สูตรเร่งรัก 3
“เธอ! ไปกินข้าวบ้านพี่” ช่วงเย็นวันหนึ่งเมื่อปิดร้านเสร็จพี่ภาคินก็เดินเข้ามาเรียก
“พี่ชวนพี่หวานหรือยัง” ถามด้วยความสงสัยมือก็ล็อกประตูร้าน ส่วนคนงานกลับบ้านไปนานแล้วล่ะ
“พี่ชวนแล้ว เราก็ไปกับพี่ครามก่อนเลย เดี๋ยวพี่รอรับหวานไปด้วย” พี่คินอธิบาย
“ได้ค่ะ พี่ครามอยู่ไหนคะ” ทวนถามเมื่อมองดูรอบ ๆ แล้วยังไม่เจอคนที่จะให้เข้าไร่ด้วย
“นั่นไงมาพอดี” พี่คินชี้ให้ดู มองตามก็พบว่ารถยนต์คันหรูของพี่คินกำลังค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาจอดรับที่หน้าร้าน ฉันโบกมือลาพี่คินก่อนจะเดินไปเปิดประตูรถที่เพิ่งจอดหน้าร้าน พี่คินเดินข้ามทางเล็กไปยังโซนร้านอาหารเพื่อรอรับพี่หวานใจไปกินข้าวที่บ้านของเจ้าตัว
“พี่ไปไหนมาเหรอ?” เอ่ยถามพี่ครามด้วยความเคยชิน ก็ลืมไปว่าไม่ควรถาม
“เข้าจังหวัดมาน่ะ ไปคุยเรื่องกล่องใส่ส้ม หิวหรือยัง?” ระหว่างที่ตอบพี่ครามก็ค่อย ๆ เคลื่อนรถออกจากลานจอดหน้าร้าน
“ยังค่ะ วันนี้กินขนมทั้งวัน”
“พี่ซื้อพวกหมูสไลก์มา คินมันอยากกินชาบู”
“หนูก็อยากกิน” ฉันตอบตรงกับความรู้สึก
“ทำไมไม่บอกจะได้พาไปกิน”
“ไม่เอาหรอก แม่โทรหาไหม?” เปลี่ยนเรื่องและถามถึงหนุ่ม ๆ สาว ๆ พ่อแม่เราที่แอบหนีเที่ยวยังไม่ยอมกลับบ้านกันสักที
“เมื่อวานพี่โทรหาล่องเรือกันสนุกเลย”
“โห อยากไปด้วยเลย”
“เอาไว้ถ้าพี่ไปกรุงเทพจะพาไปแล้วกัน” พี่ครามบอกมาแบบนั้น แต่ฉันยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อพี่ครามก็ชะลอรถและลดกระจกลงเพื่อทักผู้จัดการไร่
“ไปไหนเฮีย”
“ไปซื้อขนมให้เมีย” พี่ผู้จัดการตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้มมีความสุข
“ขับรถดี ๆ นะ” พี่ครามเอ่ยบอกกับผู้จัดการไร่
น่ารักจัง ออกไปซื้อขนมให้ภรรยาด้วย
เรามาที่บ้านของพี่ฟ้าครามที่ตั้งอยู่ในรั้วเดียวกันกับบ้านพ่อแม่และน้องชายเขา ในรั้วสีขาวมีบ้านหลังตั้งอยู่อย่างเป็นสัดส่วน มื้อเย็นวันนี้เราตั้งใจว่าจะกินที่บ้านของพี่ครามเมื่อมาถึงก็ล้างมือเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างจนพร้อมแต่พี่หวานใจและพี่คินก็ยังไม่กลับมา ฉันเลยเดินไปทิ้งตัวนอนบนโซฟากลางห้องรับแขก พี่ครามที่เดินลงมาจากชั้นสองใจดีเอาผ้าห่มผืนเล็กของเขามาคลุมให้ก่อนจะเดินไปเปิดแอร์จนภายในบ้านและห้องรับแขกเย็นฉ่ำ
“หนูง่วง”
“งั้นก็นอนพักไปก่อน”
“พี่ปลุกหนูด้วยนะ”
“ครับ เดี๋ยวพี่ปลุกนอนพักเถอะ” เสียงนุ่มของพี่ครามกระซิบบอกพร้อมกับยกฝ่ามืออุ่นลูบที่เรือนผมอย่างอ่อนโยนขับกล่อมให้ฉันหลับในยามเย็นแบบนี้
“อ้าว น้องหลับเหรอคะ?”
“ใช่ น่าจะเหนื่อยนั่นแหละ อากาศร้อนด้วย”
“ปลุกน้องมากินข้าวเถอะพี่ เย็นมากแล้ว”
“เตรียมที่โต๊ะกินข้าวแล้ว เดี๋ยวพี่ปลุกน้องก่อน”
ชาบูมื้อเย็นฉันนั่งกินไปด้วยตาจะปิดไปด้วย ถ้าไม่มีพี่ครามคอยสะกิดอยู่ตลอดการกินหน้าฉันคงจุ่มลงบนหม้อชาบูไปแล้ว
“ลืมตาหน่อยเถอะขอร้อง” พี่คินแซวติดจะหัวเราะ
“หนูง่วง”
“นอนผิดเวลาไง รีบกินจะได้รีบกลับไปพัก”
“เดี๋ยวพี่กับคินจะไปส่งที่บ้าน” เพราะอยู่กันสองคนพ่อกับแม่เป็นห่วงฝากฝังให้พี่ครามกับพี่คินช่วยดูแล บางวันพี่คินก็สลับกับพี่ครามไปนอนเป็นเพื่อนที่บ้าน หรือบางวันก็ให้ฉันกับพี่หวานใจมาค้างที่บ้านใหญ่ของพวกเขา ทำแบบนี้ทุกครั้งเวลาพ่อแม่ไปเที่ยว แต่หากช่วงฉันไปเรียนพวกท่านจะไม่ไปเพราะไม่อยากให้พี่หวานใจอยู่คนเดียว
“หนูขอตับหมู” เอ่ยบอกกับพี่คินที่คีบตับหมูขึ้นมา ทำหน้าอ้อน ๆ ยกจานใบเล็กขอจากพี่คิน
“ได้ ๆ น้องรักของพี่” พี่คินหัวเราะเบา ๆ ยอมส่งตับหมูที่คีบอยู่มาใส่จานให้ฉัน
“แล้วนี่จะกลับไปเรียนตอนไหน”
“เดือนหน้าค่ะ”
“ใกล้จบหรือยัง?” พี่คินถามต่อ พี่ครามนั้นเงียบแต่คีบของกินใส่จานฉันเรื่อย ๆ
“ปีนี้สุดท้ายแล้วค่ะ ของขวัญเรียนจบขอเด่น ๆ เลยนะคะ” แกล้งบอกพี่ ๆ ฉันก็เคยบอกพี่หวานใจแบบนี้เหมือนกัน รายนั้นบอกว่าต้องรอลุ้น ฉันน่ะพูดเล่นเฉย ๆ ไม่ได้หวังอะไรมากขนาดนั้นหรอกค่ะ
“จะกลับมาทำงานที่บ้านไหม?”
“กลับมาอยู่แล้วน่าไม่ต้องคิดถึงหนูขนาดนั้น”
“ใครคิดถึงแกไอ้เธอ” พี่คินเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้
“แล้วพี่คนสวยน่ะ ง้อถึงไหนแล้วทำไมพี่ไม่ไปง้อจริงจังสักที” ถามถึงแฟนที่คินที่เพิ่งเลิกกันไป แต่ก็ตามง้อตลอดที่ผิดแปลกไปคือช่วงนี้ไม่เห็นไปกรุงเทพนี่แหละไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกันแน่
“พี่ก็ตามง้อตลอดนั่นแหละ พอเรื่องพี่เถอะน่า กิน ๆ หวานใจกินหมดแล้วนั่น” พี่คินแซว
“บ้าเหรอ หนูไม่ได้กินเยอะขนาดนั้นสักหน่อย” พี่หวานใจรีบเถียงกลับเมื่อถูกใส่ร้าย เพราะคนที่กินเยอะที่สุดคือฉันกับพี่คินนี่แหละ ไม่ใช่คนอื่นเลย
สองทุ่มครึ่งสองหนุ่มขับรถไปส่งที่บ้านและตัดสินใจที่จะค้างเป็นเพื่อนโดยพักที่ห้องนอนรับแขกของบ้าน ฉันแยกย้ายกับพี่ ๆ เพื่อไปอาบน้ำแล้วนอนพัก ก่อนนอนก็นั่งตอบข้อความเพื่อนในไลน์กลุ่มสักพักก็มีเพื่อนคนหนึ่งทักข้อความแยกเขามาแต่ยังไม่ทันจะได้ตอบพี่ครามก็วิดีโอคอลเข้ามาเสียก่อน
(จะนอนหรือยัง?)
“ยังค่ะ เพิ่งตื่นเอง” ฉันตอบแล้วตั้งโทรศัพท์พิงกับผนังที่โต๊ะมุมห้อง
(อือ อาบน้ำหรือยัง)
“เรียบร้อยค่ะ ว่าจะทำงานนิดหน่อย พี่ยังไม่นอนเหรอ?”
(ยังเลยโทรหานี่แหละ)
“ง่วงหรือยัง?” ถามคนปลายสายที่มองฉันนิ่ง ๆ และเราก็เงียบกันไปอีกสักพักใหญ่เมื่อเริ่มง่วงจึงเดินทยอยปิดไฟภายในห้อง
(พรุ่งนี้พี่เข้าอำเภอ อยากได้อะไรไหม) พี่ครามเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อเห็นว่าฉันหยิบโทรศัพท์แล้วเดินไปปิดไฟเตรียมเข้านอน
“อืม ไม่มีเลยพี่ไปทำอะไรคะถามได้ไหม?”
(ไปดูที่ครับ ว่าจะทำตลาด)
“ว้าว ตื่นเต้นรอเลยค่ะ”
(จบแล้วก็มาช่วยพี่ดูแล) แปลกอีกแล้วประโยคนี้ของเขา
“อะไรกันเล่า”
(หึ ทำหน้าดื้ออีก จะนอนเลยไหม)
“ค่ะ ว่าจะนอนเลย”
(ฝันดีนะ พรุ่งนี้พี่น่าจะออกตอนเช้ามืดเลย ถ้าจะกลับเดี๋ยวพี่โทรหานะ)
“ได้ค่ะ ฝันดีค่ะพี่คราม”
(ฝันดีครับรักเธอ)