"มานี่เลยแม่ตัวดี"
หนูนิดที่กำลังจะเดินกลับห้องตัวเองก็โดนชายหนุ่มที่ทำหน้ายักษ์ใส่เธอทั้งวันลากให้เข้าไปในห้องนอนของเขาที่อยู่ใกล้
" คุณนนท์มีอะไรรึเปล่าคะ"
"ทำไมต้องทำท่าทีรังเกียจฉันด้วย กะอีแค่ไปทำงานและกลับกับฉันมันจะตายรึไง "
ชายหนุ่มพูดด้วยความไม่พอใจกว่าจะมีโอกาสระบายอารมณ์ก็ค่ำแล้ว ยัยเด็กคนนี้ติดคุณย่าเขาแจเลยอย่างกับรู้ตัวว่าจะโดนอะไร
"หนูนิดเปล่านะคะ หนูนิดแค่ไม่อยากรบกวนคุณนนท์ตามที่พูดไปจริงๆ "
เธอหมายความตามที่พูดจริงๆ ทำไมเขาถึงไม่ดีใจแต่กลับมาหาเรื่องเธออีกนะหนูนิดไม่เข้าใจ
"อ๋อเธอจะได้ไปไหนมาไหนกับไอ้หน้าอ่อนนั้นได้สะดวกว่างั้น ร่าน! ฉันไม่อยู่แค่นี้ทนไม่ไหวแล้วเหรอคงอยากหย่ากับฉันเต็มทนแล้วสินะ "
"ใช่ค่ะหนูนิดอยากหย่า แต่หนูนิดไม่ได้ร่านอย่างที่คุณนนท์กล่าวหาหรอกนะคะ หนูนิดแค่ต้องการจะคืนอิสรภาพให้คุณนนท์ก็เท่านั้น" หญิงสาวเองก็เถียงเขาทั้งน้ำตาเช่นกัน
"คืนอิสรภาพ เหอะ!เธอควรจะทำมันตั้งแต่ 5ปีที่แล้วนะหนูนิดไม่ใช่เพิ่งมาทำเอาตอนนี้ มันสายเกินไปแล้ว เธอทรมานฉันมานานถึงเวลาแล้วที่ฉันจะทรมานเธอกลับให้สาสมกับที่เธอทำกับฉัน "
พูดจบชายหนุ่มก็คว้าคอของหญิงสาวแล้วกระแทกจูบลงไปอย่างดูดดื่ม ฟันคมขบกัดริมฝีปากฉ่ำอมชมพูแสนหวานนั้นอย่างไม่ปรานีคล้ายจะลงโทษเธอแบบที่เขาพูดมาจริงๆ
จนได้กลิ่นเลือดที่ลอยคละคลุ้งในโพรงปากจากที่จูบแบบลงโทษก็กลับกลายมาเป็นนุ่มนวลอ่อนหวาน คลายปลอบประโลมเธอจนหญิงสาวหัวหมุนตามอารมณ์เขาแทบไม่ทัน
ร่างสูงเฝ้าคลอเคลียริมฝีปากของเธอไปมาอยู่นานสองนานจนหนูนิดเองที่อากาศหายใจเริ่มจะหมดลง
"อื้ออ"
มือบางพยายามทุบลงบนอกแกร่งให้เขาปล่อยเธอก่อนที่เธอจะขาดใจตายเสียก่อน
ณนนท์ค่อยๆถอนริมฝีปากให้คนตัวเล็กได้สูดอากาศเข้าปอดอย่างแสนเสียดาย ดวงจ้องมองริมฝีปากแดงฉ่ำบวมเป่งตาปรอย
"แฮ่กๆ คุณนนท์ตั้งใจจะฆ่าหนูนิดใช่ไหมคะ "
หญิงสาวถามอย่างไรเดียงสา พร้อมกับจ้องมองเขาด้วยความไม่พอใจ
"หึ! ไม่มีใครตายเพราะโดนจูบหรอก ออกไปได้แล้วพรุ่งนี้เตรียมตัวให้พร้อมด้วยฉันไม่ชอบคนสาย"
ณนนท์รีบไล่หญิงสาวออกจากห้องทันทีก่อนที่เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เขายังไม่อยากทำให้คุณย่าสมหวังกับสิ่งที่พยายามยัดเยียดให้เขาหรอก แต่บางทีแต่ได้ใกล้ชิดยัยแม่มดนี่เขาก็แทบคลั่งควบคุมความต้องการของร่างกายและจิตใจแทบไม่ได้เลย
หนูนิดเองก็เดินออกมาจากห้องของชายหนุ่มอย่างงงๆ บทจะลากก็ลากเขาไป พอบทจะไล่ก็ไล่เธอออกมาอย่างกับอะไร รู้อยู่หรอกว่าเป็นคนอารมณ์ขึ้นๆลงๆแต่ไม่คิดว่าอารมณ์เอาแต่ใจนั้นจะรุนแรงขึ้นทุกวัน
ร่างบางที่ยืนอยู่หน้ากระจกใสห้องน้ำยกมือขึ้นสัมผัสริมฝีปากของตัวเองที่บวมเป่งด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ คิดถึงรสจูบของเขาแล้วก็อดที่จะเขินอายไม่ได้ ถ้าเขารักเธอบ้างเธอคงจะมีความสุขกับจูบของเขามากกว่านี้ แววตาโศกเศร้าที่ฉายบนกระจกเธอมองตัวเองยังคิดสงสารเลย
หญิงสาวรีบสลัดความรู้สึกโศกเศร้านั้นออกไปรีบทำกิจวัตรประจำวันของตัวเองจะได้รีบนอนเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสายแล้วจะโดนคนอารมณ์ไม่คงที่เอ็ดเอาอีก
เช้าวันใหม่หนูนิดแต่งตัวพร้อมทำงานด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวและกระโปรงทรงสอบสีดำอย่างเรียบร้อยเดินลงมารอชายหนุ่มที่ห้องคุณหญิงย่า เพราะเธอต้องเริ่มงานคุณหญิงย่าเลยไม่ให้เธอลงมาทำอาหารเช้าให้ต้องเหนื่อยอีก
"หลานสาวคนสวยของย่าเผลอแป๊บเดียวทำงานเสียแล้ว แต่ก่อนยังวิ่งเล่นกับตานนท์อยู่เลย "
คุณย่าน้อยมองไปที่หลานสาวคนโปรดอย่างเอ็นดู และภาคภูมิใจที่เธอเลี้ยงเด็กคนหนึ่งจนเติบโตมาอย่างดีขนาดได้ คงเป็นที่ตัวเด็กสาวเองด้วยที่ว่านอนสอนง่ายกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณเสมอมา
"ตานนท์มาพอดีไปกินข้าวกันก่อนลูกค่อยไปทำงาน วันนี้หนูนิดสวยไหมตานนท์" คุณย่าหันไปถามณนนท์ที่เดินลงมาพอดีอย่างขอความเห็น
"เชยมาครับแต่งตัวอย่างกับป้า ถ้าคนถามผมบอกมากับป้าได้เลยนะครับเนี่ย"
ชายหนุ่มมองมาที่หญิงสาวนิ่งๆแล้วตอบออกไปอย่างไม่ใส่ใจแล้วเดินไปที่โต๊ะอาหารทันที
"หนูนิดอย่าไปใส่ใจคำพูดพี่เขาเลย เดี๋ยวย่าจะพาไปซื้อชุดใหม่สวยนะลูก"
คุณย่าน้อยที่เห็นหลานสาวของเธอหน้าเสียจึงพูดปลอบใจ พรางคิดว่าจะต้องทำอะไรสักอย่าง
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณย่าน้อยหนูนิดใส่แบบนี้สบายดีค่ะ"
หญิงสาวพูดด้วยใบหน้ายังเสียอยู่จากคำพูดของชายหนุ่มเมื่อกี้แต่ก็ไม่อยากรบกวนคุณย่าน้อยเธอแต่งตัวแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว
"ผมอิ่มแล้วครับขอตัวนะครับ"
พูดจบณนนท์ก็ลุกขึ้นออกจากโต๊ะอาหารเลยเพื่อที่จะออกไปทำงาน เห็นแบบนี้หนูนิดเองก็อิ่มและขอตัวรีบวิ่งไปขึ้นรถเขาทันทีกลัวว่าเขาจะรอนานแล้วโมโห
"ไปทำงานก็อย่าคิดว่าเป็นหลานสาวคนโปรดของคุณย่าแล้วจะวางอำนาจใส่คนอื่นล่ะ เองเป็นแค่เด็กเก็บมาเลี้ยงไม่ใช่หลานของคุณย่าจริงๆ "
พอขึ้นรถขับออกมาสักพักเขาก็พ่นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเธอออกมาทันที
"ค่ะหนูนิดรู้ตัวเองดีค่ะว่าตัวเองอยู่ในสถานะไหน"
หญิงสาวพูดพร้อมกับน้ำตาที่รื่นจะร้องไห้ออกมากับคำพูดทำร้ายจิตใจของเขาจนชายหนุ่มมองเห็นแล้วรู้สึกว่าตัวเองคงพูดแรงไปจริงๆ แต่ก็ปากแข็งพอที่จะไม่พูดคำขอโทษออกไป
"เอ่อ...อืมก็ดีแล้ว"
หลังจากหาเรื่องเธอเสร็จภายในรถก็เงียบจนไปถึงที่บริษัทตลอดทางที่เดินไปกับเขาต่างมีเสียงซุบซิบนินทาถึงความหล่อเหลาของท่านรองคนใหม่แถมพ่วงดีกรีดอกเตอร์ที่จะมาบริหารงานต่อจากผู้เป็นแม่ เธอจึงแยกออกไปเพื่อติดต่อแผนกที่หญิงย่าคุยกันเอาไว้ให้แล้ว
"สวัสดีค่ะ คุณกุลวราใช่ไหมคะ"
มาถึงแผนกหญิงสาวก็เข้าไปในห้องตามที่พนักงานคนหนึ่งได้บอกทางมา และเอ่ยทักหญิงสาวที่คาดว่าเป็นคนที่คุณย่าให้มาติดต่อ
"ใช่ค่ะ น้อง..."
"อ่อหนูนิดค่ะ ที่จะมาฝึกงานตามที่ได้แจ้งไว้" หญิงสาวแนะนำตัว
"คุณหนูนิดมาพอดีเลยค่ะ พี่กำลังจะลงไปรับเพราะกลัวจะขึ้นมาไม่ถูก"
กุลวราเป็นผู้ที่ค่อนข้างสวยและหุ่นดีแม่เธอจะดูมีอายุแล้วก็ตาม แถมเธอยังดูเป็นคนอัธยาศัยดีอีกด้วย
"หนูนิดถามทางพี่เขามาเรื่อยๆค่ะเลยมาได้ถูก แต่คุณกุลวราไม่ต้องเรียกว่าคุณก็ได้นะคะเรียกหนูนิดเฉยๆก็ได้ หนูนิดเองก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองเข้ามาทำงานเป็นเด็กเส้นเลยจะรบกวนคุณกุลวราอย่าบอกใครได้ไหมคะ"
หญิงสาวที่ไม่อยากให้ใครต่อใครคิดว่าเธอใช้เส้นในการเข้าทำงานเพราะคิดว่ามันคงสะอึกอัดมากถ้าเกิดใครมองเธอแบบนั้น
"เอ่อไม่ได้มันก็ได้อยู่หรอกค่ะหนูเองก็เรียกพี่กุลเฉยๆก็ได้ แต่คุณหญิงท่านจะไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ ที่ทำแบบนั้น"
กุลวราค่อนข้างที่จะเกรงใจเพราะคุณหญิงเป็นคนโทรมาและฝากหลานสาวคนนี้เอาไว้ด้วยตัวเอง
"ไม่ว่าหรอกค่ะเดี๋ยวหนูนิดคุยกับคุณย่าเอง"