้ว เธอต้องตอบแทนอยู่แล้ว เงินที่ใช้ทุกวันก็เงินฉันหามาทั้งนั้น” เขาเขี่ยบุหรี่กับที่เขี่ยบุหรี่ทิ้งแล้วก็เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเดินหายเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับเสียงประตูห้องน้ำปิดกระแทกดังลั่น “คนเลว” เธอก่นด่าเขาแล้วก็เช็ดน้ำตาตัวเองออกจากสองแก้มนวล ก่อนจะเดินไม่ค่อยปกติออกไปจากห้อง หล่อนอยากเดินเหมือนไม่เป็นอะไร แต่เจ็บกลางร่างที่ถูกรุกรานจึงต้องเดินกางขาออกจากห้องไป โดยลืมไปเลยว่าตัวเองมาที่ห้องเขาเพื่ออะไร มื้อเย็นปรางทิพย์มาทานข้าวและมีลูกชายนั่งรอท่าที่โต๊ะทานข้าว นางมองลูกชายพร้อมกับเบะปากใส่เล็กน้อยด้วยความหมั่นไส้ลูกชายในไส้ตัวเอง แต่พอนั่งลงมองหาคนที่ช่วยเด็กรับใช้จัดโต๊ะอาหารไม่อยู่จึงถามหา แต่ทุกคนก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าร้อยรักยังไม่ลงมาเลยตั้งแต่ขึ้นไปเก็บเสื้อผ้าที่ห้องของลูกชายนาง “ตาติณณ์ไม่ได้ทำอะไรน้องนะ” “คุณแม่ครับ ผมไม่แตะต้องเด็กของคุณแม่หรอก ผมเกลียดยัยกาฝาก” เขาตอบกลับทันควัน “ให้มันเกลียดจริงเถอะ แล้วเนี่ยไปตามหนูรักหน่อยสิ ได้เวลามื้อเย็นแล้วทำไมยังไม่ลงมาอีก มื้อเที่ยงก็ไม่ลงมาทานแล้วทีนึง” นางพูด เพราะเมื่อตอนเที่ยงนางนั่งทานข้าวคนเดียว ส่วนลูกชายนางไม่อยากไปตาม สำหรับร้อยรักเธอรู้เวลาทานอาหารดีจะไม่เคยปล่อยให้ใครรอ มีแต่จะมารอก่อน แต่วันนี้แปลก “แน่นอน ผมเกลียดตั้งแต่วันแรกที่ผมเจอหน้าแล้ว แม่ปรางก็รู้” เขาตอบแล้วก็เริ่มลงมือทานมื้อเย็นตรงหน้า โดยไม่คิดจะรอใคร ปรางทิพย์เองก็ลงมือทานเช่นกัน ไม่นานเด็กรับใช้คนที่ไปตามร้อยรักก็กลับลงมาพร้อมกับบอกว่าเธอไม่หิว และนั่นยิ่งแปลก ร้อยรักไม่เคยอดหรือไม่ทานมื้อเย็นแบบนี้ มื้อเที่ยงยังพอเข้าใจ แต่มื้อเย็นยังไม่หิวอีก...แปลก “แน่ใจนะตาติณณ์ว่าลูกไม่ได้ทำอะไรน้อง” “ไปดูเลยไหมครับแม่ปราง ไปดูเลยครับว่าผมทำอะไรเด็กของแม่ปรางรึเปล่า” เขาวางช้อนและส้อมในมือลงทันทีพร้อมกับคว้าแก้วน้ำขึ้นมาดื่มรวดเดียวจนหมด “แม่ก็แค่ถาม ไม่เห็นต้องเสียงดัง ชักนิสัยเสียเข้าไปทุกวันแล้วนะตาติณณ์” นางเอ็ดลูกชายและเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาบ้างเมื่อลูกชายเสียมารยาทใส่ตนเองและยังขึ้นเสียงใส่อีก “ลูกขอโทษครับแม่ปราง” น้ำเสียงแข็งก่อนหน้าอ่อนลงเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองเผลอทำนิสัยไม่ดี ไม่น่ารักใส่ผู้เป็นแม่ “รู้ตัวก็ดีแล้ว แล้วนี่อิ่มแล้วเหรอตาติณณ์” “ครับ” “เพิ่งกินไปไม่กี่คำเนี่ยนะ” “ครับ” “ครับ มีอะไรถ่วงปากไว้ถึงพูดได้แค่คำนี้ล่ะฮึ แล้วนี่ไม่ออกไปหายัยจูลี่อะไรเหรอ ตอนกลางวันก็อยู่บ้านด้วย” “ฝนตกเลยไม่อยากไปไหนครับ อีกอย่างวันหยุดทั้งที ผมก็อยากนอนพักผ่อนอ่านหนังสือที่บ้านเหมือนคนอื่นเขาบ้าง” เขาตอบแม่ “ให้มันจริงเถอะ แล้วนี่อิ่มแล้วจะไปไหนก็ไป เห็นหน้าลูกแล้วแม่ยิ่งหงุดหงิด และอย่าให้รู้นะว่าแกล้งอะไรน้องจนน้องไม่ลงมากินข้าวเที่ยงกับข้าวเย็น” “ห่วงแต่ยัยกาฝาก ผมเป็นลูกแม่ปรางแท้ๆ แม่ปรางกลับมองผมเป็นผู้ร้าย” พูดอย่างงอนๆ คนเป็นแม่ “ก็เราน่ะมันร้าย ร้ายตัวพ่อเลยแหละ” “ร้ายยังไงผมก็เป็นลูกที่ดีของแม่ปรางนะครับ ผมขอตัวนะครับ” “อือ...ไปเถอะถ้าอิ่มแล้ว แม่ก็จะกินให้อิ่มแล้วขึ้นไปดูหนูรักสักหน่อย ไม่รู้ว่าเป็นอะไรรึเปล่า” “ห่วงกันจริงๆ ขอให้ไม่สบายหนักๆ” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นเดินจากไปโดยเร็ว ถ้าขืนช้า แม่เขาได้ด่าว่าเขาแน่ “ตาติณณ์นะตาติณณ์ ปากก็เสีย นิสัยก็ไม่ดี แต่ทำไม๊...ทำไมผู้หญิงถึงแย่งกันนัก” นางล่ะเหนื่อยกับลูกชาย นิสัยและปากของลูกชายคงแก้ไม่ได้แล้ว โตขนาดนี้แล้ว จะว่าไปแก่แล้วด้วย แต่ยังไม่คิดจะแต่งงานมีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD