สูตรเร่งรัก 6

2217 Words
สูตรเร่งรัก 6 “เป็นยังไงบ้าง” “...” ช่วงสายของวันถัดมาฉันที่นั่งเอนหลังพิงเก้าอี้อยู่ถึงกับสะดุ้งตกใจ เมื่อมีคนตัวโตเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาพร้อมกับน้ำเสียงห่วงใย แต่ฉันกลับไม่ได้รู้สึกดีใจสักนิดที่ถูกเขาถามไถ่มาแบบนั้น “เธอ” “ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ” ตอบเสียงเบาพร้อมกับขยับออกห่างเมื่ออีกฝ่ายขยับเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น “เป็นอะไรเธอ ตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ” “หนูเหนื่อย พี่กลับไปก่อนได้ไหม” ฉันปวดหัวมากเลยนะ ทำไมถึงได้มายืนคาดคั้นฉันแบบนี้ “ไม่สบายอยู่ไม่ใช่เหรอ พักเถอะเดี๋ยวพี่ช่วยดูร้านเอง” เขาคิดอะไรของเขาอยู่กันแน่ ทำแบบนี้กับฉันเขามองฉันเป็นตัวตลกอยู่หรือเปล่า หรือเพราะคนของเขากลับไปแล้วเขาถึงได้มีเวลาว่างมาล้อเล่นกับความรู้สึกฉันคนนี้ “นายครับลูกค้าจะสอบถามเรื่องปุ๋ยเพิ่มครับ” คนงานคนหนึ่งเคาะกระจกกั้นและเปิดออกเล็กน้อยก่อนจะโน้มหน้าเข้ามาแจ้งแก่ฉัน “เดี๋ยวหนูไปค่ะ” “พี่ไปเอง อยู่ในนี้นี่แหละ” แต่กลายเป็นพี่ฟ้าครามที่เปิดประตูแล้วเดินหายไปพร้อมกับคนงาน สักพักใหญ่ก็กลับมาพร้อมกับลูกค้า ปุ๋ยสูตรใหม่ที่แทบจะไม่มีคนซื้อขายออกครั้งเดียวเกือบยี่สิบกระสอบ ต้องยกความดีความชอบให้พี่ครามสินะ “ต้องไปส่งที่ไร่ให้ลูกค้านะครับ” “ค่ะ” ฉันออกบิลก่อนจะสั่งงานคนงานในร้านต่อทันที จวบจนถึงเวลาพักเที่ยงฉันลีลาไม่ยอมไปที่ร้านพี่หวานใจฉันรอให้พี่ครามกลับบ้านเขาไปแต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่มีวี่แววจะกลับเลยนี่สิ “พี่กลับไปพักได้แล้วค่ะ” “ไม่ จะอยู่นี่ทั้งวัน” “เพื่อ?” ทวนถามกลับไปอย่างไม่เข้าใจ เขาเป็นอะไรไปอีก ฉันไม่เข้าใจ “มีเรื่องจะคุยด้วย” “ก็คุยมาเลยค่ะ” “ยังไม่คุยตอนนี้” พี่ครามบอกแค่นั้นและไม่ได้คุยอะไรกับฉันอีก เป็นฉันเสียเองที่เริ่มงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ฉันมองคนที่นั่งเล่นโทรศัพท์อย่างไม่เข้าใจ สุดท้ายทนไม่ไหวเลยต้องโทรหาพี่หวานให้พี่หวานทำกับข้าวไว้ให้และให้เอามาส่งให้ฉันที่ห้องทำงาน “รีบมารับกลับไปก่อนที่กูจะโยนเขาพร้อมกับเสื้อผ้าออกจากที่พักกู” “เมียกูก็ไม่ใช่ ทะเลาะกันแล้วทำไมต้องให้ลำบากถึงกู” “เย็นนี้ให้ถึงบ้านกู ถ้าไม่กูโยนเมียมึงทิ้งแน่” “กินกันบ้านมึงสิ กูไม่ได้คิดอะไรกับเขา รีบมาเลยนะมึง กูถูกโกรธจนไม่รู้จะง้อยังไงแล้ว” “กูไม่อยากฟัง รีบมาแค่นี้แหละ” เงียบ สิ้นเสียงเข้มและดุของพี่ครามห้องทำงานก็ตกอยู่ในความเงียบ ฉันไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรในตอนนี้เลย เพราะหากนับจริง ๆ แทบจะเป็นครั้งแรกเลยที่พี่ครามหงุดหงิดและโมโหขนาดนี้ และเขาน่ะน่ากลัวมากไม่แปลกใจที่คนงานจะเกรงใจและเกรงกลัวเขา “เธอ” เสียงเข้มเอ่ยเรียกฉันสะดุ้งตกใจมองเขาด้วยความหวาดกลัว “ขอโทษ ๆ พี่ไม่ได้จะดุครับ” พี่ครามรีบขยับเข้ามาลูบไหล่ปลอบโยน ฉันมองพี่ครามติดจะน้อยใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกระทั่งขยับออกห่างจากอีกฝ่ายแล้วถามกลับไปราวกับไม่รู้สึกอะไรกับสายตาที่อีกฝ่ายมองมา “พี่เรียกหนูทำไม” “พี่จะไปซื้อข้าวจะถามว่าหนูจะกินอะไร” พี่ครามยอมถอยห่างเมื่อยังเห็นท่าทีแข็งขืนของฉัน “หนูสั่งที่ร้านพี่หวานแล้ว เดี๋ยวพนักงานเอามาส่ง” “งั้นเหรอ? เผื่อพี่ด้วยไหม?” “เผื่อค่ะ” เมื่อตอบไปแบบนั้นพี่ครามถึงกับยิ้มมุมปากแต่ยังดีที่ไม่ได้เอ่ยแซวอะไรออกมา “เย็นนี้ไปกินข้าวบ้านพี่นะ” กระทั่งถึงเวลากินข้าวอาหารมาส่งถึงที่ทำงาน ฉันให้ทิปพนักงานที่น่ารักและเอาอาหารมาส่งถึงที่ ระหว่างกินข้าวกันอยู่นั้นพี่ครามก็เอ่ยชวน แต่ฉันไม่อยากจะไปเลยนี่สิ ไม่อยากเจอผู้หญิงของเขา “ไม่อยากไปค่ะ” “เธอ ไปกับพี่” พี่ครามเอ่ยย้ำ และน้ำเสียงที่เขาเอ่ยออกมานั้นไม่ได้ขอร้องแต่เหมือนกับกำลังส่งฉันเลย “พี่อย่ามาสั่งหนูนะ หนูไม่สบายอยู่จะให้กระเตงไปไหนเยอะแยะ แค่ออกมาทำงานหนูก็เหนื่อยมากพอแล้ว เลิกงานก็อยากจะกลับไปนอนดี ๆ” บ่นยาวๆ ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ตอนนี้ฉันควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ยากมากเวลาไม่สบายมักจะงอแงเป็นพิเศษ ยิ่งมีเรื่องที่ทำให้เสียใจก็ยากที่จะควบคุม “โอเค ๆ ขอโทษ ไม่บังคับแล้ว ขอโทษนะ” พี่ครามยอมในที่สุด ถ้าไม่ยอมดูสิฉันจะร้องไห้ใส่เขาจริง ๆ ด้วย พี่ครามบอกแค่นั้นก็เงียบไป กินข้าวเสร็จเขาก็ยังไม่ยอมกลับ แต่มีเดินหายไปที่ไหนสักพักเกือบยี่สิบนาทีแล้วกลับมาพร้อมกับแก้วเครื่องดื่ม และเป็นเครื่องดื่มจากร้านพี่หวานใจ “หนูขอชิม” พอได้นั่งพักกับตัวเองเงียบ ๆ ก็เหมือนจะอารมณ์ดีขึ้น เอ่ยขอชิมกาแฟจากแก้วพี่คราม อีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไรแต่ยื่นแก้วกาแฟของเขามาให้ฉันได้ชิมอย่างที่ต้องการ “ขมจัง” บ่นเสียงงอแงหลังจากชิมกาแฟจากแก้วพี่ครามเสร็จก็ดูดไวท์ช็อกลาเต้จากแก้วตัวเองต่อ “อเมริกาโนมันก็ต้องขมสิ” “เมื่อไหร่พี่จะกลับ” นั่งดื่มกาแฟไปได้สักพัก คิดเงินให้ลูกค้าได้สองสามรายพี่ครามก็ยังไม่มีวี่แววจะกลับบ้านเขาสักทีและตอนนี้มันก็เย็นมากแล้วด้วย เขาจะกลับไหมบ้านน่ะ “ไม่กลับ” “อ้าว” หันกลับไปมองพี่ครามเมื่อได้ยินคำตอบ แต่ใบหน้านิ่ง ๆ ของเขาทำให้รู้ว่าเขาพูดจริง “เย็นนี้จะมานอนเป็นเพื่อน” “หนูกับพี่หวานใจอยู่ได้ค่ะ” “พี่จะมานอนเป็นเพื่อน” เฮ้อ เขาไม่ฟังเลยสินะ เอาแต่ใจที่สุดเลย “นายขอเบิกเงินล่วงหน้าได้ไหมครับ” “ได้ค่ะ แต่รอแป๊บหนึ่งก่อนนะ หนูทำบิลให้ลูกค้าก่อน” บอกกับคนงาน และทำบิลส่งของให้ลูกค้าต่อจนเสร็จ เหลือบตามองนาฬิกาก็พบว่ายังไปส่งทันจึงเอ่ยเรียกคนงานให้มาเอาบิลไปขึ้นของ “น้านงขึ้นของส่ง บ้าน...ค่า” “ครับนาย!” คนงานมาเอาบิลฉันจึงเอาเอกสารมาทำบิลเบิกเงิน ใช้เวลาไม่นานก็เคลียร์ทุกอย่างเสร็จ ก่อนกลับไปเรียนฉันต้องทำเอกสารเงินเดือนคนงานให้เสร็จก่อนสินะ ถ้าฉันไม่อยู่จะเป็นแม่กับพี่หวานใจทำด้วยกันแต่พอฉันมาก็จะเป็นคนทำเอง “เลยเวลาปิดร้านแล้ว” พี่ครามเอ่ยเตือน นั่นแหละฉันถึงไปบอกให้คนงานช่วยปิดร้านและโกดัง แต่จังหวะที่ฉันกำลังจะกลับบ้านก็มีรถคันหนึ่งขับมาจอดหน้าร้าน กระจกฝั่งคนขับลดลงพร้อมกับโบกมือให้พี่คราม “ไปกับพี่หน่อยแป๊บหนึ่งแล้วจะพากลับบ้าน” “แต่...” “เธอไปกับพี่หน่อย ไม่นานหรอก” “ก็ได้ค่ะ แต่ต้องพากลับนะหนูอยากไปนอนพักแล้ว” “ครับไม่นานหรอก” ปฏิเสธหัวชนฝายังไงสุดท้ายก็ยอมตอบตกลงไปกับเขาอยู่ดี พี่ครามน่ะเขาจะมีวิธีทำให้ฉันยอมในที่สุดอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะหยิบขึ้นมาใช้ในตอนไหนก็เท่านั้น แต่ตอนนี้ที่ยอมตกลงเพราะฉันเหนื่อยและปวดหัวเลยไม่อยากดื้อและต่อต้านเขา ขึ้นรถมาได้ พี่ครามก็ขับพาไปยังรีสอร์ตของที่บ้านเขา ที่อยู่ไม่ไกลจากที่ร้านฉัน เลี้ยวรถเข้าไปยังลานจอดรถก็มีผู้ชายคนหนึ่งเปิดประตูรถลงมาพร้อมกับใบหน้าที่ดูหงุดหงิดไม่น้อย เมื่อเจอคนมาใหม่ฉันจึงยกมือไหว้ทักทายเพราะพี่ครามเอ่ยแนะนำให้เราทั้งสองได้รู้จักกัน “เธอนี่นนท์เพื่อนพี่ นนท์นี่เธอ” “สวัสดีค่ะ” “สวัสดีครับ ขอโทษด้วยนะที่แฟนพี่มาสร้างความเดือดร้อนให้แบบนี้” เพื่อนพี่ครามบอกอย่างรู้สึกผิด แต่แววตานั้นยังคงคุกรุ่นไม่พอใจอยู่ “รีบไปพาแฟนมึงกลับ” “เดี๋ยวกูไปพามาก่อนแล้วไปคุยกันให้เข้าใจสักที แม่ง หลายปีก็ยังเหมือนเดิมกูจะเลิกละ พาคนอื่นขึ้นห้องกูเป็นว่าเล่น” เพื่อนพี่ครามสบถอย่างหัวเสียก่อนจะเดินเข้าไปยังส่วนของตัวอาคารรีสอร์ต ฉันได้แต่แหงนหน้ามองพี่ครามอย่างสงสัย คนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ จับมือพาเดินไปยังโต๊ะนั่งเล่นของทางที่พักและเริ่มเล่าเรื่องบางอย่างให้ฟัง “แฟนไอ้นนท์บุกมาที่บ้าน คนงานไม่รู้เลยให้เข้าไปนั่งรอ พี่รีบกลับไปเพราะไม่ชอบให้คนนอกเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับที่บ้านเราก็รู้นี่?” พี่ ครามถาม ฉันจึงพยักหน้าเป็นอันว่าเข้าใจเรื่องที่เขาไม่ชอบให้คนภายนอกไปยุ่งวุ่นวายกับที่บ้านเขา “พูดไร้สาระ บอกว่าชอบพี่นู่นนี่นั่น ดีที่ไหวตัวทันตั้งแต่ต้นก่อนเข้าบ้านพี่เลยชวนแม่บ้านและคนงานผู้หญิงเข้าไปด้วย เลยมีพยานว่าพี่ไม่ได้ใกล้เธอเลยน่ะ” “...” ระหว่างที่เล่า ฝ่ามืออุ่นก็ยกลูบเรือนผมฉันไปมา แววตาอ่อนโยนจ้องมองใบหน้าฉันอย่างอ้อนวอน “เป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่เรียน พี่ไม่ชอบเคยเตือนเพื่อนแล้วแต่มันก็ไม่ฟังแทบจะตัดเพื่อนกับมันแล้ว โง่เหลือเกิน” ท้ายประโยคพี่ครามคล้ายจะบ่นเพื่อนให้ฟัง “แต่ไม่คุ้นใช่ไหมเพื่อนคนนี้ คนนี้รู้จักกันตอนปีสามน่ะ” ฉันน่ะรู้จักเพื่อนสนิทพี่ครามทุกคนเลย ทั้งพี่ทิม พี่เฮียที่เป็นผู้จัดการไร่ และพี่นิสาที่ตอนนี้เป็นอาจารย์ที่มหาลัยที่ฉันเรียนอยู่ นั่นแหละ พอเป็นคนนี้เลยไม่คุ้นอย่างที่เขาถามมานั่นแหละ “...” “ที่ไม่ยอมรับสายไม่ยอมเจอเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม?” พี่ครามถามอีกครั้ง แต่เป็นฉันเสียเองที่เมินหน้าหนีและไม่ได้ตอบคำถามของเขา “พี่เคยบอกว่ายังไง ถ้ามีอะไรให้ถามให้คุยกับพี่ตรง ๆ อย่าคิดเอง” “...” “รักเธอ...” “อย่าดุกันสิ” ฉันบึนปากมองอีกฝ่ายอย่างงอแง ก็คิดได้แล้วไง อย่ามามองดุนะ “เฮ้อ งอแงจังเลย ไข้ขึ้นหรือเปล่า” ระหว่างที่ถามก็ยกหลังมือทาบหน้าผากไปพลาง “คราม กูจะพาเขากลับเลยนะ” เสียงเพื่อนพี่ครามดังมาจากด้านหลัง หันกลับไปมองก็เจอเขากำลังเดินมาพร้อมกับผู้หญิงคนนั้น คนที่ฉันเห็นถ่ายรูปแล้วแท็กพี่คราม ไหนจะที่ร้านอาหารนั่นอีก “เออ แล้วก็หยุดทำแบบนี้สักที มันเดือดร้อนคนอื่น” ท้ายประโยคพี่ครามจ้องหน้าพี่ผู้หญิงคนนั้นอย่างไม่พอใจ “...” “หวังว่ามันคงจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว อยู่กับกูสบาย ๆ ไม่ชอบ ถ้ามันคันมากก็เลิกกับกูไปอยู่กับชู้เถอะ” พี่นนท์ว่าอย่างหัวเสีย สายตาที่มองพี่ผู้หญิงนั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง “ไม่มีโอกาสให้แล้ว” น้ำเสียงเจ็บปวดนั้น ทำให้รับรู้ได้ทันทีว่าเขารักพี่ผู้หญิงมากแค่ไหน แต่ความเจ็บปวดที่ได้เจอคงทำให้อีกฝ่ายทนไม่ไหวเช่นเดียวกัน “กูกลับแล้วมึง ขอโทษที่ทำให้เสียเวลา เอาไว้ถ้าไปกรุงเทพบอกกูนะ เดี๋ยวเลี้ยงข้าวไถ่โทษ” “ได้ ค่อยคุยกัน” พี่ครามโบกมือลาเพื่อน รอกระทั่งรถเพื่อนของเขาเคลื่อนออกจากที่จอดรถไป ตรงนี้เลยมีเพียงเราสองคนที่ยังยืนกันอยู่ “เย็นมากแล้ว เรากลับกันเถอะ” “ค่ะ” “เธอ...” “หือ?” ขานตอบระหว่างที่ขึ้นมานั่งบนรถแล้วเรียบร้อยและพี่ครามก็กำลังพากลับไปที่บ้าน “พี่กับผู้หญิงคนนั้นไม่มีอะไรเลยจริง ๆ ไม่ว่ากับใครพี่ก็ไม่เคยมี” “...” “หายโกรธพี่เถอะนะ” “...” “พี่นอนไม่หลับเลย ตอนที่ไม่ได้คุยกับเธอ” “...” “อย่าทรมานพี่แบบนี้เลยนะครับ” ======== แงงงงงง ก็แค่หยอกเล่นเบาๆเอง ไมมีหรอกดรามงดราม่า อิอิ พี่เค้าพูดจากใครเลยนะ พี่ครามน่ะ มีอีกไหม เค้าอยากได้สักคน ฝากคอมเม้นต์ด้วยนะคะ อยากได้กำลังใจอีกสักนิดค่ะค่ะ ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีและอ่อนโยนกับทุกคนเลยนะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD