แต่เขาต้องเตือนตัวเองตลอดเวลาว่าลักษณ์นาราเป็นคนกลับกลอก เขาจะไม่มีวันกลับไปไว้วางใจเธออีก ผู้หญิงที่ทำทุกวิถีทางและแลกได้ทุกอย่างแม้แต่สายเลือดตัวเองกับเงิน ร่างสูงใหญ่ยังไม่ยอมคลายมือจากไหล่บาง ชายหนุ่มจับจ้องใบหน้าหวานที่สายตาคู่งามไม่ยอมเผชิญกับนัยน์ตาสีสนิมเหล็กคมกริบของเขา แมทเทียสบีบคางมนเบา ๆ ให้เธอหันกลับมา
“แมท...”
เสียงหวานขาดห้วงและถูกกลืนหายเข้าไปในปากหยักได้รูปที่ประกบปิดลงมา บดเบียดปากเธอไว้แนบแน่นและทำให้ความเฉื่อยชาในกายของลักษณ์นาราถูกกระตุ้นให้กลายเป็นความตื่นเต้นอีกครั้ง ปากเปียกชื้นของแมทเทียสบดคลึงบนกลีบปากนุ่มที่เขาสัมผัสได้ถึงรอยบวมที่ยังคงอยู่ รอยแผลเล็ก ๆ นูนบนปากของหญิงสาวราวกับมันดึงดูดให้เขาจูบเธอหนักหน่วงยิ่งกว่าเก่า ชายหนุ่มส่งเสียงลึกในลำคอก่อนจะเลื่อนปากออกอย่างเชื่องช้า ลักษณ์นาราแหงนเงยใบหน้าและลืมตาขึ้นเพื่อพบกับประกายคมวับในดวงตากร้าวกระด้างของแมทเทียส เขากระซิบเสียงพร่า
“ลิลลี่...ถึงยังไงคุณก็ยังเป็นเมียผม และคุณจะปฏิเสธหน้าที่ของคุณไม่ได้”
“แมท...ปล่อยค่ะ ฉันอึดอัด”
“ทำหน้าที่เมียมันยากเย็นหนักหนามากรึยังไง กอดจูบแค่นี้ทำกับจะเป็นจะตายขึ้นมา!”
“ฉันแค่หายใจไม่ออกค่ะแมท คุณกอดฉันแน่นเกินไป”
“ผมอยากรู้จริง ๆ ว่าเวลาคุณถูกผู้ชายคนอื่นกอดแล้วคุณรู้สึกหรือบอกเขาอย่างนี้ไหม”
“คุณกำลังหาเรื่องฉันนะคะ ทุกอย่างที่คุณพูดมามันเป็นสิ่งที่คุณคิดทั้งนั้น”
“ก็สิ่งที่คุณต้องแบกรับและต้องเจอมันทุกวันก็คือสิ่งนี้ อารมณ์และสิ่งที่ผมต้องการ ถ้าผมไม่พอใจขึ้นมาคุณก็ต้องทนรับความรู้สึกของผมได้ทุกสถานการณ์ และอย่าหวังว่าน้ำตาของคุณจะทำให้ผมสงสารเพราะผมจะไม่มีวันเชื่อใจผู้หญิงอย่างคุณอีกแล้ว!”
เขาผละห่างและลักษณ์นาราเก็บกลั้นทุกหยดน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาเพราะทำอย่างไรแมทเทียสก็ไม่มีวันมองเธอเป็นคนที่เขารักได้ดังเดิม ร่างสูงก้าวฉับ ๆ เข้าไปในห้องขณะร่างบอบบางเดินตามหลัง เธอมองตามไหล่กว้างบนร่างสูงสง่าและต้องปรับสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อแมทเทียสเข้าไปนั่งข้าง ๆ ลักษมีที่แม้รอบกายของหนูน้อยรายล้อมด้วยตุ๊กตาขนปุยน่ารักหากเด็กหญิงเลือกที่จะเล่นตุ๊กตาแต่งชุดสามสี่ตัวที่อุตส่าห์หอบหิ้วมาด้วยจากเมืองไทย ชายหนุ่มก้มลงมองตุ๊กตาเหล่านั้นที่สีเริ่มซีดจางลงขณะหนูน้อยเปลี่ยนชุดหลากหลายแบบให้และมองมันด้วยความภาคภูมิใจ เขายิ้มอ่อนโยนและหยิบตุ๊กตาตัวหนึ่งในชุดคาร์บาเรต์ปักเลื่อมระยิบระยับขึ้นมา
“เธอชื่ออะไรนะ สาวน้อยผมสีน้ำตาล”
“จูนคะ...ตัวนี้ชื่อจูน เธอสวยที่สุด เธอเป็นนางแบบ”
ลักษมีตอบและยิ้มกว้าง แมทเทียสเลิกคิ้ว
“หืมม์?...เธอมีอาชีพของเธอด้วยเหรอ ดี๊ขานึกว่าเธอเป็นสาวน้อยที่อยู่บ้านเฉย ๆ”
“ม่ายค่ะ” เด็กหญิงส่ายหน้าและชี้ให้เขาดูตุ๊กตาทีละตัว “ตัวนี้แจง...ผมสีฟ้า...เป็นนักว่ายน้ำ...ตัวนี้จุ๊บ ผมสีชมพู เป็นนักร้อง...ตัวนี้จอย ผมสีรุ้ง เป็นดารา”
“ว้าว! ยอดเยี่ยมมาก พวกเธอสวยหมดทุกตัว”
“และเก่งด้วย เหมือนมี๊ขา...มี๊ขาจะตัดชุดใหม่ให้ทุกตัว...เกือบทุกวัน”
แมทเทียสเหลือบมองลักษ์นาราที่ยืนนิ่งมองสองพ่อลูกคุยกัน ใช่...สิ่งหนึ่งที่เขายังจดจำได้เสมอคือฝีมืองานเย็บปักถักร้อยของลูกสาวแม่บ้านที่เขาจดจำได้ว่าเคยหลงใหลเธอมากแค่ไหน ลักษณ์นาราไม่ใช่งดงามแค่หน้าตาแต่เธอละเมียดละไมทุกกระเบียดโดยเฉพาะงานฝีมือ
ใช่...เธอเคยถักเสื้อคอเต่าที่เขาโยนมันทิ้งลงในที่ที่ลึกที่สุดของตู้เสื้อผ้าหลังจากที่รู้ว่าเธอหลอกเอาเงินแม่ของเขาและหอบลูกในท้องหนีกลับเมืองไทย เขาเกลียดทุกอย่างที่เธอเคยทำให้ เสื้อตัวนั้นเขาไม่เคยหยิบมาใส่แต่ก็ไม่ยอมทิ้งไปแค่เก็บไว้เพื่อเตือนใจว่าเขาจะเกลียดเธอจนตาย แต่แล้วเสียงเล็ก ๆ ของลักษมีกลับดึงความคิดของเขากลับคืน
“มี๊ขา...มี๊จะตัดชุดให้เพื่อนของปุ๊บปั๊บอีกมะไหร่คะ?”
“มี๊ขาไม่มีจักรเย็บผ้า ไม่มีด้ายเข็มและก็ผ้าสวย ๆ...อืม...ให้เพื่อนของลูกใส่ชุดเก่าไปก่อนได้ไหมคะ”
“แต่จุ๊บกับจอยเป็นดารา...ต้องใส่ชุดใหม่นะคะ”
“รอหน่อยนะคะ แล้วมี๊ขาจะหาผ้าสวย ๆ มาเย็บให้”
“ก็ได้ๆ ค่ะ แต่อย่านานนะคะ”
ลักษมีพยักหน้าเหมือนยอมรับก่อนบรรยากาศภายในห้องจะกลับสู่ความเงียบงันอีกครั้ง แมทเทียสไม่แสดงความเห็นแต่เขาก็คอยจับทุกรายละเอียดอย่างเงียบ ๆ ภายใต้ใบหน้าอ่อนโยนที่แสดงตให้ลูกสาวตัวน้อยเห้นเท่านั้นทว่าแววตากลับเครียดเข้มทุกครั้งที่จ้องมองลักษณ์นารา สักครู่ลักษมีก็เอ่ยขึ้นอีกว่า
“แล้วคืนนี้มี๊ขาจานอนกับปุ๊บปั๊บ...ในห้องนี้ใช่เป่าคะ”
“ดี๊ขาก็จะมานอนด้วยนะ” แมทเทียสรีบบอก
“ดี๊ขาจานอนตรงไหน?” เด็กหญิงมองไปรอบ ๆ “ตรงนี้ก็ได้นะคะ”
หนูน้อยชี้นิ้วลงบนพื้นข้างเตียงและทำให้แมทเทียสอมยิ้ม เขารู้ว่าลักษมีฉลาดกว่าที่คิด เธอยังไม่ยอมรับเขาแต่ชายหนุ่มกลับพยักหน้ารับ
“ก็โอเค...ดี๊ขาจะนอนข้างเตียง เป็นยามเฝ้าประตูให้ลูกนะลีอา”
“ช่ายค่ะ...แล้วปุ๊บปั๊บจานอนกอดมี๊ขา”
“ลูกนอนไม่หลับถ้าไม่ได้กอดฉัน”
ลักษณ์นาราแทรกขึ้นสั้น ๆ แต่เธอไม่ได้บอกแมทเทียสเรื่องที่ลักษมีชอบนอนละเมอเพราะฝันบ่อย ๆ เธอแค่คิดว่าหากหนูน้อยได้อยู่ใกล้พ่อ ได้รับรู้และรู้สึกถึงความอบอุ่นจากผู้ให้กำเนิดบางทีอาจจะทำให้อาการเหล่านั้นดีขึ้น บางทีลูกสาวของเธออาจนอนหลับฝันดีก็เป็นได้ ชายหนุ่มพยักหน้ารับรู้อีกครั้ง เขาเอ่ยขึ้นขณะสายตาจับจ้องที่ใบหน้าหญิงสาว
“คืนนี้ลูกจะนอนหลับ...แค่ได้กอดแม่...แค่ลูกได้กอดแม่เท่านั้น”