ติณณ์บอกแม่ว่าจะออกไปข้างนอกแต่แล้วก็ไม่ไป เขากลับขึ้นมานอนอ่านหนังสือเศรษฐกิจบนห้องนอนของตัวเองพร้อมกับอ่านรายงานการขายของพนักงานขายที่ส่งเข้ามาในเมล์ให้ตนเอง โดยไม่สนใจว่าตอนนี้จะเป็นเวลาเท่าไหร่แล้ว และฝนก็ตกหนักด้วยข้างนอก เขาจึงหยุดทำงานแล้วนอนพักผ่อนให้สมกับเป็นวันหยุดพักผ่อนของตัวเอง พอเอนตัวนอนได้ไม่นานกำลังจะหลับก็มีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“ประตูไม่ได้ล็อกเข้ามาสิ” น้ำเสียงทุ้มอนุญาตผู้รบกวนหน้าห้องพร้อมกับมองไปยังบานประตูที่ถูกผลักเปิดเข้ามา และก็เห็นร่างเล็กของร้อยรักเดินแทรกเข้ามาในห้องของตนเอง
“คือหนูมาเก็บผ้าไปให้...”
“ฝนตกยังคิดจะซักผ้าอีกเหรอ ซักตอนนี้ก็เหม็นอับสิ” หญิงสาวยังพูดไม่จบความ เขาก็โต้สวนตอบกลับพร้อมกับดีดตัวลุกขึ้นเดินก้าวลงจากเตียงนอนไปหาคนที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องของตนเองที่เพิ่งปิดสนิท
“ที่บ้านมีซักแห้งค่ะ ไม่ต้องตาก” เธอบอกเขาแล้วเดินผ่านหน้าเขาเข้าไปในห้องเพื่อเก็บเสื้อผ้าของชายหนุ่ม หากว่าทุกคนว่าง เธอคงไม่ต้องขึ้นมาเก็บเสื้อผ้าที่ห้องเขาแทนหรอก เพราะเธอยังไม่อยากเจอเขา แต่ก็ต้องมาเพราะพี่ส้มขอร้องให้ขึ้นมาช่วย เนื่องจากพี่ส้มติดเก็บของอยู่ข้างล่างหนีฝนอยู่
ว้าย!
แล้วก็ต้องตกใจเมื่อถูกคว้าเอวเล็กไว้
“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว มาต่อเมื่อคืนให้เสร็จดีกว่าว่าไหม” เขาเคลื่อนโน้มหน้ามากระซิบข้างหูของคนตัวเตี้ยกว่าพร้อมกับรัดเอวเล็กกระชับเข้าหาตัวเอง
“ปล่อยหนูเถอะค่ะ” เธอขืนตัวเองในอ้อมแขนแข็งแรงพร้อมกับพยายามแกะมือใหญ่ที่รัดเอวตัวเองออก
หึหึ
“ปล่อย...ปล่อยแบบไหน ปล่อยบนเตียงดีไหม” พูดจบก็อุ้มร่างเล็กขึ้นทันที
ว้าย!
ด้วยความตกใจ เมื่อถูกอุ้มจึงตวัดเรียวแขนทั้งสองเกี่ยวลำคอหนาของอีกฝ่ายไว้ด้วยกลัวว่าตัวเองจะตกลงไป
ตุ้บ!
ร่างเล็กถูกเหวี่ยงโยนไปบนเตียงนุ่มอย่างรวดเร็วเมื่อก้าวเดินมาถึงเตียง ติณณ์มองร่างเล็กวันนี้ที่สวมใส่เพียงเสื้อยืดแขนสั้นตัวเก่าๆ และกางเกงขาสั้นอวดเรียวขาขาวเนียนให้เห็น เขาเพิ่งได้มองร่างเด็กเฉิ่มก็วันนี้เองว่ามันไม่ได้เฉิ่มอย่างการแต่งตัวของหล่อน แต่มันกลับเย้ายั่วน่าสัมผัสเมื่ออยู่ในชุดนี้ ยิ่งตอนนี้อยู่บนเตียงของเขาด้วย
ร้อยรักตั้งตัวได้ก็ถีบเท้าถอยหนีลงจากเตียงใหญ่ แต่ก็ถูกมือหนาคว้าดึงข้อเท้ากระตุกดึงรั้งกลับไป
ว้าย!
“คุณติณณ์อย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ”
“ฝนตกแบบนี้ เราควรหาอะไรทำกันดีกว่าไหม...หึหึ”
เปรี้ยง!
เสียงฟ้าข้างนอกก็ร้องดังน่ากลัวจนเธอสะดุ้งกอดตัวเองแน่น
หึหึ
เขาขันในท่าทางของเด็กสาวตรงหน้า แล้วก็ลูบมือหนาหยาบกร้านของตัวเองไล้จากข้อเท้าเล็กที่จับขึ้นไปยังต้นขานวลเนียนพร้อมกับตัวเขาเคลื่อนไปคร่อมทับกักร่างน้อยไว้ใต้ร่าง แม้ว่าเธอจะดิ้นขัดขืนและพยายามผลักดันตัวเขาออกห่าง แต่แรงแค่นี้มีหรือจะสู้แรงผู้ชายอกสามศอกอย่างเขาได้
“คุณติณณ์อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ คุณเกลียดหนูไม่ใช่เหรอ” เธอพยายามดันร่างใหญ่โตเหนือร่างออกห่าง แต่ก็ยากเหลือเกิน
“เกลียดกับอยากเอา มันต่างกันนะเด็กน้อย เมื่อคืนเธอทำฉันแสบมากยัยเฉิ่ม”
กัดฟันเอ่ยเสียงลอดไรฟันออกมาด้วยความปวดร้าวกลางกายแข็งแรงที่หว่างขา เพียงแค่ขึ้นคร่อมทับได้กลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของร้อยรัก เขาก็ปวดร้าวและอยากกระแทกกายเคลื่อนไหวเร่าร้อนในร่างเล็กคับแน่นของหล่อนแล้ว และยิ่งเธอฉ่ำเพราะเขา เขายิ่งเสียวร้อนในช่องท้อง
“อ่า...ให้ตายสิ ยัยเด็กบ้า ฉันต้องการเธอ” เขาบอกออกมาอย่างไม่ปิดบัง ตอนนี้เขารู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วสรรพางค์กาย อยากจ้วงลึกไหวโยกแอ่นกระแทกเข้าหาร่างน้อยใต้ร่างให้ครวญครางไม่ได้ศัพท์
“มะ...ไม่นะคะคุณติณณ์ หนูไม่ต้องการแบบนี้ ยะ...อย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ อ่ะ...อื้อ...”
แล้วเสียงพูดก็ถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอระหงเมื่อปากหนาอุ่นร้อนของชายร่างใหญ่เหนือร่างประกบปิดบดขยี้ลงมาพร้อมกับเรียวลิ้นสากของเขาสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากของเธอ หล่อนพยายามเบี่ยงลิ้นน้อยตัวเองหลบหนีปลายลิ้นของเขา แต่แล้วก็พ่ายแพ้เมื่อถูกต้อนจนมุมยอมให้เขาดูดดึงรั้งลิ้นตัวเองเล่น
“อ่า...อื้อ...”
เสียงครางดังลอดออกมาจากปากทั้งสองที่บดจูบกันอยู่ มือใหญ่ของติณณ์เคลื่อนไหวสัมผัสมายังไหล่มนแล้วเคลื่อนมายังเรียวแขนเล็กที่อ่อนระทวยของสาวเจ้า ก่อนจะเคลื่อนมาบีบเคล้นขยำสองเต้าที่แอ่นยกเร่าดิ้นรนขัดขืนตามเจ้าของร่าง แต่ยิ่งเธอบิดกายดิ้นหนีก็ยิ่งเป็นการปลุกเร้าอารมณ์ของเขา
“อ่า...หวานเหลือเกินยัยกาฝาก อ่า...ฉันมองข้ามเธอไปได้ยังไง อืม...” ผละออกมาไล้ปลายลิ้นเลียแก้มนวลอมชมพูของร้อยรักแล้วก็กัดเม้มด้วยความมันเขี้ยว
“อ่ะ...เจ็บ!”
“อ่า...แค่กัดเอง อ่า...” ครางพร่าเมื่อมือใหญ่ที่วางนาบบีบเคล้นทรวงที่อยู่ใต้เสื้อยืดตัวเก่านั้นช่างเต็มไม้เต็มมือจนติณณ์ไม่อยากอดทนอีกต่อไป เขาอยากสัมผัสเนื้ออวบหยุ่นนุ่มแน่นของเจ้าหล่อน
“ปล่อยหนูไปเถอะคุณติณณ์ อ่ะ...อื้อ...” หล่อนห้ามเสียงตัวเองไม่ได้ เมื่อมือใหญ่ของเขาบีบขยำทรวงทั้งสองข้างของเธอ หล่อนพยายามถีบเท้าดิ้นหนี แต่ยิ่งดิ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเพิ่มแรงบีบของมือหนาที่สองเต้ามากขึ้น
“อ่า...บรรยากาศมันได้ขนาดนี้ยังคิดว่าฉันจะปล่อยเธออีกเหรอยัยกาฝาก ถึงเวลาตอบแทนเงินที่ฉันหามาให้ใช้แล้ว เธอควรจะตอบแทนฉันนะ” เขาพูดเสียงนุ่มทุ้มลึกพร้อมกับเคลื่อนกายผละลุกขึ้นไปถลกดึงเสื้อยืดตัวเก่าๆ ของเจ้าหล่อนออกทางหัว เมื่อเสื้อถูกถลกดึงทิ้งแล้ว เขาก็มองสองเต้าที่เบียดอัดอยู่ในยกทรงสีชมพูหวานของหล่อนแล้วก็เผลอตวัดปลายลิ้นแตะริมฝีปากตัวเองอย่างไม่รู้ตัว
ภาพของคนที่นั่งคร่อมทับเธอมันทำให้เธอสั่นกลัว เธอไม่เคยรู้เลยว่าการได้เห็นอีกมุมนี้ของเขามันน่ากลัวแค่ไหน สายตาของเขามันน่ากลัว ติณณ์จ้องมองเธอราวกับโจรหื่นห้าร้อย ให้ตายเถอะ เขาด่าว่าเธอยังไม่กลัวเท่ากับตอนที่สายตาหื่นกระหายของเขาจ้องมองเธอตอนนี้เลย