ตอนที่ 9 ยินดีที่ได้รู้จัก
สีหน้าของชายหนุ่มมืดทะมึนหลังจากได้ยินคำถามของหญิงสาวตรงหน้า เธอกล้าถามได้ยังไง
เราเคยเจอกันด้วยเหรอ?
มัน...ให้ความรู้สึกเหมือนถูกคนเมาฟันแล้วทิ้งยังไงชอบกล เขาไม่รู้ว่าจะปั้นสีหน้ายังไงเมื่อเจอกับคำถามนี้ แถมอีกฝ่ายยังมองมาด้วยแววตากระจ่างใสเหมือนกระต่ายน้อย
ผู้หญิงซึ่งสวมชุดเดียวกันกับเมื่อวาน ทว่าเพียงแค่มองก็รู้ว่าเป็นคนละชุดกัน ทำให้ลิกไนต์เกิดคำถามในใจว่านอกจากเขาที่มีเสื้อผ้าทรงเดียวกันสีเดียวกันจำนวนมาก ยังมีคนที่ชอบสวมฮู้ดแดงขนาดนี้เลยเหรอ
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น
“เมื่อวานที่ The Myst Condo”
หลังจากที่เขาพูดจบ ทิวาก็เบิกตากว้าง ท่าทางตลกปนน่ารักเหมือนตุ๊กตาล้มลุกรัสเซียทำให้เขาเกิดคันมืออยากหยิกแก้มนุ่มๆ ของเธอ
“เราเจอกันในลิฟต์เหรอคะ หรือว่าเราอยู่ชั้นเดียวกัน คุณก็เพิ่งย้ายมาเหมือนกันใช่มั้ย” ทิวาพูดยาวเหยียด “หรือว่าฉันจอดรถคร่อมเลน อืม...จำไม่ได้ว่าจอดรถไว้แถวไหนด้วยสิ”
เพราะตั้งแต่เอามาก็จอดทิ้งไว้ไม่ได้สนใจมันเลย
“...” หัวใจที่เพิ่งกลับมาเต้นโครมครามเพราะความตื่นเต้นกลับมาเยือกเย็นอีกครั้งเมื่อได้ยินคำพูดธรรมดาจากปากคนตรงหน้า
ในที่สุดเขาก็สรุปได้ว่าเธอจำไม่ได้
เหตุการณ์ตอนที่เขาโทรหาเธอดูเหมือนจะกลับมารีรันอีกครั้ง เห็นทีว่าจะไม่สามารถคุยกับเธอแบบปกติได้ โดยเฉพาะกลางตลาดหน้ามอแบบนี้
เพราะเขาไม่รู้ว่าเธอจะเกิดสติแตกขึ้นมาหลังจากเขาพูดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนหรือไม่
ลิกไนต์ไม่เคยรู้สึกอับจนหนทางเท่านี้มาก่อน รู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่คนที่สามารถจัดการกับผู้หญิงได้ดี ไม่อย่างนั้นแล้วเขาคงไม่รักษาระยะห่างระหว่างตัวเองกับผู้คนจนถูกมองว่าเป็นคนเย่อหยิ่งเย็นชาแบบนี้
นอกจากเพื่อนสนิทไม่กี่คนแล้ว บางทีเขาก็ลืมไปแล้วว่าตัวเองยังต้องใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง
“อืม...ฉันอยู่ชั้นเจ็ด”
ในที่สุดผู้ชายคนนี้ก็พูดอะไรแบบที่คนปกติเขาพูดกัน ดวงตาของทิวาเป็นประกาย ขยับเข้าใกล้เขาแล้วค้นเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาช่วยซับคราบไอศกรีมให้กับเขา
ทว่าผู้ชายตรงหน้ากลับขยับถอยไปก้าวหนึ่งอย่างรวดเร็วจนเธอชะงัก ทิวาคิดว่าตัวเองขยับเข้าใกล้คนแปลกหน้ากะทันหันเขาจึงโต้ตอบโดยสัญชาตญาณ “เอ่อ...เดี๋ยวฉันซับเสื้อให้ก่อนแล้วค่อยไปล้างที่ห้องน้ำอีกทีนะคะ”
เมื่อเห็นว่าผู้ชายตรงหน้าพยักหน้า ทิวาก็ค่อยๆ ยื่นแขนเช็ดคราบไอศกรีมให้เขา กลีบปากบางเม้มแน่น พูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ “ขอโทษนะคะ เมื่อกี้ฉันซุ่มซ่ามจริงๆ เอาอย่างนี้ดีมั้ย เดี๋ยวฉันไปหาซื้อเสื้อยืดสักตัวมาให้คุณเปลี่ยน”
“ไม่จำเป็น”
น้ำเสียงเย็นชาจนน่าตกใจ หากไม่ติดว่าอีกฝ่ายหน้าตาหล่อขั้นเทพ ทิวาคงไม่กล้าเข้าใกล้แม้แต่คืบเดียว เพราะเขาดูลึกลับเกินไป
“หมายถึงว่าเดี๋ยวก็กลับคอนโดฯ แล้ว ไม่จำเป็นต้องเปลืองเงิน” เขาว่า ไม่รู้ตัวเลยว่าปกติแล้วเขาไม่เคยแก้ตัวให้ใครฟังมาก่อน
“แล้วนี่...” ทิวาชี้ไปที่ไอศกรีมซึ่งละลายหมดแล้ว
ทันใดนั้นปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นตรงหน้า เมื่อผู้ชายคนนี้โยนไอศกรีมในมือใส่ถังขยะด้านหลังโดยไม่ต้องหันกลับไปมอง
ที่สำคัญคือมัน...แม่นมาก
ทิวาดวงตาเป็นประกายเหมือนได้เห็นซูเปอร์ฮีโร่ แต่เพียงแวบเดียวก็กลับเป็นปกติเพราะเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้ “เอ่อ...”
“หืม...” เขามองเธอด้วยความสงสัย
ทิวาเงยหน้ามองหนุ่มหล่อ เกาหัวแก้เขิน “ฉันเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก ห้องน้ำอยู่ตรงไหนคะ”
“...”
เอาล่ะ...ดูเหมือนว่าคนที่ทำให้เขากังวลจากเรื่องเมื่อคืนนี้จะน่ากังวลกว่าที่เขาคิด
ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนแก่ที่กำลังหลอกเด็กสามขวบ
อะแฮ่ม...ถึงแม้อายุจะไม่น้อยแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้แก่แบบนั้นสักหน่อย อย่างน้อยอายุเท่าเขาก็ยังถือว่าเด็กอยู่
ทิวาไม่รู้เลยว่าหนุ่มหล่อที่เธอเผลอซุ่มซ่ามชน กำลังคิดอะไรอยู่
“ลิกไนต์”
“หือ...”
“ฉันชื่อลิกไนต์” ยินดีที่ได้รู้จัก...
ดวงตาของเธอสะท้อนแสงไฟเป็นประกาย สว่างไสวราวกับรวมดวงประทีปในวันลอยกระทงทั้งหมดไว้ เป็นความสว่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนจนเกิดความอยากรู้อยากเห็น แม้กระทั่งหัวใจที่เฉื่อยชาก็ขยับเล็กน้อย
“อ้อ...ทิวาค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก” เธอส่งยิ้มให้เขาก่อนจะพึมพำกับตัวเอง “ชื่อคุ้นหูจัง เหมือนเคยได้ยินที่ไหน”
ลิกไนต์ซึ่งคอยสังเกตท่าทีของทิวาเกือบสำลัก วิญญาณชั่วร้ายมาจากที่ไหนไม่รู้กำลังคำรามในหูเขาอย่างไม่พอใจ
ยัยนี่...
ลืมอีกแล้วเหรอ
ทิวากังวลว่าลิกไนต์จะเหนียวตัวจึงเดินเคียงคู่ไปกับเขาโดยไม่ได้สังเกตสายตาของคนที่มองทั้งคู่เหมือนเห็นตัวประหลาด ผู้ชายข้างตัวเองก็ดูเหมือนไม่อนาทรร้อนใจไปกับสายตาตกตะลึงของคนรอบข้าง เขาทำราวกับว่าไม่ได้มีใครอยู่ในสายตา ทว่าปากคอยตอบคำถามที่ทิวาถามอย่างมีความอดทน
“ห้องน้ำต้องเสียเงินหรือเปล่า”
“อืม”
“แล้ววาจะไปกดเงินได้ที่ไหน”
“หน้าทางเข้า”
“อ่า...วาไม่มีตังค์เหรียญอะค่ะ”
เขาควักเงินเหรียญที่ติดกระเป๋ากางเกงยื่นให้เธอ
“โอ๊ะ...ขอบคุณ” จากนั้นก็จ่ายเงินให้กับพนักงานหน้าห้องน้ำแล้วเดินไปยังฝั่งผู้หญิง ทว่าทันใดนั้นเธอก็เพิ่งนึกอะไรขึ้นได้จนหน้าแดงก่ำ ฝีเท้าหยุดชะงัก หันกลับมามองลิกไนต์ “แหะๆ ไม่เข้าห้องน้ำเหรอ”
“เข้า”
“เอ่อ...โอเค” เธอหันกลับไป
ลิกไนต์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ เพราะผู้หญิงคนนี้ แม้กระทั่งคนที่เดินมาด้วยกันเพราะมีจุดประสงค์เพื่อให้เขาล้างเนื้อล้างตัว ยังลืมเขาที่เดินตามมาได้?
เกิดความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นในใจ
มีความเงียบเหงาบางอย่างที่เขาเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ชินอีกครั้ง
หลายต่อหลายปีที่เขาถูกลืม ไม่ว่าจะเป็นเพราะความตายที่พรากคนรู้จักมากมายไปจากโลกนี้ หรือถูกลืมเพราะเขาตั้งใจให้ลืมก็ตามที
มือเรียวสวยกว่ามือผู้หญิงเลื่อนขึ้นมาทาบตรงหัวใจโดยไม่มีเหตุผล ความวูบโหวงประหลาดนี้ส่งผลให้ม่านตาสีดำสนิทมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
ความรู้สึกนี้...
ลิกไนต์สลัดความคิดเหลวไหลออกจากหัวแล้วเดินแยกไปยังห้องน้ำชาย
บางทีมันอาจยังไม่ถึงเวลาที่ต้องกังวลอะไร