เช้าวันเสาร์ร้อยรักไม่มีเรียน เธอจึงตื่นแต่เช้าเหมือนปกติที่ตื่นเป็นประจำมาช่วยงานแม่บ้านในบ้านทำความสะอาดแต่เช้า และก็ช่วยทำมื้อเช้าให้กับผู้มีพระคุณพร้อมกับลูกชายของท่าน เมื่อทำมื้อเช้าเสร็จเธอจึงกลับขึ้นไปบนห้อง เพราะเช้านี้เธอไม่พร้อมจะเจอหน้าของติณณ์ ด้วยภาพเมื่อคืนยังคงติดตรึงใจและความรู้สึก เขาเป็นจูบแรกของหล่อนด้วย เขาทำแบบนั้นทำไม ทั้งๆ ที่เขาเกลียดเธอ
ด้านปรางทิพย์ลงมาทานมื้อเช้าเห็นเด็กตักข้าวต้มปลามาให้ตัวเองจึงถามหาร้อยรักก็ได้ความว่าเช้านี้หญิงสาวไม่หิว นางก็ได้แต่พยักหน้ารับรู้แล้วมองไปยังทางหน้าห้องรับประทานอาหาร ที่ตอนนี้ลูกชายคนดีน้อยของนางเดินเข้ามา นางจึงสั่งให้เด็กตักข้าวต้มปลาให้ลูกชายตัวเองบ้าง
ติณณ์ไม่เห็นร้อยรักร่วมรับประทานอาหารด้วยจึงได้แต่กระตุกยิ้มมุมปากทานอาหารเช้าด้วยความอร่อยกว่าทุกวัน พร้อมกับชวนผู้เป็นแม่พูดคุยและชวนท่านไปเที่ยวพักผ่อน หรือว่าท่านอยากไปเที่ยวไหนกับเพื่อนๆ หรือเปล่าในช่วงนี้ เขาจะเป็นสปอนเซอร์ออกค่าใช้จ่ายให้แม่และเพื่อนๆ ของแม่เอง
“ทำไมลูกชายแม่ดูใจดีแปลกๆ” ปรางทิพย์เอ่ยถามลูกชายพร้อมกับตักข้าวต้มเข้าปาก
“ก็เห็นว่าช่วงนี้แม่ปรางอยู่บ้านเฉยๆ ผมกลัวแม่ปรางจะเบื่อเลยอยากให้แม่ได้เที่ยวครับ” เขาบอกเสียงเรียบและตักข้าวต้มเข้าปากเคี้ยวบ้าง
“อือ...ก็ดีนะ แม่อยากไปยุโรปช่วงนี้ อยากไปเยี่ยมน้าป้อมของลูกเหมือนกัน”
“งั้นก็ไปเลยครับแม่ปราง ผมจัดการให้เองเรื่องตั๋วเดินทาง ผมอยากให้แม่ปรางมีความสุขที่สุด อะไรที่เป็นความสุขและความต้องการของแม่ ผมยินดีจะหามาให้และทำเพื่อแม่ปรางครับ” เขาบอกแม่พร้อมกับหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม เมื่อตอนนี้ท้องของเขามันเริ่มแน่นแล้ว
“ทำตัวน่ารักแปลกๆ นะเนี่ยลูกคนนี้” นางยังคงสงสัยในความใส่ใจของลูกชายที่มีต่อตนเอง
“ก็ติณณ์รักแม่ปรางยังไงครับ สรุปจะไปเยี่ยมน้าป้อมนะครับ เดี๋ยวผมให้เลขาจัดการตั๋วให้ครับ”
“แม่อยากชวนหนูรักไปด้วย แต่หนูรักยังไม่ปิดเรียนเลย”
“เด็กนั่นอีกแล้ว แม่จะเอาเด็กนั่นไปทำไม เปลือง!” เขาพูดอย่างหงุดหงิด เพราะเขาจะจัดการกับเด็กนั่นแหละถึงอยากให้ผู้เป็นแม่ไปเที่ยวสักพัก เพราะเมื่อคืนเขาคิดทั้งคืนว่าจะทำยังไงกับร้อยรักดีและถ้ามีแม่ของเขาอยู่ในบ้าน เขาคงทำอะไรได้ไม่สะดวก ฉะนั้นเช้านี้จึงอยากให้แม่ไปเที่ยวพักผ่อนสักพักยังไงล่ะ
“ดูพูดเข้าลูกคนนี้ ปากร้าย”
“ก็จริงครับ เปลือง แค่ผมหาเงินมาให้ยัยนั่นใช้จ่ายทุกวันก็มากพอแล้ว อีกอย่าง...เธอเป็นแค่กาฝากนะแม่ปราง” เขาเริ่มหงุดหงิดเมื่อแม่ของเขามักใส่ใจเด็กในอุปการะ
“ลูกไม่สงสารน้องเหรอลูก หนูรักน่ะน่าสงสาร แล้วมาอยู่กับเรา ลูกก็ควรจะให้ความอบอุ่น ตาติณณ์น่ะเกลียดน้องมากเกินไปแล้ว สงสารน้องบ้างเถอะ”
“ผมจำเป็นต้องสงสารเด็กที่เข้ามาแย่งพื้นที่ความรักของผมด้วยเหรอครับ”
“แม่กับพ่อรักติณณ์กว่าใครทั้งนั้น ความรักของพ่อกับแม่ที่มีให้ติณณ์ มันต่างจากความรักที่แม่และพ่อมีให้หนูรักนะลูก ยังไงลูกก็เป็นที่หนึ่งเสมอ”
หึ...
“ที่หนึ่งเสมอ ไม่อยากพูดเรื่องเด็กกาฝากให้เสียอารมณ์ สรุปแม่ปรางจะไปหาน้าป้อมไหมครับ ถ้าไป ผมจะให้เลขาจัดการให้ แต่ถ้าจะรอเด็กนั่นก็ตามใจครับ ตอนนั้นผมอาจจะไม่ได้ใจดีเป็นสปอนเซอร์ออกเงินให้เหมือนครั้งนี้นะครับ”
“เงินแม่ก็มีเยอะ ไม่เห็นต้องแคร์เงินลูกเลยตาติณณ์ แม่เหนื่อยจะพูดกับลูกแล้ว แม่ขึ้นไปหาหนูรักดีกว่า” นางคว้าแก้วน้ำข้างๆ มือขึ้นมาดื่มด้วยความหงุดหงิดลูกชายตัวดี ไม่รู้ปากจะร้ายไปไหน และก็คิดอะไรไม่เข้าท่า คิดได้ยังไงว่าร้อยรักเข้ามาแบ่งความรักจากนางและพ่อของตนไปจากตนเอง โตแต่ตัวจริงๆ ลูกนาง
“ครับ ผมแตะต้องไม่ได้เลยยัยกาฝากของแม่ปราง ผมจะออกไปข้างนอกแล้ว”
“ไปเลย วันหยุดลูกก็ไม่เคยอยู่บ้านเหมือนคนอื่นเขาหรอก ไปหาแม่จูลี่ของลูกเลยไป”
“ครับ ก็ผมมันเป็นลูกไม่ดีของแม่นี่ครับ”
เฮ้อ!
ปรางทิพย์ได้แต่ถอนหายใจลุกขึ้นเดินจากโต๊ะอาหารไปโดยไม่สนใจลูกชาย คำพูดของติณณ์แต่ละคำช่างทำให้นางหงุดหงิดและอารมณ์เสียจริงๆ อารมณ์เสียแต่เช้าเลย ถึงแม้จะปากร้าย นิสัยไม่ดี แต่ติณณ์ก็ทำงานดีมาตลอด เพราะผลกำไรของโชว์รูมนั้นเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี และยังได้รับรางวัลนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอีกต่างหาก แถมกับผู้หญิงคนอื่น ลูกเขาทำตัวน่ารัก เทคแคร์ใส่ใจดีเสมอ แต่กับร้อยรักทั้งๆ ที่อยู่บ้านเดียวกัน ลูกชายกลับชังน้ำหน้า ชังชนิดที่ไม่อยากร่วมโต๊ะทานข้าวกันเลย เพราะเหตุผลนี้แหละ นางจึงไม่อยากทิ้งให้ร้อยรักอยู่บ้านกับลูกชายของตนเอง กลัวว่าร้อยรักจะโดนรังแก ยิ่งอ่อนแอและไม่สู้คนอยู่ด้วย