สูตรเร่งรัก 7

1822 Words
สูตรเร่งรัก 7 “กลับมาแล้วเด็ก ๆ” “กลับมาแล้วจ้า” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสดใสดังขึ้นที่หน้าประตูบ้าน ฉันมองไปตามเสียงก็เจอพ่อกับแม่ลากกระเป๋ากลับเข้ามาในบ้าน หลังจากที่หายไปเที่ยวเกือบหนึ่งเดือนครึ่ง สบายใจเหลือเกินนะสองสามีภรรยาคู่นี้เนี่ย “เป็นยังไงบ้างคะสนุกกันไหม?” พี่หวานใจเดินเข้าไปช่วยแม่ถือกระเป๋าฉันจึงเดินเข้าไปช่วยพ่อลากกระเป๋าไปวางไว้ที่หน้าบันได ก่อนจะมีแม่บ้านเข้ามาช่วยเอาไปเก็บไว้ที่ห้องนอน “สนุกมากลูก กินข้าวกันหรือยัง?” “ยังค่ะ รอแม่กับพ่ออยู่” ฉันตอบบ้าง เราทั้งสี่คนนั่งคุยกันที่โซฟาระหว่างที่รอให้แม่บ้านตั้งโต๊ะอาหารในมื้อเย็นแบบนี้ “พ่อ มีปุ๋ยหมดนะ หนูเช็กให้หมดแล้วว่าต้องสั่งอะไรเพิ่ม” “เหนื่อยไหมพ่อไม่อยู่นาน” พ่อถามพร้อมกับมองมาทางฉันอย่างอบอุ่น “ไม่ค่ะ สนุกดี” “น้องทำงานเก่งมากเลยค่ะพ่อ จัดการทุกอย่างเองหมดเลย อีกนิดคือจะแบกกระสอบปุ๋ยเองแล้วดีที่พี่ครามห้ามน้องไว้ทัน” พี่หวานใจเอ่ยแซวบ้าง “ก็วันนั้นคนไม่พอนี่คะ” “ไม่พอก็รอก่อน ห้ามทำงานหนัก ๆ เองนะลูก คนงานก็มีให้เขาทำสิ” พ่อเตือน “ต้องเลี้ยงข้าวขอบคุณหนุ่ม ๆ บ้านนั้นแล้วสิ มาช่วยดูแลตอนเราไม่อยู่แบบนี้” แม่หัวเราะเบา ๆ เมื่อเอ่ยถึงหนุ่ม ๆ บ้านนั้น “จริง เหมือนมีลูกชายเพิ่ม” พ่อเองก็ด้วย “เอาละไปกินข้าวกันดีกว่า พ่อกับแม่จะได้พักด้วย เดินทางมาเหนื่อย ๆ” กระทั่งพี่หวานใจเอ่ยชวน เราทุกคนถึงได้ไปกินมื้อเย็นด้วยกัน แน่นอนว่าไม่เจอนานก็ต้องมีเรื่องเล่ามากมาย กว่าจะได้แยกย้ายกันไปนอนพักก็เกือบสี่ทุ่มแล้ว กินยาแล้วไปอาบน้ำเตรียมเข้านอน โทรศัพท์ยังสั่นถี่ ๆ อยู่บนเตียงนอนหลังใหญ่ รู้ตัวว่ากดรับสายแล้วหลับไปโดยที่ตัวฉันเองก็ยังไม่ได้พูดอะไรออกไป สิ่งที่ได้ยินก่อนจะหลับสนิทเป็นน้ำเสียงนุ่ม ๆ ที่อยากได้ยินตลอดหลายวันที่ผ่าน “ฝันดีครับ” ก่อนวันกลับไปเรียนต่อ ฉันนั่งจ่ายเงินคนงานจนถึงเย็น เสร็จแล้วก็กลับเข้าบ้านเก็บของเตรียมไปเรียน พรุ่งนี้ออกเดินทางช่วงเช้าเพราะจะได้ไม่ร้อนเกินไป ตอนกลับมาพ่อไปรับส่วนตอนกลับนั้น... “พรุ่งนี้พี่จะไปส่งเอง” “ไม่ทำงานเหรอ?” ถามคนตัวสูงที่วันนี้เก็บต้นอ่อนทานตะวันมาให้ เพราะเมื่อวานบ่นว่าอยากกิน “ไปคุยงานด้วยนั่นแหละ คินกลับมาแล้วด้วย” “ค่ะ ก็ได้” “เดี๋ยวบอกลุงกับป้าเอง” ฉันบอกพยักหน้าเข้าใจ หอบหิ้วถุงต้นอ่อนทานตะวันเข้าไปในห้องครัว ไม่ลืมอ้อนให้พี่หวานใจทำให้กินด้วยเลย พรุ่งนี้ก็ไม่ได้อยู่แล้วอยากจะกินฝีมือพี่สาวนี่นา “พรุ่งนี้พี่จะทำของว่างไว้ให้นะ จะได้กินบนรถเผื่อหิว” พี่หวานใจบอกมาแบบนั้นระหว่างที่เจ้าตัวกำลังทำต้นอ่อนทานตะวันผัดน้ำมันหอยให้ฉัน “ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวตอนเช้าเข้าไปซื้อกาแฟที่ร้านด้วย” “ได้เลย จะอยู่ยาวจนถึงจบเลยใช่ไหม” “น่าจะนะคะ ทำงานจบแล้วก็ฝึกงานยาวเลย” “โอเค ถ้าว่างแล้วพี่จะเข้าไปหา” “ได้เลยค่ะ หนูต้องเหงาแน่เลย” เอ่ยอ้อนคนเป็นพี่สาวอย่างหงอยเหงา พี่หวานใจหัวเราะอย่างเอ็นดูพร้อมกับชวนคุยอะไรเรื่อยเปื่อยกระทั่งมื้อเย็นเสร็จ เราทุกคนรวมถึงครอบครัวพี่ครามที่มากินมื้อเย็นด้วยกันที่บ้านก็เริ่มลงมือกินข้าวพร้อมกัน กลายเป็นเราสองครอบครัวพูดคุยกันอย่างสนุก อาหารที่พี่หวานใจทำก็อร่อยมากจนวางช้อนไม่ลงเช่นเดียวกัน ถ้ากลับไปเรียนต้องคิดถึงฝีมือการทำกับข้าวของพี่หวานใจแน่เลยล่ะ “เดี๋ยวพี่ทำน้ำพริกหมูสับไว้ให้ด้วยนะ เอาไปฟรีชไว้จะกินค่อยเอามาอุ่น” “ฮื่อน่ารักที่สุดเลย ขอบคุณนะคะ” โผเข้ากอดพี่สาวอ้อน ๆ และรู้สึกขอบคุณมากจริง ๆ เราแยกย้ายกันไปพักแล้วแต่ฉันยังคอลอยู่กับพี่ครามที่เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า ทำอย่างกับว่าจะไปอยู่สักหนึ่งสัปดาห์เลย เพราะเสื้อผ้าเขานั้นเยอะกว่าฉันที่จะกลับไปเรียนเสียอีก “พี่ครามหนูง่วงแล้ว” เอ่ยบอกกับปลายสายที่เลือกอะไรสักอย่างอยู่บนเตียง (นอนเลย ฝันดีครับ) “อื้อ ฝันดีค่ะ” ตอนเช้าของการเดินทางฉันงอแงนิดหน่อยแต่เมื่อได้กาแฟและขนมพี่ครามก็รีบพาขึ้นรถเพราะกลัวฉันจะงอแงไม่ยอมกลับไปเรียน นั่งรถมาได้สักพักพี่ครามก็ผ่อนความเร็วรถลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีฉันนั่งมาด้วย “ขับเร็ว” “ขอโทษ” คนรู้ตัวว่าขับรถเร็วรีบเอ่ยขอโทษ “ขับคนเดียวชอบขับเร็ว” “โอเค ๆ ต่อไปจะไม่ขับเร็วแล้ว” “ให้จริงเถอะพี่น่ะชอบขับรถเร็ว” “ไม่งอนนะ เดี๋ยวจะขับช้า ๆ แล้วครับ ไม่โกหกเลย” พี่ครามยื่นมือมาลูบผมฉันเบา ๆ ก่อนจะกลับไปตั้งใจขับรถต่อ ฉันเปิดเพลงในรถและปรับเบาะให้เอนลงเล็กน้อยเตรียมจะหลับต่อ ตื่นเช้าแล้วเดินทางฉันมักจะง่วงอยู่เสมอ ยิ่งมากับพี่ครามยิ่งสบายใจหลับตลอดทั้งทริปเลยล่ะ “เต็มถังครับ” เสียงที่ได้ยินขณะรู้สึกตัวตื่นคือเสียงพี่คราม ฉันขยับตัวเล็กน้อยลืมตามองรอบ ๆ ก็พบว่าเพิ่งจะถึงครึ่งทาง และตอนนี้พี่ครามกำลังแวะเติมน้ำมันอยู่ เฮ้อ เมื่อยหลังจัง ดีที่ว่ายังมีเวลาพักอีกสองสามวันก่อนที่จะเริ่มไปเรียนแบบจริงจัง ว่าแต่พี่ครามจะกลับวันไหนนะฉันยังไม่ได้ถามเลย “พี่คราม” “หือ?” คนที่เพิ่งยื่นเงินสดค่าน้ำมันให้พนักงานขานตอบ ฉันรอกระทั่งพี่ครามรับเงินทอนและบัตรสะสมแต้มกลับมาถึงได้ถามเขา “พี่กลับไร่วันไหนนะ?” “อาทิตย์หน้า” “แล้วพี่จะพักที่ไหน? คอนโดพี่ปล่อยเช่าแล้วไม่ใช่เหรอ?” เขากับพี่คินมีคอนโดที่กรุงเทพด้วยนะ พี่หวานใจก็มี แต่ว่าทั้งสามคนปล่อยเช่าแล้วจะมีก็เพียงห้องฉัน... “พักกับเธอไง ขอลุงกับป้าแล้วด้วย” “อ่า” “ทำอย่างกับไม่เคยพักด้วย ปกติก็พักด้วยตลอด” พี่ครามหัวเราะเบา ๆ เมื่อเห็นว่าฉันเงียบเสียงไป แต่มันก็เขิน ๆ นะที่เขามักจะมาพักด้วยแบบนี้ แม้จะบ่อยก็ตามแต่ฉันไม่ชินสักทีเลยนี่สิ “แต่เย็นนี้หนูมีนัดกับเพื่อน” “เดี๋ยวพี่ไปส่ง” น้ำเสียงหงอย ๆ ของอีกฝ่ายทำให้ฉันถึงกับทำอะไรไม่ถูก พี่ครามน่ะต่อหน้าคนอื่นคือเข้มแข็งและน่ากลัวมากนะ ติดจะดุ แต่พออยู่กับฉันสองคนเหมือนเด็กขี้อ้อนเลย นี่ล่ะมั้งเลยทำให้ฉันไม่รู้สึกกลัวเขา ก็เป็นน้องที่เขาเอ็นดูนี่นาอีกอย่างต้องรวมพี่หวานใจด้วยเพราะเขาก็ไม่เคยดุพี่หวานใจเลยสักครั้ง แต่ฉันน่ะโดนดุบ่อยมากมีครั้งหนึ่งที่เขาดุจนฉันนั่งร้องไห้ไม่คุยกับเขาอยู่เกือบหนึ่งเดือน แต่จำไม่ได้แล้วว่าโดนดุเรื่องอะไร “ไป...พี่ไปด้วยกันไหม?” ฉันรีบถามก่อนที่อีกฝ่ายจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ “ได้เหรอ?” “ได้ค่ะ ไปกินข้าวกันเฉย ๆ” “ขอบคุณครับ” เราเดินทางถึงคอนโดฉันช่วงบ่ายโมง เพราะไม่ได้อยู่นาน พี่ครามเลยต้องช่วยทำความสะอาดห้องรวมถึงซักเสื้อผ้า ระหว่างที่กำลังตากผ้าอยู่ก็ให้พี่ครามสั่งอาหารมากินเพราะรู้สึกหิวจนมือสั่นไปหมดแล้ว “พี่ครามหนูหิว ข้าวมาหรือยัง?” ถามคนที่นอนตามความยาวบนโซฟา พี่ครามหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูสักพักก็ตอบกลับมา “กำลังมาส่งครับ ทนไหวไหม?” พี่ครามขยับนั่งบนโซฟา มองมาทางฉันอย่างเป็นห่วง “ไหวค่ะ” “มานั่งก่อน” พี่ครามบอกแค่นั้น ฉันนั่งลงข้าง ๆ อีกฝ่ายก่อนจะเปิดทีวีที่เชื่อมอินเทอร์เน็ตเปิดหาอนิเมะสักเรื่องดูระหว่างรออาหาร “มาถึงแล้ว เดี๋ยวพี่ลงไปเอาให้เอง” “เตรียมจานรอเลยนะคะ” “ครับ เตรียมไว้เลย” พี่ครามหัวเราะเบา ๆ เพราะรู้ว่าฉันคงจะหิวข้าวแล้วจริง ๆ ก่อนจะหยิบกระเป๋าสตางค์เดินออกจากห้องไป คอนโดฉันไม่ใหญ่มากแต่ก็ไม่ได้แคบ เปิดประตูเข้ามาฝั่งขวามือจะเป็นโซนนั่งเล่นมีโซฟารับรองมีทีวี และระเบียงห้องที่มีเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าที่ตกแต่งเป็นที่กั้นทั้งฝนและลมแต่ก็ไม่ได้มืดครึ้มจนอึดอัด ฝั่งซ้ายมือจะเป็นบาร์ห้องครัวและโต๊ะกินข้าวรวมถึงห้องน้ำข้างนอก ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในห้องอีกที เวลาพี่ครามมาพักด้วยเขาจะปรับโซฟาที่ห้องนั่งเล่นเป็นที่นอน ไม่ได้เข้าไปนอนกับฉันหรอก แต่ก็ดีแล้วเพราะกลัวว่าจะดูไม่ดีหากเขามานอนในห้องนอนเดียวกับฉัน “มาแล้วครับ” พี่ครามเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกับอาหารถุงใหญ่ “เย้ กินข้าวกันหิวแล้ว” ร้องดีใจเมื่อเห็นอาหารถุงใหญ่ จัดเตรียมกินข้าวพร้อมกับพี่ครามในตอนนี้ ตั้งใจเอาไว้ว่าหากกินข้าวเสร็จจะทำความสะอาดห้องครัวแล้วไปนอนเพราะยังเพลียจากการตื่นเช้าอยู่ ทั้งที่คนที่ควรจะเพลียคือพี่ครามแต่รายนั้นยังปกติอยู่เลยไม่มีท่าทีอ่อนเพลียสักนิดต่างจากฉันที่เป็นคนหลับตั้งแต่ออกจากบ้านจนถึงที่นี่ “ง่วงเหรอ?” พี่ครามที่นั่งฝั่งตรงข้ามเอ่ยถาม “ใช่ค่ะ พี่ไม่ง่วงเหรอ?” “นิดหน่อย” “งั้นกินข้าวแล้วเรานอนกันไหม หรือพี่จะออกไปไหนหรือเปล่า” “ไม่มีหรอก นอนพักเถอะ เดี๋ยวพี่ก็จะนอนเหมือนกัน” “ค่ะ กินข้าวต่อเถอะ” ======= คุยงานจริงหรือเปล่า ไม่ใช่อยากมาส่งน้องเองนะพ่อหนุ่ม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD