บทที่9

1305 Words
เป็นกวินภพเสียเองที่นอนไม่หลับ ชายหนุ่มกำลังเพ่งมองใบหน้าอ่อนหวานในอ้อมแขนที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ใกล้แค่เอื้อมท่ามกลางความมืด ยิ่งยามเมื่อร่างอ้อนแอ้นซุกกายเข้าหาราวกับจะหาที่พักพิงยามหลับยิ่งทำให้ใจเขาสั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไหนจะกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากสบู่ที่เธอใช้ มันยั่วยวนชวนทำให้เขารู้สึกอยากจะฉีกไอ้สัญญาข้อตกลงบ้า ๆ นั่นทิ้งไปเสียแล้วกระชากแม่ตัวดีให้ตื่นขึ้นมารับบทเรียนที่เธอริอาจทำให้ร่างกายของเขาตื่นไปทั่วทุกอณู อย่างที่กำลังเป็นอยู่ไปเสียให้มันรู้แล้วรู้รอดไป แต่เพราะทิฐิที่มีมากเกินกว่าจะทำตามใจได้เขาจึงหลับตาลง ก่อนจะพาตัวเองหลับตามหญิงสาวไปอีกคนในเวลาต่อมา มัทนาเป็นคนแรกที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นในเช้าวันใหม่ หญิงสาวใช้เวลาแสนสั้นจ้องมองใบหน้าหล่อคมคายที่กำลังหลับสนิทอยู่ตรงหน้าท่ามกลางความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นหรือรู้สึกกับใครมาก่อน ยากจะเชื่อว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาเธอนอนอยู่ในอ้อมแขนของกวินภพ ชายหนุ่มที่เกลียดเธอมากกว่าอะไรทั้งหมด ทว่าอ้อมกอดของเขานั้นมันกลับอบอุ่น และทำให้รู้สึกปลอดภัยจนไม่อยากตื่น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องตื่นลืมตาขึ้นมารับความจริงที่ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นแค่การที่เขาอยากจะแกล้งกันเท่านั้นอยู่ดี หญิงสาวค่อย ๆ ผละตัวออกจากอ้อมกอดของคนที่จนป่านนี้ก็ยังคงหลับสนิทอยู่ก่อนจะตรงเข้าห้องน้ำอาบน้ำและกลับออกมาอีกครั้งในชุดลำลองสีหวานที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ให้อย่างเป็นระเบียบภายในตู้เสื้อผ้า เธอไม่ลืมที่จะทำหน้าที่ภรรยาด้วยการเตรียมน้ำเอาไว้ให้สามีที่กำลังหลับฝันหวานอยู่บนเตียงพร้อมกับชุดสำหรับเขา เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นมัทนาจึงเดินกลับมาที่เตียงกว้างอีกครั้ง เธอยืนชั่งใจอยู่นานก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือไปเขย่าไหล่หนาเบา ๆ เพื่อปลุกสามีจอมขี้เซา “คุณวินคะ เช้าแล้วนะคะ ตื่นได้แล้วค่ะ ว้าย!” แต่แค่เพียงฝ่านิ้วสัมผัสร่างของเธอกลับถูกกระชากลงบนเตียงอย่างแรงจากฝีมือของคนที่ตื่นนานแล้ว แต่ทว่าแกล้งหลับเพราะอยากจะรู้ว่าแม่ตัวดีจะทำอะไร “คุณวิน ปล่อยมัทค่ะ” “ทำไม! รังเกียจงั้นสิ” หญิงสาวทำท่าจะบอกกลับไปว่าใช่ แต่พอนึกถึงคำพูดของเขาเมื่อคืนที่ผ่านมาเข้าเลยทำให้เธอต้องส่ายหน้ากลับไปให้แทนคำตอบ ถ้ายอมรับว่าใช่วันนี้ทั้งวันเขาคงนอนกอดเธอไม่ยอมปล่อยแน่ ใครกันจะกล้าบอกออกไปแบบนั้น “ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าเธอชอบ ชอบใช่ไหมมัท...” คนอะไรชอบแกล้งกันอยู่เรื่อย รู้ทั้งรู้ว่าเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะตอบอะไร เพราะถึงเธอจะให้คำตอบที่ดีกับเขาแค่ไหนสุดท้ายเขาก็ต้องหาเรื่องทำให้เธอกลายเป็นฝ่ายผิดได้อยู่ดี “เดี๋ยวน้ำในอ่างมันจะเย็นเอานะคะ ปล่อยมัทเถอะค่ะ” หญิงสาวจึงหลีกเลี่ยงการตอบคำถามเป็นเรื่องบอกถึงบางสิ่งที่เป็นเรื่องเดียวที่นึกออกในตอนนี้ออกไป “นี่กล้าสั่งฉัน!” “มัทกำลังขอร้องคุณวินอยู่ต่างหากค่ะ” เธอว่าพร้อมกับจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาสับสน แกล้งให้เธอใจสั่นไหวได้เขาคงจะมีความสุขมากกว่าอะไรทั้งหมด “ขอร้องมันต้องพูดหวาน ๆ สิ พูดเป็นไหม!” เขาต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายถามตัวเองบ้างว่าพูดดี ๆ กับเธอเป็นบ้างไหม คนอะไรชอบสั่งคนอื่นอยู่เรื่อยทั้ง ๆ ที่ตัวเองน่ะนิสัยแย่กว่าใคร ๆ มัทนานึกขึ้นในใจก่อนจะรวบรวมความกล้าที่พอมีขอร้องเขาอีกครั้งด้วยคำพูดหวาน ๆ ตามที่เขาร้องขอ “คุณวินขา...ปล่อยมัทเถอะค่ะ” กวินภพยิ้มเยาะกับชัยชนะที่ได้รับก่อนเขาจะยอมคลายอ้อมกอดออกช้า ๆ จ้องมองคนที่แทบจะลุกพรวดขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็วทันทีที่เขายอมปล่อยให้เป็นอิสระ ชายหนุ่มกระตุกยิ้มอย่างพอใจก่อนจะเดินฮัมเพลงเข้าห้องน้ำไปในที่สุด “คนบ้า! ชอบแกล้งกันอยู่เรื่อย” มัทนาพูดขึ้นตามหลังก่อนจะจ้องมองสามีที่ถูกต้องตามกฏหมายไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ที่ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไรมันก็ยิ่งเด่นชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามแรงอารมณ์และความรู้สึกที่อยู่ลึกในหัวใจ แต่ถึงอย่างไรเสียตอนนี้เวลานี้หญิงสาวก็ยิ่งสับสนหนักจนไม่มีเวลาไปคิดหาข้อสรุปแน่ชัดให้หัวใจไม่รักดีของตัวเองเท่าไร เพราะสิ่งที่เธอกังวลอยู่ มันคือการปรับตัวครั้งยิ่งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนั่นต่างหาก เธอไม่รู้ว่าต้องทำตัวแบบไหนกับสถานะใหม่ที่เพิ่งจะได้รับมาหมาด ๆ แต่ที่รู้สึกได้ในตอนนี้เลยก็คือชีวิตของเธอต่อจากนี้ไปมันคงต้องวุ่นวาย และมีแต่เรื่องชวนปวดหัวมาให้ต้องเจออย่างไม่หยุดหย่อนอย่างแน่นอน หญิงสาวคิดก่อนจะถอนหายใจเอาความรู้สึกมากมายที่ว่าทิ้งออกไป กวินภพขับรถพาภรรยาป้ายแดงกลับมาส่งที่บ้านมลทนาพรในช่วงสายของวันก่อนที่เขาจะขับออกไปอีกครั้ง ทิ้งให้มัทนาต้องทำหน้าที่ขนข้าวของเพื่อย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านอีกหลังที่อยู่อีกฟากของบ้านใหญ่ตามคำสั่งในพินัยกรรมตามลำพัง แต่ถึงกระนั้นก็ยังดีที่คุณหญิงลัดดาวัลย์มาเห็นเข้าซะก่อน จึงได้เรียกเอาสาวใช้และคนขับรถส่วนตัวให้มาช่วยหญิงสาวขนของด้วยอีกหลายคน “ให้ตายสิตาวิน แล้วนี่พี่เขาได้บอกหรือเปล่ามัทว่าออกไปไหน ไปกับใคร แล้วจะกลับมากี่โมง” เสียงแข็ง ๆ ที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจหน่อย ๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้มัทนาต้องหยุดมือจากการจัดเก็บข้าวของพร้อมกับหันไปมองแม่สามีที่เพิ่งจะเดินตามเข้ามาสมทบกับเธออีกคน “ไม่ได้บอกค่ะคุณหญิง เอ่อ…คุณแม่” หญิงสาวตอบไปตามความจริง และมันก็เป็นแบบนั้นมาแต่ไหนแต่ไรแล้วที่กวินภพมักจะไม่ชอบให้ใครเข้าไปยุ่งวุ่นวายเรื่องของเขา “ปล่อยไปแบบนั้นไม่ได้นะมัท เราเป็นภรรยา ทีหลังต้องรู้จักถามสามีด้วยว่าเขาจะออกไปไหนหรือไปกับใคร เข้าใจไหมลูก” มัทนารับคำด้วยรอยยิ้ม ในความเป็นจริงนั้นเธอคงไม่มีสิทธิ์ทำหน้าที่ภรรยาได้ทุกเรื่อง และแน่นอนว่าหญิงสาวคงไม่มีวันเอาตัวเองไปเสี่ยงถามกวินภพแน่ ว่าเขาจะออกไปไหนหรือไปกับใคร เพราะถามไป...สุดท้ายเขาก็คงไม่ยอมบอกกันอยู่ดี และเผลอ ๆ อาจจะด่าเธอกลับมาด้วยซ้ำ โทษฐานที่เข้าไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของเขาเอาแบบนั้น “แล้วนี่จัดของไปถึงไหนแล้วจ๊ะ มีอะไรให้แม่ช่วยไหม” คำบอกกล่าวของผู้อาวุโสกว่าทำให้มัทนาต้องรีบส่ายหน้าเป็นพัลวัน ใครเลยจะกล้าให้คุณหญิงลัดดาวัลย์ลดตัวลงมาช่วยเธอจัดข้าวของ แม้ว่าสถานะของเธอจะเปลี่ยนไปแล้ว แต่ถึงอย่างไรความรู้สึกเจียมเนื้อเจียมตัวนั้นยังมีอยู่ไม่ได้เปลี่ยนตามไปด้วยเลยแม้แต่นิดเดียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD