๕
"...วันนี้ก็คือวันนี้ วันนี้ที่ไม่ใช่วันนั้น หมายความว่าวันนี้ฉันสามารถเอาเธอ..."
"ไม่มีอารมณ์ค่ะ" เลขาสาวตัดบทออกมาแบบตรงไปตรงมา แขนเรียวผละออกจากลำคอหนาตามด้วยการปลดท่อนแขนแกร่งที่รวบกอดที่เอวคอดของเธอออก เมื่อไร้การพันธนาการร่างเล็กหยัดกายลุกขึ้นจากหน้าตักแกร่งทันที
"นี่ก็เที่ยงแล้ว ฉันขอตัวไปพักกลางวันนะคะ"
"ไปกับฉัน"
หมับ~
"เดี๋ยว ไปกับคุณนี่หมายถึงไปไหนคะ" มือบางวางทับที่มือของบอสหนุ่มที่คว้าหมับบนต้นแขนของเธอ
"ไปกินข้าวกับฉัน" จบคำนั้น คนตัวโตโน้มตัวไปคว้ารีโมทรถยนต์ตามด้วยการเดินนำออกไป
ยามที่มองตามแผ่นหลังแกร่ง หัวใจดวงน้อยมันเต้นแรงขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ความสนอกสนใจที่เขามีให้เธอมากเป็นพิเศษ มากกว่าใครๆ ทำหญิงสาวหวั่นไหวแบบที่ไม่เคยเป็นกับใครมาก่อนเลย
"อย่าให้ฉันต้องรอนาน" ร่างสูงที่หันกลับมาบอกทำคนแอบมองสะดุ้งโหยง บอสหนุ่มยกยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นภาพนั้นก่อนที่ขายาวมั่นคงจะก้าวฉับออกไป
"ร้านหรูเกินไปนะคะ จริงๆ แล้วฉันนั่งทานร้านแบบไหนก็ได้ค่ะ" ดวงตากลมโตกวาดมองออกไปโดยรอบร้านอาหาร หรูหราตามสเต็ปของชายหนุ่มเป๊ะๆ
"จริงสิ คุณระดับหลานชายท่านประธาน ตอนนี้ก็นั่งประจำตำแหน่งท่านประธานแทนท่านเจ้าสัวซึ่งเป็นคุณปู่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณทานอาหารร้านธรรมดาไม่ได้หรอก" คนตัวเล็กหย่อนสะโพกลงบนเก้าอี้ภายในร้าน ก่อนที่บอสหนุ่มจะนั่งตาม
"สั่ง" เมนูอาหารถูกโยนมาวางตรงหน้าเธอ แม้จะเป็นการโยนที่ไม่จริงจังเท่าไหร่ แต่ดวงตาคมกริบที่ตวัดจ้องมอง ส่งผลให้เลขาสาวทำหน้าที่ของตัวเองทันที
เธอไม่เคยลืมหรอกว่าหน้าที่ของเธอมีอะไรบ้าง ไม่ลืมว่าท่านประธานคนก่อนฝากฝังแบบไหนไว้บ้าง
"คุณอยากได้อะไรเพิ่มนอกจากที่ฉันสั่งไหมคะ"
"ไม่ล่ะ แบบที่เธอสั่งฉันก็กินได้" เลขาสาวพยักหน้าก่อนจะยื่นเมนูคืนพนักงานที่ยืนรอรับออเดอร์
"เอาเท่านี้ค่ะ ถ้าอยากได้อะไรต่อจากนี้จะสั่งเพิ่มนะคะ"
"ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ" เลขาสาวกรีดยิ้มให้กับพนักงานที่เห็นอยู่ว่าแอบเหล่สายตามองบอสหนุ่มที่มากับเธอ เห็นอยู่ว่าจงใจทอดสะพาน แต่ก็เถอะ ตราบใดที่บอสหนุ่มของเธอไม่ได้มีท่าทีสนใจ หมายความว่า เธอไม่ควรหลุดอาการไม่พอใจออกมา
"...วีไอพีเจ็ด จะมาก็มา" ผู้บริหารหนุ่มหล่อกวาดสายตาออกไปโดยรอบร้าน ขณะที่แนบโทรศัพท์ไว้ข้างหู น้ำเสียงที่ดังมาตามสายส่งผลให้เขาหลุดสีหน้าไม่สบอารมณ์ออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
[ เห็นแล้ว เห็นนั่งอยู่กับสาว สวยซะด้วยสิ ]
"เสือกรู้ดี ถ้าเห็นแล้วก็เดินมาเอง"
"...มีคนมาเพิ่มเหรอคะ" เมญ่าเอ่ยถามเมื่อชายหนุ่มที่มาด้วยกันละโทรศัพท์ออกมาจากหู ไม่ทันได้คำตอบด้วยซ้ำร่างสูงโปร่งในชุดไปรเวทสีขาวก็เดินเข้ามา
"โทษทีที่มารบกวนนะครับ พอดีตั้งใจว่าจะออกมาหาอะไรกิน บังเอิญเจอรถพี่พอดีผมเลยโทรหา" ตาตี๋ๆ ของชายหนุ่มคนใหม่มองมา เขายกยิ้มที่มุมปากในยามที่มองสบตากับเธอ บุคลิกและการพูดจากับบอสหนุ่มของเธอที่ดูเหมือนจะสนิทสนมในระดับหนึ่งส่งผลให้หญิงสาวยกมือไหว้เขาทันที
"ไม่ต้องไหว้ผมหรอกครับ เราอาจจะอายุไล่เลี่ยกัน หรือไม่ก็คงเท่าๆ กัน" คนฟังพยักหน้าเบาๆ พอมองเลยไปยังบอสหนุ่ม พบเขามองหน้าเธอด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
"ยูฟ่านะครับ เป็นเพื่อนรุ่นน้องของพี่เสือ" เจ้าของคำพูดหย่อนตัวลงนั่งบนพื้นที่ว่าง การมองแรงของรุ่นพี่หนุ่มทำให้เขาเริ่มรู้ตัวว่าเขามาผิดจังหวะจริงๆ
"จะไม่แนะนำตัวให้ผมรู้จักหน่อยเหรอพี่"
"เลขากูเอง" คนกลางโพล่งตอบ ขายาวที่ตอนแรกไขว้ห้างตอนนี้เหยียดลงตามเดิม
"ผมจำได้ว่าพี่มาทำงานแทนคุณปู่ได้ไม่กี่เดือน มีเลขาที่สนิทสนมมากจนพามาทานข้าวด้วยกันตามลำพังได้ด้วยเหรอครับ ...อ้อ อย่างว่าล่ะนะ สเปคพี่ชัดๆ" หัวใจคนฟังเต้นแรงเมื่อได้ยินแบบนั้น หญิงสาวเพียงคนเดียวในโต๊ะเริ่มวางตัวไม่ถูก ใครจะคิดกันว่าผู้มาใหม่จะเอ่ยออกมาตรงๆ
"ยัยนี่มีผัวแล้ว"
"ห๊ะ /ห๊ะ!" สองเสียงสอดประสาน เลขาสาวมองหน้าเจ้าของคำพูดที่กล่าวหาเธออย่างไม่เข้าใจ ในขณะที่ชายหนุ่มรุ่นน้องของเขามองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา
"ตามนั้น จะถามอะไรนักหนา กูมาทำงาน ในหัวตอนนี้มีแต่เรื่องงาน ไม่ได้มีเวลาว่างมาคิดเรื่องไร้สาระอะไรทั้งนั้น"
"คุณคะ แต่ว่าฉัน..."
"อาหารมาแล้ว!" ดวงตาคมกริบตวัดมามองสบตา สายตาของเขาส่งผลให้เลขาสาวเงียบปากลงทันที
"ถามแต่กู ว่าแต่มึงเถอะ กลับมาคราวนี้มีเป้าหมายอะไรบ้าง"
"ยังไม่มีนะครับ คุยกับที่บ้านแล้วว่าจะขอพักผ่อนอีกสักปีสองปี"
"ทำตัวไร้สาระ โตจนหมาเลียตูดไม่ถึง ควรทำงานทำการ ส่งอาหารเพิ่มครับ" ประโยคท้ายบอสหนุ่มพูดกับพนักงาน
"เป็ดปักกิ่ง ขอสดๆ ใหม่ๆ ห่อกลับบ้าน"
"ได้ค่ะ" พนักงานรับออเดอร์ก่อนจะหมุนตัวออกไป
"ก็ถ้าที่ทำงานมีคนสวยๆ พอให้เจริญหูเจริญตาแบบพี่บ้างก็พอจะมีอารมณ์ทำแหละครับ แต่นี่ผมว่าง เหมือนว่าธุรกิจของที่บ้านก็คงไม่มีสาวๆ สวยๆ ให้แอบมอง"
"หึ บ้าผู้หญิงไม่เคยเปลี่ยน"
"หึ พี่เองก็รักเดียวใจเดียวไม่เคยเปลี่ยน..."
"ไอ้ยู!"
"กินข้าวไหมครับ อาหารที่พี่สั่งมาน่าทานทุกอย่างเลย" เจ้าของคำพูดยกยิ้มที่มุมปาก แว๊บหนึ่งที่ดวงตาคมตี๋ตวัดมองที่หญิงสาวที่ร่วมโต๊ะเดียวกัน ไม่มีอะไรชัดเจนว่าสิ่งที่ชายหนุ่มรุ่นน้องของผู้บริหารหนุ่มเอ่ยขึ้นมามันหมายความว่ายังไง
"...ให้ฉันไปส่งที่ไหน?"
"ที่บริษัทล่ะกันค่ะ ฉันขับรถมา" เจ้าของคำพูดบอกด้วยความอ่อนเพลีย หลังจากที่รับประทานมื้อกลางวันเสร็จ แทนที่เขาจะพาเธอกลับบริษัทมาทำงานที่ค้าง เขากลับพาเธอไปโผล่ที่โน่น โผล่ที่นี่ ซื้ออะไรต่อมิอะไรก็ไม่รู้จนเต็มรถไปหมด เวลางานของเธอเลยหมดไปกับการชอปปิ้งของเขา ซ้ำยังกินเวลาเลิกงานของเธอ
"รถเธอก็จอดไว้ที่นั่น มันไม่หายหรอก"
"ไม่สะดวกเลยค่ะ รบกวนคุณไปส่งฉันเอา..."
"กลัวฉันไปเจอใครในที่ของเธอ?"
"คะ?" คนฟังหันมาหรี่ตามอง คาดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำถามแบบนี้ดังออกมา
"เธอมีปัญหากับการที่ฉันจะไปส่งเธอ?"
"เปล่าค่ะ แค่การกลับไปเอารถที่บริษัท แล้วฉันขับรถของฉันกลับเองมันสะดวกกว่า"
"แล้วถ้าฉันจะไปส่งเธอ เธอมีปัญหา?"
"คุณเอาแต่ใจตัวเองจังเลยนะคะ ชอบพูดเองเออเอง ไม่ยอมให้คนอื่นคัดค้านได้อีกต่างหาก ก็เหมือนเรื่องที่คุณกล่าวหาฉัน"
"กล่าวหาอะไร" ถามไปพลางเคลื่อนรถออกมาจากตรงนั้น ไม่นานนักรถยนต์คันหรูก็วิ่งบนถนนสายหลัก
"กล่าวหาว่าฉันมีสามีทั้งที่ฉันยังไม่แต่งงาน"
"หึ ก็นึกว่าเรื่องอะไร"
"มันก็เป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่เหรอคะ ในเมื่อเรื่องที่คุณกล่าวหามันไม่ได้เป็นความจริง"
"ยูฟ่ามันเสือผู้หญิง กินเรียบทุกคนที่มันอยากกิน" คนฟังกัดปากตัวเองเบาๆ ลุคของรุ่นน้องของเขาก็พอที่จะเดาได้ว่าเป็นแบบนั้น ผู้ชายหล่อ โปรไฟล์ดี ไม่แปลกหากจะมีผู้หญิงเข้าหา
"แล้วคุณล่ะคะ เป็นแบบคุณยูเพื่อนรุ่นน้องของคุณหรือเปล่า"
"คำถามไร้สาระ"
"ฉันได้ยินค่ะ ว่าคุณรักเดียวใจเดียวไม่เปลี่ยน อาหารที่สั่งกลับ ของโปรดคนของคุณเหรอคะ"
"อืม..." คนฟังเงียบเสียงทันที หัวใจดวงน้อยกระตุกแปล๊บ ไม่รู้ว่าการตอบรับด้วยประโยคสั้นๆ เป็นการยอมรับว่าเขารักเดียวใจเดียว หรือเป็ดปักกิ่งที่สั่งกลับ เขาสั่งไปฝากคนรู้ใจ