รณชัยถึงกับทำหน้าสิ้นหวังกับความหวังเพียงหนึ่งเดียวของตน ราชสีห์ต้องการลูกสาวของเขาไปเป็นตัวค้ำประกันเงินกู้ แล้วถ้าหากเขาเกลี่ยกล่อมรัตนามณีไม่ได้ งานนี้เงินที่จะมากอบกู้บริษัทก็มีอันต้องพับเก็บไว้ยาว ธุรกิจของเขาก็ต้องล่มจมตามไปด้วย
“ถ้าหญิงไม่ช่วยพ่อ พ่อต้องล้มละลายแน่ๆ เลย หญิงช่วยพ่อหน่อยนะ นะลูกนะ” รณชัยขอร้องลูกสาวอีกครั้ง
“ไม่ค่ะ หญิงไม่ยอมไปเป็นนางบำเรอของเจ้าหนี้คุณพ่อ” รัตนามณีตอบกลับบิดาอย่างไม่ใยดี “คุณพ่อก็ให้นังตามันช่วยสิคะ มันก็ลูกคุณพ่อเหมือนกัน”
ถึงแม้จะไม่ช่วยแต่มองหาทางออกให้บิดา ทางออกที่จะทำให้ตนเองหลุดพ้นจากการไปเป็นของเล่นของชายที่ตนไม่รู้จัก
“แต่คุณสิงห์เจาะจงลูกนะ จะให้ตาไปแทนได้ยังไง” รณชัยพูดอย่างเป็นกังวล สีหน้าหนักใจ
“จากที่คุณพ่อพูดให้หญิงฟัง คุณสิงห์ไม่ได้เจาะจงนี่คะว่าลูกสาวคนไหน เขาแค่พูดประมาณว่าคุณพ่อต้องพาลูกสาวมาเป็นเครื่องประดับบนเตียงของเขา ขึ้นชื่อว่าลูกสาวจะคนโตหรือคนเล็กก็ได้ไม่ใช่เหรอคะ คุณสิงห์ไม่ได้บอกนี่คะว่าลูกสาวคนไหนจริงไหมคะคุณพ่อ”
ประโยคคำพูดของรัตนามณีประโยคนี้เปรียบเสมือนแสงเทียนจุดสว่างกลางความมืด จุดประกายความหวังให้ก่อเกิด ราชสีห์ยื่นข้อเสนอให้คนกำลังร้อนเงินว่า ให้นำลูกสาวไปประเคนราชสีห์ถึงเตียง แต่ไม่ได้บอกว่าลูกสาวคนไหน ฉะนั้นหากเขาจะพาญาตาวีไปเป็นเครื่องบรรณาการทางเพศกับเจ้าของเดอะซัน กรุ๊ป ก็ไม่ถือว่าผิดสัญญา
“เออ จริงด้วยสิ” รณชัยทำเสียงเห็นด้วยกับคำพูดของลูกสาวคนโต “คุณสิงห์ไม่ได้บอกพ่อว่าต้องการลูกสาวคนไหนไปอยู่บนเตียงกับเขา พ่อส่งตาไปก็ไม่ผิด” ผู้พูดฉายแววเจ้าเล่ห์หาหนทางออกให้ตนเองได้สำเร็จ
“ใช่ค่ะ ไม่ผิดเลย คุณพ่อทำตามข้อตกลงทุกอย่าง คุณสิงห์ก็จะมาว่าคุณพ่อไม่ได้” รัตนามณีพูดเสริมให้บิดาสบายใจและหาทางออกให้ตัวเองไปในที “คุณพ่อไปบอกให้ตาเตรียมตัวไปเป็นอีหนูของคุณสิงห์เลยค่ะ ยิ่งมันไปไวคุณพ่อก็ยิ่งได้เงินไวนะคะ”
“งั้นพ่อจะไปบอกให้ตาเตรียมตัววันนี้เลย พรุ่งนี้พ่อจะพามันไปให้คุณสิงห์”
เมื่อนึกถึงเงินก้อนโตรณชัยรีบรุดเดินจ้ำอ้าวไปยังเรือนหลังเล็กทันทีลืมคิดไปว่าอีกฝ่ายจะยอมทำตามหรือไม่
“หญิงไปด้วยค่ะคุณพ่อ”
งานนี้รัตนามณีไม่พลาดที่จะไปดูน้ำหน้าญาตาวี น้องสาวต่างมารดาที่ตนเกลียดชัง งานนี้เธอคิดว่าคงมีเรื่องสนุกให้ตนดูแน่นอนแล้วอย่างนี้รัตนามณีจะพลาดได้อย่างไร น้ำตาและเสียงร้องไห้ของสองแม่ลูกคู่นั้นคือความสุขของเธอ รัตนามณีไม่คิดที่จะพลาดทอดมองภาพนั้น
“แม่เจ็บมากรึเปล่าคะ เดี๋ยวตาไปเอายามาทาให้แม่นะคะ”
คล้อยหลังร่างของบิดาและพี่สาว เสียงหวานปนสะอื้นของญาตาวีก็ดังถามผกากรอง ซึ่งเป็นคำถามและสิ่งที่เธอต้องทำทุกครั้งที่รณชัยมาระบายอารมณ์กับมารดาอันเป็นที่รัก
“แม่เจ็บแค่นี้แม่ทนได้ แต่แม่ทนไม่ได้ที่เห็นลูกต้องไปตกนรกเหมือนกับแม่”
นางร้องไห้ปริ่มขาดใจ ยามนึกถึงคำพูดของรณชัยที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีและเจ้าหนี้ของตนว่า จะให้ญาตาวีไปเป็นตัวค้ำประกันเงินกู้ หรือจะพูดอีกนัยหนึ่งว่าไปเป็นเครื่องบรรณาการสนองตัณหาของเจ้าของเงินจำนวนหลายร้อยล้าน จนกว่ารณชัยจะใช้หนี้สินหมด
คำถามเกิดขึ้นในใจของผกากรองว่า แล้วเมื่อไหร่ที่รณชัยจะใช้หนี้สินจำนวนนี้หมด จะกี่เดือน กี่ปี กี่สิบปีหรือชาตินี้ทั้งชาติ หากเป็นอย่างหลังญาตาวีคงทุกข์ทรมานทั้งกายและใจไม่ต่างกับสิ่งที่นางเผชิญมาตลอดยี่สิบห้าปี
ไม่ได้...นางทนเห็นลูกสาวเจ็บปวดไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ลำพังเป็นทายาทนอกสายตา ถูกกดขี่จนแทบไม่เหลือความเป็นคน แค่นี้หัวใจของผกากรองก็เจียนสลาย อยากจะช่วยเหลือลูกสาวแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะลำพังตัวเองนางยังช่วยตัวเองไม่ได้เลย
“ตาพบกับนรกมาตั้งแต่เกิดแล้วค่ะแม่ ทำไมตาจะทนอยู่ในนรกต่อไปอีกไม่ได้ ขอเพียงแม่ปลอดภัย ไม่เจ็บตัว ต่อให้ตกนรกขุมที่ลึกที่สุด ตาก็ยอมค่ะ”
การเกิดมาในตระกูลร่ำรวย มีหน้ามีตาในสังคมเป็นที่อิจฉาในสายตาของใครหลายคน น่าจะใช้กับรัตนามณีมากกว่าญาตาวี ที่เกิดกับผกากรอง ภรรยาน้อยของรณชัย นอกจากจะไม่ได้รับการยกย่องเป็นลูกแล้ว ยังถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ กดขี่ข่มเหงตั้งแต่เธอจำความได้ ทั้งจากบิดา นภาพรภรรยาหลวงของรณชัยและรัตนามณี ทว่าผกากรองกับญาตาวีใช้คำว่าอดทนและจำยอมเรื่อยมา หวังว่าสักวันหนึ่งจะได้รับอิสระจากตระกูลสุวรรณเจริญ
“แต่มันทุกข์ทรมานมากนะลูก ทรมานเหลือเกิน แม่รู้จักความรู้สึกนั้นดีนะลูก แม่ไม่อยากให้ตาต้องทุกข์ใจ ทุกข์กายอย่างแม่ แม่ทนไม่ได้...ฮือ”
นางกอดร่างลูกสาวแน่นร้องไห้ปานขาดใจ ผกากรองรู้ซึ้งถึงความรู้สึกนั้นดีว่า หนักหนาสาหัสแค่ไหนที่ต้องหลับนอนกับชายที่ไม่รู้จัก ที่กลายร่างเป็นผีห่าซาตาน ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจนางมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี แต่ก็ไม่อาจหลุดพ้นไปจากเงื้อมมือของเขาได้ด้วยเหตุผลบางประการ
“ตาทนได้ทุกอย่างค่ะ ทุกอย่างที่กำลังเข้ามาในชีวิต ตาทนทุกข์กายและใจมาตั้งแต่เด็ก จะทุกข์ซ้ำไปอีกเพราะช่วยแม่ ตายอมค่ะ ยอมทั้งนั้น”
ผกากรองเปรียบเสมือนลมหายใจและชีวิตของญาตาวี หากขาดมารดาไปชีวิตก็คงไม่เหลืออะไร ใช้ชีวิตอย่างไร้ซึ่งจุดหมาย มีลมหายใจเพื่อรอวันตาย ฉะนั้นเธอทนได้ทุกความรู้สึก ทุกสิ่งอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตน ไม่ว่าสิ่งนั้นจะร้ายแรง เจ็บปวด เสียใจมากแค่ไหน ญาตาวีทนได้...เพื่อแม่