บทนำ (4)

1072 Words
เธอยังคงสวยงามและสดใสสมวัยสาวน้อย เขาไม่ได้ทำร่องรอยใดๆ ให้เธอต้องช้ำ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีแต่ความอ่อนโยนอ่อนหวาน อาจจะมีการทำอะไรที่คล้ายเป็นการขืนใจบ้างในช่วงแรกๆ จากนั้นก็ใช้ความต้องการทางธรรมชาติเป็นตัวนำพา “สาม” “คะ?” “เรียกคุณสามเวลาอยู่กับฉัน” “หนึ่ง สอง สาม หรือคะ” เธอเผลอยิ้มให้เขากับชื่อพี่น้องที่คล้องจองกันตามลำดับ ลืมว่าเพิ่งเสียตัวไปชั่วขณะ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่พอใจเขาอยู่มาก จึงรีบเม้มปากแล้วหันหน้าไปอีกทาง “ใช่ ฉันให้เธอเรียกได้คนเดียว” สิ้นคำเขาว่า คนที่เพิ่งหันหน้าหนีก็รีบหันกลับมามองหน้าเขาอีกครั้งด้วยความไม่เข้าใจ แต่ไม่ปฏิเสธว่าความตื้นตันมันเอ่อขึ้นในอกจนหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ นี่คือความรู้สึก รักแรกพบ หรือเปล่านะ ราวกับเธอตกอยู่ในมนตร์สะกดเมื่อใบหน้าหล่อเหลาเต็มวัยฉกรรจ์ก้มลงมา ก่อนที่ริมฝีปากหยักจะประทับแผ่วเบาและค่อยๆ แนบแน่นบนริมฝีปากอิ่ม เขาบดเคล้าเร้าอารมณ์ แล้วตามด้วยการสอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปโรมรันกับลิ้นเล็ก มือหนาก็เริ่มวาดลวดลาย ซ้ายขยับไปจับภูเขาลูกใหญ่ ขวาก็เคลื่อนลงไปลูบไล้อยู่บนหน้าท้องแบนราบ เขากลืนกินความหวานซ่านทรวงจนเต็มอิ่ม ก่อนจะผละริมฝีปากออกมา ระเรื่อยลงมาตามลำคอระหง จูบซับอ่อนโยนผ่านใบหูเล็กและลาดไหล่เนียน แล้วมาหยุดนิ่งที่ภูเขาคู่ ซบแนบใบหน้าและใช้ริมฝีปากครอบครองอยู่อย่างนั้น เนิ่นนานและไม่รู้เบื่อ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แต่ความต้องการที่เหนือการควบคุมระหว่างคนทั้งคู่ ก็นำพาเขาและเธอไปยังเส้นทางสายรุ้งร่วมกันอีกครั้ง… “เธอท้องกับใคร!” เสียงก้องกัมปนาทจากคนที่เป็นใหญ่ที่สุดในบ้านเอ่ยออกมาเสียงกร้าว ภายหลังจากความสัมพันธ์ลับๆ ระหว่างลูกชายคนเล็กและสาวใช้คนใหม่ที่มาอาศัยทำงานได้เพียงแค่สามเดือนเปิดเผยออกมา กระนั้นคุณท่านผู้ชายผู้เป็นประมุขของบ้านก็ยังอยากจะฟังความจริงจากปากของเจ้าตัว คนที่กำลังนั่งก้มหน้าร้องไห้กระซิกๆ อยู่ที่พื้น ณ ตอนนี้ สาวน้อยไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตากับใครอีกแล้ว เพราะภายหลังจากที่เรื่องนี้แดงขึ้นมา เธอรับรู้ได้ถึงสายตาดูถูกเหยียดหยามของบรรดาสาวใช้คนอื่นๆ แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอเจ็บปวดเท่ากับสายตาผิดหวังเสียใจเพราะมองเธอผิดไปของคุณแม่บ้านใหญ่ คนที่ดีกับเธอที่สุดในบ้านหลังนี้ รองลงมาจากคุณเล็ก ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ไหน เพราะเขาออกไปข้างนอกแต่เช้าโดยไม่ได้บอกใคร และเขาคงไม่รู้ว่าเรื่องระหว่างเธอและเขาถูกจับตามองจากใครสักคนในบ้าน ก่อนจะถูกนำไปรายงานให้ประมุขของบ้านฟัง จนท่านต้องเรียกมาสอบปากคำในตอนนี้ “ตอบมา เธอท้องกับใคร” เสียงแข็งกร้าวเต็มไปด้วยความโกรธกรุ่นยังย้ำถาม สาวใช้ที่กำลังจะกลายเป็นคุณแม่สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนตัดสินใจได้ว่าควรจะเผชิญหน้ากับความจริง แต่ไม่ทันที่เธอจะได้อ้าปาก คนที่หายออกไปตั้งแต่เช้าก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเสียงตอบหนักแน่นมั่นคง “ท้องกับผมเองครับพ่อ” “อะไรนะ!” เป็นเสียงของคุณผู้หญิงที่อุทานออกมาลั่นด้วยความคาดไม่ถึง ในใจของนางคิดว่าน่าจะเป็นใครสักคนระหว่างลูกชายคนโตและคนรอง ด้วยว่ามีเรื่องไม่ดีไม่งามแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ แต่ถึงขั้นตั้งครรภ์นี่เพิ่งจะมีครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่ไม่ว่าอย่างไรมันก็ผิดคาดที่ได้รู้ว่าลูกชายที่นางรักและภาคภูมิใจที่สุดเป็นคนทำเรื่องแบบนี้เสียเอง “เรารักกันครับ” เสียงลูกชายยังดังแว่วมา ให้คนเป็นแม่หัวใจหวิวจวนจะหยุดเต้นเสียดื้อๆ “แล้วเรื่องนั้นล่ะ” ผู้เป็นพ่อถามเสียงขรึม “ยังไงเราก็ยกเลิกไม่ได้นะคะคุณ เคยสัญญากันมานาน จะมาผิดคำพูดตอนนี้ เขาจะได้ถอนหงอกเราสิคะ” คุณนายหันไปเตือนสามีที่ดูเหมือนจะหนักใจกับเรื่องบางอย่างไม่น้อยไปกว่านาง ก่อนจะหันหน้ากลับมามองคนที่ยังนั่งร้องไห้เบาๆ ที่พื้น และออกคำสั่งอย่างใจดำว่า “เธอเก็บข้าวของแล้วออกไปจากบ้านของฉันเดี๋ยวนี้” สาวน้อยเงยหน้าขึ้นมามองทันใด ก่อนที่สายตาพร่าเลือนจะหันไปมองชายคนที่ยืดอกรับอย่างแมนๆ ว่าเป็นพ่อของลูกทั้งน้ำตา “ผมไม่มีทางยอมให้เมียกับลูกผมออกไปจากที่นี่แน่” ชายหนุ่มที่อายุน้อยสุดแต่กลับมีเมียเป็นตัวเป็นตนคนแรกเอ่ยเสียงเข้ม จ้องตาเมียรักนิ่งราวกับจะสื่อให้เธอรู้ว่า เขาจะไม่มีวันทิ้งเธอ “แม่ก็ไม่มีทางยอมเหมือนกัน ยังไงแกก็ต้องแต่งงานกับหนูวิ” ผู้เป็นมารดายื่นคำขาด “ก็ได้ครับ แต่ใครห้ามมาทำอะไรเมียกับลูกผมเด็ดขาด ไม่งั้นผมจะไม่เกรงใจ ไม่ว่าใครหน้าไหนทั้งนั้น” ว่าแค่นั้น ก่อนจะเดินดุ่มเข้ามาดึงแขนเรียวเล็กของคนเป็นเมียที่ยังนั่งน้ำตาไหลเงียบๆ ให้ลุกขึ้นและพาเธอเดินออกมาจากตรงนั้น ตรงที่ใครต่อใครต่างพ่นพูดถ้อยคำบาดหู และส่งสายตาดูแคลนบาดใจมาให้ไม่หยุดหย่อน... หญิงสาวนอนน้ำตาไหลเงียบๆ คนเดียวอย่างน้อยใจในโชคชะตา ทำไมชีวิตของเธอต้องกลับกลายเป็นแบบนี้ มันผิดพลาดตรงไหนกัน หรือผิดตั้งแต่วันที่ตัดสินใจหนีออกมาจากบ้าน ออกมาเผชิญโลกที่กว้างใหญ่ หวังจะเจอโลกใบใหม่ที่สวยงาม แต่กลับกลายเป็นว่าได้เจอโลกอีกใบที่มืดมนและอับจนหนทาง แต่เธอจะไม่มีวันยอมแพ้หรอก ลูกชายตัวน้อยวัยสี่เดือนที่นอนอยู่ในเปลนั่นคือแสงสว่าง เธอจะอดทนทุกอย่างเพื่อลูก จนกว่าจะถึงเวลาที่ควรจะต้องไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD