สูตรเร่งรัก 4
“พี่หวาน”
“ว่าไง งอแงอะไรแต่เช้าเลย” พี่สาวคนสวยที่นั่งดูซีรีส์ในห้องรับแขกขานตอบไม่พอยังหัวเราะกับท่าทีงอแงของฉันในเช้าวันหยุดแบบนี้
“หนูอยากกินขนมจีนน้ำยาไก่”
“หือ? อารมณ์ไหนกัน” พี่หวานเงยหน้าขึ้นมองฉันอย่างสงสัย จึงถือโอกาสเดินเข้าไปอ้อนพี่สาว ฉันชอบน้ำยาขนมจีนฝีมือที่หวานที่สุดเลย อยากกินมาก
“หนูอยากกิน พี่หวานทำให้กินได้ไหม”
“ไม่สบายใช่ไหม?” พี่หวานหรี่ตามองพร้อมกับยกหลังมือทาบหน้าผากฉันส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะล้มตัวนอนบนโซฟาหนุนตักพี่สาวอย่าราวกับเด็กน้อย
“หนูอยากกิน”
“วันนี้แม่บ้านหยุด ของไม่มีเลย”
“เดี๋ยวเราออกไปซื้อกันไงคะ” ยื่นมือไปจับชายเสื้อพี่สาวไว้แน่น ยิ่งได้รับฝ่ามืออุ่น ๆ ลูบที่ผมยิ่งทำให้ฉันงอแงยิ่งกว่าเดิม
"ได้เดี๋ยวพี่ขึ้นไปเอากระเป๋าก่อนแล้วเราค่อยออกไปซื้อของมาทำขนมจีนด้วยกัน”
“เย้! รักนะคะ” หอมแก้มพี่หวานไปหนึ่งฟอดใหญ่
“ป่วยทีไรอ้อนเก่งตลอดเลย” พี่หวานยิ้มขำส่งมาให้ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินแยกไปยังชั้นสองของบ้าน พี่สาวไปเตรียมตัวแล้วฉันก็รีบเดินกลับขึ้นไปบนห้องนอนหยิบโทรศัพท์กุญแจรถและกระเป๋าสตางค์เตรียมพร้อมออกไปซื้อวัตถุดิบทำขนมจีนน้ำยาป่า แค่คิดถึงกลิ่นหอม ๆ ของน้ำยาฉันก็ท้องร้องโครกครากไปหมดแล้ว
“งั้นเที่ยงนี้ชวนพี่ ๆ มากินขนมจีนด้วยกันดีไหม”
“ก็แล้วแต่พี่ค่ะ หนูได้หมด” บอกกับพี่หวานใจระหว่างนี้ก็ขับรถไปตามท้องถนนเพื่อมุ่งหน้าสู่ตัวอำเภอ รอบ ๆ ข้างทางมีสวนมีไร่ต่าง ๆ ของชาวบ้านละแวกนี้ แม้ที่ร้านปุ๋ยจะปิดวันอาทิตย์และให้แม่บ้านหยุดไปพร้อมกันแต่ที่ร้านอาหารของพี่หวานไม่ได้หยุดเพราะที่ร้านจะให้พนักงานเวียนกันหยุดสัปดาห์ละหนึ่งวัน วันไหนที่เป็นช่วงเทศกาลจะไม่ให้หยุดแต่จะให้ค่าแรงสองเท่าแทน
“งั้นพี่โทรชวนพี่คินเลยนะ”
“ค่ะ”
ฉันขับรถมาที่ตลาดสดของอำเภอ ที่นี่แม้จะไม่ใหญ่มากแต่เพราะเจ้าของตลาดนั้นเคี่ยวไม่น้อยเลยทำให้พ่อค้าแม่ค้าเริ่มโอดครวญเป็นแผนที่ดีไม่น้อยที่พี่ครามจะทำตลาดถ้าเขาบอกว่าจะทำ ฉันเชื่อว่ามีหลายคนอยากมาเปิดแผงที่ตลาดเขา
วัตถุดิบในการทำขนมจีนน้ำยาพี่หวานใจเป็นคนเลือกทั้งหมดฉันแค่บอกพี่สาวว่าอยากกินอะไรบ้างก็ค่อยให้พี่สาวหยิบมาจ่ายเงิน น้ำยาป่าวันนี้ฉันอยากกินที่มีเครื่องในไก่แล้วก็ลูกชิ้นปลาลูกเล็ก ๆ ด้วย แน่นอนว่าพี่สาวที่แสนจะน่ารักของฉันจะทำให้กินเป็นมื้อเที่ยง แต่เที่ยงค่อนไปทางบ่ายนะฉันว่าเพราะกว่าจะกลับไปถึงบ้านก็บ่ายโมงพอดี
“แวะซื้อขนมด้วยไหม? ที่บ้านมีนิดหน่อยเอง” พี่หวานถามขึ้นระหว่างที่เรากำลังเตรียมจะกลับบ้านเมื่อซื้อของครบหมดทุกอย่างแล้ว
“ไม่ดีกว่าค่ะต้องลดน้ำหนักแล้วช่วงนี้หนูอ้วนมาก” ตอบกลับทีเล่นทีจริง ไม่ใช่อะไรหรอกฉันเกรงใจไม่อยากให้พี่ซื้อขนมให้เหมือนอย่างเคยแล้ว กว่าที่พี่จะขายอาหารได้เงินแต่ละบาทมันยากมากเลยนะ ฉันรู้สึกเกรงใจน่ะ
“งั้นเหรอ? แต่ช่วยแวะที่ร้านสะดวกซื้อให้พี่หน่อยนะ พี่อยากซื้อของใช้นิดหน่อย”
“ได้ค่ะ หนูรอบนรถนะ”
“ได้จ้ะ”
พี่หวานใจหายเข้าไปในร้านสะดวกซื้อนานหลายนาที ฉันที่เบื่อ ๆ ก็นั่งเลือกเพลงเปิดฟังรอ เงยหน้าอีกทีก็ตอนที่พี่หวานเคาะกระจกรถส่งสัญญาณให้เปิดท้ายรถให้นั่นแหละ
“กลับบ้านกันเถอะ” พี่หวานกลับขึ้นมานั่งบนรถเอ่ยบอกน้ำเสียงสดใส ฉันพยักหน้ารับพร้อมกับค่อย ๆ ขับรถออกจากลานจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อ ระหว่างทางเราสองพี่น้องก็ชวนกันคุยไปเรื่อยสักพักแม่ก็โทรมาพร้อมกับถามไถ่เราสองพี่น้องและบอกว่าจะกลับช่วงอาทิตย์หน้าแล้ว เที่ยวเยอะจนเหนื่อยแล้วล่ะฉันว่าพ่อกับแม่น่ะ
“กินยาแล้วนอนพักไปก่อน เสร็จแล้วพี่จะเรียกอีกที”
“ไม่ให้หนูช่วยเหรอ?” ถามพี่สาวอย่างน้อยใจ เมื่อขนของสดที่ซื้อมาไปเก็บไว้ที่ห้องครัวพี่หวานใจก็รีบไล่ให้ไปกินยาแล้วนอนพัก
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพี่ทำเอง ไม่สบายก็กินยาแล้วนอนพักนะ”
“แต่...”
“วันนี้ไม่ดื้อนะ กินยาแล้วไปนอนก่อน” พี่หวานหลอกล่อฉันด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“ก็ได้ค่ะ”
ท้ายที่สุดก็ยอมเพราะเริ่มปวดหัวแล้วทนไม่ไหว ฉันเดินเข้าไปกอดอ้อนพี่หวานใจหนึ่งครั้งหลวม ๆ จากนั้นก็เดินไปทิ้งตัวนอนบนโซฟาห้องรับแขก วันนี้วันหยุดไม่มีแขกมาหรอกหรือปกติก็ไม่มีอยู่แล้ว
ระหว่างรอพี่หวานใจทำกับข้าวฉันตั้งใจจะดูทีวีรอแต่ไม่รู้ดูยังไงถึงได้หลับไปทั้งอย่างนั้น จะว่าไปก็ใกล้ถึงเวลาที่ฉันต้องกลับไปเรียนแล้วนะ ฉันน่ะยังคิดถึงบ้านอยากอยู่บ้านอยู่เลย แต่เพราะหน้าที่ที่ต้องทำฉันคงต้องกลับไปเรียนต่อให้จบเรียนเทอมนี้ แล้วเทอมหน้าก็ออกฝึกงาน ฉันตั้งใจไว้ว่าจะหาที่ฝึกที่กรุงเทพเลย ไม่อยากกลับมาฝึกใกล้บ้านเพราะกลัวคนจะหาว่าใช้เส้นในการออกฝึกงานได้ ดังนั้นถ้าเลือกได้ฉันก็จะฝึกที่กรุงเทพนั่นแหละ
“ตื่นแล้วเหรอ?” ขยับตัวเบา ๆ พร้อมกับลืมตามองรอบ ๆ ก็พบว่าที่ห้องนั่งเล่นไม่ได้มีฉันเพียงคนเดียวแต่ยังมีพี่ครามที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ฉันค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งด้วยความมึนงง ตอนนี้บ่ายสองจะครึ่งแล้วฉันหลับไปเกือบหนึ่งชั่วโมงเลยสินะ
“ปวดหัวไหม?” พี่ครามเอ่ยถาม มือก็กดโทรศัพท์ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองฉัน
“ไม่ค่ะ” โกหกทั้งเพ ฉันปวดหัวตุบ ๆ คล้ายกับจะระเบิดอยู่รอมร่อ
“อ้าวตื่นแล้วเหรอ มากินขนมจีนเร็วพี่ทำเสร็จแล้ว” นับว่าดีที่พี่หวานใจเดินออกจากห้องครัวมาเรียกไปกินข้าวได้ทันทีเวลา เพราะสถานการณ์ในห้องนั่งเล่นมันดูมืดมัวมากจนฉันไม่รู้จะชวนพี่ครามคุยอะไรเลยล่ะ เขาดูเครียดมากจนฉันไม่กล้าชวนคุย
“พี่หวาน”
“หือ?” ระหว่างที่เดินตามพี่สาวเข้าไปที่ห้องอาหารก็เอ่ยเรียกเมื่อนึกอยากกินอาหารอีกเมนู
“พรุ่งนี้ขอข้าวหมกไก่นะคะ”
“ที่ร้านก็มีนะ ไปกินที่ร้านดีไหม?”
“ได้ค่ะ งั้นสักเที่ยง ๆ หนูจะไปกินข้าวที่ร้านพี่นะ”
“ร้านเราสองคน ไม่ใช่ร้านพี่” พี่หวานหันมามองดุ ๆ
“โอเค ๆ” ขนมจีนถูกหยิบใส่จานหนึ่งจับ จากนั้นก็หยิบเครื่องเคียงมาใส่จานปิดท้ายด้วยน้ำยาป่า แน่นอนว่าตับไก่แทบจะมากองอยู่ที่จานฉันแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกนะฉันน่ะตักเฉพาะที่คิดว่ากินหมด
“พี่ครามตักเลยนะคะ”
“ครับ” คนที่นั่งหน้าเครียดที่ห้องนั่งเล่นเพิ่งเดินตามเข้ามา ระหว่างที่เขาตักอาหารฉันก็ผละออกห่างเดินไปที่ห้องครัวเปิดตู้เย็นหยิบน้ำเปล่าเย็นจัดมาสวมขวด รวมถึงน้ำอัดลมที่เป็นสูตรน้ำตาลศูนย์เปอร์เซ็นต์
ที่นั่งข้าง ๆ ฉันมีร่างสูงของพี่ครามจับจองอยู่ จัดแจงแบ่งน้ำให้พี่ ๆ ทั้งสองคนเสร็จถึงได้เดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเองพร้อมกับฟังพี่ ๆ คุยกันเงียบๆ
“พี่คิมไม่มาเหรอคะ?”
“มันเข้ากรุงเทพน่ะ มะรืนถึงจะกลับ”
“ก็ว่าอยู่ งั้นวันนี้พี่ไม่ต้องมานอนเป็นเพื่อนพวกหนูนะคะ”
“เอาอย่างนั้นเหรอ?”
“ค่ะ เผื่อพี่มีธุระไง พวกหนูอยู่ได้”
“งั้นถ้ามีอะไรโทรหาพี่เลยนะ”
“ค่ะพี่คราม”
พี่หวานใจและพี่ครามยังคุยกัน กระทั่งกินข้าวเสร็จพี่ครามก็รีบเอ่ยขอตัวกลับ ทั้งที่ปกติจะนั่งเล่นด้วยกันก่อน แต่ก็เข้าใจว่าเขาอาจจะมีธุระเลยรีบกลับ ส่วนฉันเมื่อได้กินเมนูที่อยากกินก็อารมณ์ดีขึ้นมามากพอสมควรแต่อาการป่วยก็ยังคงเดิม พี่หวานรีบทำความสะอาดห้องครัวและปิดบ้านเพื่อที่จะได้มาดูแลฉัน
“ไหวไหมหน้าซีดมากเลยนะ” กลางดึกเราสองพี่น้องตั้งใจจะแยกย้ายกันไปนอนพักแต่ก็ถูกทักด้วยประโยคห่วงใยนั่นเสียก่อน
“ไหวค่ะ เดี๋ยวกินยาแล้วจะนอนพักแล้ว พี่ก็รีบนอนพักนะ”
“ได้ แต่ถ้าไม่ไหวเรียกพี่นะรู้ไหมห้ามฝืนร่างกายตัวเอง” พี่หวานใจเอ่ยย้ำอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง ฉันพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มติดจะอ้อน
“ได้ค่ะ หนูไปนอนแล้วนะ”
ห้องนอนกว้างเงียบสงบ มีเพียงฉันที่เดินวกไปวนมา รอโทรศัพท์อยู่นานก็ไม่มีสายเรียกเข้ามาเสียทีจึงตัดสินใจเข้าไปอาบน้ำเตรียมเข้านอน โทรศัพท์เครื่องสวยถูกหยิบขึ้นมาเช็กโซเชียลไปเรื่อยกระทั่งเห็นโพสต์ที่มีคนแท็กพี่ครามพร้อมกับเช็กอินที่ไร่ของเขา รูปในโพสต์นั้นเป็นผู้หญิงคนหนึ่งพร้อมกับรอยยิ้มมีความสุข ด้านหลังของเธอคือห้องรับแขกที่บ้านของพี่คราม
บ้านที่เราเคยออกแบบด้วยกัน แบบจริงสวยมาก รักนะคะ
นี่หรือเปล่าเหตุผลที่เขาทำหน้าเครียดและรีบกลับบ้าน เพราะเขามีแขกนี่เอง งั้นคืนนี้ก็คงไม่ต้องรอสายจากเขาแล้วล่ะ ตลกจัง ทั้งที่เขาเองก็กำลังมีความสุขแต่ฉันยังคงหวังให้เขาโทรมาอย่างเช่นทุกคืน ตลกสิ้นดี
==============